64 replies to this topic

[MrBew]

Advertisements

สวัสดีครับ สมาชิกชาว HFLIGHT ทุกๆท่านครับ  Mr.Bew Za มารายงานตัวอีกแล้วครับ

หลังจากที่พึ่งปล่อย รีวิว [AUTUMN IN JAPAN] ฤดูแห่งใบไม้เปลี่ยนสี ::  [ตอนที่1]  ไปก่อนหน้านี้ครับ ซึ่งทริปที่แล้วนั้นผมได้พาไปชมความสวยงามของเมืองหลวงปัจุบันญี่ปุ่น คือเมือง TOKYO ครับ และได้ไปตามล่า ฟูจิซัง แล้วยังได้เจอกับเทศกาล MAPLE LEAVE FESTIVAL พอดิบพิดี ที่มี “อุโมงใบไม้แดง” อันสวยงาม 

ในตอนที่ 2(ตอนจบ) นี้ผมจะพาทุกๆท่านไปชมความงดงามของ ฤดูแห่งใบไม้เปลี่ยนสี หรือ ใบไม้แดง ของภูมิภาคคันไซ (KANSAI) กันครับ โดยผมเน้นที่เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น นั่นก็คือ นครเกียวโต (KYOTO) ครับ และอีกเมืองหนึ่งที่อยู่ติดๆกันก็คือเมืองโอซาก้า (OSAKA) ครับ ซึ่งเวลาเดินทางถึงกันไม่นานมากนัก เรียกได้ว่า ผมใช้วิธี ไปเช้า เย็นกลับ ได้สะบายๆ เลยครับ


      เมื่อพูดถึงแรงบันดาลใจ เหตุใดจึงผมเลือกให้เวลาถึง 4 วันเลยทีเดียวสำหรับเมืองนี้ ซึ่งนั่นก็คือหลังจากที่ตัดสินใจจองตั๋วเครื่องบิน เริ่มศึกษาหาข้อมูลเมืองต่างๆ และช่วงเวลาที่เราเดินทางนั้น คิดว่าช่วงใบไม้แดงน่าจะอยู่ที่เมืองใด ซึ่งข้อบังเอิญไปเจอกระทู้ ==> KANSAI MOMIJI: THE MOMENT OF FALL http://2g.pantip.com...11639767.html  นั่นจึงเป็นที่มาสำหรับทริปใบไม้แดงเกียวโตทริปนี้ครับ


      เมืองเกียวโตนั้น (Kyoto) เป็นเมืองเอกของจังหวัดเคียวโตะ และเป็นอดีตเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจัดว่าเป็นศูนย์กลางของเกาะฮนชู ครับ เมืองเกียวโตนอกจากจะมีวัด มีศาลเจ้า มีปราสาทเก่าแก่ที่สวยงามแล้ว  เมืองเกียวโตยังเป็นที่นิยมท่องเที่ยวในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่มีชื่อเสียงและสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นอีกด้วย  ณ.ช่วงเวลาที่ผมไป ใบไม้เปลี่ยนสีในเกียวโตจะมีทั้งเขียว เหลือง ส้ม แดง จนล่วงหล่นลงบนพื้นเป็นสีน้ำตาล ครบเลยครับ สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ขึ้นชื่อของเกียวโตจะอยู่ตามวัดต่างๆ เช่น วัดโทฟุคุจิ, วัดคิโยมิซุ, วัดทองคินคะคุจิ, วัดเท็นเรียวจิ และ Arashiyama ครับ


สำหรับโปรแกรมที่เหลือของทริปครับ
วันที่4 (NOV 18, 2013) MON : KYOTO -  KIYOMIZU TEMPLE (DAY AND LIGHT-UP) - GION - YASAKA SHIRE
วันที่5 (NOV 19, 2013)  TUE : ARASHIYAMA - KINKAKU JI TEMPLE - FUSHIMI INARI SHRINE
วันที่6 (NOV 20, 2013) WED : MINOO WATERFALL - OSAKA CASLE - NAMBA/DOTONBORI
วันที่7 (NOV 21, 2013)  THU : TOFUKU JI TEMPLE – GO TO TOKYO
วันที่8 (NOV 22, 2013)   FRI: เก็บตก TOKYO UENO-AKIHABARA-SHIBUYA-HARAJUKU- SHINJUKU
วันที่9 (NOV 23, 2013)  SAT:  NRT->HKG  (HONGKONG SIGHTSEEING 6 HOURS)    HKG->BKK

อุปกรณ์ถ่ายภาพและการโพรเซส:
กล้อง: CANON EOS 60D, CANON EOS 550D.
เลนส์: CANON EF-S 17-85MM, TAMRON 10-24MM, SIGMA 70-300MM.
โพรเซสรูป:
ถ่ายรูปออกมาเป็น JPEG ไฟล์ แล้วแต่งด้วยโปรแกรม ADOBE LIGHTROOM, ย่อรูป(USM): ด้วยโปรแกรม PHOTOSHOP นะครับ
 
รีวิวนี้ข้อมูลไม่แน่น ไม่เน้นกิน ไม่เน้นช็อป เน้นไปเที่ยวถ่ายรูป เท่านี้พอแล้วสำหรับ Mr.Bew Za ขออภัยล่วงหน้านะครับ

 พร้อมแล้วไปลุยกันเลยครับ ^^

[MrBew]

สำหรับท่านใดที่ยังไม่ได้ชม รีวิว [AUTUMN IN JAPAN] ฤดูแห่งใบไม้เปลี่ยนสี [ตอนที่ 1]
ซึ่งตอนที่แล้วนั้นผมได้พาไปชมความสวยงามของเมืองหลวงปัจุบันญี่ปุ่น คือเมือง TOKYO ครับ และได้ไปตามล่า ฟูจิซัง แล้วยังได้เจอกับ
เทศกาล MAPLE LEAVE FESTIVAL พอดิบพิดี ที่มีเห็น “อุโมงใบไม้แดง” อันสวยงามด้วยครับ 

เพื่ออรรถรส ในการรับชม อย่าลืมไปดูตอนที่ 1 ก่อนนะคับ 

==> www.hflight.net/forums/topic/16182-autumn-in-japan

[MrBew]

เช้าวันที่สี่ : 18 NOV 2013 : MT.FUJI ==> GO TO KYOTO
ช่วงเช้าๆ ออกมาเดินสูดอากาศ พร้อมกับเก็บรูปรถไฟกับภูเขาไฟฟูจิ ที่หน้า KAWAGUCHIKO STATION.ครับ
*** กรณีเมื่อวานฟ้าฝนไม่เต็มใจ ไปเจดีย์ CHUREITO PAGODA ใหม่อีกรอบ *** แต่ปรากฏว่าเมื่อวานท้องฟ้าแจ่มใส ไม่ต้องไปถ่ายแก้ ครับ ^^




เริ่มเดินทางออกจาก KAWAGUCHIKO STATION ครับ
KAWAGUCHIKO STATION =>  OTSUKI=>HACHIOJI => SHIN-YOKOHAMA
เพื่อต่อรถไฟความเร็วสูง ชินคังเซน จากสถานี SHIN-YOKOHAMA => KYOTO ครับ

[MrBew]

ARRIVED AT KYOTO STATION
เมื่อมาถึงสถานี KYOTO ก็จัดการซื้อ KYOTO SIGHTSEEING 2 DAY PASS เลยครับ คนละ 2000 สำหรับ 2 วันแรกเลยครับ หาซื้อได้ที่ Kyoto Tourist Information Center ครับ
เพื่อใช้สำหรับขึ้นรถประจำทางและรถไฟใต้ดิน(SUBWAY) ครับ เมื่อซื้อเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ จะให้แผนที่ Route Map - City Bus Sightseeing Map "Busnavi" มาให้ด้วยครับ ห้ามหายนะครับ เพราะมันทำให้เราง่ายต่อการนั่งรถเมล์ไปยังสถานที่ต่างๆ ได้ง่ายมากๆ ถึงมากที่สุดเลยครับ ซึ่งรถเมย์สามารถเข้าถึงสถานที่สำคัญได้เกือบทุกที่เลยครับ ในแผนที่จะบอกถึงสถานที่สำคัญต่างๆในเกียวโต ป้ายรถเมลล์และสายรเมลล์ที่ผ่านแต่ละจุดอย่างละเอียด

(Cr. http://www.kyoto1day.com)
HTTP://WWW.CITY.KYOTO.JP/KOHO/ENG/ACCESS/IMG/BASUNABIEIGO-OMOTE.PDF
ข้อมูลตามนี้เลยครับ ==> http://www.city.kyot.../transport.html
แต่บางกรณีรถติดมากๆ อาจเปลี่ยนไปนั่งรถไฟใต้ดินแทนได้ครับ ^^

[MrBew]

หลังจากนั้นพวกเราไป CHECK-IN AT KHAOSAN KYOTO GUEST HOUSE ซึ่งอยู่แถวๆ ป้ายรถเมย์ SHIJO-KAWARAMACHI ซึ่งถือว่าอยู่ในย่านใจกลางเมืองสามารถเดินไปย่าน GION, YASAKA SHIRE ได้สะบายๆครับ
หลังจากฝากกระเป๋าเป็นที่เรียบร้อยแล้วจากนั้น ก็เริ่มเดินทางท่องเมืองเกียวโต กันต่อเลย ด้วยการนั่งรถเมย์ สาย 207 มาลงที่ป้าย Kiyomizu-Michi ตามแผนที่แผ่นพับ เลยครับ ลงรถแล้วเดินตามชาวบ้านเค้าไปเลยครับ ^^

คนเยอะมากๆ สองข้างทางจะเป็นร้านค้า ขายของตลอดทาง

[MrBew]

วัดคิโยมิซึเดระ (Kiyomizu-dera Temple) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ วัดน้ำใส เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกียวโตวัดหนึ่ง ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของเกียวโต วัดคิโยมึซึเดระ นี้ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์เกียวโตโบราณ และยังได้รับการรับรองให้เป็นมรดกโลก จาก UNESCO อีกด้วย


ในบริเวณวัดยังประกอบไปด้วยศาลเจ้าต่างๆมากมายเช่น ศาลเจ้าจินชู (Jinshu Shrine) ที่สร้างไว้สำหรับบูชาเทพเจ้าแห่งคู่และความรัก

[MrBew]

มุมมหาชนของนักท่องเที่ยว ที่มาวัดคิโยมิซึแล้วต้องมีรูปมุมนี้เก็บไว้ครับ เดี๋ยวจะหาว่า มาไม่ถึงเกียวโต อิอิ


คนเยอะเต็มระเบียงเลยครับ

[MrBew]

ใบไม้เปลี่ยนสีรอบๆ วัดคิโยมิซุ


มองลงไปยัง ตัวเมืองเกียวโต เห็น เกียวโตทาวเวอร์ ด้วยครับ

[MrBew]

น้ำ 3 สาย นี้ คนญี่ปุ่นมีความเชื่อกันว่า ถ้าได้ดื่มน้ำทั้ง 3 สาย จะประสบความสำเร็จตามปรารถนาทั้งเรื่องการเรียน และในหน้าที่การงาน รวมทั้งช่วยให้สุขภาพอนามัยดี มีอายุยืนยาวครับ

[MrBew]

วัดนี้สวย มีอะไรให้ชมเยอะแยะมากมาย คุ้มค่ากับการมาชม ยิ่งถ้าได้มาช่วงใบไม้เปลี่ยนสีช่วงพีคพอดี คงจะสวยน่าดูจริงๆครับ

เดินตามสาวๆ ชุดกิโมโน ไปครับ

[MrBew]

เราใช้เวลาอยู่ที่วัดน้ำใส จนถึงเย็น เมื่อเวลาเริ่มๆใกล้จะมืด ทางวัดเค้าปิดครับ เพื่อเตรียมจัดงาน LIGHT-UP SHOW ในตอนกลางคืนครับ เราจะต้องเดินออกไปข้างนอกวัด แล้วจึงเข้ามาใหม่ครับ

[MrBew]

ทางขึ้นวัดคิโยมิสึ มีร้านขายของเพียบตามสองข้างทาง สินค้าก็มีหลากหลายชนิดให้เลือกซื้อ เช่น ขนม ลูกอม ชา เสื้อผ้า พัด ถ้วยชาม ตุ๊กตา ของที่ระลึก และอื่นๆ ละลานตาไปหมด ร้านขนมส่วนใหญ่มักมีตัวอย่างขนมให้ลองชิมครับ

[MrBew]

ได้เวลาไปชมความงดงาม LIGHT-UP SHOW ของวัดคิโยมิซึ  แล้วครับ สวยมากๆ การจัดแสงต้องยกให้ประเทศนี้เลยครับ
-ภาพนี้ไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้องนะครับ ที่วัดห้ามต่อให้แอบๆ ก็คนเยอะมากจนวางไม่ได้ อาศัยวางกับราวระเบียงเอาครับ แต่ระวังคนเดินชน กล้องหล่นนะครับ

[MrBew]

บางที่ ที่คนไม่เยอะ ตามถนน สามารถวางขาตั้งกล้องได้ครับ

[MrBew]

อีกรูปก่อนกลับครับ กับมุมมหาชน อาคารหลักของวัดครับ สวยงามจริงๆ


ได้เวลากลับแล้วครับ ขากลับ ก็แวะชิมขนมตาม 2 ข้างทางอีกรอบ อิ่มครับ ฮ่าๆๆๆ แต่ก็อุดหนุนซื้อกลับไทยอยู่ นะครับ
นั่งรถเมย์สายเดิมกลับ แต่ไปลงที่ป้าย กิออน GION และเดินไปศาลเจ้า ยาซากะ YASAKA SHIRE ก่อนกลับที่พักครับ

[MrBew]

วันที่ห้า (NOV 19, 2013)  TUE : ARASHIYAMA - KINKAKU JI TEMPLE - FUSHIMI INARI SHRINE

วันนี้ ตื่นเช้ามา รีบเดินทางไป ARASHIYAMA ก่อนที่ผู้คนจะไปกันเยอะครับ
การเดินทางไปอะราชิยามาสามารถนั่งรถไฟ JR Sagano line จากสถานี JR Kyoto ไปลงที่สถานี Saga Arashiyama ได้เลยประมาณ 15 นาทีครับ เมื่อมาถึง JR Saga-Arashiyama เดินออกมาที่ด้านหน้าสถานี จากนั้นเราก็เดินไปที่สะพาน Togetsukyo Bridge หรือ "Crossing Moon Bridge" ที่มี Mt. Arashiyama เป็นฉากหลังครับ. สะพานนี้ถอเป็นสัญญลักษณ์ของ Arashiyama ครับ
ช่วงเช้าๆ อากาศดีมากๆเลยครับ ผมแวะซื้อ ข้าวปั้น กาแฟร้อนๆ กับอากาศเย็นๆ น่าจะประมาณ 10 องศากว่าๆ นั่งทานบริเวณริมแม่น้ำและนั่งเก็บบรรยากาศ ไปในตัว


สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge) เป็นสะพานข้ามแม่น้ำที่สวยที่สุดในอาราชิยามะครับ ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี จะเห็นภูเขาอาราชิยามะเป็นฉากหลังของสะพาน มีต้นไม้บนภูเขาสลับสีกันไปหลากสีสันต์ สวยงามครับ


สามารถเดินข้ามสะพานไปยังอีกฝั่งได้ครับ

[MrBew]

มาถึง อะราชิยามะ แล้ว อย่าลืมเดินไปเก็บภาพสวยๆ บริเวณคุ้งน้ำ ด้วยนะครับ เดินเลยทางที่จะเลี้ยวไปวัดเทนริวจิ นิดหน่อยครับ




รถลากแบบญี่ปุ่น นี่ก็ถือเป็นเอกลักษณ์ ของที่นี่เช่นกันครับ

[MrBew]

หลังจากนั้นเราจะเดินไป วัดเท็นริวจิ (Tenryu-ji Temple) กันครับ
ระหว่างทางเจอวัดอะไรสักอย่าง ขออภัยครับจำชื่อไม่ได้ ที่บริเวณหน้าวัดมีสวนใบไม้แดง ให้เดินเข้าไปชมได้ฟรีๆ ครับ แต่ไม่ใหญ่มาก

[MrBew]

ถึงแล้วครับ วัดเท็นริวจิ (Tenryu-ji Temple) บริเวณหน้าวัดครับ

[MrBew]

วัดเท็นริวจิ (Tenryu-ji Temple) เป็นวัดที่มีความสวยงามเป็นอันดับต้นๆของวัดในเกียวโต และยังเป็นหนึ่งใน 5 วัดมรดกโลกที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองเกียวโตก็ว่าได้ วัดเท็นริวจิเป็นวัดในศาสนาเซน และเป็นศูนย์กลางของลัทธิรินไซ การจัดสวน หรือแม้แต่ต้นไม้ที่ปลูกอยู่ในวัด ก็ล้วนแล้วแต่ได้รับอิทธิพลจากศาสนาเซนทั้งสิ้น ภายในวัดจึงมีความสวยงามแฝงไปด้วยความสงบแบบเซน และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของเมืองเกียวโต(Cr. http://www.kyoto1day.com)


บริเวณรอบๆวัดจะมีสวนที่มีพรรณไม้ต่างๆที่จะผลัดใบเปลี่ยนสีไปตามฤดูและสระน้ำที่วัดแห่งนี้ ก็เป็นความงดงามของธรรมชาติที่น่าประทับใจครับ