85 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

สวัสดีกันอีกครั้งครับ

รีวิวนี้เป็นภาคที่ 4 ของการเดินทางของทีมงานHFLIGHT.net ไปประเทศเบลเยียม ประเทศเล็ก ๆ ในยุโรปที่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ามีความสำคัญขนาดที่กล่าวได้ว่า กรุงบรัสเซลส์เมืองหลวงของเบลเยียมนั้น เป็นเมืองหลวงของยุโรป และเบลเยียมเองก็มีสถานที่สวยงามมากมาย ไม่แพ้ประเทศท่องเที่ยว Big Name ในยุโรป อย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ หรือ อิตาลี

ย้อนความกันหน่อยครับเผื่อท่านผู้อ่านบางท่านจะยังไม่ได้ชมรีวิวตอนแรก ๆ

ในตอนแรกสุดเราพาทุกท่านร่วมเดินทางกับชั้นธุรกิจ Royal Silk ของการบินไทยจากกรุงเทพฯ สู่ Zurich เพื่อต่อเครื่องบินภายในยุโรปต่อมายังบรัสเซลส์ (แต่ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. 2554 นี้ การบินไทยจะเปิดบินตรง กรุงเทพฯ-บรัสเซลส์ 3 เที่ยวต่อสัปดาห์แล้วนะครับ) ตามไปชมรีวิวได้ที่นี่

HF พาบิน Royal Silk การบินไทยสู่ Zurich TG970 กับ A340-600 : ข้ามทวีปมุ่งสู่ยุโรป จากเมืองไทยไปสวิตเซอร์แลนด์ก่อนต่อไปเบลเยียม http://www.hflight.n...s/topic/7056-hf

จากนั้นในตอนต่อมา เราพาทุกท่านไปรู้จักประเทศเบลเยียม และเมืองหลวงอย่างบรัสเซลส์ ชมความงามของสถานที่ต่าง ๆ ของบรัสเซลส์ ทั้งพระราชวัง โบสถ์อายุเก่าแก่ และจตุรัสกลางเมืองที่ว่ากันว่าสวยที่สุดในโลก อ้อ และยังพาไปเจอชายที่มีสเน่ห์ที่สุดในบรัสเซลส์ด้วย

HF พาไป Brussels(1) ชม ดู ชิม เมืองแห่งสีสันกับจตุรัสที่สวยที่สุดในโลก : เที่ยว กิน และสัมผัสบรัสเซลส์เมืองหลวงของเบลเยียม http://www.hflight.n...s/topic/7157-hf

ตอนที่ 3 ของการเดินทาง เรายังคงอยู่ที่ Brussels เราพาทุกท่านไปชอปปิง กับตลาดนัดที่บางทีอาจมีสมบัติของรักของหวงของผู้ดีเก่าชาวยุโรปมาวางขายอยู่ท่านมกลางงานศิลปะสวย ๆ และยังพาไปหาคำตอบว่าทำไมบรัสเซลส์ถึงเป็นเมืองหลวงของยุโรป (มาที่บรัสเซลส์สามารถเที่ยวทั่วยุโรปได้ใน 1 วันอีกด้วย) และไปแกะรอยว่าชอคโกแลตเบลเยียมที่โด่งดังนั้น แท้จริงแล้วเขาทำกันอย่างไร มีที่มาอย่างไรกันแน่

HF พาไป บรัสเซลส์(2) วันเดียวเที่ยวทั่วยุโรป ชอปของรักผู้ดีเก่า แกะรอยชอคโกแลต : กิน ชม กันต่อใน Brussels เมืองหลวงของยุโรป http://www.hflight.n...s/topic/7222-hf



ในตอนที่ 4 ของการเดินทางครั้งนี้เราจะพาทุกท่านออกจากนครหลวงอย่างบรัสเซลส์ ไปชมเมืองอื่น ๆ ของเบลเยียม อีก 3 เมือง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น 3 เมืองสวยของเบลเยียมที่ไม่ควรพลาด นั่นคือ Brugge หรือ Bruges อดีตเมืองหลวงเก่าของแคว้นแฟลนเดอร์ที่มีอายุกว่าพันปี มีคลองมากมายหลายสายและมีอาคารบ้านเรือนที่สร้างมาตั้งแต่สมัยโบราณที่ยังคงหลงเหลืออย่างสมบูรณ์และคงความงดงามมาจนถึงปัจจุบัน มาเมืองนี้อาจเรียกได้ว่าอยู่ในโลกของเทพนิยาย จากนั้นพาไปอีกเมืองหนึ่งคือ Gent หรือ Ghent เมืองที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของแคว้นแฟลนเดอร์ ที่ตั้งของมรดกโลกหลายแห่ง และยังเป็นที่ตั้งของงานศิลปะชิ้นสำคัญอย่าง The Adoration of the Mystic Lamb และเมืองสุดท้ายคือ Antwerpen หรือ Antwerp เมืองท่าสำคัญตั้งแต่อดีต และถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางการค้าเพชรของโลก คำว่า เพชรเบลเยียม ก็มาจากที่นี่ แอนตเวิร์ป ยังเป็นเมืองแฟชันของโลกและเคยเป็นที่อยู่ของศิลปินชื่อดังอย่าง Rubens และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของมหาวิหารสไตล์โกธิคที่ใหญ่ที่สุดในเบลเยียม ไปกันเลยดีกว่าครับ

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เริ่มต้นที่เมื่องแรกคือ Bruges ถ้าเขียนเป็นภาษาอังกฤษจะเขียนแบบนี้ แต่ถ้าเขียนเป็นภาษาเฟลมมิช หรือดัตช์ ที่ใช้เป็นภาษาหลักของแคว้น Flanders ก็จะเขียนว่า Brugge ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจสงสัยว่าเมืองนี้เขียนอย่างไรกันแน่ เวลาไปเปืดเว็บไซต์หรืออ่านหนังสือแผนที่ต่าง ๆ แล้วเห็นคำว่า Bruges ปะปนกับ Brugge ส่วนภาษาไทยนั้นน่าจะอ่านว่า บรูจ

Brugge ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือนิด ๆ ของประเทศเบลเยียม โดยตั้งอยู่ในภมิภาคแฟลนเดอร์ (อย่างที่เราได้บอกไปในรีวิวท่องเที่ยวบรัสเซลส์ว่า เบลเยียมแบ่งออกเป็น 3 ภาคหลัก คือ 1. แฟลนเดอร์ ทางตอนเหนือที่ติดกับเนเธอร์แลนด์จะใช้ภาษาดัตช์ หรือเฟลมมิช 2. วอลลูน ทางตอนใต้ติดกับฝรั่งเศส ก็จะใช้ภาษาฝรั่งเศส และ 3 เมืองหลวงบรัสเซลส์ ใช้ทั้ง 2 ภาษา)

Brugge อยู่ห่างจากบรัสเซลส์ ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ เกือบ 100 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเดินทางจากบรัสเซลส์ ทั้งทางรถไฟและรถยนต์พอ ๆ กันคือประมาณ 1 ชั่วโมง (แต่รถไฟอาจเร็วกว่าหน่อยเพราะรถยนต์เขาจำกัดความเร็ว) จริง ๆ แล้วเบลเยียมเป็นประเทศเล็ก ๆ ครับ เมืองแต่ละแห่งจึงไม่ห่างไกลกันมาก

เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงของเขต West Flanders ในแคว้นเฟลมมิช ของเบลเยียม แต่ตัวใจกลางเมืองเก่าของบรูจนั้นมีเนื้อที่ราว 4.3 ตารางกิโลเมตรได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก

เราออกจากบรัสเซลส์มาแต่เช้ามุ่งหน้ามายังบรูจ ตอนนี้เราก็ถึงทางเข้าของย่านเมืองเก่า ที่ล้อมรอบด้วยคูคลองมากมาย เป็นเมืองโบราณรูปวงรีกลางเกาะและสายน้ำ

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

การเที่ยวชมย่านเมืองเก่าของบรูจนั้นทำได้หลายแบบ ทั้งเดิน (ที่ดูจะประหยัดที่สุดและสามารถเข้าถึงซอกซอยต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่) ปั่นจักรยาน หรือนั่งรถม้าชมเมือง ซึ่งในวันนี้เราเลือกวิธีเดินนั่นเอง

เมืองนี้เป็นเมืองโบราณอายุเป็นพันปีครับ เดิมตั้งอยู่บนฝั่งของแม่น้ำสายหนึ่ง จากนั้นในปีค.ศ 1128 ก็เริ่มมีการสร้างกำแพงเมืองและขุดคลองสายต่าง ๆ ทำให้ตัวเมืองของบรูจนั้นล้อมรอบด้วยคลองรูปวงรีและก็มีคลองหลายสายไหลผ่านไปในเมืองดังเช่นทุกวันนี้ เราจะเริ่มเดินจากด้านนอกสุดของเมืองรูปวงรีนี้แล้วค่อยๆ เข้าไปย่านใจกลางครับ

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ในเบลเยียม ห้องน้ำสาธาณะหลาย ๆ แห่งจะเก็บเงินค่าเข้าครับ ถึงแม้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแต่ก็หาห้องน้ำฟรีไม่ค่อยง่ายนัก

อย่างค่าเข้าห้องน้ำก็ในภาพครับ มาตรฐาน 30 ยูโรเซ็น ก็ราว ๆ 12-13 บาท

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เมืองนี้อายุนับพันปีก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าอาคารทั้งหลายจะเก่าแก่เป็นพันปีทั้งหมด อาคารแต่ละแห่งก็จะมีอายุต่างกันไปครับ อาจจะหลักร้อยปี หลายร้อยปี อย่างไรก็ตามลักษณะของอาคารในเขตเมืองเก่านั้นแทบจะอนุรักษ์ไว้เป็นแบบดั้งเดิมทั้งหมดครับ

อย่างอาคารในภาพนี้ตั้งอยู่ที่ Professor Dokter J. Sebrechtsstraat (ชื่อถนน) ซึ่งอยู่รอบนอก ๆ ของเกาะเมืองเก่ารูปวงรี

ธงที่เห็นในภาพหลายท่านคงจำได้ว่าธงผืนหนึ่งคือธงชาติเบลเยียม ส่วนอีกผืนนั้นคือธงประจำเมืองบรูจแห่งนี้

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

อย่างที่บอกไปแล้วว่าเมืองนี้มีการขุดคลองขึ้นมาหลายสาย นอกจากคลองหลักที่ล้อมเมืองเป็นรูปวงรีแล้ว ยังมีคลองสาขาที่ไหลเข้ามาในย่านเมืองเก่านี้อีกหลายสาขา

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

บริเวณนี้เรียกว่า The Beguinage (Begijnhof) of Bruges

Beguinage คืออะไรนั้น สั้น ๆ ก็คือว่าเป็นชุมชนทางศาสนาอย่างหนึ่งโดยมีโบสถ์เป็นศูนย์กลางของชุมชน แต่ว่าในช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ The Beguinage of Bruges แห่งนี้เป็นชุมชนของสตรีเท่านั้น ไกด์ที่พาเราชมเมืองบรูจเลยบอกว่านี่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นจุดกำเนิน Feminism แห่งแรกของโลกก็ได้
http://www.trabel.co...s-beguinage.htm

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ส่วนนี่ก็เป็นโบสถ์ที่อยู่ตรงนี้ ยังใช้งานอยู่จริงนะครับ

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

บริเวณนี้เรียกว่า Minnewater เป็นพื้นที่คล้าย ๆสวนสาธารณะริมบึงและคลองทางเข้าสู่เมืองบรูจ ในภาพจะเห็นว่ามีหงส์ มากมาย หงส์หรือ Swan เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองบรูจแห่งนี้

มีตำนานเกี่ยวกับหงส์เหล่านี้ว่า ในปี 1488 ประชาชนชาวบรูจได้ประหารผู้ปกครองคนหนึ่งซึ่งเป็นคนของ Maximilian of Austria (เกี่ยวอะไรกับออสเตรีย - อย่างที่เราเคยเล่าให้ฟังไปแล้วในภาคที่ 2 http://www.hflight.n...s/topic/7157-hf ที่เราพาเพิ่งมาถึงเบลเยียม ว่ากรุงบรัสเซลส์ เมืองบรูจ เมืองต่าง ๆ มีอายุมายาวนานเป็นพันเป็นร้อยปี แต่ว่าประเทศเบลเยียมเพิ่งเกิดมาแค่ 200 กว่าปีเอง ดังนั้นเมืองต่าง ๆ ในแถบนี้เคยตกอยู่ใต้อิทธิพลของหลายชาติมาก มั้งดัตช์ ฝรั่งเศา ปรัสเซีย โรมัน ออสเตรีย) ผู้ปกครองเมืองคนนี้มีชื่อว่า Pieter Lanchals ซึ่งชื่อเขาแปลว่าคอยาว และตระกูลของ Pieter Lanchals นั้นมีรูปหงส์ขาวเป็นสัญลักษณ์ Maximilian เลยสาป (หรือสั่งลงโทษนั่นแหละ เพราะว่าเขาไม่ได้เป็นแม่มดสักหน่อย) ว่าให้เมืองบรูจต้องเลี้ยงหงส์คอยาว นี้ไว้ในบึงและคลองของเมืองนี้ตลอดไป

และเมื่อมีคลอง การนั่งเรือชมเมืองก็เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่ง แต่ที่บรูจนี้เราเลือกเดินครับ แต่พอไปที่เกนท์ เราจะทุกท่านลงเรือชมเมืองกัน

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ย่านนี้คือย่าน Wijngaardstraat (ชื่อถนนครับ straat แปลว่าถนนในภาษาเฟลมมิชหรือภาษาดัตช์นั่นแหละ) มีของร้านอาหารขายของกินมากมาย อย่างที่เห็น แต่ร้านก็ยังกลมกลืนไปกับอาคารบ้านเรือนทรงโบราณซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มประเทศเบเนลักซ์

อย่างในภาพแรกสุดจะเห็นว่า หอยแมลงภู่เป็นอาหารชื่อดังของที่นี่จริง ๆ (เราได้พาทุกท่านไปชิมกันมาแล้วในภาคที่ 2 http://www.hflight.n...s/topic/7157-hf )

แต่แม่ชีใส่แว่นในภาพสุดท้ายที่แอบซ่อนตัวแบบเนียน ๆ อยู่บนหลังคาของบ้านหลังหนึ่งทำให้นักท่องเที่ยวที่เหลือบไปเห็นต้องสะดุดแล้วยกกล้องมาถ่ายรูปกันทุกคน

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ถนนหนทางในบรูจ ก็เป็นเช่นเดียวกับย่านเมืองเก่าของบรัสเซลส์ คือเป็นหินปูแบบโบราณ ดังที่เห็นในภาพ และอย่างที่บอกไปแล้วว่าวิธีการชมเมืองอีกแบบหนึ่้งคือนั่งรถม้า ค่ารถม้าราว 30 ยูโร นั่งได้ทีละ 2-4 คน

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

หลายคนที่อาจจะเป็นคอภาพยนตร์สักหน่อยอาจจะรู้จักเมืองบรูจ หรือ Bruges แห่งนี้จากภาพยนตร์เรื่อง In Bruges (ปี 2008) ซึ่งใช้เมืองนี้แหละเป็นโลเคชันถ่ายทำ หนังเรื่องนี้นำแสดงโดย Colin Farrell, Brendan Gleeson และ Elizabeth Berrington

ยิ่งเข้าใกล้ใจการเมืองเราจะยิ่งพบอาคารเก่าแก่ที่มีความใหญ่โตและสวยงามมากขึ้นเรื่อง ๆ อาคารบางหลังก็มีมาตั้งแต่ยุคกลางและยุคเรเนสซองส์

ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำลำคลองทำให้บรูจเป็นเมืองท่าที่สำคัญของยุโรปในยุคโบราณ โดยเฉพาะในช่วงศตวรรษที่ 12-15 ที่เรียกว่าเป็นยุคทองของบรูจ และเป็นช่วงเวลาที่รุ่งเรืองของบรูจ และความที่ยังสามารถรักษาบรรดาสถาปัตยกรรมที่มีมาตั้งแต่ยุคก่อนนี้ไว้ได้เป็นอย่างดีนี่เอง ทำให้เมื่อเรามาเยือนบรูจแล้วเราจะรู้สึกว่าหลุดเข้ามาในเมืองแห่งเทพนิยายเลยทีเดียว

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ลานสนามหญ้าสีเขียวตัดกับอาคารบ้านเรือนสีขาวที่แสนสวยในภาพนี้ หลายคนอาจบอกว่าบ้านหลังนี้สวยและน่ามาอยู่ แต่ว่าจริง ๆ แล้วนี่คือบ้านสำหรับหญิงหม้าย หรือหญิงที่ไม่มีใครดูแลและต้องการมาพักในช่วงเวลาบั้นปลายชีวิต ข้ามคลองไปฝั่งตรงข้ามอาคารใหญ่หลังนั้นไม่ใช่โบสถ์หรือโรงทหาร แต่เป็นโรงพยาบาลยุคโบราณปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ (แต่ยอดแหลมที่เห็นนั้นไม่ใช่ส่วนของตัวอาคารโรงพยาบาลแห่งนี้นะครับ เป็นหอสูงของโบสถ์ Church of Our Lady ซึ่งเป็นโบสถ์สำคัญของเมือง)

อ่อสำหรับพิกัดของสถานที่นี้เผื่อใครอยากจะมาคือ 51.203411,3.224149

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

บรรดาอาคารในย่านเมืองเก่าของบร฿จนั้น เดิมก็เคยเป็นที่ทำการของรัฐมาก่อน บ้างก็เป็นบ้านเรือนของคหบดี

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เมื่อครู่ได้กล่าวถึงการชมบรูจทางเรือไปแล้ว ค่าเรือชมเมืองบรูจอยุ่ที่ราวคนละ 6.90 ยูโร ใช้เวลาชมราว 30 นาที จุดขึ้นเรือก็อยู่ด้านหลังหอระฆังใกล้ ๆ กับ Church of Our Lady นี่แหละครับ

ส่วนในภาพที่สองจะเห็นหอสูงยอด 8 เหลี่ยม นั่นก็คือหอระฆังแห่งบรูจที่ว่า Belfry of Bruges หรือ Belfort van Brugge ในภาษาเฟลมมิช เป็นหอระฆังที่ตั้งอยู่บริเวณจตุรัสกลางเมืองที่เรียกว่า Grote Markt‎ (เป็นภาษาเฟลมมิช ถ้าภาษาฝรั่งเศสก็คือ Grand Place นั่นเอง) ซึ่งเดี๋ยวเราจะพาไปชมครับ

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

และนี่ก็คือ Grote Markt เป็นจตุรัสใจกลางเมืองของบรูจที่แขกผู้มาเยือนบรูจต้องแวะมา นอกจากอาคารหอระฆังแห่งบรูจที่ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์แล้ว รอบ ๆ รอบ ๆ จตุรัสนี้ยังมีอาคารสีสันสดใสที่เป็นร้านค้าร้านอาหารมากมาย ตรงกลางจตุรัสเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ของ Jan Breydel และ Pieter de Coninck สองผู้กล้าชาวบรูจ

อ่อ สำหรับใครอยากชมวิวมุมสูงของบรูจนั้นสามารถปีนบันได 366 ขั้นขึ้นไปบนหอระฆังสูง 83 เมตรได้นะครับ ทั้งนี้ค่าเข้าชมและเวลาเปิดปิดในแต่ละฤดูจะไม่เหมือนกัน

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

นอกจากจตุรัสที่ Grote Markt แล้ว ใกล้ ๆ กันยังมีจตุรัสอีกแห่งชื่อจตุรัส Burg ซึ่งอยู่หน้า Stadhuis (เป็นภาษาเฟลมมิช หรือดัตช์) ภาษาไทยก็คือศาลาว่าการเมืองนั่นเอง

รอบ ๆ จตุรัสนี้ก็เต็มไปด้วยอาคารที่สวยงามทั้งตัว Stadhuis เองและอาคารโดยรอบ

Attached Images

• 
• 
• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

พูดถึงของที่ระลึกกันสักหน่อย นอกจากร้านชอคโกแลตและวัฟเฟิลที่มีเต็มประเทศเบลเยียม (และแน่นอนเต็มเมืองบรูจด้วย) สินค้าที่ระลึกสำคัญของบรูจนั่นก็คือ Lace หรือผ้าลูกไม้

ผ้าลูกไม้นี้เป็นงานฝีมือดั้งเดิมของบรูจ แต่ว่าปัจจุบันส่วนมากจะทำด้วยเครื่องจักรแล้ว แต่ก็มีบางส่วนที่ยังทำด้วยมืออยู่ สำหรับราคาก็ขึ้นอยู่กับความงาม ความปรานีต และขนาดของแต่ละชิ้นงาน

ร้านขายผ้าลูกไม้ นั้นมีอยู่เต็มเมืองทั้งรอบ ๆ จตุรัส Grote Markt และตามท้องถนนหลายสายในย่านเมืองเก่านี้

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

และแน่นอนอย่างที่เราได้เล่าไปหลายครั้งแล้วในภาคก่อน ๆ ว่า เบลเยียมเป็นเมืองขนม โดยเฉพาะชอคโกแลต (แม้ที่นี่จะไม่มีต้นโกโก้สักต้นก็ตามดังที่เราได้พาทุกท่านไปแกะรอยชอคโกแลตเบลเยียมกันมาแล้วในภาคที่ 3 http://www.hflight.n...s/topic/7222-hf ) ดังนั้นเราจึงพบร้านขนมและชอคโกแลตได้มากมายในเมืองบรูจเช่นกัน (น่าจะเยอะกว่าร้านขาย Lace อีก) และหลายร้านก็น่ารักน่ากินจนแทบจะอดใจไม่ไหว จริง ๆ

Attached Images

• 
• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ออกจากบรัสเซลส์มาแต่เช้า มีเวลาหยิบอาหารเช้าที่โรงแรมเข้าปากเพียงเล็กน้อย แล้วก็มาเดินรอบบรูจค่อนเมือง ก็ได้เวลาหิวแล้ว ถึงเวลารับประทานอาหารกลางวัน

มื้อเที่ยงวันนี้เรามาที่ร้าน De Halve Maan แปลว่าพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวนั้นเอง เป็นทั้งร้านอาหารและก็ Brewery (หรือโรงเบียร์ - อย่างที่ได้เล่าไปในตอนภาคก่อน ๆ หน้านี้แล้วว่าเบลเยียมเป็นเมืองเบียร์ มีเบียร์นับพันชนิดตามแต่ละร้านของตัวเองก็มีสูตรของตัวเอง และที่นี่ยังกินเบียร์กันเช้ายันค่ำ)

ดูป้ายร้านสิครับ เขาบอกว่าเปิดมาเป็นร้อยห้าสิบกว่าปีตั้งแต่ 1856 เชียวนะครับ

Attached Images

• 
• 
•