85 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

เที่ยงวันนี้เริ่มด้วย ชอคโกแลตร้อน และก็ซุปผัก

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

อาหารจานหลักเป็นครอกเกทกุ้ง ส่วนของหวานนั้นเป็น Belgian Chocolate Mousse หรือ คัสตาร์ดซอสคาราเมล

ราคาก็อยู่ราวคนละ 18 ยูโรครับมื้อนี้

หากใครจะมาเที่ยวแล้วอยากประหยัดหน่อย อาจจะไม่ต้องพึ่งพาแต่ขนมปัง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรืออาหารฟาสฟูดก็ได้ครับ ลองหาาร้านอาหารท้องถิ่นลิ้มรสดูบ้างเพียงแต่ไม่ต้องกินแบบ 3 คอร์ส เหมือนฝรั่งเขา เพราะนอกจากจะเปลือง แล้วบางครั้งยังอิ่มและอ้วนเกินไปสำหรับคนเอเชียตัวเล็ก ๆ ก็ได้

สำหรับรายละเอียดของร้านนี้นั้นลองไปดูที่ http://www.halvemaan...x.php?id=13&L=2

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Bruges ยังมีมุมสวย ๆ อีกมากมายให้ผู้มาเยือนได้ประทับใจ และเมืองทั้งเมืองนั้นได้รับการดูแลอย่างดีสมเป็นมรดกโลก แม้ว่าจะมีบางมุมเมืองที่อาจมีคนมือบอนไปบ้าง อย่างมิกกีเมาส์ข้างกำแพงในภาพ ส่วนรถเมอร์เซเดสนั้น ในประเทศนี้บางทีเขาก็ใช้เป็นแทกซี่นะครับ

และแล้วก็ได้เวลาลาจาก Bruges เพื่อไปยังเมืองอีกเมืองหนึ่งในแคว้า Flanders ที่เรียกได้ว่าเป็นเมืองงามของเบลเยียมนั่นก็คือ Ghent

Attached Images

• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

จาก Bruges เราเดินทางต่อไปยังเมืองงามในฝันของแคว้นแฟลนเดอร์อีกเมืองหนึ่งนั้นคือ Ghent (ภาษาอังกฤษ) หรือ Gent (ในภาษาดัตช์หรือเฟลมมิช) สำหรับภาษาไทยก็เขียนว่า เกนต์ ละกันครับ

จริง ๆ แล้วเกนต์นั้นอยู่กึ่งกลางระหว่างบรัสเซลส์และบรูจ ดังนั้นการเดินทางไปเกนต์จากบรูจก็คือย้อนกลับไปทางบรัสเซลส์ เกนต์ เป็นเมืองใหญ่ที่สุดและเป็นเมืองหลวงของเขต East Flanders ในแคว้นแฟลมมิชของเบลเยียม

เกนต์อยู่ห่างจากบรัสเซลส์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางทางรถยนต์ก็ 45 นาที ถ้าเป็นรถไฟก็แค่ 30 นาทีเอง ซึ่งสะดวกมาก ดังนั้นหากใครได้มาเยือนบรัสเซลส์และเบลเยียม สามารถมาเที่ยวทั้ง Bruges Ghent (หรือแม้แต่ Antwerp ที่เราจะพาไปหลังจากนี้)เป็น Day Trip สบาย ๆ จากบรัสเซลส์ก็ได้ หรือว่าจะมานอนค้างในเมืองสวยเหล่านี้ก็ได้

แต่คืนนี้เราจะมาพักที่ Gent ครับ ที่โรงแรม nH Gent Belfort
เครืองโรงแรม nH เป็นเครือโรงแรมราคาปานกลาง ออกจะแนว ๆ Budget ที่มีโรงแรมกว่า 347 แห่งใน 182 (ส่วนมากอยู่ในยุโรป) และก็แต่ละเมืองก็มีหลายทำเลที่ตั้ง สำหรับที่เกนต์วันนี้เป็นสาขา Gent Belfort หลายคนอาจจะจำกันได้ว่า Belfort คำนี้ก็มีในเมืองบรูจ นั่นก็คือ หอระฆัง ใช่แล้วที่เกนต์ก็มีโบสถ์ใหญ่ของเมืองและก็มีหอระฆังกลางเมือง ซึ่งโรงแรมวันนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลยครับเหมาะกับการเดินชมเมืองมาก
นอกจากอยู่ใกล้ Belfort แล้ว โรงแรมเรายังอยู่ข้างศาลาว่าการเมืองหรือ Stadhuis ของเกนต์เลยด้วย

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เอาหละครับเราเริ่มออกเดินไปท่องเที่ยว Ghent กันดีกว่า ภาพแรกสุดนั่นคือ หอระฆังของเกนต์ (ที่มีนาฬิกา) นั่นเองหอระฆังนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 1313 นู่นแหนะครับ ก็เกือบ 700 ปีแล้ว ข้าง ๆ หอระฆังยังเป็นสำนักงานของการท่องเที่ยวของเมืองเกนต์ด้วย

จริง ๆ แล้วหอระฆังนั้นตั้งอยู่บริเสณจตุรัสกลางเมือง ซึ่งมีอาคารสำคัญ ๆ และร้านค้ามากมากมาย อย่างโรงละครประจำเมือง (NTGent ) และโบสถ์ St Bavo's Cathedral

Attached Images

• 
• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เราไปชมสถานที่สำคัญที่แรกกันก่อน นั่นคือ โบสถ์ St Bavo's Cathedral โบสถ์แห่งนี้มีความเป็นมายาวนานมากครับ โดยพื้นที่เดิมตรงนี้นั้นเคยเป็น Chapel มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 942 และต่อมาก็ได้มีการสร้างอาคารที่ใหญ่ขึ้น ในช่วงศตวรรษที่ 14-16 และเป็นโบสถ์แบบโกธิคที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ความสำคัญของโบสถ์นี้อีกอยากหนึ่งคือเป็นที่ตั้งของงานศิลปะอันโด่งดังอย่าง Ghent Altarpiece หรือที่เรียกกันว่า Adoration of the Mystic Lamb ผลงานภาพวาดบนบานพับจำนวน 24 ภาพของพี่น้องตระกูล van Eyck ที่สวยงามมาก โดยวาดเสร็จตั้้งแต่ปี 1432
ขนาดภาพของบานพับทั้งหมดกว้างกว่า 4.6 เมตร และสูง 3.5 เมตร และในปี 1932 มีภาพกรอบหนึ่งถูกขโมยไปเพื่อเรียกค่าไถ่ แต่จนป่านนี้นั้นก็ยังตามหาภาพดังกล่าวไม่พบ สำหรับภาพที่เหลือ(และภาพจำลองของชิ้นที่หายไป) ปัจจุบันก็จัดแสดงไว้ในโบสถ์แห่งนี้ (มีค่าเข้าชมเพิ่มเติม 4 ยูโร) เราก็ได้เข้าชมเช่นกันแต่เขาห้ามถ่ายรูป ดังนั้นลองดูรายละเอียดของภาพนี้จาก http://en.wikipedia....hent_Altarpiece

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

การชมเมืองเกนต์นั้น ในย่านเมืองเก่าใจกลางเมืองสามารถเดินไปทั่ว ๆ ได้ไม่ยากนัก แต่ว่าสำหรับการคมนาคม ที่นี่ก็มีรถรางและรถเมล์ (และแทกซี่) ส่วนการชมทิวทัศน์ท่องเที่ยวอีกแนวหนึ่งคือการนั่งเรือชมเมือง เพราะเกนต์ก็มีคูคลองมากมายเช่นกัน ซึ่งเดี่ยวเราจะพาไปนั่งเรือ แต่ตอนนี้ขอเดินก่อน

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เดินลัดเลาะไปเรื่อยตามซอกซอยของเมืองเกนต์ ภาพแรกสุดคือหอสูงของโบสถ์ St Bavo's

ภาพถัดมาคือศาลาว่าการเมืองหรือ Stadhuis

และนาฬิกาบนหอระฆังของเมืองมองจากหน้าศาลาว่าการเมือง

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ว่าไปแล้ว เมือง Ghent แห่งนี้ก็เรียบร้อยสะอาดสวยงามอยู่หรอกนะครับ จนกระทั่งไกด์เราพามายังถนนเส้นหนึ่งแล้วเราก็พบภาพที่ชวนให้ สงสัยว่าทำไมในเมืองที่สวยและเต็มไปด้วยโบราณสถานมากมายอย่างเกนต์ นี้ถึงปล่อยให้มีการวาดภาพบนกำแพงที่เรียกว่ากราฟฟิตี (Graffiti) เต็มไปทั่วถนนแบบนี้

แต่ว่าถนนนี้เขาเรียกว่า Graffiti straat ชื่อบอกเลยว่าเป็นถนนกราฟฟิตี ถนนสายนี้จึงเต็มไปด้วยกราฟฟิตี ที่เพนท์กันได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ตลอดความยาวถนน ตามกฎเขาบอกว่าเพนท์ได้ทั่วทั้งถนนนี้ แล้วจะไม่ผิดกฎหมาย แต่เขาไม่ได้บอกว่าถนนสายนี้สิ้นสุดตรงไหน เมื่อเราเดินผ่านถนนสายนี้จนเข้าสู่อีกเส้น เรายังแอบเห็นว่ามีการฟฟิติอีกหลายชิ้นตามข้ามถนนมาด้วย สงสัยคนเพนท์จะอ้างว่า ไม่รู้ว่าถนนสายนี้สิ้นสุดที่ไหน

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เดินลัดเลาะผ่านถนนอีกสายหนึ่งเพื่อมุ่งหน้าไปยังจตุรัสกลางเมืองอีกแห่งหนึ่งที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นห้องรับแขกของ Ghent

ระหว่างทางก็พบร้านค้าน่ารัก ๆ และตินติน (ตินติน เกิดที่เบลเยียมนะครับ)

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

และแล้วเราก็มาถึง จตุรัส Vrijdagmarkt ที่แปลตรงตัวเป็นภาษาอังกฤษว่า Friday Market จตุรัสกลางเมืองมีความเป็นมายาวนานตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 และในปัจจุบัน ทุกวันศุกร์และเสาร์ก็ยังมีตลาดนัดสำหรับให้ผู้คนมาชอปปิงด้วย (แต่เรามาที่นี่ในวันจันทร์ เลยไม่ได้พาทุกท่านชมตลาดนัด) รอบ ๆ จตุรัสยังเต็มไปด้วยอาคารที่สวยงามที่สร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 จตุรัสแห่งนี้ใช้เป็นพื้นที่สาธารณะทางสังคมและการเมืองของชาวเกนต์มายาวนาน กลางจตุรัสมีอนุสาวรีย์ของ Jacob Van Artevelde ซึ่งเป็นหัวหน้า Guild ของที่นี่ (Guild หรือสมาคมอาชีพ เป็นองค์กรรูปแบบโบราณในยุคกลาง)

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

จากจตุรัสเราเดินไปเรื่อย ๆ ถนนหนทางในเกนต์ก็เช่นเดียวกับในบรัสเซลส์และบรูจคือบางส่วนจะปูถนนด้วยหินเป็นถนนตั้งแต่ครั้งโบราณ จากนั้นเราไปชมความงามของเกนต์จากสายน้ำกันบ้างครับ อย่างที่กล่าวไปแล้วว่าเกนต์มีคูคลองหลายสายโอบล้อมเมืองอยู่เช่นกัน วันนี้เราก็เลยจะไปล่องเรือกันบ้าง

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

มัผู้ให้บริการเรือนำเที่ยวราว 5 รายในเกนต์ครับ แต่ราคาและรูปแบบจะไม่ต่างกันมากนัก Boat Trip 50 นาที ราคา 6.5 ยูโรต่อคน

และคนขับเรือก็จะเป็นไกด์บรรยายให้เราฟังด้วย

คำบรรยายมีหลายภาษา หากไม่ได้มาเป็นกรุปใหญ่ ลองสอบถามกับผู้ให้บริการดูว่าหากต้องการภาษาอังกฤษ(หรือภาษาใด ๆ ก็ตามที่เราฟังแล้วเข้าใจ)ควรจะมาขึ้นเรือตอนไหนเวลาอะไร

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ไกด์และคนขับเรือ ก็จะบรรยายเล่าเรื่องไปเรื่อย ๆ ครับและชี้ชวนให้ดูสถานที่สำคัญ

บริเวณนี้เรียกว่า Grasiel เป็นริมฝั่งแม่น้ำที่มีทิวทัศน์สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งใน Ghent

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

อาคารหลังนั้นที่มียอดสูงในภาพคือโบสถ์ St Nicholas's เป็นโบสถ์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองเกนต์ เข้าชมฟรีด้วย ข้างในตกแต่ด้วยศิลปะโรมาเนสค์สไตล์เฟลมมิช

Attached Images

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

พอแล่นไปตามคลองเรื่อย ๆ ไปยังรอบนอกย่านเมืองเก่าสักหน่อยก็จะพอเห็นอาคารบ้านเรือนที่สร้างทรงทันสมัยขึ้นมาบ้าง

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

นอกจากเลาจะเห็นอารมณ์ขบขันของชาวเบลเยียมได้จากตามฝาผนังอาคารบ้านเรือนในกรุงบรัสเซลส์ ที่้เกนต์เราก็อาจจะเห็นได้เช่นกัน อย่างภาพ Comic บนกำแพงตึกหลังนี้

ภาพอาคารที่สวยงามริ่มฝั่งแม่น้ำกับแสงแดดยามเย็นนั้นสวยงามจริง ๆ ครับ

Attached Images

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ล่องเรื่อใช้เวลาไปราว 50 นาทีครับจนเกือบพลบค่ำ ประสาทที่เห็นในภาพแรกสุดนั่นคือ Castle of the Counts เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเกนต์ สร้างโดยท่านเคาตน์แห่งแฟลนเดอร์ ตั้งแต่ปี 1180 หลังจากท่านเคาตน์กลับจากสงครามครูเสด เลยนำแบบของปราสาทในแถบที่ไปทำสงครามมากลับมาสร้างเป็นปราสาทที่นี่

สามารถเข้าไปชมภายในได้มีค่าเข้าชม 8 ยูโร สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองเกนต์จากตัวปราสาทได้ด้วย

ส่วนภาพที่สองนั้นเป็นอีกหนึ่งวิวของย่าน Grasiel กับแสงอาทิตย์ยามเย็น

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ลงจากเรือแล้ว เดินเล่นไปอีกสักนิดก่อนจะไปรับประทานอาหารเย็น

ถนนนี้ชื่อ Schuddevisstraatje เป็นถนนที่แคบที่สุดในเมืองนี้ ไม่รู้ว่าจะแคบที่สุดในเบลเยียมด้วยหรือเปล่า

ส่วนอีกภาพนั่นคือร้านกาแฟที่เล็กที่สุดในเกนต์เช่นกัน(เฉพาะตรงอาคารสีขาว)

หากใครได้มีโอกาสมาเที่ยวเบลเยียม แล้วเดินไปตามท้องถนน เจอคนท้องถิ่นที่นี่ทัเราด้วยคำว่า Ni hao หรือหนีห่าว เป็นภาษาจีน อย่าแปลกใจครับ เพราะตอนนี้ชาวเบลเยียมรู้จักคนเอเชียมากที่สุดคือคนจีน คนจีนมาเที่ยวเบลเยียมเยอะมาก เรียกได้ว่าเติบโตเป็นเท่าตัว(และหลายเท่าตัว)จากเมื่อปีที่แล้ว(และปีก่อน)

Attached Images

• 
• 
•