มองดูท้ายขบวนที่กำลังเข้าโค้งตามมา
โค้งน้ำนี้ เหมือนว่าเห็นเป็นฉากในละคร บุญผ่องด้วยครับ
และรถไฟก็แล่นผ่านถ้ำกระแซครับ นักท่องเที่ยวที่อยู่ในถ้ำก็มากมาย คนบนรถไฟ ก็ถ่ายรูปถ้ำที่อยู่ติดทางรถไฟ คนที่อยู่ที่ถ้ำก็ถ่ายรูปรถไฟ กำลังวิ่งผ่านหน้าถ้ำ
|
|
Posted 19 July 2013 - 10:59 PM
นี่ก็ร้านอาหารริมแม่น้ำ และหน้าถ้ำครับ มีชื่อร้านว่าถ้ำกระแซ เป็นชื่อถ้ำเลย ตามในรูปทุกท่านเคยสังเกตมั้ยครับว่า ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ มักชอบจะโบกมือให้คนบนรถไฟ ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกัน
พอพ้นช่วงตื่นเต้นมา ด้วยอุปสรรค ของผมคือนักท่องเที่ยวท่านอื่นๆ ที่จับจองหน้าต่างฝั่งซ้ายกันได้ดีกว่าผม เพราะที่นั่งผมอยู่ฝั่งขวาครับ มันเป็นมุมติดเขา ผมก็รู้ตัวว่า ผมได้ภาพไม่มากเท่าที่ต้องการ เลยตั้งใจว่า ขากลับ เราต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ได้ภาพที่ต้องการ (เลือดนักสื่อสารมวลชนกำเริบอีกครับ 55555) ตอนนี้รถไฟของเราก็วิ่งผ่านสองข้างทางที่เป็นป่าเขาลำเนาไพร เห็นภาพเช่นนี้แล้วหัวใจมันพองโตยิ่งนัก 5555 ชักเพ้อใหญ่ละครับผม ก็วิวมันสวยจริงๆ ไม่คืดว่า เส้นทางรถไฟในประเทศไทยของเรา มีสวยๆ แบบนี้ เพราะถ้าพูดถึงทางรถไฟสวยๆ ก็มัวนึกถึงแต่ประเทศสวิสกัน
Posted 19 July 2013 - 11:06 PM
และรถไฟก็มาถึงสถานีปลายทางของผู้โดยสาร คือสถานีน้ำตก ที่ผมบอกว่า สถานีปลายทางของผู้โดยสาร นั่นก็เพราะว่า สถานีน้ำตกนี้ เป็นสถานีสุดท้ายที่รถไฟโดยสารทั่วไปจะเดินทางมาสุดที่นี่ จากกรุงเทพก็มีขบวน ธนบุรี-น้ำตก ไม่มีออกจากหัวลำโพงครับ ต้องข้ามแม่น้ำไปขึ้นที่สถานีธนบุรี (บางกอกน้อย ของโกโบริ กับอังสุมาริน) แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มากับขวนท่องเที่ยวนั้นพิเศษกว่านั้นครับ เพราะชื่อสถานีน้ำตก แต่ตรงนี้ไม่มีน้ำตก รถไฟขบวนนำเที่ยวจึง พาเราเดินทางต่อครับ ชักตื่นเต้นครับ เพราะที่ทุกคนเข้าใจว่า รถไฟโดยสารมาสุดที่สถานีนี้ แล้วขบวนของเราเดินทางต่อไปไหน ?
คิดว่าผู้โดยฯที่อยู่ที่สถานี้ ก็คงกำลังรอโดยสารรถไฟเข้าเมืองหรือ เข้ากรุงเทพกัน
บนเนินฝั่งซ้ายก็มีรถไฟจอดอยู่ เป็นขบวนที่มาจากกรุงเทพตอนเช้า และรอกลับไปกรุงเทพในช่วงบ่าย จุดจอดพักรถไฟอยู่บนเนินสวยดี
Posted 19 July 2013 - 11:11 PM
เมื่อวิ่งขึ้นเขาไปอีกซักครู่แล้วก็เริ่มเห็นถนนใหญ่ฝั่งสายมือครับ เริ่มรู้ว่า ตรงนี้ คือ จุดสำคัญแน่นอน จนในที่สุด รถไฟ ก็มาหยุดที่ปลายทางคือ น้ำตกไทรโยคน้อย สุดปลายทางจริงๆนะครับ เพราะขืนวิ่งต่อไปอีกซัก 2 -3 เมตร มีหวังได้ตีลังกากันทั้งขบวนแหงๆ ตอนนี้เป็นเวลา 11.20 เร็วกว่ากำหนดการ 10 นาที เรามีเวลา 3 ชั่วโมงที่น้ำตกไทรโยคน้อยครับ ใครใครเล่นน้ำเล่น ใครใคร่เดินเล่นเฉยๆก็เชิญ อย่างที่ 2 นี่ คือครอบครัวผมเองครับ แต่ตอนนี้ คุณแม่ผมต้องทานยาหลังอาหาร ขอไปหาอะไรทานเป็นมื้อเที่ยงก่อนนะครับ ตามผมข้ามไปฝั่งร้านค้ากันเลยครับ
รถไฟจอดละครับ
ถนนที่เรียกได้ว่า วันเวย์ก็ว่าได้นะครับ เพราะเขาแยกเลนส์ครับ ที่เห็นเป็นเนิน นั่น รถจะลงมาทางเดียว ถ้าจะสวนไป ก็ไปทางที่เลี้ยวซ้ายครับ
Posted 19 July 2013 - 11:29 PM
หัวขบวนกับป้ายที่หยุดรถน้ำตกไทรโยคน้อย ปลายทางเส้นทางรถไฟสายนี้ครับ อันที่จริงกองทัพญี่ปุ่นสร้างทางรถไฟไปจนถึงชายแดน และข้ามไปทางฝั่งพม่าด้วยเลยครับ แต่ทางการรถไฟของเรา เห็นว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เส้นทางที่ต่อไปจากตรงนี้ จึงรื้อออกครับ เหลือสุดทางที่น้ำตกไทรโยคน้อยแห่งนี้เท่านั้นครับ
ป้ายบอกเล่าประวัติศาสตร์เล็กน้อยครับ ที่ทางรถไฟสายนี้ ถูกเรียกว่า ทางรถไฟสายมรณะนั้น คนส่วนใหญ่ชอบนึกว่า เป็นเพราะเส้นทางน่ากลัว น่าหวาดเสียว อย่างสะพานไม่เช่นที่ผ่านมา แต่ความจริงแล้ว ที่เรียกว่า ทางรถไฟสายมรณะนั้น เป็นเพราะ มีทหารหรือเชลยศึกที่ถูกจับมาใช้แรงงานสร้างทางรถไฟ เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เรียกกันว่า หนึ่งไม่หมอนรองราง เท่ากับ หนึ่งชีวิตเชลย เส้นทางนี้ เริ่มต้นจากชุมทางหนองปลาดุกเป็นต้นมาครับ เรานั่งชมวิวกันเพลิดเพลิน แต่ผานชีวิต ความเจ็บ ความตายของบรรพบุรุษมานับพันชีวิตครับ
Posted 19 July 2013 - 11:50 PM
ถึงแล้วครับ น้ำตกไทรโยคน้อย ที่น้ำยังน้อยอยู่จริงๆ
สวยงามดีนะครับ แต่จะให้ผมลงนั้นขอบายครับ ผมเป็นโรคกลัวน้ำครับ คือไม่ชอบเปียกครับ ขอเดินเล่นถ่ายรูปไปเรื่อยดีกว่า นึกเหมือนเดิมครับ จุดนี้ ว่า ถ้ารถไฟได้วิ่งผ่านคงจะงามน่าดู
หันหลังให้น้ำตก ก็เจอวิวสวยๆ
น้ำตกสูง ต้นไม้ก็สูงปี๊ด...
Posted 20 July 2013 - 12:05 AM
บอร์ดหน้าห้องเรียนชั้น ม.3/2 ครับ เอ๊ย แผนผังของน้ำตกไทรโยคน้อยครับ 5555
ข้ามกลับมาฝั่งของฝากอีกครั้งครับ ร้านนี้ จะบอกว่า เจ้าของร้านเธอเป็นอดีตนางงามด้วยนะครับ เขาตั้งรูปไว้ ปัจจุบันตัวจริงที่นั่งทำขนมอยู่ก็ยังสวยอยู่เลย
ทำกันมือเป็นระวิงเลยครับ เห็นคนเขาซื้อกันถุงใหญ่ๆทั้งนั้นเลย
Posted 20 July 2013 - 12:17 AM
รูปนี้ ขณะที่เรานั่งประจำที่บนรถไฟรอเวลา แม่ผมเห็นดอกไม้ต้นนี้ อยู่ข้างๆ ทางรถไฟ ก็อยากได้ภาพครับ ผมจึงวิ่งลงมาถ่ายไว้
ถ่ายจากส่วนหน้าสุดของขบวนรถไฟครับ เห็นทางที่ขาดออกจากกัน และเหลื่อมกันเล็กน้อย อาจจะเป็นจากการรื้อถอน หรือซ่อมบำรุงเส้นทางที่ให้ใช้ได้จนปัจจุบันครับ มันเลยเหลื่อมกันเล็กน้อย
ห้องควบคุมรถไฟ หรือห้องคนขับนั่นเองครับ เห็นอย่างนี้ อย่าดูถูกเชียวน๊า....ขามา พาเราวิ่งฉิว เกือบ 100 กม./ชม. ด้วย
เมื่อตอนขามาเราอยู่หน้าสุด พอขากลับ เราก็กลายมาเป็นอยู่ท้ายสุดครับ ตอนนี้ รถไฟเริ่มไต่ลงเขามาเรื่อยๆแล้วครับ สวยใช่มั้ยหล่ะครับ ผมขอจองที่ตรงระหว่างห้องพนักงานขับรถครับ มายืนถ่ายได้สบายๆ แต่ต้องระวังด้วยนะครับ ถ้าช่สวงที่รถวิ่งเร็วๆ อาจพลัดตกไปได้
Posted 20 July 2013 - 12:26 AM
เห็นความเก่าของสะพานมั้ยครับ ตรงนี้ ยังไม่ใช่ไฮไลทื เหมือนตอนขามานะครับ
เห็นแล้วใช่มั้ยครับ ตรงนี้ จนถึงข้างหน้าที่เห็น คือไฮไลท์ ที่ผมได้ภาพไม่ค่อยครบ สะพานถ้ำกระแซครับ ยาวใช่เล่น
ครึ่งขบวนแรกขึ้นไปบนสะพานแล้วคร๊าบบบบบบ
ขึ้นบนสะพานทั้งขบวนแล้ว....ตอนอยู่โบกี้แรก กับตอนอยู่โบกี้สุดท้ายความรู้สึกแตกต่างกันนะครับ สำหรับผม ชอบอยู่ท้ายมากกว่า (ถ้าตอนกลางวันนะครับ อิอิ)
Posted 20 July 2013 - 12:36 AM
ภาพมุมกว้างของรีสอร์ทฝั่งตรงข้ามแม่น้ำครับ ที่ขามาถ่ายเห็นแค่แพ
รีสอร์ทนี้ที่มีสนามเด็กเล่นติดทางรถไฟที่เห็นเมื่อขามาครับ เห็นหลังคาบ้านพัก แหลมๆ 3 หลังนั่นมั้ยครับ หลายๆท่านอาจจะคุ้นว่าเคยเห็นในโปสเตอร์ที่ใช้โปรโมท กาญจนบุรีมาบ้างนะครับ ที่เป็นมุม ถ่ายจากหน้าบ้านพัก เงยขึ้นมาเห็นรถไฟอยู่บนสะพานด้วย
มองย้อนกลับไปยังสะพานที่เพิ่งผ่านมา สวยเนาะ...
กลับเข้าสู่เส้นทางปกติก็สปีด หนีฝน ที่ตกอยู่ไม่ไกลตามรูปครับ
Posted 20 July 2013 - 01:00 AM
ผมชอบรูปนี้มากเลยนะครับ เพราะเป็นจุดที่ไม่ได้ตั้งใจไว้ ถ้าไม่ได้มายืนท้ายขบวนก็คงไม่เห็นความสวยงานของต้นไม้ที่ขึ้นสูงขนาบข้างทางรถไฟทั้งสองข้าง เป็นแนวยาวแบบนี้ เพราะถ้าเรานั่งอยู่ที่นั่ง ก็จะแค่รู้สึกว่า ต้นไม้ขึ้นรก บางกิ่งฟาดเข้ามาในหน้าต่าง ต้องคอยหลบไม่ให้โดนหน้า แค่นั้น
จริงๆตรงนี้ มีวีดีโอด้วยนะครับ ไว้ผมจะอัปโหลดมาให้ดูครับ (รูปนี้ผมครอปมาจากคลิปที่ผมถ่ายครับ ตอนนี้ดึกมาก แล้ว ใช้เวลาอัปโหลดมากกว่า 1 ชั่วโมงครับ)
ทันทีที่รถไฟพ้นสะพาน ผู้คนก็กลับไปเดินกับยุบยับเหมือนเดิมทันทีครับ
และรถไฟของเราก็มาจอดที่สถานี กาญจนบุรีครับ เพื่อให้เราเที่ยวเป็นที่สุดท้ายของทริปนี้ โดยจะแวะเป้นเวลา ประมาณ 1 ชั่วโมงครับ ตรงนี้ มีสองแถวไว้คอยรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะครับ (มีแค่ 3 คัน หมดแล้ว หมดเลย ต้องเดินไปนะครับ)
Posted 20 July 2013 - 01:04 AM
และนี่ก็เป็นที่สุดท้ายของทริปโดยการรถไฟครับถือว่าโชคดีมากๆครับ ที่ฝนไม่ตก เพราะถ้าตก เราก็อดเข้าชมที่แห่งนี้ครับ สุสาน ทหารพันธมิตร เป็นสุสานที่รวบรวมกระดูกของทหารชาติต่างๆที่ตกเป็นเชลยถูกกองทัพญี่ปุ่นจับมาใช้แรงงานในการก่อสร้างทางรถไฟสายนี้ บ้างถูกสังหาร บ้างตายเพราะป่วย ส่วนตัวผมกับแม่ผม สลดตั้งแต่ดุในละครแล้วครับ ยิ่งได้มายืนอยู่สถานที่จริง ผมยิ่งมีความรู้สึกแบบอยากร้องไห้ยังไงไม่รู้ อยู่ๆก็อ่อนแอเฉยเลย
ประวัติความเป็นมาครับ
0 members, 0 guests, 0 anonymous users
ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Galileo (แสดงผล waiting list) | ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Amadeus (เแสดงเฉพาะที่นั่งว่าง) | |
ติดต่อเจ้าหน้าที่แผนก ตั๋วเครื่องบิน โทร 02-3737-555 / จันทร์ - ศุกร์ 09.00~18.00 น. // เสาร์ 09.00-16.00 น. |