85 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

เราเดินเลียบคลองไปยังย่าน Grasiel ซึ่งสวยจริง ๆ ครับ ยิ่งวิวจากสะพาน St Michales(ภาพที่ 2) นั้นทำให้เราเห็นอาคารโบสถ์ St Nicholas ยอดสูงของ Belfort หรือหอระฆัง แล้วก็เลยไปถึงยอดของโบสถ์ St Bavo's ซึ่งยอดสูงของสามอาคารนี้เขาเรียกว่า 3 Towers of Ghent ครับ เพราะว่าเป็นอาคารที่สูงโดดเด่นเหนือเส้นขอบฟ้าเมืองเกนต์

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เย็นนี้เราก็จะรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร Belga Queen ซึ่งตั้งอยู่ในอาคารเก่าของย่าน Grasiel นี่แหละครับ

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

อันนี้รับประทานเล่น ๆ ก่อนเป็นชีสและแฮม และแน่นอนมากับอาหารฝรั่งคือขนมปัง

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

อาหารจานแรก Our shrimp croquettes with parsley ครอกเกตกุ้ง ราคาราว 15 ยูโร

อาหารจานหลัก Cod bouillabaisse style with clams and mussels from Zeeland, vegetables, crusty of garlic ปลาคอตกับหอยแมลงภู่ (ไม่ได้มาจะทะเลเหนือนะคราวนี้ มาจากนิวซีแลนด์) ราคาราว 23 ยูโร

ของหวาน Ice cream with cuberdons (sweets from the region of Ghent) เป็นไอศกรีมกับของหวานแบบชาวเกนต์ (ที่เป็นทรงกรวยนั่นแหละครับ) ราคาราว 10 ยูโร

จบไปสามคอร์ส อิ่มมากครับ อย่างที่บอกไปตั้งแต่อยู่ที่บรูจแล้ว ว่าจริงๆ กินอย่างเดียวก็อิ่มแล้วครับสำหรับคนเอเชียทั่วไป(ประหยัดด้วย) เพราะว่าขนาดของ Portion หรือปริมาณการเสริฟค่อนข้างเยอะ (แทบทุกร้าน)

สำหรับร้าน Belga Queen ที่เกนต์นี้หากใครสนใจรายละเอียดก็ลองไปชมเว็บไซต์ของร้านที่ http://www.belgaquee...p?city=2&Lang=1

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

หลังอาหารเย็นที่อิ่มมาก ก็ขอเดินย่อยชมเมืองเกนต์ยามคำคืน ก่อนเข้านอนคืนนี้ในเมืองที่สวยเหมือนอยูในฝันอีกเมืองหนึ่งของเบลเยียม และในวันรุ่งเราจะไปกันต่อที่ Antwerp เมืองแห่งเพชรเม็ดงามของเบลเยียมครับ

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

วันรุ่งขึ้นเราออกเดินทางจาก Ghent แต่เช้าไปยังอีกเมืองสำคัญของเบลเยียมนั่นคือ Antwerp ในภาษาอังกฤษ หรือ Antwerpen ในภาษาดัตช์ สำหรับภาษาไทยคือ แอนต์เวิร์ป

Antwerp อยู่ห่างจากเกนต์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 60 กิโลเมตร และห่างจากบรัสเซลส์ไปทางเหนือราว 45 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางจากบรัสเซลส์ทางรถยนต์และรถไฟพอ ๆ กันคือราว 30-40 นาที โดย Antwerp นั้นอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Scheldt

Antwerp เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศเบลเยียม เป็นเมืองหลวงของเขต Antwerp ในแคว้น Flemish ของประเทศเบลเยียม และยังเป็นเมืองท่าและเมืองธุรกิจสำคัญของกลุ่มประเทศ Low Countries (หรือกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ ในปัจจุบัน) ตั้งแต่เมื่อครั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน

ประวัติศาสตร์ของ Antwerp ย้อนกลับไปตั้งแต่ ศตวรรษที่ 4 แต่ว่ายุครุ่งเรืองของ Antwerp นั้นคือช่วงศตวรรษที่ 16 ในยุคนั้น Antwerp เป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญ และอาจเรียกได้ว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับที่สองของยุโรปเลยก็ว่าได่

Attached Images

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เริ่มต้นที่ Station Antwerpen-Centraal‎ หรือสถานีรถไฟกลางของเมืองแอนต์เวิร์ป สถานีรถไฟแห่งนี้เป็นสถานีใหญ่ บางส่วนก็เป็นอาคารทันสมัยอย่างที่เห็นในภาพ

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แต่อาคารของสถานีนั้นส่วนที่เป็นอาคารเก่าสร้างมาตั้งแต่ปี 1895-1905 ครับเป็นร้อยปีมาแล้ว ปัจจุบันก็มีการต่อเติมตัวอาคารแต่ยังคงลักษณะเดิมไว้มาก โดยมีการเพิ่มชานชาลาสำหรับรถไฟด่วนพิเศษ(ที่วิ่งข้ามประเทศในยุโร)และรถไฟระหว่างเมืองลงไปใต้ดินอีก 2 ชั้น ทำให้มีชานชาลาถึง 3 ชั้น

ว่ากันว่าสถานีแห่งนี้ติด 1 ใน 10 สถานีรถไฟที่สวยที่สุดในโลก

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ด้านหน้าของสถานีรถไฟ ก็เป็นลานจตุรัสสวยงาม และนี่คือตัวสถานีโบราณเมื่อมองจากด้านนอกครับ

ใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์เพชรของแอนตเวิร์ป ที่แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับเพชร ว่าคืออะไรมีที่มาอย่างไร

หลายคนคงทราบว่าแอนต์เวิร์ปเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าเพชรที่สำคัญของโลก คำว่าเพชรเบลเยียมมีชื่อเสียงมาก แต่เช่นเดียวกับชอคโกแลตเบลเยียม (อยากรู้เรื่องราวของเชอคโกแลตตามกลับไปดูในตอนที่ 3 http://www.hflight.n.../topic/7222-hf/) คือ ในเบลเยียมไม่มีเหมืองเพชรหรอกครับ แต่เพชรจากทั่วโลกถูกนำมาออกแบบ เจียระไน(ในอดีต แต่ในปัจจุบัน ค่าแรงยุโรปแพง เพชรส่วนมากเจียระไนที่อินเดียไม่ก็ประเทศไทยหรือประเทศที่ค่าแรงถูกกว่าแล้วค่อยส่งกลับมาที่แอนต์เวิร์ป) และค้าขายที่นี่

แม้ในปัจจุบันตลาดเพชรที่แอนต์เวิร์ปจะเสียส่วนแบ่งและลดบทบาทลงไปมาก (เพราะตลาดค้าเพชรในประเทศอื่น ๆ อย่างกรุงเทพฯ หรือฮ่องกง ฯลฯ เติบโตขึ้นมาก) และงานเจียระไนส่วนใหญ่จะไม่ได้ทำที่นี่แล้ว แต่เพชรจำนวนมากที่สุดในโลกก็ยังมีการซื้อขายกันที่แอนตเวิร์ป

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ข้าง ๆ สถานีรถไฟยังเป้นที่ตั้งของ Antwerp Zoo หรือส่วนสัตว์แอนต์เวิร์ป เป็นสวนสัตว์ที่สร้างตั้งแต่ปี 1843 เรียกได้ว่าเก่าแก่ที่สุดในเบลเยียม และเป็นหนึ่งในบรรดาสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

อีกฝั่งหนึ่งของสถานีบริเวณถนน Statiestraat และ Breydelstraat เรื่อยไปจนถึงย่านไชน่าทาวน์ เป็นยแหล่งรวมร้านอาหารจากหลายชาติทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น ไทย จีน อินเดีย(เหลือ กลาง ใต้) อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ บราซิล อาร์เจนตินา เมกซิโก อิตาลี สเปน ฯลฯ ร้านอาหารจากทุกชาติพร้อมใจกันมาตั้งอยู่บนละแวกนี้ เป็นอีกหนึ่งคำยืนยันว่า Antwerp เป็นเมืองท่าสำคัญของโลกจริง ๆ

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

การเดินทางใน Antwerp นั้นย่านกลางเมืองนั้นสามารถเดินเท้าชมได้ในกลุ่มสถานที่หลัก ๆ อย่างศาลาว่าการเมือง สถานีรถไฟ โบสถ์ Church of Our lady แต่ด้วยความที่ Antwerp เป็นเมืองใหญ่ หากจะเดินทางไปส่วนอื่น ๆ ของเมืองนั้น ที่นี่ก็มีรถไฟใต้ดิน รถราง รถเมล์ รถแทกซี่ให้เลือกใช้

อ้อ แล้วก็อีกวิธีหนึ่งที่นักท่องเที่ยวและชาวเมืองสามารถเลือกใช้ได้คือ เช่าจักรยานที่มีจุดให้เช่าแบบนี้อยู่หลายแห่งทั่วเมือง

ส่วนในภาพสุดท้ายเป็นงานศิลปะที่แสดงให้เห็นถึงสภาพผู้คนและการคมนาคมใน Antwerp ที่แสดงไว้ในสถานีรถไฟใต้ดิน

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ถนนสายชอปปิงและสายแฟชันที่สำคัญของเมือง Antwerp นั่น เริ่มจากสถานีรถไฟ ผ่าน Leysstraat และถนน Meir และ Groenplaats ไปสิ้นสุดที่ โบสถ์ Cathedral of Our Lady และศาลาว่าการเมืองที่ Grote Markt

ซึ่งตลอดทางเดินนี้เราจะผ่านอนุสาวรีย์ของศิลปินชาวแอนต์เวิร์ปที่มีชื่อเสียง 3 คน ได้แก่ David Teniers, Antoon Van Dyak และ Peter Paul Rubens

ซึ่งตอนนี้เรากำลังจะเริ่มเดินจากอนุสาวรีย์ของ David Teniers ที่ต้นถนน Leysstraat

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สองข้างทางก็จะมีร้านค้าต่าง ๆ มากมายทั้งแนวแฟชันและร้านอาหาร

บางช่วงของถนนจะไม่ให้รถผ่านและสามารถเดินหรือปั่นจักรยานเท่านั้น ตอนนี้เราก็มาถึงอนุสาวรีย์ของศิลปินอีกคนคือ Antoon Van Dyak

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แวะเข้าไปชม Stadsfeestzaal ซึ่งเดิมนั้นเคยเป็น Hall สำหรับใช้งานหลาย ๆ โอกาส แต่ปัจจุบันเป็นห้างที่มีร้านค้ามากมายและก็มี Bar อยู่ใยโถงตรงกลางอันสวยงามแบบนี้

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เดินเลยมาอีกนิด ใกล้หัวมุมถนน Meir ตัดกับ Wapper เป็นที่ตั้งของบ้านของ Rubens ศิลปินชาวแอนต์เวิร์ปชื่อก้องโลก

ปัจจุบันบ้านของเขาก็เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ มีค่าเข้าชม 8 ยูโร หากสนใจก็ลองดูรายละเอียดที่ http://www.rubenshuis.be/

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ใกล้ ๆ กันที่หัวมุมถนน เลขที่ 50 ถนน Meir เป็นวังเก่าเรียกว่า Paleis op de Meir หรือ Palace on the Meir แต่ภายในมีร้านชอคโกแลตตั้งอยู่ ไกด์ก็ชวนให้เราดูแล้วบอกว่านี่เป็นร้านชอคโกแลตที่สวยที่สุดในโลกเพราะตั้งอยู่ในวังเก่า (นั่น รู้สึกว่าคนเบลเยียมนั้นอ้างว่างประเทศตัวเองนั้นเป็นที่สุดในโลกหลายอย่างแล้วนะ)

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เดินไปเรื่อย ๆ ตามถนน Meir เราจะเห็นตึกสูงอยู่ที่ปลายถนน สูงกว่าตึกใด ๆ ในเมือง แต่ก่อนจะเดินไปถึงตึกนั้นเราสะดุดตากับมือยักษ์ที่อยู่ข้างทาง

มือนี้มีความหมายและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ เพราะคำว่า Antwerpen ในภาษาดัตช์หรือเฟลมมิชนั้น แปลว่า โยนมือออกไป อนุสาวรีย์มือยักษ์นี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้(อีก 1 อย่าง)

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

มาถึงตึกสูงที่เด่นมาจากพื้นถนนแห่งนี้กันบ้าง

ตึกนี้มีชื่อเล่นว่า KBC Tower แต่ชื่อจริงคือ Boerentoren เป็นตึกที่สูงที่สุดในเมือง Antwerp ในปัจจุบัน แต่ไม่ใช่สิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดใน Antwerp เพราะมีความสูงน้อยกว่าหอสูงของ Cathedral of Our Lady ของ Antwerp

แต่ไม่ใช่แค่นั้น ตึกนี้มีสถิติที่น่าตื่นเต้นกว่านั้น คือเมื่อก่อสร้างเสร็จในปี 1932 ด้วยความสูง 87.5 เมตรนั้นตึกนี้ถือว่าเป็นตึกระฟ้าแห่งแรกในยุโรป และครองตำแหน่งตึกที่สูงที่สุดในยุโรปจนกระทั่งถึงปี 1952 แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ Antwerp ที่มีมาในอดีตได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบันตึกนี้ได้ถูกต่อเติมขึ้นและมีความสูงทั้งสิ้น 95.8 เมตร ตัวตึกเป็นแบบ Art-Deco ใช้เป็นอาคารสำนักงาน

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ในย่านใจกลางเมืองซึ่งเป็นย่านประวัติศาสตร์นั้นจะมีป้ายบอกทางไปยังสถานที่สำคัญ และป้ายบอกทิศทางของถนนพร้อมระยะเวลาเดิน นอกจากนั่นแล้วแผนที่ Antwerp ทั้งแบบแจกฟรีและแบบหาซื้อยังมีขายหลายแห่งหรือใครจะใช้ Google Map ช่วยก็ได้

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เราเดินมาจนถึง Groenplaats ซึ่งลานกว้าง โดยมีอนุสาวรีย์ของรูเบนส์อยู่ตรงกลางมียอดสูงของ Cathedral of Our Lady มหาวิหารแห่งแอนต์เวิร์ปเป็นฉากหลัง

รอบ ๆ เรื่อยไปจนถึงถนนที่เชื่อมกับตัวมหาวิหารมีร้านอาหารและร้านค้าหลายร้าน

ปีเตอร์ พอล รูเบนส์เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงซึ่งถ้าใครอยู่ในแวดวงศิลปะหรือพอจะสนใจศิลปะอยู่บ้างคงจะเคยผ่านตามและผ่านหูชื่อและผลงานของเขา แต่ถ้าใครที่อยู่นอกวงการและอยากรู้จักเขาให้มากขึ้น อาจจะลองมาที่ Antwerp และชมผลงานของเขาหลายชิ้นที่อยู่ใน Cathedral of Our Lady ดูก็ได้ หรือลองทำความรู้จักเขาเบื้องต้นโดยใช้ Google หรือ Wikipedia ดูครับ

Attached Images

• 
• 
•