48 replies to this topic

[Suranuanear]

Advertisements

                   สวัสดีครับ ชาว HFLIGHT ทุกท่าน ก่อนอื่นผมขออนุญาตฝากตัวด้วยครับ เพราะผมเป็นสมาชิกใหม่ และผมขอใช้นามแฝงว่า"Suranuanear International Airport" แบบในโลโก้ที่ผมทำขึ้นเล่นๆอันนี้นะครับ คำแรก ผมขอไม่เขียนเป็นคำอ่านภาษาไทยนะครับ เพราะความหมายอาจ 18+ ทันที 

 

 

                     เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ รีวิวนี้เป็นรีวิวแรกในชีวิตของผมครับ หากมีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมาในโอกาสนี้เลยนะครับ ทริปนี้ผมขอตั้งชื่อว่า “พาแม่ตามรอยละครบุญผ่อง” ครับ เพราะคุณแม่ของผม ท่านชอบดูละครบุญผ่อง ทางช่องไทยพีบีเอส ที่เพิ่งจบไปประมาณ เดือนที่แล้วครับ ผมเองดูแล้วก็ยังอินไปด้วยเลยครับ เพราะเป็นละครที่สร้างจากเรื่องจริง เป็นชีวประวัติของ พันโทบุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์ อดีตนักธุรกิจและนายกเทศมนตรีเมืองกาญจนบุรี ผู้มีส่วนช่วยเหลือเชลยสัมพันธมิตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองครับ ทริปนี้ผมจึงได้ใช้บริการของ การรถไฟแห่งประเทศไทย ครับ

 

 

ขอขอบคุณรูปจากบอร์ด postjung.com ครับ

 

ทางการรถไฟแห่งประเทศไทยของเราได้จัดรถขบวนนำเที่ยวอยู่หลายสายด้วยกันครับ ทริปที่ผมไปก็เป็น ขบวนที่ 909 เที่ยวรถไฟสายน้ำตก นั่นก็คือ กาญจนบุรี – เส้นทางรถไฟสายมรณะ-น้ำตกไทรโยคน้อย ตามกำหนดการข้างล่างนี่เลยครับ ที่มารูปภาพจาก http://www.railway.co.th/home/

 

 

รถขบวนนี้จะเริ่มออกเดินทางเวลา 06.30 น. จากสถานีรถไฟกรุงเทพ ฯ (หัวลำโพง) แต่บ้านของผมนั้นอยู่โซนลาดพร้าว จะให้ย้อนไปขึ้นที่หัวลำโพงก็ใช่เรื่อง ผมจึงมาขึ้นที่บางซื่อแทนครับ

 

 

เรามาถึงสถานีรถไฟบางซื่อ 2 (สายใต้) ประมาณ 06.30 น. ประกอบไปด้วย ผม แม่ พี่สาว และแฟนพี่สาว ระหว่างรอรถไฟที่เพิ่งออกมาจากหัวลำโพง ผมก็เดินเล่นถ่ายรูปซักเล็กน้อยครับ

 

 

 

 

[Suranuanear]

 

ที่ผมยืนอยู่นี่เป็นสถานีสำหรับรถไฟสายใต้จอดเท่านั้นนะครับ ส่วนใครที่จะไปสายเหนือ หรือ อีสาน ก็ต้องเดินลงไปทางทิศใต้เล็กน้อยครับ อย่างที่เห็นในรูปครับ นั่นคือสถานีบางซื่อ 1 (สายเหนือ-สายอีสาน) เพราะชุมทางบางซื่อถือเป็นสถานีทางแยกครับ บรรยากาศตอนเช้าๆ ที่เมฆกำลังก่อตัว ในใจก็ภาวนาว่า “เพี้ยงขอให้ฝนอย่าตกในวันที่เรากำลังจะไปเที่ยวด้วยเถิ๊ด....” แต่ผมก็ได้เช็คสภาพอากาศมาบ้างครับ ว่าที่กาญจนบุรี จะมีฝนประมาณ 60 % ของพื้นที่ ผมเช็คทางนี้เลยครับ http://www.tmd.go.th/    เว็ปไซต์ ของกรมอุตุนิยมวิทยาครับ ระหว่างรอ รถไฟจากนครศรีธรรมราชมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพก็มาเทียบจอดพอดีครับ มีทั้ง รถนั่งชั้น 3 รถนั่งชั้น 2 รถนั่งและนอนปรับอากาศชั้น 2 ถ่ายมาได้นิดหน่อยครับ

 

 

 

 

 

[Suranuanear]

 

ถ่ายตั๋วให้ดูกันบ้างดีกว่า รูปแรกนี้คือตั๋วทั้งหมดครับ 4 คน 8 ใบ เพราะตั๋วแยกเป็น ขาไป ขากลับ คนละใบ ราคาทริปนี้หรอครับ ราคาค่าตั๋วตลอดทริปอยู่ที่คนละ 120 บาทครับ ส่วนที่เห็นในกำหนดการว่ามีรถปรับอากาศด้วยนั้น การรถไฟได้ยกเลิกที่จะพ่วงโบกี้ไปแล้วครับ ด้วยเหตุผลอะไรผมก็ไม่ทราบครับ ส่วนรูปล่างก็หน้าตั๋วครับ เหมือนตั๋วรถไฟปกติ ระบุเลขที่นั่ง เรียบร้อยครับ

 

 

 

และแล้วเวลาประมาณ 06.50 น. รถไฟชบวนที่ 909 ก็มาถึงครับ ที่ทางสถานีประกาศคือขวนที่ 909 เที่ยวน้ำตก กับขบวน 911 เที่ยวทะเลสวนสน (หัวหิน) ผมก็งงเล็กน้อยครับว่าทำไมให้ขึ้นขบวนเดียวกัน ทั้งๆที่ไปคนละที่ ขบวนที่มาจอดเทีบยมีทั้งหมด 7 โบกี้ด้วยกันครับ ของผมในตั่วระบุคันที่ 1 ก็ต้องมาขึ้นโบกี้แรกเลย ยังไม่ทันได้ถ่ายรูปรถไฟครับ เพราะต้องรีบขึ้นเพราะเขาจอดไม่ถึง 2 นาทีเลยครับ รถก็ออก พอออกมาเจ้าหน้าที่เริ่มเดินตรวจตั๋วครับ

 

[Suranuanear]

 

พอตรวจเสร็จพี่สาวผมก็เกิดหัวเสียขึ้นมา และไม่ยอมให้เปิดหน้าต่างกระจกลงครับ อย่างที่เห็นในรูป

 

 

ส่วนสาเหตุก็ตามรูปข้างล่างนี่เลยครับ ที่ผมวงไว้ มันคืออะไรก็ไม่ทราบครับ จะขี้นก ก็ไม่ใช่ มันคืออะไรก็ไม่รู้ กลัวเปิดกระจกแล้วมันจะกระเด็นเข้ามา แล้วจากที่ดูภาพรวมของโบกี้ที่เรานั่งนี้แล้ว เราจึงตัดสินใจไม่เปิดกระจกครับ 

 

 

กลับเข้ามาสู่โหมดนำเที่ยวต่อครับ ขวนนี้นักท่องเที่ยวก็ถือว่าเต็มขบวนนะครับ โบกี้ที่ผมนั่งก็มีแต่คนไทยครับ เพราะทางการรถไฟต้องแยกให้ชัดเจนครับ เพราะจะมีไกด์พูดแนะนำสถานที่เป็นระยะ ถ้านักปะปนกันหลายๆชาติ ไกด์คงต้องพูดกัน 10 ภาษาเลยมั้งครับ ด้วยความที่ผมได้อยู่โบกี้แรก ซึ่งรถไฟที่มาใช้นี้ก็เป็นขบวน ดีเซลลางที่ไม่ใช้หัวรถจักรครับ ห้องคนขับจะอยู่ที่โบกี้ที่ 1 กับโบกี้สุดท้ายเลย เหมือนรถไฟฟ้า ผมเลยได้ทีไปแอบถ่ายรูปที่ส่วนหน้าสุดขณะที่รถไฟกำลังวิ่งอยู่ครับ ทางขวามือนั่นก็คือห้อง พขร. ครับ

 

[Suranuanear]

           ประมาณ 07.40 น. รถไฟก็มาจอดที่สถานีนครปฐมครับ และเจ้าหน้าที่ก็ประกาศว่ามีเวลา ประมาณ 40 นาที ให้ไป ทานข้าวเช้าตามอัธยาศัย หรือจะไปไหว้องค์พระปฐมเจดีย์ก็ตามแต่ใจนักท่องเที่ยวครับ แต่แนะนำว่า อย่าลอดใต้องค์พระ เพราะจะออกมาไม่ทันเวลารถไฟออกครับ ผมกับครอบครัวก็รีบหาอะไรทานกันครับ จึงมีโอกาสถ่ายรูปองค์พระมาฝากแค่ 2 รูปที่เห็นครับ

 

.

 

 

 

 

 

 

[Suranuanear]

ของขึ้นชื่อของนครปฐมครับ ข้าวหลาม.....ตอนแรกผมนึกว่าผมมาถึงหนองมน........55555

 

 

ประมาณ 08.20 รถไฟก็เริ่มส่งเสียง หวูดเรียกนักท่องเที่ยวครับ ทั้งเดิน เดินเร็ว และวิ่ง มีให้เห็นครบก็คราวนี้ครับ 08.30 ล้อก็เริ่มหมุน และวิ่งฉิวระหว่างนั้น เจ้าหน้าก็เริ่มบรรยายทริปอีกครั้ง และเดินรับฝากซื้อของฝากครับ เป็นของฝากจากจังหวัดเพชรบุรี กับราชบุรี ทั้งนั้น ไม่มีของฝากจากกาญฯเลย ??? จนมาถึงสถานี ชุมทางหนองปลาดุก ในเขต อำเภอบ้านโป่ง จังหวัด ราชบุรี

 

รูปไม่ชัดนะครับ รถไฟวิ่งเร็วมาก...

 

 

ขอบคุณรูปจาก www.oknation.net ครับ

 

 

[Suranuanear]

ขอขอบคุณรูปภาพจากบอร์ด dek-d.com ครับ

 

ขอขอบคุณรูปภาพจาก www.rotfaithai.com ครับ

 

รูปที่ผ่านมานั้นแสดงแผนผังว่าจากสถานีนี้ เป็นทางแยกของทางรถไฟไปที่ไหนบ้าง บ้านโป่งก็ทางสายใต้ไปจนสุดชายแดนและออกไปยังมาเลเซีย และก็ทางของเราคือกาญจนบุรี นอกจากนั้นก็ยังมีทางไปยังสุพรรณบุรีอีกด้วย และรูปล่าสุดก็เฉลยครับว่า ทำไมรถไฟนำเที่ยวกาญฯกับรถไฟนำเที่ยวหัวหินถึงมาด้วยกัน ทางสองขบวนมาแยกออกจากกันที่สถานีนี้ครับ โดย 3 โบกี้หลัง ได้ทำการตีตัวออกห่างจาก 4 โบกี้แรก และมุ่งหน้าลงใต้ไปยังสวนสน (หัวหิน) นั่นเอง และของที่นักท่องเที่ยวสั่งซื้อไปนั้น ก็จะไปซื้อโดยขบวน 911 ที่ไปหัวหิน เพราะขากลับ เราก็จะมาจ๊ะเอ๋ กันที่ชุมทางหนองปลาดุกแล้วเข้ากรุงเทพพร้อมกันเหมือนเดิม พอเห็นข้างทางเป็นไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด ไร่มันสำปะหลัง ก็เริ่มเข้าเขตกาญจนบุรีแล้วครับ เริ่มมีชุมชนแล้วด้วย อย่างที่เห็นในรูปครับ

 

 

[Suranuanear]

 

แปลงเตรียมปลูกมันสัมปะหลังครับ

 

จุดที่สองที่รถไฟนำเที่ยวของเรามาจอดให้ได้แวะกันนั่นก็คือ สะพานแควใหญ่ ให้นักท่องเที่ยวได้ดื่มด่ำกับประวัติศาสตร์การสร้างสะพานรถไฟข้าวแม่น้ำแคว ของกองทัพญี่ปุ่น เป็นเวลา 25 นาที ช่วงนี้ผมไม่พูดมากดีกว่าครับ ไปชมรูปกันเลยคร๊าบบบบบบ

 

 

ต้องขอปิดหน้าน้องนางไว้นะครับ เพราะผมไม่มีโอกาสได้ถ่ายป้ายนี้โดยที่ไม่มีคนอื่นมายืนเลยครับ เพราะขืนรอถ่ายแต่ป้าย ตรงอื่นก็ไม่ต้องไปถ่ายกันพอดี

 

 

ขอยืนกลางราง ถ่ายหน้าตาหัวขบวนหน่อยครับ

 

 

บรรดานักท่องเที่ยวที่ลงมาจากขบวนรถไฟครับ มาผสมกับนักท่องเที่ยวที่อยู่ ณจุดนี้อยู่แล้วทำให้ดูหนาตาเป็นพิเศษ

[Suranuanear]

 

นี่คือสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่ที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว เอิ่ม พี่หมวกดำ ผมถ่ายสะพานครับ ไม่ต้องมองกล้องผมครับ 55

 

 

เดินมาทางซ้ายของตีนสะพาน รูปนี้ มุมบังคับเลยครับ สำหรับใครที่มาสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่

 

 

มาฝั่งขวาของตีนสะพานบ้าง เจอกับระเบิดลูกใหญ่ ที่มีแบบนี้ตั้งอยู่ทั้งสองฝั่งของหัวสะพาน

 

 

เดินมาถึงกลางสะพาน มองย้อนกลับไปที่สถานีรถไฟที่เห็นรถไฟที่เรามาจอดส่องไฟอยู่

[Suranuanear]

 

มองไปทางฝั่งตรงข้ามจากกลางสะพาน ที่เห็นก็รู้ว่ามุ่งหน้าออกนอกเมือง

 

 

ฝั่งตรงข้ามที่เชิงสะพานมีวัดจีน และองค์เจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ ที่เหมือนเคยได้ยินว่ามีปัญหากันตอนสร้าง เพราะหลายคนกลัววัดนี้จะทำให้บรรยากาศของประวัติศาสตร์ของสงครามโลกเปลี่ยนไป

 

 

มองไปทางซ้ายมือจากกลางสะพาน เห็นบรรยากาศของแม่น้ำแควใหญ่ ที่น้ำยังน้อยอยู่

 

 

มองไปทางขวา ก็เห็นโค้งน้ำ สวยงามไปอีกแบบ แพด้านล่างนั่นก็คือ แพอาหาร เดอะ โฟล้ทติ้ง ที่เพื่อนผมที่เป็นไกด์บอกว่า ถ้าพาฝรั่งมาเที่ยวสะพานต้องกินอาหารกลางวันร้านนี้ 

[Ake malaysia]

ขอบคุณครับสำหรับรีวิว 

อยากสอบถามนิดหนึ่งครับ ถ้าเป็นทัวร์แบบนี้รถไฟจะไม่จอดทุกสถานีไช่ใหมครับ

แล้วเขาจอดกี่สถานีครับ

[Suranuanear]

 

มองเห็นอาชีพที่สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้คนท้องถิ่น

 

 

กลับมาที่ฝั่งสถานีรถไฟ ก็เจอแต่ร้านค้าขายของที่ระลึก เต็มไปหมด สินค้าเหมือนกันเกือบทุกร้านเลยครับ

 

 

มาเตรียมตัวเดินทางต่อ พอมีเวลาเหลือ เลยได้ถ่ายรูปขบวนรถ ที่เพ้นท์ลาย การท่องเที่ยว มีสะพานข้ามแม่น้ำแควด้วย บ่งบอกว่า ขบวนนี้ มาเที่ยวที่นี่

 

สำหรับววันนี้ ผมขออนุญาตค้างการรีวิวไว้เท่านี้ก่อนนะครับ มองนาฬิกาอีกที จะตีหนึ่งแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปทำงานเช้า ยังไง ผมจะรีบกลับมาลงรีวิวให้ได้ชมกันต่อนะครับ ชอบไม่ชอบยังไง ติชมกันได้เลยนะครับผม เจอกันใหม่พรุ่งนี้ สวัสดีครับ

[Suranuanear]

ขอบคุณครับสำหรับรีวิว 

อยากสอบถามนิดหนึ่งครับ ถ้าเป็นทัวร์แบบนี้รถไฟจะไม่จอดทุกสถานีไช่ใหมครับ

แล้วเขาจอดกี่สถานีครับ

ไม่จอดรับส่งผู้โดยสารทั่วไปเลยครับ จะจอดแต่สถานีที่ให้เราแวะลงเที่ยวครับ

[Suranuanear]

ไม่จอดรับส่งผู้โดยสารทั่วไปเลยครับ จะจอดแต่สถานีที่ให้เราแวะลงเที่ยวครับ

เพิ่มเติมเรื่องสถานีให้ครับ เพราะผมยังลงรีวิวไม่เสร็บ ออกจากกรุงเทพ ก้แวะรับเพิ่มที่ สามเสน บางซื่อ บางบำหรุ ตะลิ่งชัน แล้วก็จอดแวะเที่ยวนครปฐม จอดอีกที สะพานแม่น้ำแคว แล้วก็ จอดให้ลงอีกทีก็น้ำตกไทรโยคน้อยเลยครับ ส่วนขากลับ ออกจากไทรโยคน้อยก็มาแวะ สถานีกาญจนบุรี เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมารีวิวให้ดูต่อครับ แล้วก็ยิงยาวเข้ากรุงเทพเลยครับ

[Ake malaysia]

เพิ่มเติมเรื่องสถานีให้ครับ เพราะผมยังลงรีวิวไม่เสร็บ ออกจากกรุงเทพ ก้แวะรับเพิ่มที่ สามเสน บางซื่อ บางบำหรุ ตะลิ่งชัน แล้วก็จอดแวะเที่ยวนครปฐม จอดอีกที สะพานแม่น้ำแคว แล้วก็ จอดให้ลงอีกทีก็น้ำตกไทรโยคน้อยเลยครับ ส่วนขากลับ ออกจากไทรโยคน้อยก็มาแวะ สถานีกาญจนบุรี เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมมารีวิวให้ดูต่อครับ แล้วก็ยิงยาวเข้ากรุงเทพเลยครับ

ขอบคุณครับ พอดีกำลังแพลนจะพาเพื่อนเที่ยวครับ

[Suranuanear]

สวัสดีครับ....ขอโทษครับที่มาช้า ยินดีมากครับ คุณ Ake malaysia

 

เรามาดูรีวิวกันต่อเลยแล้วกันนะครับ

 

 

ซักรูปให้เห็นป้ายข้างขบวนรถชัดก่อนกลับขึ้นรถครับ

 

 

และพอได้เวลาอันสมควร หวูดรถไฟก็ดังขึ้นอีกครั้งนึง บรรยากาศเดิมมีให้เห็นอีกครั้งครับ เดิน เดินเร็ว วิ่ง พอเพื่อนฝูงครบ รถไฟก็เคลื่อนขบวนช้าๆ ผ่านบนสะพานข้ามแม่น้ำแควให้เราได้ชมกันอีกครั้ง ในคนละบรรยากาศกับการเดินมาถ่ายด้วยเท้าแบบเมื่อกี้ นักท่องเที่ยวที่อยู่บนสะพานต่างก็หลบกันตรงจุดที่มีให้หลบ ประมาณ ฟิลล์เดียวกับตลาดร่มหุบ 55555 

 

 

 

 

 

[Suranuanear]

 

ต้องระวังราวสะพานกันด้วยนะครับ ถ้าจะยื่นแขนออกมาถ่ายรูปแบบนี้ กะระยะดีๆนะครับผม

 

 

มุมนี้แบบมองย้อนกลับไป เพราะรถไฟจะถึงปลายสะพานแล้วครับ

 

และทางรถไฟก็ตีคู่ไปกับแม่น้ำแควน้อย ที่ คดไป คดมา ให้เห็นเป็นระยะๆ ตรงแถวนี้ มีจุดที่เรียกว่า ช่องเขาปูน ที่มีหน้าผาสีขาวอยู่ติดทางรถไฟฝั่งขาวมือ และฝั่งซ้ายเป็นแม่น้ำแควน้อย แต่จุดนี้ผมถ่ายหน้าผาไม่ทันครับ เพราะรถไฟวิ่งด้วยความเร็วประมาณ 80 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงเห็นจะได้ เพื่อมุ่งหน้าไปจุดไฮไลท์สำคัญกว่า ผมเลยได้มาแค่รูปฝั่งแม่น้ำครับ

 

 

 

รูปล่าสุดนี้ผมชอบนะครับ เพราะเห็นน้ำกว้างและภูเขายอดแหลม สวยดี

 

 

ข้างทางบางจุดก็จะได้เห็น ไร่ข้าวโพด ไร่อ้อย แบบสุดหูสุดตาครับ

 

 

[Suranuanear]

และประมาณ ชั่วโมงครึ่ง รถไฟก็มาเบรกอีกครั้งที่จุดไฮไลท์ ตรงนี้เป็นพื้นที่ของรีสอร์ทครับ ผมว่า เจ๋งดีนะ สนามเด็กเล่นของรีสอร์ท ติดทางรถไฟ ชนิดไม่มีอะไรกั้น เหมือนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพราะรีสอร์ทแห่งนี้ อยู่ตรง ช่วงทางรถไฟที่เรียกว่า สะพานถ้ำกระแซ เป็นจุดที่ทุกคนทั้งบนรถไฟ และ ข้างทางรถไฟ ต่างตื่นเต้นไม่แพ้กัน เป็นอย่างไรนั้น ไปชมครับ 

 

หอชมวิวตรงสนามเด็กเล่นของรีสอร์ทครับ

 

หญ้าเขียวๆกับทางเดินของรีสอร์ทครับ อยู่ห่างทางรถไฟนิดเดียวเอง ด้านล่างนั้นก็จะเป็นบ้านพักแล้วก็แม่น้ำแควน้อยครับ

 

แพที่พักของอีกรีสอร์ทที่อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำครับ

 

 

[Suranuanear]

มองไปข้างหน้า รถไฟกำลังเคลื่อนตัวอย่างช้าๆผ่านสะพานไม้อันเก่าแก่ครับ แต่มีการซ่อมบำรุงอยู่เสมอครับ

 

มองไปทางท้ายขบวน ที่เห็นว่าตัวรถไฟพอดีกับตัวสะพานเด๊ะเลยครับ ไม่มีพื้นที่เหลือเลย หวาดเสียวเล็กๆ อิอิ

 

โบกี้แรกที่ผมอยู่กำลังจะพ้นเขตสะพานเข้าสู่ทางที่คดเคี้ยวเรียบแนวเขา เห็นแล้วสวยดีครับ

[Suranuanear]

มองไปท้ายขบวนที่เห็นโบกี้อื่นๆเต็มๆอีกที 

 

กำลังเข้าสู่เขตถ้ำกระแซครับ โค้งหน้าที่มีแนวรั้วกั้น