82 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

พิธีกรรมที่ว่านั้นก็คือ "พิธีล้างพระพักตร์พระมหามัยมุนี" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเมียนมาร์ เปรียบเสมือน "พระแก้วมรกต" ที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของไทยเรานั่นเอง พิธีกรรมนี้จะกระทำทุกวัน เริ่มตั้งแต่ตี 4 เสร็จประมาณ 6 โมงเช้า

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ตามตำนานเล่าว่า เจ้ากรุงเมืองยะไข่ทรงหล่อขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 689 มีหน้าตักกว้าง 9 ฟุต และสูง 12 ฟุต 7 นิ้ว หุ้มด้วยทองคำเปลวหนา 2 นิ้ว หนัก 6.5 ตัน ในช่วงที่มีการก่อสร้างพระมหามัยมุนี เจ้ากรุงเมืองยะไข่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าที่เสด็จลงมาจากสวรรค์ และก่อนที่พระพุทธเจ้าจะเสด็จกลับก็ได้ทรงประทานลมหายใจไว้ในพระพุทธรูปองค์นี้ แต่ภายหลังพระเจ้าปดุง แห่งราชวงศ์คองบองสามารถเมืองตียะไข่สำเร็จ จึงได้อัญเชิญพระมหามัยมุนีล่องตามแม่น้ำอิรวดีมาประดิษฐานที่มัณฑะเลย์จนถึงปัจจุบัน จากความเชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้ทรงประทานลมหายใจของพระองค์ไว้ในพระพุทธรูปองค์นี้ ดังนั้นสิ่งที่ชาวเมียนมาร์ต้องกระทำคือการล้างพระพักตร์และแปรงพระโอษฐ์ถวายท่านทุกวันเสมือนท่านมีชีวิตอยู่จริง ๆ


พิธีกรรมจะเริ่มจากการเข้ามาทำความสะอาดสถานที่ เตรียมน้ำสำหรับล้างพระพักตร์ (เป็นน้ำที่มีส่วนผสมของไม้จันทน์หอมและทะนาคา ซึ่งสาธุชนผู้หญิงที่ไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้พิธีจะเป็นผู้เตรียมไว้ให้ตั้งแต่เย็นวันก่อนหน้า) เมื่อเจ้าอาวาสเสด็จมาก็จะมีการบูชาด้วยดอกไม้ และใช้ผ้าคลุมที่พระวรกาย

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ต่อมาท่านเจ้าอาวาสจะใช้น้ำที่ผสมเตรียมไว้เริ่มล้างพระพักตร์ (ใบหน้า) ต่อด้วยแปรงพระโอษฐ์ (ริมฝีปาก) ของพระมหามัยมุนี และเช็ดหน้า ซึ่งในแต่ละวันจะมาสาธุชนนำผ้ามาถวายเป็นจำนวนมาก ในช่วงของการเช็ดหน้านี้จึงใช้เวลาค่อนข้างนาน ส่วนผ้าที่ผ่านการเช็ดหน้าแล้วผู้ที่นำมาถวายก็จะนำกลับไปบูชาต่อ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เสร็จแล้วเจ้าอาวาสก็จะนำผ้าคลุมพระวรกายของพระมหามัยมุนีออก นำพัดมาพัดลมให้ท่าน และเป็นผู้เริ่มนำ "รัก" มาทาพระองค์แล้วก็ปิดทอง

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ในพิธีกรรมนี้ผู้ชายจะสามารถเข้าไปนั่งที่โซนด้านหน้าใกล้ชิดได้ ส่วนผู้หญิงจะต้องนั่งในโซนที่ไกลออกมา และมีเพียงผู้ชายที่จะสามารถเข้าไปปิดทองที่องค์ท่านได้ ส่วนผู้หญิงก็ต้องอธิษฐานแผ่นทองแล้วฝากผู้ชายเข้าไปปิด

 

 

ภาพที่ได้เข้าไปปิดทององค์พระได้รับการสนับสนุนมาจากมิตรสหายท่านหนึ่งค่ะ ส่วนพุทธศาสนิกชนผู้หญิงก็อธิฐานจากด้านนอก

 

 

 

 

ผู้ที่นั่งไกลออกมาก็จะมีจอถ่ายทอดสดพิธีกรรมให้ดูตลอดงาน




ช่วงที่เจ้าอาวาสจะเสด็จกลับ สาธุชนก็จะนำผ้ามาปูเพื่อให้ท่าเดินผ่านไปแบบนี้ค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

พระมหามัยมุนี หรือที่ชาวเมียนมาร์เรียกว่า "มหาเมี๊ยะมุนี" มีอายุเกือบ 2 พันปีแล้วค่ะ จะเห็นว่าเดิมองค์ท่านมีขนาดเล็ก แต่ด้วยพลังศรัทธานานนับพันปีนี้เอง ท่านจึงถูกปิดทองจนองค์ท่านใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก และความมหัศจรรย์อยู่ที่ การปิดทองนั้นกำหนดให้ปิดเฉพาะที่ส่วนตัว ไม่ให้มีการปิดที่ใบหน้า แต่จะเห็นได้ว่าใบหน้าของท่านก็ใหญ่ขึ้นตามขนาดตัวจนดูไม่ผิดส่วนเลย และท่านมีอีกชื่อว่า "พระเนื้อนิ่ม" ที่มาของชื่อนี้ก็เพราะองค์ท่านจะเป็นรอยตะปุ่มตะป่ำจากการถูกปิดทอง ผู้ที่ได้เข้าไปปิดทองจะรู้สึกได้ว่าตัวท่านนิ่มจากการที่ถูกปิดทองทับการมานานนั่นเอง






สำหรับดอกไม้และใบไม้ที่ผ่านการบูชาท่านแล้ว ชาวเมียนมาร์ก็จะนำกลับไปบูชาต่อที่บ้าน โดยเฉพาะที่เป็นที่นิยมก็คือ "ใบชัยชนะ" มีความเชื่อว่าถ้าหากนำกลับไปก็จะชนะในกิจการงานทั้งปวงค่ะ






หากใครไม่คุ้นกับการนำดอกไม้ใบไม้กลับบ้านก็ทำบุญบริจาคร่วมกับวัดที่ตู้ทำบุญเหล่านี้ก็ได้ค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

บริเวณตรงนี้เป็นแท่นหินสำหรับฝนทะนาคาค่ะ






บริเวณวัด




เทวรูปในพื้นที่ตรงนี้เป็นเทวรูปที่แต่เดิมก็อยู่ที่ไทยบ้านเรา แต่ได้มีการสู้รบกับทางเขมร เทวรูปเหล่าก็ได้ถูกย้ายไปเขมร และเมื่อเมียนมาร์ตีเขมรได้ เทวรูปเหล่านี้ก็ถูกนำมาไว้ที่นี่ค่ะ มีความเชื่อว่าใครเจ็บปวดร่างกายตรงไหน ก็ให้ไปลูบเทวรูปที่ส่วนนั้น แล้วอาการก็จะทุเลาจนหายไป




ใครที่อยากเช่าพระหรือนำวัตถุมงคลไปบูชาก็สามารถเลือกซื้อหาได้จากบริเวณตลาดตรงนี้เลยค่ะ




ส่วนนี่ก็เป็นความสามารถของชาวเมียนมาร์ที่พบเห็นได้ทั่วไป สุดยอดจริง ๆ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ผู้เขียนเชื่อว่า อาหารการกินเป็นส่วนนึงที่แสดงให้เห็นวัฒนธรรมความเป็นอยู่และวิถีชีวิต เราก็เลยไม่อยากที่จะพลาดชุมชนยามเช้าค่ะ ซึ่งหลังจากที่จับกลุ่มเว้าวอนร้องขอมาได้สำเร็จ เราก็ได้มาชื่นชมตลาดเช้าประมาณ 20 นาที ก่อนกลับเข้าที่พัก แม่ค้าชาวเมียนมาร์จะตั้งโต๊ะเตี้ย ๆ ขายอาหาร แล้วลูกค้าก็จะมานั่งรายล้อมรับประทานกันแบบนี้






นี่คือร้านอาหารที่พบเห็นได้ทั่วไปในเมียนมาร์ ซึ่งจะมีโถชาตั้งอยู่ทุกโต๊ะ ชานี้จะเป็นชาร้อน บริการฟรี สามารถดื่มเท่าไหร่ก็ได้ คนที่นี่ไม่นิยมดื่มน้ำดื่มเย็นค่ะเพราะเชื่อว่าจะสอดท้อง






และอาหารเช้ายอดนิยมชุดนี้ต้องขอขอบคุณคุณไกด์ที่ได้พาเรามาชมและชิมค่ะ เริ่มจากในจานที่ใส่ขนมรูปสามเหลี่ยมนั้นมีชื่อว่า "ซาโมซ่า" (Samosa) ก็คือแป้งทอดที่ภายในมีมันฝรั่ง หัวหอม หรือถั่ว ที่เห็นแท่งยาว ๆ นั้นคือ "ปาท่องโก๋พม่า" ต่างกับไทยที่รูปร่างอย่างเดียวค่ะ เรื่องรสชาตินั้นเหมือนกัน ส่วนที่เด็ดคือในถ้วยใบนี้ซึ่งมีชื่อว่า "โมฮิงกา" (Mohinga) หรือ "ขนมจีนน้ำยาพม่า" เป็นอาหารเช้ายอดนิยม อยู่ในลิสต์ที่ผู้เขียนหมายเอาไว้ก่อนมาว่าจะต้องชิมให้ได้ รสชาติก็จะเข้มข้น ในน้ำแกงก็จะมีหยวกกล้วยและหนังปลาทอดกรอบ แหม ตื่นตั้งแต่ตีสอง พอได้อะไรอุ่น ๆ ลงท้องก็รู้สึกดีไม่เบาเลยล่ะค่ะ

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ถึงเวลาที่ต้องกลับไทยแล้วค่ะ ต้องแอบบอกว่ายังมีอีกหลายยยยยยยยยยยสิ่ง หลายยยยยยยยยยยยยยยยยยอย่าง ที่ยังอยากชมในประเทศนี้ เอาเป็นว่าทริปหน้าฟ้าใสก็ยังมีโอกาสได้เจอกันใหม่เน๊อะ


เรามาถึงท่าอากาศยานมัณฑะเลย์ประมาณ 10.00 น. ค่ะ นี่คือพื้นที่ขาออกของสนามบิน และพื้นที่เคาน์เตอร์เชคอินค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เมื่อได้ตั๋วมาเราก็ไปผ่านตม. และเข้าไปยังพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ซึ่งก็จะมีร้านค้าสินค้าปลอดภาษีรวมทั้งสินค้าที่ระลึกให้ได้เลือกซื้อหาอยู่ด้วยค่ะ






ประตูขึ้นเครื่องกลับของเราอยู่ที่ Gate 8






โฉมหน้าเครื่องบินที่จะพาเราเหิรฟ้ากลับบ้าน

[ทีมข่าวHFLIGHT]

พื้นที่สำหรับรอขึ้นเครื่อง และพิธีอำลา

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เที่ยวบินขากลับของพวกเราคือ WE310 ร่วมกับ TG2310 ซึ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานมัณฑะเลย์ทุกวันจันทร์ อังคาร พฤหัส และเสาร์ ในเวลา 11.55 น. และจะไปถึงท่าอากาศยานสุวรรภูมิในเวลา 14.20 น. ค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ทริปนี้ถือว่าคุ้มค่ะ ขามาได้อ่านนิตยสาร We Smile ฉบับเดือนกันยายน ขากลับได้อ่านฉบับเดือนตุลาคม

[ทีมข่าวHFLIGHT]

บนเที่ยวบินขากลับนี้ มีบริการอาหารเป็น Spicy Chicken Wrap และสลัด ส่วนของหวานเป็นบานอฟฟี่ อย่างหลังนี่ชื่นชมเรื่องรสชาติมากเลยค่ะ นาน ๆ ที่จะเจอบานอฟฟี่ที่รสชาติถูกปาก ต้องขอบคุณไทยสมายล์

[ทีมข่าวHFLIGHT]

และแล้วเราก็เดินทางกลับมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สัญญาณแจ้งรัดเข็มขัดดับลง ตรวจสอบสัมภาระและเอกสารให้เรียบร้อยแล้วก็ลงจากเครื่องค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

จบการเดินทางในทริปนี้ค่ะ

[pota]

ขอบคุณครับ

[captain H]

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

[Patchayada]

ขอบคุณนะคะสำหรับรีวิว

[MAHADAYA380]

เป็นรีวิวที่ภาพสวยไปหมดทุกรูปเลยครับ สุดยอดมากๆๆๆๆๆๆ