ขอเกริ่นการเดินทางแบบสั้นๆ ครับ
ทริปนี้ ผมเดินทางออกจากเชียงใหม่ โดยสายการบินนกแอร์ ลงดอนเมือง ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ใหม่ล่าสุด คือเจ้านกสบาย HS-DBK นั่นเอง
ซึ่งตอนนี้ ให้บริการในเที่ยวบิน ดอนเมือง-เชียงใหม่ DD8302/DD8324 (7.00 และ 19.00 น.) เชียงใหม่-ดอนเมือง DD8303/DD8325 (14.05 และ 20.40 น.) และ เชียงใหม่-หาดใหญ่-เชียงใหม่ DD8632/DD8633 เป็นประจำทุกวัน สำหรับใครอยากเจอเครื่องใหม่กิ๊กแบบนี้ ก็เรียนเชิญจองเที่ยวบินข้างต้นรับรองว่าได้เจอแน่ๆ (ถ้าไม่มีเหตุที่ทำให้ต้องเปลี่ยนเครื่องบินนะครับ)
เช็คอินกับนกแอร์ง่ายๆ ถ้าเป็นสมาชิกนกแฟนคลับ ได้รับสิทธิ์โหลดกระเป๋าเพิ่มฟรีอีก 5 กิโลกรัมรวมเป็นฟรี 20 กิโลกรัม ปกติก่อนเวลาออกเดินทางราว 2 ชั่วโมง ก็จะมีบริการ Nok Call Home หรือบริการเช็คอินทางโทรศัพท์ ซึ่งระบบอัตโนมัติจะโทรหาสมาชิก เพื่อสอบถามว่าต้องการเช็คอินหรือไม่ ถ้าต้องการเช็คอินจะต่อสายให้คุยกับเจ้าหน้าที่ได้เลยแล้วตรงดิ่งไปสนามบินเพื่อรับบอร์ดดิ้งพาสก่อนเครื่องออกอย่างน้อย 30 นาที .... สำหรับเว็บเช็คอิน ทำได้ล่วงหน้า 24 ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทาง สามารถ print บอร์ดดิ้งพาส ตรงดิ่งไปที่ Gate ได้เลย ในกรณีที่ไม่มีสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง โดยไม่ต้องแวะที่เคาน์เตอร์เช็คอินอีกครับ ^^ เลือกที่นั่งล่วงหน้าฟรี แบบสบายๆ อยากนั่งหน้า นั่งหลัง ริมหน้าต่าง จัดไป (ยกเว้นที่นั่งแถวหน้าสุด หรือ Emergency Exit ต้องมาขอที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ตามดุลยพินิจที่เจ้าหน้าที่เขาจะให้ครับ)
ซึ่งเจ้านกสบาย HS-DBK มีจุดเด่นเรื่องความโปร่งสบายของห้องโดยสาร ที่ดูโอ่อ่ากว่าเครื่องบินขนาดเดียวกัน พร้อมกับสามารถเล่นแสงสีในห้องโดยสาร ปรับตามบรรยากาศได้ ซึ่งตอนนี้ในประเทศไทย ก็มีแค่ของนกแอร์ลำนี้หล่ะครับที่มี ....
1 ชั่วโมงต่อมา ผมก็มาถึงดอนเมือง ก็รีบกระโดดเกาะรถ Free Shuttle Bus ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ รถ Shuttle Bus ฟรี ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ : ออกเดินทางทุกชั่วโมงตั้งแต่ 5.00-24.00 น. (ช่วง 9.00-21.00 น. ออกทุกครึ่งชั่วโมง) เวลาเดียวกัน จากดอนเมือง ประตู 6 ขาเข้า และ จากสุวรรณภูมิประตู 3 ขาเข้าชั้น 2 โดยใช้เวลาเดินทางราว 45-50 นาที ด้วยรถยูโรส้มของ ขสมก. (ไม่มีที่ว่างกระเป๋า) แต่เห็นว่าอีกไม่นานนี้จะเปลี่ยนเป็นรถของ AOT สีขาวแบบที่เวียนในสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะมีที่วางกระเป๋า มีที่ยืนโหนมากขึ้น แต่มีที่นั่งน้อยลง สำหรับท่านที่ต้องการนั่งรถไปสถานี BTS หมอชิต ก็มีรถเมล์ให้บริการตรงดิ่งในราคา 30 บาทเช่นกันครับ
ถ้าเชื่อมต่อระหว่างดอนเมือง-สุวรรณภูมิ ผู้โดยสารทุกคน ไม่ว่าจะเดินทางขาเข้าหรือขาออก หรือมีเที่ยวบินต่อเครื่อง หรือไม่ได้ต่อ 'สามารถใช้บริการได้ฟรี' เพียงโชว์บอร์ดดิ้งพาสที่เพิ่งเดินทางมาหมาดๆ หรือ เอกสารจองตั๋ว หรือ บอร์ดดิ้งพาสเที่ยวบินต่อไปแก่เจ้าหน้าที่ (ซึ่งบางทีก็ตรวจบ้าง ไม่ตรวจบ้าง แต่ข้างรถมีป้ายเขียนว่า 'สำหรับผู้โดยสารเท่านั้น') อาทิเช่น ใครบ้านใกล้สุวรรณภูมิ แต่ต้องไปบินดอนเมือง ก็สามารถมาขึ้นรถ shuttle ฟรีที่สุวรรณภุมิ เพื่อไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองก็ได้ หรือ บ้านอยู่แถบดอนเมือง-รังสิต แต่ต้องไปขึ้นเครื่องสุวรรณภูมิ ก็ใช้รถฟรีนี้ไปขึ้นเครื่องได้ ประหยัดค่าเดินทางไปได้พอสมควรทีเดียวครับ ^^
เนื่องจากทริปนี้เป็นทริป 'แปรพักตร์' ดังนั้นผมก็ต้องเกาะรถ Shuttle Bus ไปสุวรรณภูมิ ซึ่งรอบค่ำๆ กลางคืน ผู้โดยสารต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนแน่นมา ล้นล้งเล้งกันสุดๆ บางทีอาจต้องยืนกันตลอดทางด้วยซ้ำไป ถ้ามาก่อนก็ได้ขึ้นรถก่อน แต่ถ้ามาช้า ก็อาจต้องยืนตลอด 45-50 นาที โดยรถวิ่งบนทางด่วนโทลล์เวย์-ดินแดง-พระราม 9-มอเตอร์เวย์ ตลอดไม่มีการจอดรับส่งคนระหว่างทาง จนถึง สุวรรณภูมิขาออกชั้น 4 ประตู 5 ครับ (เอาหน่ะ ของฟรีเราไม่บ่น ดีกว่าไม่มีรถฟรีก็แล้วกัน !!)
โรงแรมที่พัก ราคาหลักร้อย ถึงพันต้นๆ ใกล้สุวรรณภูมิ
เหมาะแก่การรอมาต่อเครื่องบิน โรงแรมหนึ่งที่ผมมาพักค้างค่อนข้างบ่อยมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมาคือ 'ทองทารีสอร์ท' ซึ่งเป็นโรงแรมฝั่งถนนลาดกระบัง ที่อยู่ใกล้สุวรรณภูมิระยะเดินทางเพียบ 10 นาทีถึงอาคารผู้โดยสาร มีบริการรถรับ-ส่งฟรี ที่ออกเดินทางค่อนข้างถี่มาก มีการจัดการที่เป็นระบบระเบียบ และลูกค้าเยอะมากเต็มเกือบทุกคืน ...
จองห้องพักตรงได้ที่ http://www.thongtaresortandspa.com/ หรือจะจองผ่านเว็บเอเจ้นท์ทั่วๆ ไปก็ได้ครับ ราคารวมรถรับ-ส่งสนามบิน และอาหารเช้าแบบ ABF ง่ายๆ เรียบร้อยแล้ว มี free wi-fi ในห้องพักด้วย (ทั้งนี้ มีโรงแรมที่ให้บริการลักษณะนี้อยู่หลายเจ้า ลองเปรียบเทียบราคาที่ http://www.hotelscombined.com/ ดูก่อนได้แต่ต้องดูเงื่อนไขด้วยว่า ที่ไหนฟรีรถรับ-ส่ง ที่ไหนไม่ฟรี ที่ไหนฟรีขาเดียว ที่ไหนต้องจ่ายเพิ่ม เป็นต้นครับ เพราะบอกตรงๆ บางทีก็แอบหมกเม็ดพอสมควร แต่ทองทานี้ ฟรีแน่ๆ เคยจองโปรฯ Expedia รุ่น V20 อันลือลั่น ก็ใช้รถ Shuttle ฟรีได้ครับ)
เรื่องของเรื่องคือ เนื่องด้วย 'ทองทา' เค้าขายดิบขายดีมาก ก็เลยมีการสร้างตึกใหม่ที่ดูอลังการกว่าเดิมเรียกว่าตึก Superior (ตึกเดิมคือตึก Standard) โดยเจ้าตึก Superior ที่พิเศษกว่าคือ มีลิฟท์ และระเบียงที่เปิดโล่งกว้างกว่าเดิม ย้ยห้องน้ำมาติดกับประตูทางเข้าออก ส่วนอื่นๆ ก็คล้ายของเดิมครับ และที่สำคัญเดิมทีตึกนี้จะสร้างสระว่ายน้ำด้วย แต่เห็นว่าจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมือปี 54 ก็เลยชะลอแผนออกไป สระว่ายน้ำที่ตั้งใจจะสร้างก็เลยถูกถมด้วยหินกลายเป็นลานจอดรถหน้าอาคารซะอย่างนั้น ตึกนี้ราคาจะสูงกว่าตึก standard ประมาณ 300 บาท แต่อื่นๆ ภายในห้องก็เหมือนกันหมดครับ เช็คอินเรียบร้อย แจ้งเวลาปลุก และรอบรถที่จะเดินทางได้เลย มีรถออกทุกครึ่งชั่วโมง ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 10-15 นาทีถึงอาคารผู้โดยสารขาออกแน่นอนครับ ^^ (ขอขอบคุณ นายฟ้าใส BLUEPLANET ผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการ)
และแล้ว .... ก็เริ่ม เที่ยวบินปฐมฤกษ์ สุวรรณภูมิ-มัณฑะเลย์กันครับ
ครั้งแรกของผมกับไทยสมายล์ ลูกสาวป้าม่วง ThaiAirways ณ สุวรรณภูมิ ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องความน่ารักสดใสของลูกเรือสวยเป๊ะๆ ในเครื่องแบบสีส้ม โดนใจวัยทำงาน ในเส้นทางการบินเปิดใหม่ สุวรรณภูมิ - มัณฑะเลย์ TG781 เวลา 7.25 - 8.50 น. (บินทุกวันยกเว้นวันจันทร์ และ พฤหัสบดี) ซึ่งค่อนข้างเช้าพอสมควร แต่ก็คิดว่า ไปถึงก่อนก็น่าจะได้เที่ยวก่อนแต่เช้านั่นเองครับ ^^
ตั้งแต่ 31 มีนาคม 2556 เคาน์เตอร์เช็คอินของการบินไทยสมายล์ ย้ายมาอยู่ที่ Row E 11-19 (คุ้นๆ นะ !!) ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศ และเที่ยวบินระหว่างประเทศ สำหรับเที่ยวบินสู่มาเก๊า TG750 และ มัณฑะเลย์ เที่ยวบิน TG781 ชั้น SmilePlus เช็คอินที่ช่อง E11 และชั้นประหยัดที่ช่อง E14-16 ได้เลยครับ ได้เลยครับ ให้บริการเช็คอินโดยเจ้าหน้าที่การบินไทยรุ่นใหญ่ชุดม่วงตามมาตรฐานปกติ Light Premium (บริการภาคพื้นโดยการบินไทย) โหลดสัมภาระได้ฟรี 20 กิโลกรัม เลือกที่นั่งได้ตามอัธยาศัย
ซึ่งผมขอแนะนำว่า สำหรับเครื่องแอร์บัส A320 ของการบินไทยสมายล์ ถ้าโชคดี request ได้แถว 34-35 จะสบายที่สุด (31-33 เป็น SmilePlus ชั้นนักธุรกิจซึ่งจะเว้นที่นั่งตรงกลางไว้) ส่วนแถวที่ 36-40 โซนหน้าก็ยังนั่งสบาย แถว 41-42 เป็น Emergency Exit กว้างสุด (แถว 40-41 เอนเบาะไม่ได้) ช่วงแถว 43-49 ระยะห่างของแถวก็ยังพอทำเนานั่งได้โอเคอยู่ แต่ ... ตั้งแต่แถว 50-59 โซนท้ายเครื่องค่อนข้างอึดอัดพอสมควร ถ้าไฟล์ทเต็มๆ แน่นๆ คนตัวสูงๆ รับรองอึดอัดแน่ๆ ครับ !! สำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ สามารถสะสมไมล์ ROP การบินไทยได้ตามปกติ (ระหว่างประเทศ ราคาโปรโมชั่น ไม่สามารถสะสมไมล์ได้) ได้รับบอร์ดดิ้งพาสเป็นลายการบินไทยแล้วก็ตรงดิ่งไปผ่าน ตม. ได้เลย แบบว่าคนเยอะจริงอะไรจริง !!
ว่าด้วยการบริการบนเครื่อง : หลายๆ คนคงเคยจะได้ยินและอาจจะเข้าใจว่า การบินไทยสมายล์ คือสายการบินโลว์คอสต์อีกเจ้าหนึ่งของ ThaiAirways แต่ความเป็นจริงแล้ว ไทยสมายล์เป็นหน่วยธุรกิจหนึ่งที่ให้บริการเที่ยวบิน ในรูปแบบของ Light Premium คือ ยังคงมีบริการเต็มรูปแบบอยู่แต่ไม่ได้เทียบเท่ากับการบินไทย โดยมีการลดต้นทุนหลายอย่างอาทิเช่น การใช้เครื่องบินแบบเดียวกัน ลูกเรือรุ่นใหม่แบบมีสัญญาจ้าง รวมถึงการบริการบนเครื่อง ที่เน้นการให้บริการของว่างและเครื่องดื่มแต่ไม่ได้เต็มรูปแบบเท่าการบินไทย ทั้งนี้ยังคงสิทธิประโยชน์ของการบินไทย อาทิเช่นการบริการภาคพื้น หรือ การสะสมไมล์ ROP ตามที่การบินไทยกำหนด รวมถึงการจองผ่านช่องทางการบินไทยได้ทุกช่องทาง อาทิเช่น เคาน์เตอร์ที่สนามบิน, Call Center 02-3561111 (เปิด 24 ชั่วโมง) หรือ ตัวแทนจำหน่ายของการบินไทย ^^
ดังนั้น สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ สิ่งที่ผู้โดยสารชั้นประหยัดจะได้รับก็คือ ของว่าง และของหวาน พร้อมน้ำดื่ม 1 ขวด บรรจุมาในถุง Smile Pack (สำหรับเที่ยวบินภายในในประเทศอาจมีเพียงแค่ของว่างเท่านั้น) ถ้าเป็นชั้น SmilePlus (ชั้นธุรกิจ) จะเสิร์ฟเป็นอาหารร้อน และ สำหรับเที่ยวบินระยะทางบินไกลมากกว่า 4 ชั่วโมงขึ้นไป (อาทิเส้นทางอินเดีย) ชั้นประหยัดก็จะเสิร์ฟอาหารร้อนเช่นกัน ....
และตั้งแต่ 14 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา การบินไทยสมายล์ ได้เพิ่มบริการเครื่องดื่ม ชา-กาแฟ-น้ำส้ม-น้ำอัดลม ให้กับผู้โดยสารทุกท่าน 'ฟรี' ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม โดยจะเดินรถเข็นเครื่องดื่มหลังจากแจกถุง Smile Pack เรียบร้อยแล้วนั่นเองครับ ^^