79 replies to this topic

[001 JZ Team]

Advertisements

หลังจากนั่งหาข้อมูลผ่าน wifi ที่โรงแรม ก็สรุปได้ว่าวันที่สองจะเดินทางไปเมือง Zhujiajiao กันครับ

 

ที่ขึ้นรถจะตั้งอยู่ใกล้ๆกับ Shanghai Museum เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม เป็นรถเมล์คันสีชมพู

 

ขึ้นไปแล้วก็บอกกระเป๋ารถเมล์ครับว่าจะไปไหน แต่เอาจริงๆคือ พูดไม่รู้เรื่องหรอกครับ แนะนำให้จดชื่อเมืองและให้เค้าอ่านเลยง่ายกว่า

 

ค่าโดยสารราว 20 กว่าหยวน นั่งรถราว 1.30 ชั่วโมงก็ถึงครับ ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจรด้วย เป็นเมืองที่สามารถทำเป็น One Day Trip ไปเช้า เย็นกลับได้เลย

 

เราก็นั่งไปจนสุดสายได้เลย เพราะรถจะไปจอดที่ท่ารถของเมือง Zhujiajiao

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

เมือง Zhujiajiao หรือเมืองน้ำ ได้ฉายาว่าเป็นเวนิสตะวันออกครับ เป็นอีกเมืองหนึ่งของทริปที่ผมชอบมาก บรรยากาศชิวๆ สบายๆ

 

หลังจากถึงท่ารถแล้ว เดินออกมาแค่ 2-3 ร้อยเมตรก็เจอแหล่งท่องเที่ยวครับ แต่ถ้าออกจากท่ารถมาแล้วไม่รู้จะเดินไปทางไหน ก็ใช้บริการรถสามล้อถีบได้ครับ ราคาเท่าไหร่ไม่รู้เหมือนกัน หรือเอาง่ายๆ สังเกตว่ารถสามล้อเค้าขับไปทางไหน ก็เดินตามเค้าไปนั่นแหละครับ ไม่หลงแน่นอน

 

 

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

ถ้าเดินมาเจอสะพานนี้เมื่อไหร่ ก็นั่นแหละครับทางเข้าเมือง

 

ตรงก่อนทางเข้าจะมีจุดขายบัตรอยู่ครับ แต่จริงๆแล้วเข้าชมเมือง Zhujiajiao ไม่จำเป็นต้องซื้อบัตรแต่อย่างใด แต่บัตรที่เค้าขายคือบัตรเข้าชมอาคารสำคัญบางอาคารในเมือง และก็เป็นบัตรขึ้นเรือล่องแม่น้ำครับ ดังนั้นใครอยากเข้าชมอาคารก็ซื้อ แต่ถ้าไม่อยากเข้าก็ไม่ต้องซื้อ เพราะเอาจริงๆ แค่มาเดินในเมือง หาร้านทานข้าว นั่งชิวดื่มกาแฟ ก็ฟินแล้วละครับ

 

ส่วนบัตรนั่งเรือ ถ้าอยากนั่งจริงๆก็ไปซื้อแยกตอนอยู่ในเมืองก็ได้ครับ 

 

 

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

ใกล้ๆกับทางเข้าจะมีถนนคนเดินให้ช๊อปปิ้งครับ สินค้าจะเป็นพวกงานแฮนเมด ของที่ระลึกแบบจีนๆ และก็มีร้านขนม ร้านอาหารริมน้ำด้วย

 

เมนูเด็ดของที่นี่คือขาหมูครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

เที่ยงพอดี เลยพักทานข้าวกลางวันก่อนลุยต่อ ก็เลือกๆร้านริมน้ำแถวนั้นแหละครับ

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

ไฮไลท์ของเมืองนี้ผมว่าก็คือบริเวณคลองตรงนี้นี่แหละครับ สองฟากฝั่งจะมีอาคารเก่าและร้านค้าเล็กๆตั้งอยู่เรียงราย บรรยากาศดีมาก อากาศก็เย็นสบาย สวยสุดๆครับ ชอบมาก

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

บรรยากาศในเมืองน่ารักมากครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

คงเรียกว่ามาถึง Zhujiajiao ไม่ได้หากจะไม่ลองล่องเรือดูซักหน่อย

 

ค่าล่องเรือก็ราว 60 หยวนต่อคนมั้งครับถ้าผมจำไม่ผิด เส้นทางก็จะมีให้เลือก 2-3 เส้นทาง ใช้ระยะเวลาแค่ 10-15 นาทีเท่านั้น เพราะตัวเมืองค่อนข้างเล็ก แต่ถือว่าคุ้มครับ แนะนำให้ลอง

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

ช่วงบ่ายเลยมองหาร้านกาแฟนั่งชิวซักหน่อยครับ ฟินมากๆ

 

คือจะมีถนนอยู่สายนึงในเมือง จะเป็นร้านกาแฟยาวไปตลอดแนว มีให้เลือกหลายร้านมากๆ ทั้งแนวคลาสสิค และแนวโมเดิร์น สามารถเลือกสไตล์กันได้เองตามอัธยาศัย

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

ก่อนกลับก็เข้าไปเดินดูอาคารเก่าๆที่ซื้อบัตรเข้าชมมาซะหน่อย อย่างอันนี้คืออาคารไปรษณีย์เก่าครับ ข้างในก็ทำเป็นพิพิธภัณฑ์เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการส่งไปรษณีย์ของจีนในอดีต

 

หลังจากนั้นก็เตรียมเดินทางกลับครับ เพราะร้านรวงต่างๆก็เริ่มเปิดราว 4.30pm จึงเดินกลับไปที่ท่ารถเพื่อขึ้นรถโดยสารกลับเซี่ยงไฮ้

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

กว่าจะกลับมาถึงเซี่ยงไฮ้ก็หัวค่ำพอดีครับ เลยกลับมาเดินเล่นแถว The Bund ยามค่ำคืนที่เปิดไฟแล้วอีกที ดูๆไปแล้วสวยกว่าตอนกลางวันเยอะเลยครับ ซึ่งตึกที่เป็นหอนาฬิกาเป็นตึกที่ทำการของ Shanghai Custom House นาฬิกาจะตีบอกเวลาอยู่ทุกชั่วโมงครับ เดินๆผ่านเดี๋ยวก็คงได้ยินเสียงดังก้องกังวาล

 

ส่วนฝั่งตรงข้ามแม่น้ำก็คือฝั่งตึกระฟ้ายามค่ำคืน ที่แสงไฟก็ระยิบระยับสวยงามไม่แพ้กัน

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

ใกล้ๆชัดๆครับ ฟ้าสวยมาก ลมพัดอากาศเย็นสบาย ใส่แจ๊กเกตเดินเที่ยวแทบไม่อยากกลับ

 

แนวตึกตรงนี้จะมีอาคารนึงที่เป็นที่ตั้งของธนาคารกรุงเทพ ของไทยอยู่ด้วยนะครับ เห็นแล้วรู้สึกดี 

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

เดินลัดเลาะริมแม่น้ำเรื่อยๆขึ้นไปทางทิศเหนือก็จะเจอกับอนุเสาวรีย์อันนี้ครับ ลืมไปจริงๆว่าคืออนุเสาวรีย์อะไร

 

เปิดไฟตอนกลางคืนสวยดี เลยแวะถ่ายไว้ซะหน่อย

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

เดินเลยขึ้นไปอีกนิด ก็จะเจอปากแม่น้ำสายเล็กๆ (หรือเป็นคลองที่ใหญ่หน่อยก็ไม่ทราบเหมือนกัน) มีเขื่อนขนาดใหญ่กั้นอยู่เพื่อให้ระดับน้ำต่างกัน

 

หลังจากนั้นเราก็เดินข้ามสะพานไปอีกฝั่งนึงครับ เพราะเรามีที่หมายสำคัญอีกที่หนึ่งในค่ำคืนนี้

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

นั่นก็คือ VUE Bar ที่ตั้งอยู่บนชั้นบนสุดของโรงแรม Hyatt on the Bund

 

หากท่านใดสนใจมานั่งดื่มกินลมชมวิว ก็กดลิฟท์จากชั้น Lobby ขึ้นมาที่ชั้น 32 ได้เลยครับ 

 

โดยจะเสียค่าเข้าคนละ 100 หยวน พร้อมได้เครื่องดื่ม 1 ดริ๊งค์

 

เปิดตั้งแต่ 5.30pm - 1.00am

 

 

รายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ที่นี่ >>> http://www.shanghai....ing/VueBar.html

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

วิวจากบนนี้สวยมากครับ   มองเห็นคุ้งน้ำของเมืองเซี่ยงไฮ้ครอบคลุมทั้ง 2 ด้าน ไม่ว่าจะฝั่งตึกระฟ้า และฝั่ง The Bund ๆ

 

เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่น่าสนใจหากต้องการขึ้นมาชมวิวเมืองเซี่ยงไฮ้จากมุมสูง

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

VUE Bar จะมี 2 ชั้นครับ ชั้น 32 อยู่ในตัวอาคาร มี DJ เปิดแผ่น

 

ส่วนชั้น 33 จะอยู่ดาดฟ้า Open Air มีอ่างจากุซซี่เล็กๆให้ลงไปแช่ได้ครับ แต่ส่วนใหญ่คนจะแค่เอาเท้าลงไปแช่กันมากกว่า ลมเย็น วิวดี นั่งฟังเพลง ชิวๆ ฟินมากครับ

 

ส่วนราคาเครื่องดื่มถ้าเป็นเบียร์เริ่มต้นที่ 50 หยวนครับ ส่วนพวกค๊อกเทล เหล้า หรือไวน์ก็ราคาสูงขึ้นไปจากนั้นตามแต่ประเภท

 

นั่งดื่มสองสามดริ๊งก็ลงแล้วครับ เดี๋ยวเดินกลับที่พักไม่ไหว (หมดตูด 555)

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

วันที่สาม มีโปรแกรมเดินทางไปยังเมือง Hangzhou เมืองนี้ค่อนข้างอยู่ไกลซักนิดนึงครับ ราว 180 กิโลเมตร แต่ว่าการเดินทางไปนั้นแสนง่าย สะดวกและรวดเร็วมาก เพราะว่าประเทศจีนนั้นมีระบบรถไฟความเร็วสูงครับ

 

โดยเราก็นั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Shanghai HongQiao Railway Station โดยสถานีมีทั้งรถไฟใต้ดิน รถไฟความเร็วสูง และสนามบิน  HongQiao ด้วยครับ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมการคมนาคมอย่างแท้จริง ที่เดียวครบ ไปได้หมดทุกอย่าง

 

พอขึ้นมาถึงตัวอาคารของสถานีรถไฟความเร็วสูงแล้วต้องเรียนตามตรงว่า อึ้ง ครับ เพราะมันใหญ่ยังกะสุวรรณภูมิของเราเลยทีเดียว 

 

       

 

 

 

Attached Thumbnails

• 

[001 JZ Team]

เนื่องจากทริปนี้กันมาแบบไม่ได้เตรียมการล่วงหน้าครับ เลยยังไม่มีตั๋วรถไฟแต่อย่างใด การซื้อนั้นตอนแรกก็งงๆเช่นกันครับ เพราะบนบอร์ดมี่แต่ภาษาจีนเต็มไปหมด แต่สุดท้ายก็รอดตายด้วยเครื่องขายบัตรโดยสารอัตโนมัติครับ

 

แต่เอาเข้าจริงๆเราไม่สามารถซื้อกับตู้ขายบัตรโดยสารอัตโนมัติได้อยู่ดีครับ เพราะว่าเราไม่มี ID Card ซึ่งต้องใช้แตะเพื่อยืนยันตัวตนเวลาซื้อ แต่สิ่งที่เราทำได้คือ เข้าไปดูตารางการเดินรถ เวลา ราคา แบบเป็นภาษาอังกฤษได้จากตู้ หลังจากนั้นให้จดรายละเอียด เลขเที่ยวรถ และราคาที่เราต้องการไว้ครับ เที่ยวรถค่อนข้างถี่เหมือนกัน มีเกือบทุกชั่วโมง ส่วนราคาจะถูกหรือแพงก็ขึ้นอยู่กับประเภทรถไฟด้วยว่าช้าหรือเร็ว

 

หลังจากนั้นก็เดินไปที่เคาเตอร์ขายบัตรโดยสารกับเจ้าหน้าที่ ไม่ต้องพูดอะไร แค่ยื่นสิ่งที่เราจดเอาไปให้พนักงานเค้าก็เป็นพอ เพราะเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่คุยภาษาอังกฤษไม่ได้ครับ คุยจีนมาเราก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี  ซึ่งทำแบบนี้ก็ง่ายดีครับ แค่แป๊ปเดียวเราก็ได้บัตรโดยสารมาแล้ว

 

ราคาอยู่ที่ 77.5 หยวนต่อเที่ยว ไปกลับก็ราว 155 หยวน (ชั้นประหยัด)

 

เมื่อใกล้ถึงเวลา Boarding ก็ไปยืนรอหน้าเกต เอาบัตรโดยสารไปเสียบคล้ายๆกับ BTS บ้านเรา แล้วประตูก็จะเปิดให้เข้าไปสู่ชั้นชานชลาได้เลยครับ 

 

 

ปล. จะใช้บริการรถไฟความเร็วสูง อย่าลืมเอา Passport ไปด้วยนะครับ ต้องใช้เวลาซื้อบัตรโดยสาร

Attached Thumbnails

• 
• 

[001 JZ Team]

 บัตรโดยสารจะระบุขบวน โบกี้ และที่นั่งเอาไว้ อย่าขึ้นผิดละครับ แต่เป็นภาษาจีนก็ลองเดาๆเอาหน่อย ไม่ยากจนเกินไป

 

ส่วนที่ข้างโบกี้ก็จะมีหน้าจอแจ้งเอาไว้ว่าเป็นโบกี้เบอร์อะไร วิ่งเส้นทางไหน กันเราขึ้นผิดครับ 

Attached Thumbnails

•