79 replies to this topic

[001 JZ Team]

Advertisements

สวัสดีเพื่อนๆชาว HF ทุกท่านครับ 

 

พอดีช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมา มีโอกาสได้ไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนมาครับ ตรงกับช่วงที่ไข้หวัดนกกำลังระบาด และเกาหลีเหนือก็ขู่ว่าจะยิงนิวเคลียพอดี

 

ซึ่งจะว่าไปผมเองก็เคยมีโอกาสได้มาจีนก่อนหน้านี้แล้วครั้งหนึ่ง แต่การไปประเทศจีนในครั้งนี้ ค่อนข้างเปลี่ยนมุมมองและความคิดของผมที่มีต่อประเทศนี้ไปพอสมควร เพราะที่ผ่านมาใครๆก็ว่ากันว่าประเทศจีนนั้นไร้ระเบียบ ชอบถุยน้ำลาย และห้องน้ำสกปรก แต่หลังจากได้ไปเยือนเซี่ยงไฮ้แล้วก็พบว่า ทุกอย่างที่หลายๆคนพูดมากลับตาละปัดทั้งหมด อาจเพราะว่านี้เป็นเมืองท่า เป็นเมืองทางด้านเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนก็เป็นได้ ถ้าอยากไปเจอแบบนั้นคงต้องไปเมืองอื่นๆไกลๆตามต่างจังหวัด

 

แต่นั่นแหละครับสำหรับเซี่ยงไฮ้ ทุกอย่างที่ว่ามาผมแทบไม่เจอเลย สภาพบ้านเมืองสะอาดถึงสะอาดมาก คนถุยน้ำลายลงท้องถนนแทบไม่มี พื้นสะอาดปราศจากขยะและสุนัขจรจัด ห้องน้ำก็ทันสมัย การคมนาคมสะดวกสบาย รถไฟใต้ดินทั่วถึงทั่วเมือง ใจกลางเมืองแทบไม่มีรถติด (แต่ออกไปพื้นที่รอบนอกมีรถติดบ้าง)

 

โดยการเดินทางในครั้งนี้ได้พี่ Pekko สมาชิกรุ่นเก๋าของ HF เป็นเพื่อนร่วมทางอีกท่านหนึ่ง ซึ่งทริปนี้เป็นทริปแบบไม่ได้เตรียมการล่วงหน้าอะไรกันมากนัก แค่จองโรงแรมเอาไว้อย่างเดียว ส่วนกำหนดการเที่ยวทั้งหมดค่อยไปตายเอาดาบหน้า พร้อมหนังสือ Lonely Planet อีกหนึ่งเล่มเท่านั้น

 

เอาละครับ เกริ่นมาซะนาน เมื่อพร้อมแล้วก็ไปรับชมรีวิว Shanghai – Hangzhou – Zhujiajiao กับทริป 5 วัน 3 คืน กันเลยดีกว่า  

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

การเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ในทริปนี้อาจจะแปลกๆหน่อยครับ เพราะเราบินอ้อมไปต่อเครื่องที่สิงคโปร์กันก่อน BKK - SIN - PVD เนื่องจากว่าใช้ไมล์แลกเอา เลยถือโอกาสบินต่อเครื่องเล่นไปลองเส้นทางบินอื่นๆดูบ้าง

 

ทริปนี้ได้ใช้บริการ Boeing 777 ตลอดทั้ง 4 ไฟล์ ไป-กลับ เลยครับ โดย BKK - SIN เป็น TG และ SIN - PVD เป็น SQ

 

ภาพล่างนี่เครื่องกำลังตีวงเหนือท่าเรือ ก่อนจะเตรียมลงจอดยังท่าอากาศยาน Pudong International Airport ในเซี่ยงไฺฮ้ครับ 

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

B777 ของ SQ พาเดินทางมาถึงเซี่ยงไฮ้ประมาณช่วง 6 โมงเช้าครับ

 

ที่สนามบินนั้นมี wifi ให้ใช้งานได้ฟรี แต่ต้อง register เพื่อขอรหัสผ่านทาง sms ก่อน (ฟรี) ดังนั้นถ้าหากจะใช้งาน wifi ฟรีที่สนามบิน จะต้องทำการ roaming เอาไว้ล่วงหน้าด้วยครับ

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

ในทริปนี้ผมจะรีวิว 3 เมืองด้วยกันครับ ประกอบด้วย 

 

1. Shanghai

 

2. Zhujiajiao

 

3. Hangzhou

 

โดยการเดินทางและที่ท่องเที่ยวในแต่ละที่จะมีอะไรนั้น รออ่านในเนื้อหาด้านล่างได้เลยครับ

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

หลังผ่าน ตม. มาแล้ว สิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือ หาทางเข้าเมืองให้ได้ก่อนครับ ซึ่งจากที่ดูๆแล้วจะมี 4 ทางด้วยกัน คือ

 

1. รถไฟความเร็วสูง Maglev

2. รถไฟใต้ดิน

3. รถ Taxi 

4. รถเมล์

 

โดยผมเลือกการเดินทางแบบที่ 1 คือรถไฟความเร็วสูง Maglev (ตัวรถไฟจะลอยอยู่เหนือราง) ที่ถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของที่นี่ครับ เพราะประเทศจีนเป็นประเทศแรกของโลกที่เปิดใช้งาน Maglev ในเชิงพาณิชย์ แม้ว่าจริงๆแล้วจะซื้อเทคโนโลยีมาจากประเทศเยอรมันก็ตามที ดังนั้น แม้จะแพงไปซักหน่อย แต่ก็คุ้มที่จะลองครับ

 

ราคาแบบ Single Trip จะอยู่ที่ 50 หยวน ส่วนแบบ Round Trip (ใช้ภายใน 7 วัน) จะถูกลงมาหน่อยเหลือเพียง 80 หยวน

 

ไหนๆจะลองทั้งที ก็เลยจัดเต็มไปกลับเลยครับ 

 

รายละเอียดเพิ่มเติมไปดูได้ที่ >>> http://www.smtdc.com

 

 

 

ส่วนรถไฟใต้ดิน จะมีสถานีถึงสนามบินเลยนะครับ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ราคาประหยัดและสะดวกเช่นกัน

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

ห้องโดยสารของ Maglev จัดแบบ 3-3 ไม่ได้ระบุที่นั่ง อยากนั่งตรงไหนก็เลือกได้ตามอัธยาศัยเลยครับ ซึ่งคนใช้บริการก็ไม่มากเท่าไหร่ โล่งสบายดี

 

เส้นทางของ Maglev ให้บริการเส้นทางเดียวคือจากสนามบิน Pudong เข้าเมืองเซี่ยงไฮ้ แต่เอาจริงๆก็ยังไม่ถึงใจกลางเมืองดีหรอกครับ อยู่รอบๆนอกมากกว่า ต้องไปต่อรถไฟใต้ดินอีกที หรือใครจะอยากนั่งรถไฟใต้ดินจากสนามบินเลยก็ได้เช่นกันครับ ไม่ต้องเสียเวลาต่อรถไฟ ยกเว้นอยากลองแบบผม

 

รางนั้นยาว 35 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทางแค่ราว 6-7 นาทีเท่านั้น ตัวรถทำความเร็วสูงสุดที่ 431 km/h แต่เอาจริงๆก็วิ่งที่ 300 km/h เท่านั้นครับ สงสัยเปลืองไฟ หุๆ   มีรอบโชว์ออฟแบบวิ่งเต็มศักยภาพแต่วันละ 2 รอบเท่านั้น ก็ต้องไปดูตารางที่เค้าติดเอาไว้ที่สถานีเอา แต่ผมไม่ได้รอ เลยนั่งรอบทั่วไปที่ 300 km/h พอ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[001 JZ Team]

จาก Maglev ก็มาต่อรถไฟฟ้าใต้ดินที่สถานที่ Longyang Road ที่ตั้งอยู่ข้างๆกันเลย ซึ่งเอาจริงๆแล้วก็คือรถไฟใต้ดินสายเดียวกับที่มาจากสนามบินนั่นแหละครับ รวมๆเวลาเดินขึ้นลงสถานีและมาต่อรถ ก็พอๆกันพอดี แค่ Maglev อาจจะเร็วกว่านิดหน่อยเท่านั้น คิดซะว่าซื้อประสบการณ์ครับ 

 

ซึ่งการขึ้นรถไฟใต้ดินก็ไม่ยากแต่อย่างใดครับ มีแผนที่บอก และสามารถซื้อได้จากตู้ขายอัตโนมัติที่มีภาษาอังกฤษด้วย ราคาอยู่ระหว่างที่ 3-7 หยวน ซึ่งเอาจริงๆแล้วซื้้อแบบ Single Trip เลยง่ายกว่าครับ เพราะราคาไม่ได้แพงจนเกินไป ประกอบกับการเที่ยวชมในบริเวณใจกลางเมือง พอลงแต่ละสถานีแล้ว ก็เดินระแวกแถวนั้นได้ทั้งหมดจนแทบไม่ต้องขึ้นรถเมล์หรือรถไฟฟ้าเลย ยกเว้นจะย้ายไปเที่ยวต่อในบริเวณอื่นๆ ดังนั้นการซื้อบัตรเติมเงิน หรือ One Day Pass สำหรับผมแล้วจึงคิดว่าไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

เข้าเมืองมาแล้ว ก่อนอื่นก็ไปเช็คอินเก็บของที่โรงแรมก่อนครับ ถึงแม้จะมาแต่เช้าตรู่ แต่โชคดีที่โรงแรมไม่มีคนมากเท่าไหร่ เค้าเลยให้เช็คอินเข้าห้องพักได้เลย

 

โรงแรมที่พักชื่อ Oriental Bund Hotel สภาพโอเคดีครับ ห้องนอน ห้องน้ำสะอาดดี ตั้งอยู่ใกล้ๆสถานี Yuyuan Garden เดินไม่กี่นาทีก็ถึงโรงแรม และจากโรงแรมเดินไปราว 3 บล๊อคก็ถึง The Bund ย่านตึกเก่าริมแม่น้ำครับ

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

อันนี้แผนที่ภาพรวมครับ คร่าวๆแหล่งท่องเที่ยวหลักๆในกลางเมืองเซี่ยงไฮ้จะตั้งอยู่ 2 ฝั่งแม่น้ำด้วยกัน

 

ฝั่งซ้ายคือบริเวณเมืองเก่า ส่วนฝั่งขวาคือบริเวณเมืองใหม่ที่มีตึกสูงระฟ้ามากมาย รายละเอียดดังนี้

 

1. Oriental Pearl Tower (หอไข่มุก)

2. ตึก Shanghai World Financial Center 

3. The Bund (ย่านตึกเก่าริมน้ำ)

4. โรงแรมที่พัก

5. ถนนช๊อปปิ้ง Nanjing Road

6. Riverside Promenade (ถนนเดินชมริมน้ำ)

 

ซึ่งบริเวณเบอร์ 1, 2 และ 6 สามารถเดินเที่ยวได้ทั้งหมด

 

ส่วนบริเวณ 3 และ 5 ก็เดินถึงกันได้เช่นกัน

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

แอบงีบซักชั่วโมง ก่อนจะเริ่มออกมาเดินเที่ยวบริเวณ The Bund เป็นที่แรก

 

ภาพบนคือบริเวณ The Bund ส่วนภาพล่างคือวิวอาคารสูงฝั่งตรงข้ามแม่น้ำครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

เนื่องจากไม่ได้มีการวางแผนใดๆเอาไว้ล่วงหน้าเลย ทริปนี้จึงเป็นทริปชิวๆครับ เที่ยวๆ หยุดๆ อยากไปไหนก็ไป ไม่เน้นเที่ยวเยอะเกินจนเหนื่อย

 

เป้าหมายแรกในวันนี้คือขึ้นเรือข้ามฟากไปฝั่งตรงข้ามครับ ค่าเรือก็แค่เพียง 2 หยวนเท่านั้น จะไปเดินชมตึกสูงระฟ้าของเซี่ยงไฮ้ซักหน่อย

 

ซึ่งตึกสูงหลักๆของเซี่ยงไฮ้จะมี 4 ตึกด้วยกัน เรียงตามความสูงดังนี้

 

 

1. อาคารที่กำลังสร้างใหม่ ซึ่งผมไม่ทราบชื่อ แต่ถ้าสร้างเสร็จเมื่อไหร่จะเป็นตึกที่สูงที่สุดในเซี่ยงไฮ้ครับ (ตอนนี้ก็สูงเกินตึกอื่นๆไปแล้วครับ)

2. Shanghai World Financial Center 

3. Oriental Pearl Tower (หอไข่มุก)

4. Jin Mao Tower

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

มื้อแรกในเซี่ยงไฮ้ แน่นอนครับ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก

 

 

 

 

อาหารญี่ปุ่น 

 

 

 

 

   

 

 

แบบว่าไม่รู้จะทานอะไรจริงๆครับ แหะๆ เลยมาเดินห้าง IFC Mall และก็เจอร้านราเมน ippudo เห็นว่าน่าทานดี ก็เลยจัดซะหนึ่งชาม

 

ในห้างนี้มี wifi ฟรีด้วยนะครับ ไม่ล๊อก ไม่ใส่รหัส

 

ส่วนจุดเด่นของห้างนี้ก็คือมี Apple Store ขนาดใหญ่ดั้งเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าห้าง ทางเข้าเป็นโดมกระจกใหญ่มาก ใครไปใครมาก็อดไม่ได้ที่จะต้องมาถ่ายรูปคู่ ซึ่งก็เป็นของโปรดเฮียสตีฟ จ๊อบ เค้าแหละครับ ที่ต้องเป็นกระจกแผ่นใหญ่ๆ เด่นๆ

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

ช่วงบ่ายแก่ๆก็ย้ายมาเดินเล่นริมน้ำตรง Riverside Promenade ซึ่งเป็นทางเดินริมน้ำยาวราว 2.5 กิโลเมตร มองเห็นวิวฝั่งตรงข้ามเป็น The Bund ซึ่งช่วงที่ผมไปคือเดือนเมษายน อากาศที่นั่นดีมาก เย็นสบาย กลางวันราว 18-20 องศา สามารถใส่เสื้อยืดเดินได้เลยสบายๆ ส่วนกลางคืนอุณหภูมิจะลงมาอยู่ที่ 10 ต้นๆ อาจต้องหาเสื้อแจ๊กเก็ตบางๆใส่หน่อยกำลังดี

 

บรรยากาศยามบ่ายตรง Riverside Promenade นั้นดีมากครับ อากาศเย็นๆ วิวโล่งๆ ซึ่งตรงบริเวณนี้จะมีร้านกาแฟตั้งอยู่ 3-4 ร้าน มี Starbucks อยู่ด้วย เรียกว่า มานั่งชิวๆจิบกาแฟยามบ่ายตรงนี้ได้เลยละครับ

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

ส่วนช่วงเย็นมีแผนที่จะขึ้นไปชมวิวเซี่ยงไฮ้จากมุมสูงครับ จริงๆแล้วมีให้เลือกหลายตึกด้วยกัน โดยส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวจะชอบไปขึ้นหอไข่มุกกันซะมากกว่า

 

แต่ผมเลือกที่จะไปขึ้น Shanghai World Financial Center ที่เป็นตึกสูงที่สุดในเซี่ยงไฮ้ที่เปิดให้ขึ้นชมได้ในขณะนี้ครับ

 

ตัวอาคารนั้นสูง 100 ชั้น โดยเราสามารถขึ้นชมได้ 3 ชั้นด้วยกัน คือ 94, 97 และ 100

 

ราคาอยู่ที่ 120 หยวน สำหรับชั้น 94 เท่านั้น และราคา 150 หยวน สำหรับชั้น 94, 97 และ 100

 

ไหนๆมาทั้งทีก็ต้องจัดเต็มที่ชั้น 100 แน่นอนครับ

 

หลังจากซื้อบัตรแล้ว ก่อนขึ้นเค้าก็จะมีรายละเอียดพร้อม vdo เกี่ยวกับตัวอาคารให้ชมซักเล็กน้อยระหว่างรอคิวลิฟท์

 

 

รายละเอียดเพิ่มเติมไปดูได้ที่นี่ >>> http://swfc-shanghai...building_ob.php

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

ขึ้นมาแล้วก็ตรงดิ่งไปชั้นที่ 100 ที่เรียกว่า Shanghai World Financial Center Observatory ก่อนเลยครับ

 

 

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

ผมเลือกที่จะขึ้นช่วงโพล้เพล้ครับ ก่อนพระอาทิตย์ตกราว 1 ชั่วโมง และก็อยู่ยาวจนมืดไปเลย เพราะเป็นช่วงที่เราสามารถเห็นวิวได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เรียกว่าทีเดียวคุ้ม กะง่ายๆก็คิดว่าพระอาทิตย์จะตกกี่โมงก็บวกเวลาไปถึงตึกก่อนซัก 1.30 ชั่วโมง เผื่อเวลาต่อคิวขึ้นลิฟท์ไว้ด้วยครับ

 

 

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

วิวจากบนนี้ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆครับ สวยมากๆ อยู่ตั้งชั่วโมงกว่าๆคุ้มเลย

 

อีกหนึ่งเหตุผลที่เลือกขึ้นตึกนี้เพราะสามารถมองเห็นหอไข่มุก ที่เป็นแลนด์มาร์คของเซี่ยงไฮ้ได้ด้วยครับ 

 

ตึกใกล้สุดด้านหน้าคือ Jin Mao Tower ครับ หอไข่มุกคือหอคอยอันไกลๆริมน้ำ ส่วนเงาดำๆด้านมุมซ้ายล่างของภาพ คือตึกใหม่ที่กำลังก่อสร้างครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

ดื่มด่ำวิวจากชั้น 100 เสร็จแล้วก็ค่อยลงมาเก็บตกชั้น 97 และ 94 

 

ในภาพคือชั้น 97 ครับ ส่วนชั้น 94 จะใหญ่หน่อย มีร้านขายของที่ระลึก และก็มีบาร์เล็กๆให้สั่งเครื่องดื่มชมวิวได้ด้วยครับ

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

ด้านนอกตึก Shanghai World Financial Center ยามค่ำคืน

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

จากนั้นก็ขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินข้ามฝั่งมาเดินเที่ยวต่อยามค่ำคืนที่ถนน Nanjing Road ครับ

 

บริเวณนี้มีร้านช๊อปปิ้งเยอะ แต่ผมเฉยๆ เลยเดินผ่านแบบเร็วๆ ไม่ได้สนใจอะไรมาก บนถนนนี้จะมีร้าน Apple Store ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนด้วยครับ เหมือนเดิมคือ กระจกหน้าร้านแผ่นใหญ่มากกกกกก 

 

หลังจากนั้นก็เดินกลับที่พัก เป็นอันจบวันแรก

 

 

Attached Thumbnails

• 
•