สวัสดีครับ มิตรรักแฟน ๆ ทั้งหลายผู้นิยมเรื่องเศร้า . . .
. . . ตอนนี้ข้าพเจ้าขาดแคลนรูปภูเก็ตมาประกอบเรื่องเล่า เนื่องจากเครื่องมันเน่าฟอร์เมทใหม่ แถมรูปทริปภูเก็ตดันอยู่ในไดร์ฟซี กู้ไม่ได้ ซวยไป อิอิอิ
ใครสนใจอยากอ่านเรื่องต่อไป ขอบริจาครูปที่ภูเก็ตด้วยเด้อครับ . . .
เอา ตัวอย่างมาฝากเล็ก ๆ
“ทำไมมาทางนี้ว่ะ” กอล์ฟถามเมื่อมันขับเลยทางเข้าสนามบิน
“ก็ไปทางเลียบรันเวย์ไง”
“อ้อมชิบ ห่านี่”
“เอาน่า อย่าบ่น อยู่กับกูนานอีกหน่อยไม่ได้หรือ” เสียงเอมันเศร้า ๆ มันขับมาเรื่อย ๆ แล้วเลี้ยวขวาเข้ามาทางถนนสองเลน ที่คู่ขนานไปกับรันเวย์
อยู่นาน ๆ ทำไมกอล์ฟมันจะไม่อยากอยู่ มันอยากอยู่นานกว่านี้เสียด้วยซ้ำ แต่มันกังวลหัวใจเป็นที่สุด มันรักเพื่อนเกินเพื่อนไปแล้ว ทางเดียวที่มันจะทำได้ มันควรหักใจเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้
“จอดทำไม”
“มึงจำที่ตรงนี้ได้ไหม” เอหันมาถาม มันจอดรถชิดที่ริมถนน ฝั่งซ้ายเป็นเนินดินเล็ก ๆ ส่วนฝั่งขวามีตาข่ายรั้วเหล็กกั้นเป็นทางรันเวย์
“ทำไมว่ะ”
“ปีก่อนไง ที่มึงมาส่งกู แล้วเรามาถ่ายรูปเครื่องบินขึ้นกันตรงนั้นไง” เอชี้ไปที่เนินดิน
กอล์ฟเมินหน้าหนี . . .
. . . มันจะตอกย้ำไปทำไมกัน
“. . . แล้วมึงกับกูก็วิ่งแข่งกับเครื่องบินที่มันกำลังจะเทคออฟ” เอหันมามองกอล์ฟ แววตามันเศร้า
“เออ บ้าดีเนาะ วิ่งแข่งกับเครื่องบิน”
“เดี๋ยวพอกูส่งมึงเข้าห้องผู้โดยสารขาออก กูจะมายืนส่งมึงที่ตรงนี้ อย่าลืมหันมามองล่ะตอนเครื่องกำลังจะเทคออฟ กูจะมายืนเกาะรั้วรอส่งมึงที่ตรงนี้ อย่าลืมมองหากูนะ ถ้ากูตัวเล็ก มองรถเอาแล้วจะเห็นว่ากูมาส่ง” เสียงเอมันสั่น แววตามันเหมือนจะมีน้ำตา
“มาเน่าอะไรอีกมึง”
“สัญญากับกูไอ้กอล์ฟ ขอบอร์ดดิ้งทางขวาริมหน้าต่าง”
“เออ เออ กูสัญญา”
“ไม่เอา เดี๋ยวกูไปเช็คอินน์ให้มึงเองดีกว่า เพื่อกูแน่ใจว่ามึงจะเห็นกูมาส่งมึง” ผมก้มหน้าน้ำตาเอไหล
“ไอ้เอ ไปเหอะ เดี๋ยวจตกไฟลท์” กอล์ฟบอกอีกฝ่าย มันเอามือไปแตะที่หลังมืออีกฝ่ายเบา ๆ