64 replies to this topic

[MrBew]

Advertisements

ภายในวัดเท็นริวจิ เมื่อเข้ามาแล้วสิ่งที่พลาดไม่ได้เลยของวัดแห่งนี้คือ สวนแบบเซน ครับ สวยงามมาก


จากนั้นเริ่มเข้าสู่เส้นทาง เดินชมใบไม้แดงครับ

[MrBew]

บริเวณรอบๆวัดจะมีสวนที่มีพรรณไม้ต่างๆ ที่จะผลัดใบเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล




วัดเทนริวจิช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงกลางๆ ถึงปลายเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงที่สวยที่สุด

[MrBew]

เดินชมใบไม้เปลี่ยนสีวัดเทนริวจิ กันครับ ใบไม้เปลี่ยนสีที่นี่สวยจริงๆ ครับร่มรื่นมาก และมีมุมให้ถ่ายรูปมากมายเลยครับ

[MrBew]

อย่าพึ่งเบื่อกันนะครับ
ภายในวัดมีทางเดินค่อนข้างกว้างครับ กว่าจะเดินรอบ ก็ใช้เวลานานเหมือนกันครับ



หลังจากเดินครบแล้ว เราจะเดินออกทางข้างหลังวัดครับ เพื่อทะลุไปยัง ป่าไผ่ ครับ

[MrBew]

ป่าไผ่ซากาโนะ (Sagano Bamboo Forest)
       ป่าไผ่ที่ใหญ่ที่สุดในเกียวโตที่ต้องแนะนำว่า หากมาเยือนเกียวโตและอาราชิยามะ แล้วจะต้องแวะมาที่นี่ให้ได้ครับ เมื่อมาถึงนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับผืนป่าเขียวชอุ่มที่เต็มไปด้วยต้นไผ่ สีเขียวสดอันแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ครับ

[MrBew]

ได้เวลาไปที่อื่นต่อแล้วครับ ระหว่างเดินไป JR SAGA AARASHIYAMA ครับ


แวะชิม ไอศครีมชาเขียว ก่อนกลับ


จากนั้น นั่งรถไฟจาก JR SAGA AARASHIYAMA ไปลง เอ็มมาจิEMMACHI ST. เพื่อต่อรถเมย์ไปยังวัดคินคะคุจิ ครับ
ใต้สถานีรถไฟ หาอะไรทานก่อนไปวัดครับ

[MrBew]

จากสถานีเอ็มมาจิ (Emmachi) จากนั้นนั่งรถประจำทางสาย 204 หรือ 205 ไปลงที่วัดคินคะคุจิ แล้วเดินต่ออีกนิดก็ถึงวัดแล้วครับ
เริ่มเข้าสู่บริเวณวัด ก็รู้สึกถึงความสวยงาม ของไม้แดง อีกแล้วครับ ^^

[MrBew]

ไปซื้อตั๋ว แล้วเข้าไปชมภายในวัดกันครับ






ใบไม้แดงดีจริงๆ ครับ ^^

[MrBew]

วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple)
       วัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเกียวโตและโด่งดังเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่น วัดคินคะคุจินั้นรู้จักกันในชื่อพลับพลาทองเนื่องจากมีสีทองห่อหุ้มตัววัด เอาไว้ ในตอนแรกนั้นวัดคินคะคุจิถูกใช้เป็นปราสาทของโชกุนแต่ในเวลาต่อมาก็เปลี่ยน มาเป็นวัดในนิกายเซนที่มีชื่อเสียงดังเช่นในปัจจุบัน (http://www.about108....3/04/kyoto.html)

แถ่น..แทน..แท้นน “พลับพลาทอง” (Golden Pavilion) สวยงามสมคำร่ำลือ จริงๆครับ




สวยงามจริงๆนะครับ ^^

[MrBew]

เดินเข้าไปชมใกล้ๆ ย้อนแสงสักหน่อย ^^




มองย้อนไปที่ พลับพลาทอง

[MrBew]

อีกมุมในวัดครับ


มีศาลเจ้าให้ขอพรก่อนกลับด้วยครับ ใกล้ทางออกครับ


ใบไม้เปลี่ยนสีในวัดทอง นี่กำลังแดงสดมากๆครับ




จากนั้นพวกเรานั่งรถเมย์ไปลงที่สถานี Kyoto ครับ เพื่อนั่งรถไฟ JR ไป FUSHIMI INARI SHRINE ครับ

[MrBew]

FUSHIMI INARI SHRINE (伏見稲荷大社) โทริอิสีแดง เปิดตลอด 24 ช.ม.
การเดินทาง สามารถนั่งรถไฟ JR มาลงที่สถานี อินาริ (Inari) ได้เลย แล้วเดินเข้าไปที่ศาลเจ้าไม่ไกลครับ
เดินออกมาได้นิดเดียวก็เจอ เสาโทริอิ ต้นใหญ่ๆ เลยครับ
- ประตูศาลเจ้าครับ

[MrBew]

ศาลเจ้าฟูชิมิ อินาริ (Fushimi Inari Shrine) เป็นศาลเจ้าชื่อดัง ที่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกียวโตทุกคนต่างเดินทางมาดูโทริอิ (Torii) หรือประตูศาลเจ้าที่เรียงต่อทอดยาว จากตีนเขาไปถึงยอดเขาสูงถึง 233 เมตร ประตูโทริที่เรียงรายกันเป็นอุโมงสีแดงนี้เป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ เป็นอย่างดี

[MrBew]

ไฮไลท์ ของที่นี่เลยครับ อุโมงโทริอิ สีแดง

[MrBew]

ได้เวลากลับแล้วครับ วันนี้เที่ยวได้คุ้มมากๆ


ขากลับต้องมาต่อรถเมย์หน้าสถานีเกียวโต เลยได้โอกาส เก็บภาพ Kyoto Tower ด้วยครับ ^^

[MrBew]

วันที่หก(NOV 20, 2013) WED : MINOO WATERFALL - OSAKA CASLE - KOKE(MOSAIC) - NAMBA/DOTONBORI

วันนี้จะพาไปเที่ยว น้ำตก มิโนะ - MINOO WATERFALL กันครับ
หากท่านใดได้มีโอกาสมาเที่ยวแถบโอซาก้าในฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่ผมขอแนะนำครับ สำหรับผู้ชอบเดินเส้นทางธรรมชาติและไม่ไกลจากเมืองมากนัก ที่นั่นคือ น้ำตกมิโนะ (Minoo Waterfall)ครับ น้ำตกแห่งนี้อยู่ทางตอนเหนือของเมืองโอซาก้าครับ การเดินทางก็แสนง่ายดาย ด้วยรถไฟ ของ HANKYU ไปลงสถานี มิโน เลยครับ
แผนการเดินทางของผมครับ เริ่มต้นจากสถานีใกล้ๆที่พักเลยครับ
KAWARAMACHI(KYOTO) TAKE HANKYU KYOTO LINE LTD. EXP > JUSO TAKE HANKYU TAKARAZUKA LINE EXP.> ISHIBASHI(OSAKA) TAKE HANKYU MINOO LINE > MINOO ST.
เมื่อถึง มิโนะ – MINOO WATERFALL ก็เดิมตามฝูงชนไปอีกเช่นเคยครับ ไม่นานก็จะเข้าสู่เส้นทางธรรมชาติครับ เป็นเส้นทางที่ต้องเดินขึ้นเขาไปอีกเกือบ 2 กม. ระหว่างเริ่มเดินขึ้นเขานั้น มีแม่ค้ากำลังตั้งใจทอดใบเมเปิลชุบแป้งทอด ครับ


บ้านเรือนให้เห็นเป็นระยะ (อยากมีต้นเมเปิ้ลอยู่หน้าบ้านแบบนี้บ้างจัง

[MrBew]

บรรยากาศ ธรรมชาติมากๆ  ใบไม้ที่นี่พึ่งจะเริ่มแดงครับ ส่วนมากยังเขียวๆเหลืองๆอยู่ครับ

[MrBew]

ถึงแล้วครับ น้ำตกมิโนะ (Minoo Waterfall) สวยงามและสดชื่นจริงๆครับ ที่เดินๆมาเกือบๆ 2 กม. นี่หายเหนื่อยเลยครับ 

[MrBew]

อย่างที่บอกครับ  ที่นี่เป็นที่นิยมมากๆสำหรับคนที่ชอบเดินชมธรรมชาติ จะเห็นว่า ผู้สูงอายุ จะนิยมมาเดินกันเยอะมากๆครับ และที่สำคัญเดินแซงผมด้วยครับ ฮ่าๆ ผู้สูงอายุที่นี่แข็งแรงจริงๆ ครับ  พวกเราใช้เวลาสำหรับที่นี่ เกินครึ่งวันเลยครับ กับบรรยากาศแบบนี้  ช่วงบ่ายแก่ๆ ก็ได้เวลาไปที่อื่นกันต่อครับ






ขากลับ ที่เดิม มุมเดิม แต่คนละเวลา ก็ทำให้ได้ภาพ ไม่เหมือนกัน (สวยคนละแบบ อิอิ ^^)

[MrBew]

ไป ปราสาทโอซาก้า(OSAKA CASTLE) กันต่อครับ
นั่งรถไฟจาก MINOO ไป UMEDA (JR OSAKA) 260/คน แล้วต่อ OSAKA LOOP LINE ไปลง JR OSAKAJOKOEN. ครับ
และแน่นอนครับ เมื่อมาถึงที่สวนสาธารณะ OSAKA-JO KOEN ซึ่งมีปราสาทโอซาก้า ตั้งอยู่ ก็จะพบกับต้นแปะก๊วยจำนวนมากที่กำลังเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด เต็มสองข้างทาง ดูแล้วสวยงามจริงๆครับ


ถึงแล้วครับ ปราสาทโอซาก้า(OSAKA CASTLE) แต่ผมขอชมอยู่ไกลๆ นี่แหละครับ กว่าจะเดินมาถึง เล่นเอาหอบ เลยที่แล้ว


-สะพานนี้มีชื่อว่า Gokurakubashi เป็นสะพานที่เชื่อมไปยังปราสาทโอซาก้า คำว่า “Gokuraku” มีความหมายทางพุทธศาสนาว่า “The World of peace” สะพานนี้เคยโดนไฟไหม้ไปเมื่อ ค.ศ. 1868 และสะพานที่ใช้ในปัจจุบันได้สร้างใหม่ในปี ค.ศ. 1965
(Cr. http://www.emagtrave...saka-trip.html)