281 replies to this topic

[Silentnight4148]

Advertisements

สวัสดีครับ

 

กลับมาอีกครั้งกับการ Review ปกติผมเคยทำแต่ Review สายการบิน เลยอยากลองทำ Review ท่องเที่ยวขึ้นมาแบ่งปันบ้าง เพราะผมก็ใช้เวปนี้หาข้อมูลบ่อยๆ

 

Review นี้ค่อนข้างยาว พอดีไม่มีกลุ่มให้ลงแต่คิดว่าทวีปนี้น่าใช้อเมริกาใต้เป็นจุดเริ่มต้น เลยลงกลุ่มนี้แทนนะ กระทู้นี้ค่อนข้างยาว ถ้าขี้เกียจก็ดูรูปไปอย่างเดียวก็ได้ ถ้าอยากได้เกร็ดความรู้ก็ลองอ่านๆดู ขนาดผมเองก็ใช้เวลาว่างๆ นั่งเขียน+หาข้อมูลและคัดเลือกรูปจากหลายพันรูป ใช้เวลาทำอยู่หลายอาทิตย์เหมือนกัน แต่ก็อาจจะไม่ได้สมบูรณ์อะไรมากมายนักนะ ภาษาที่ผมใช้ก็แล้วแต่อารมณ์ในแต่ละวัน เนื่องจากไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ อาจจะมีทั้งภาษาเขียนและภาษาพูดปนๆกันไป บางทีออกนิยายบ้าง แต่พยายามให้เป็นกลางมากที่สุด

 

วันนี้ขอนำประสบการณ์การท่องเที่ยวทวีปที่ 7 หรือทวีป Antarctica ซึ่งหลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อมาแล้ว บางคนก็รู้จัก บางคนก็อาจจะไม่รู้จัก แล้วมันมีอะไรน่าสนใจ? ทำไมผมถึงต้องไป? ดังนั้นลองติดตามประสบการณ์ในทวีปที่ 7 กันเลย

 

 

ผมจะขอแบ่งออกเป็น 2 ส่วนนะครับคือส่วน ข้อมูลทั่วไป กับส่วนการท่องเที่ยว

[Silentnight4148]

Part I: General Information

 

About Antarctica Continent

 

ทวีป Antarctica เป็นทวีปที่อยู่ใต้สุดของโลก ล้อมรอบด้วยมหาสมุทรใต้ เนื้อที่ประมาณ 14 ล้านตารางกิโลเมตร เป็นทวีปที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของโลก เนื้อที่ประมาณ 98% ปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งที่มีความหนาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.9 กิโลเมตร

 

ทวีป Antarctica มีความสุดๆอยู่หลายอย่างเช่น เป็นทวีปที่อยู่ใต้ที่สุด เย็นที่สุด แห้งแล้งที่สุด ลมแรงที่สุด (และก็น่าค้นหาสุดๆ) จากเหตุผลดังกล่าวเลยทำให้ไม่มีคนอยู่อาศัยถาวร มีเพียงสถานีวิจัยทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น  และทวีปนี้เป็นที่ตั้งของจุดสำคัญทางภูมิศาสตร์ที่อยู่ใต้สุดของโลกซึ่งเรียกว่า “ขั้วโลกใต้” หรือ “South Pole” หรือให้เข้าใจง่ายๆคือเป็น 1 ใน 2 จุด ที่โลกใช้เป็นจุดหมุนรอบตัวเอง และเป็นที่ตั้งของสถานีวิจัยของสหรัฐอเมริกาชื่อ Amundsen-Scott South Pole Station เพื่อเป็นเกียรติแก่คุณ Roald Amundsen และ Robert F.Scott ที่แข่งซิ่งกันมาพิชิตจุดนี้นั่นเอง (คุณ Amundsen มาถึงเดือนธันวา 1911 แล้ว คุณ Scott ค่อยตามถึงในอีก 1 เดือนถัดมา)

 

การค้นพบทวีปนี้ไม่เคยมีปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจน มีเพียงการคาดเดาว่าต้องมีการคงอยู่ทวีปนี้เท่านั้น เพราะต้องมีการการเสริมสมดุลเหนือใต้หรือมีส่วนทำให้กระแสน้ำที่ถูกรบกวนด้วยอะไรบางอย่าง (คล้ายๆกับสมการทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอสไตล์ที่ทำนายว่ามีบางอย่างที่ขาดไปในสมการของเค้า จนกระทั้งมีการค้นพบ Gravitational Wave มาช่วยเติมเต็มสมการของเค้านั้นแหละครับ) และด้วยหลักฐานต่างๆที่รวบรวมได้ ทำให้คุณกัปตัน James Cook ได้พยายามฝ่าไปถึง 2 ครั้ง 2 คราในเดือนธันวาคม 1773 และมกราคม 1774 จนยืนยันว่าได้เห็นแผ่นดินนั้นมีจริง แต่ต้องถอนตัวเพราะเจอแผ่นน้ำแข็งขวางทางเข้าให้ ถือว่าเป็นการจุดประกายครั้งสำคัญของนักเดินเรือหลายๆคนพยายามจะเดินทางมาพิสูจน์ทวีปสีขาวแห่งนี้เรื่อยมา

[Silentnight4148]

About Expedition Trip

 

สำหรับการเดินทางไป Antarctica นี้สามารถเดินทางได้จากประเทศอาเจนติน่า และประเทศออสเตรเลียแต่ดูจากข้อมูลทางภูมิศาสตร์แล้ว ประเทศอาเจนติน่าอยู่ใกล้สุด จึงเป็นจุดที่ได้เปรียบที่สุด ทำให้ส่วนใหญ่นิยมใช้เส้นทางนี้ แน่นอนครับว่าการไปทวีปนี้เราคงไปเองไม่ได้แน่นอน ดังนั้นต้องอาศัยทัวร์อย่างเดียว (ใครมีเรือแบบสมัยก่อน ก็สามารถเดินทางเองได้เลย ไม่น่าจะมีใครห้าม) เมืองท่าที่สำคัญที่จะไปยังทวีป Antarctica คือ เมือง Ushuaia ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ใต้สุดของประเทศ ดังนั้นทัวร์ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่นี่

 

Ushuaia เป็นเมืองที่อยู่ใต้สุดของทวีปอเมริกาใต้และของโลก ด้านทิศเหนือติดกับเทือกเขา Martial Mountain และด้านทิศใต้ติดกับช่องแคบ Beagle เมื่อประมาณ 10,000 ปีก่อนมีชาว Selk’nam Indians หรือเรียกว่า Ona ค้นพบแล้วใช้อยู่อาศัย โดยพื้นที่ที่ Selk’nam เผ่าใต้อยู่คือเมือง Ushuaia ในปัจจุบัน

 

Ushuaia จากมุมสูง

[Silentnight4148]

สำหรับการเดินทางไปทวีป Antarctica ก็ บ.ทัวร์ก็มีให้เลือกมากมาย และโปรแกรมก็แตกต่างกันไป เช่นต้องการกี่วัน มีโปรแกรมเสริมอะไรไหม (เช่น มีการพายเรือ Kayak , นอน Camping บนแผ่นดิน หรือ การ Climbing ภูเขาน้ำแข็ง ฯลฯ) โปรแกรมหลักๆก็ไม่ค่อยต่างกัน ต่างกันในเรื่องรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่า ทัวร์ผมรู้จักและเคยค้นๆหาอยู่ก็จะมีทัวร์ของ National Geographic จัดอยู่ในกลุ่ม Luxury เป็นทัวร์ที่ราคาสูงมากและเน้นการถ่ายภาพ, Quark Expedition เป็นทัวร์เน้นท่องเที่ยวที่คุณภาพดีพอสมควร และทัวร์ที่ผมไปคือ G Adventure เป็นทัวร์เน้นท่องเที่ยวที่คุณภาพดีในระดับหนึ่ง ส่วนอื่นๆผมไม่มีข้อมูล

 

การจองทัวร์นี้ก็ต้องอาศัยการวางแผนที่ค่อนข้างนานเพราะทัวร์ดีๆส่วนใหญ่จะเต็มเร็วมาก แต่ในเมืองก็สามารถเดินหาพวก Last deal ซึ่งใกล้เวลาที่เรือจะออกแล้วแต่ยังมีที่ว่างก็เอามาลดราคาลงกว่าเดิมนิดหน่อย ถ้าจะเสี่ยงดวงก็ลองดูได้

 

อย่างเรื่องของการเลือกบริษัททัวร์และเรือที่ใช้ในการท่องเที่ยวนั้น จากข้อมูล Guide line ของ The International Association of Antarctica Tour Operators (IAATO) ที่มีหน้าที่ดูแลพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของดินแดนแห่งนี้ ให้ข้อมูลว่า ถ้าเรือที่มีผู้โดยสารเกิน 500 คน ห้ามให้มีการขึ้นบนแผ่นดินเด็ดขาด และเรือที่มีผู้โดยสารต่ำกว่า 500 คน กำหนดให้แผนดินได้ครั้งละไม่เกิน 100 คน ดังนั้น การเลือกกิจกรรมที่เราต้องการก็ต้องดูขนาดของเรือด้วยเช่นกันครับ (แบบว่าอยากเหยียบดินแดนแอนตากติกา แต่ดันมาเรือสำราญขนาดยักษ์แบบนี้ก็หมดสิทธิลงเหยียบทันที่) หรือแม้กระทั้งคุณภาพของเรือที่เราต้องการว่าอยากได้ไฮโซขนาดไหนชีวิตความเป็นอยู่ดูดีมากน้อยเพียงไร (สุดท้ายแล้วสำคัญอยู่ที่เหรียญในกระเป๋าตังของท่านเองนั้นแหละ) ทัวร์นี้จริงๆผมเองก็ไม่ได้เลือกหรอกครับมีเพื่อนในทริปด้วยกันทำหน้าที่หาข้อมูลแล้วเอามานำเสนอ ซึ่งทุกคนก็โอเคกับมัน

 

ช่วงเวลาที่ทำทัวร์เดินทางไปทวีปนี้ก็อยู่ในช่วงหน้าร้อนของแถบทางใต้เส้นศูนย์สูตร หรือ เริ่มตั้งแต่ พ.ย. ถึงช่วงต้นๆ เม.ย.

 

[Silentnight4148]

Itinerary 15 Days 14 Nights

 

Day 1: Ushuaia, Argentina, ยินดีต้อนรับสู่ Ushuaia ประตูสู่ Antarctica

Day 2: Ushuaia, Argentina, เริ่มต้นผจญภัยจาก Beagle Channel เข้าสู่ Drake Passage

Day 3: At Sea, Drake Passage, สลบไสลในห้องพร้อมการมาของ Iceberg ก้อนแรก

Day 4: Turret Point, South Shetland Island, เข้าสู่เกาะทวีปสีขาวและ First Landing

Day 5: Brown Bluff & Paulet Island, ล่องเข้าสู่ Antarctica Peninsular

Day 6: Devil Island & Vega Island, Weddell Sea กับพายุที่ซัดกระหน่ำ

Day 7: Hope Bay & Gourdin Island, เลียบน้ำแข็ง ชื่นชม B15Y อันเลื่องชื่อ และชมหมู่ปลาวาฬ

Day 8: Mikkelsen Harbor & Cierva Cove, ชมธรรมชาติของสัตว์โลกอันน่าตื่นเต้น

Day 9: Cuverville Island & Almirante Brown, สนุกกับ BBQ และ Camping บนทวีป

Day 10: Lemaire Channel & Port Lockroy, อากาศนิ่มๆกับไปรษณีย์ใต้สุดของโลก

Day 11: Neko Harbor & Wilhelmina Bay, พักผ่อนสบายๆ

Day 12: Whalers Bay & Elephant Point, Polar Plunge และ Say good bye

Day 13: At Sea, Drake Passage, ทิ้งไว้เพียงความทรงจำดีๆ

Day 14: Ushuaia, Argentina, การกลับมาบนแผ่นดินใหญ่อีกครั้ง

Day 15: Ushuaia, Argentina, มีพบย่อมมีจาก ขอบคุณที่ได้เจอกัน

ในการเดินทางครั้งนี้แค่เดินทางไป - กลับ ก็รวม 4 วันเต็มๆ หายไปกับวันบนฝั่งอีก 3 วัน เวลาที่ได้อยู่ในเขตทวีป Antarctica จริงๆแล้วก็เพียง 8 วัน แต่เป็น 8 วันที่วิเศษมาก

 

[Silentnight4148]

Daily Program

สำหรับชีวิตประจำวันบนเรือ ทุกวันจะทำเป็นกิจวัตรเสมอๆคือ ตื่นตอนประมาณหกโมงครึ่ง อาหารเช้าจะเริ่มตอน 7 โมงครึ่ง – 8 โมงครึ่ง หลังจากนั้นก็จะเป็นโปรแกรมแต่ละวันว่าวันนี้ Landing หรือ Cruising กันก็ขึ้นอยู่กับโปรแกรมและสภาพอากาศวันนั้นๆ เวลาเที่ยงก็จะรับประทานอาหารกลางวัน ตอนบ่ายก็เหมือนตอนเช้าแล้วแต่โปรแกรมแต่ละวัน หลังจากขึ้นเรือก็จะเป็นการ recap คือการบอกเล่าเรื่องต่างๆที่เจอมาในแต่ละวัน หรือใครมีอะไรอยากถามข้อมูลต่างที่ได้พบเจอมาก็มาแลกเปลี่ยนกัน ก็จะมีผู้เชียวชาญมาตอบคำถามให้ จากนั้นก็จะเป็นอาหารเย็น ช่วงค่ำๆอาจจะมีสารคดีเกี่ยวกับ Antarctica หรือ Movie ให้ดู ส่วนดึกๆก็มีดนตรีสดใน Pub ก็จะมีวงดนตรีของลูกเรือมาให้ความบันเทิงกันเกือบทุกวัน ใครใคร่เต้นก็เต้น ใครใคร่ดื่มก็ดื่ม มีแสงสีเสียงให้สนุกสนานกันตามสมควร ใครอยากพักผ่อนหรือเดินถ่ายรูปเล่นรอบๆเรือก็ได้ครับ (ช่วงที่ไม่มีกิจกรรม Landing ก็อาจจะมี Lecture ต่างๆที่ให้ความรู้เกี่ยวกับ Antarctica)

 

[Silentnight4148]

MS Expedition Cruise

 

มาทำความรู้จักเจ้าเรือสีแดงสดลำนี้ที่ผมต้องผูกชีวิตกับเธอกันนิดหน่อย ชื่อของแม่สาวน้อยลำนี้ที่คือ MS Expedition เธอเกิดเมื่อปี 1972 ที่ประเทศเดนมาร์ค เดิมชื่อ Kattegat (เปลี่ยนมาหลายชื่อแล้ว) เดิมเป็นเรือ Ferry (เห็นได้จากช่วงบั้นท้ายเรือเป็นบานประตูขนาดใหญ่ไว้ขนรถ) Modify กลายเป็นเรือ Cruise ship ที่ จุผู้โดยสารได้ประมาณ 130 คน และลูกเรือได้ประมาณ 70 คน

 

เรือลำนี้มี 7 ชั้นหรือภาษาชาวเรือเรียกว่า “Deck” ประกอบด้วยห้องต่างๆมากมายกระจายอยู่ เช่น ห้องพัก, ห้องพักผ่อน/ห้องประชุม (Discovery Lounge), ห้องสมุด (Lonely Planet Library), Pub (Polar Bear Pub), Dining Room, ห้อง Gym, เคาเตอร์ธุรการ (Information Office), Gift Shop, ห้องพยาบาล ฯลฯ ส่วนตรงไหนหน้าตาเป็นอย่างไรก็ติดตามในส่วนท่องเที่ยวเลย

 

[Silentnight4148]

ด้านข้างของเรือ

 

[Silentnight4148]

Zodiac Landing

 

Zodiac คือลูกเรือยางลำน้อยที่ จำนวน 8 ลำ ของเรือแม่ MS Expedition เป็นเรือที่ใช้สำหรับ Landing ขึ้นฝั่งและทำ Mini cruise บริเวณรอบๆเรือใหญ่ สามารถจุผู้โดยสารได้ 10 คน และผู้บังคับเรืออีก 1 คน

 

[Silentnight4148]

Meal

 

แล้วก็มาเข้าเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือ อาหารบนเรือ ต้องขอบอกว่าคาดไม่ถึงเลย ทางทีมงานจัดเต็มมาก (สำหรับผู้ที่เคยล่องเรือสำราญแล้วก็คงจะคิดภาพออกนะครับว่าอาหารบนเรือสำราญจัดเต็มแค่ไหน) ด้วยสารพัดอาหารนานาชาติ ทั้งคาวและหวาน อาหารรสชาติเทพมาก ให้เทียบก็ระดับภัตรคารห้าดาวที่ลอยอยู่กลางทะเล ช่วงเช้าจะเป็นอาหารเช้าแบบ Buffet ทุกวันและจะมีแบบเดิมๆทุกเช้า ส่วนอาหารกลางวันและเย็นจะเป็น Set course และ Buffet สลับๆกันไปแล้วแต่ท่านพ่อครัว

 

ตัวอย่างอาหารที่เป็น Set บนเรือ

 

[Silentnight4148]

อาหารเช้าก็จะแบบเดิมทุกวัน เช่น พวกสลัด

 

[Silentnight4148]

พวก ไข่ดาว แพนเค้ก

 

[Silentnight4148]

อาหารกลางวันและเย็นก็จะมีหลากหลายเมนู ทั้งเป็น Set และ Buffet สลับๆกันไป

 

เช่น line อาหาร Buffet หน้าตาจะประมาณนี้ 

 

[Silentnight4148]

พวกอาหารเย็น ผักต่างๆ

 

[Silentnight4148]

ผลไม้ และชีส

 

[Silentnight4148]

พวก Main Cause ของ A la Carte

 

Roast Rack of Lamb Persillade เป็นเนื้อแกะจาก New Zealand

 

[Silentnight4148]

Osso Buco Gremolatao เป็นเนื้อ Braised Veal Shank ต้มหรือตุ๋นสไตล์อิตาเลี่ยน

 

[Silentnight4148]

Roast Rib Eye with Red wine Gravy

 

[Silentnight4148]

Grilles Maine Lobster Thermidore Sauce

 

[Silentnight4148]

Oven Roasted Toothfish Fillet with Spinach, Red Pepper Sauce