208 replies to this topic

[Win~BangTaLai]

Advertisements

[Win~BangTaLai]

จากห้างเดินไปนิดเดียวก็ถึงสถานที่ๆเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่สุดของมอสโคว์ St. Basils Cathedral

[Win~BangTaLai]

วันรุ่งขึ้นก็ไปที่พระราชวังเครมลินที่เป็นอยู่ของซาร์รัสเซียก่อนที่จะย้ายไปเซนต์ปีเตอร์เบอร์ก ในปัจจุบันประธานาธิบดีปูติน ก็ยังพำนักอยู่ในวังนี้

ไปต่อแถวซื้อตั๋วตั้งแต่เช้า คนจะได้ไม่เยอะ


ซื้อตั๋วแพคเกจรวมค่าขึ้นหอระฆังด้วย จ่ายแพงขึ้นอีกนิดหน่อยแต่คุ้มเพราะมีpresentationอธิบายถึงสถาปัตยกรรมต่างๆในพระราชวังนี้เป็นภาษาอังกฤษ แล้วยังได้ชมวิวจากมุมสูงด้วย ภายในพระราชวังมีพระที่นั่งหลากหลายสไตล์เนื่องจากมีการก่อสร้างเพิ่มเติมในหลายๆยุค อาคารบางหลังก็เป็นแบบรัสเซีย บางที่ก็ออกแบบโดยสถาปนิกจากเวนิซเลยมีรูปแบบของอิตาลี จะว่าไปแล้วก็เหมือนกับวัดพระแก้วที่มีพระที่นั่งหลากรูปแบบไม่ว่าทรงปราสาทหรือเป็นตึกฝรั่ง

[Win~BangTaLai]

[Win~BangTaLai]

ระฆังที่แขวนอยู่บนหอก็มีคำแซ่ซ้องคุณงามความดีของซาร์ให้ก้องกังวาลไปทุกสารทิศกับเสียงระฆัง


ระฆังของซาร์ที่ยังไม่เคยถูกแขวนบนหอระฆัง หลายๆบอกว่าแตกออกตอนที่ร่วงลงมาตอนขนย้าย แต่ที่จริงแล้วแตกตั้งแต่ยังไม่ได้แกะออกจากแม่พิมพ์เพราะเกิดน้ำท่วมเข้าไปโดนแม่พิมพ์ขณะที่ระฆังกำลังหล่ออยู่

[Win~BangTaLai]

ช่วงที่ไปเที่ยวเป็นหน้าร้อนของรัสเซีย อากาศร้อนอบอ้าวมากเลยมีคนลงไปเล่นน้ำพุสาธารณะ


จากการที่ได้อยู่ในมอสโคว์เป็นเวลาสองวันทำให้ผมรู้สึกว่าเมืองนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดไว้เลย ผมคิดว่าตอนไปปารีสหรือโรมยังรู้สึกว่าอันตรายมากกว่านี้ อาจจะเป็นเพราะว่าตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมีทหารและตำรวจคอยตรวจตราอยู่มาก ที่มอสโคว์มีคนจากเอเซียกลางค่อนข้างเยอะ พวกนี้ก็มาจากคาซัคสถาน อุซเบกิซสถานและประเทศสถานอื่นๆที่เคยอยู่ในสหภาพโซเวียตมาก่อน Germanเตือนไว้ว่าให้ระวังคนพวกนี้ไว้เพราะอาจจะมาล้วงกระเป๋าได้ โดยเฉพาะที่สถานีรถไฟเพราะมีคนพวกนี้อยู่เยอะ แล้ววันพรุ่งนี้จะต้องไปขึ้นรถไฟที่สถานี Moscow Kazanky ซึ่งเป็นต้นทางของรถไฟที่จะไปเอเซียกลางซะด้วยสิ

อาคารของกระทรวงการต่างประเทศ

[Win~BangTaLai]

การนั่งรถไฟใน Leg นี้จะเป็นการเดินทางติดต่อกันที่นานที่สุด จากมอสโคว์ไป อูลัน-อูเด ระยะทาง 5,500 กม. โดยจะใช้เวลาสี่คืนบนรถนอน ก่อนออกเดินทางก็ต้องเช็คเสบียงและสิ่งของเครื่องใช้กันก่อน หนังสือดีๆเป็นสิ่งจำเป็นในการเดินทางระยะเวลานานๆแบบนี้ การเขียนสมุดบันทึกก็อาจจะเป็นการสื่อสารรูปแบบเดียวที่เราจะสามารถปลดปล่อยได้ในขณะที่ไม่มีใครที่จะคุยกันรู้เรื่อง เนื่องจากบนรถไฟไม่มีห้องอาบน้ำเราก็ต้องมี wet wipe ไว้ทำความสะอาดร่างกาย และที่สำคัญที่สุดคืออาหาร ด้วยความนอยด์ว่าจะหาซื้อมาม่าที่มอสโคว์ไม่ได้ผมเลยแบกไปจากลอนดอน ไหนๆก็จะแบกไปแล้วก็เลยเตรียม ผักกาดดอง ปลากระป๋อง ข้าวสำเร็จรูป โจ๊กคนอร์ ซุปซอง คูสคูส ไส้กรอก แสปม ผลไม้กระป๋อง ฯลฯ เวลาอยู่บนรถไฟจะได้กินอะไรที่หลากหลาย ไม่ใช่มาม่าทุกวัน เพราะต้องอยู่บนรถไฟเป็นอาทิตย์


สำหรับการซื้อตั๋วรถไฟที่ใช้เดินทางในรัสเซียก็ไม่ยาก ซื้อผ่านทางเว็บของ RZDหรือการรถไฟรัสเซีย แต่ระบบจองยังเป็นภาษารัสเซียอยู่ก็เลยต้องใช้ Google Translator เป็นตัวช่วย ระบบการจองนี้ดีมากเราสามารถเลือกขบวน โบกี้ และที่นั่งที่เราต้องการได้ พอเลือกแล้วก็จ่ายเงินทางบัตรเครดิต แล้วพอไปถึงรัสเซียก็สามารถไปออกตั๋วได้ที่เครื่องออกตั๋วในทุกสถานีในรัสเซียได้เลย ตอนผมจองผมเลือกเดินทางในชั้นสองหรือKupe class ในโบกี้จะแบ่งเป็นห้องๆ ห้องนึงมีสี่เตียง ซ้ายบน ซ้ายล่าง ขวาบน ขวาล่าง แต่ในทุกๆโบกี้จะมีห้องนึงที่มีอยู่แค่สองเตียง คือมีเตียงแค่ด้านเดียว หลายๆท่านไม่ทราบว่ามีห้องลักษณะนี้เพราะในหนังสือไม่ได้บอกไว้ ผมเองก็เพิ่งรู้ว่ามีตอนที่จองตั๋วรถไฟ แล้วผมก็เลือกเดินทางในโบกี้ที่มีที่นั่งว่างเยอะๆ เพราะถ้าโชคดีเราจะได้ไม่ต่องแชร์ห้องกับใคร แล้วก็โชคดีจริงๆได้นอนคนเดียวสี่คืน
หน้าตาของตั๋วรถไฟรัสเซีย....ขอมูลเยอะแยะจริงๆ

[Win~BangTaLai]

ไปถึงสถานีก็ดูว่าจะต้องไปขึ้นที่ชานชาลาไหน ผมเดินทางไปกับขบวนที่82 จุดหมายปลายทางที่Ulan-Ude หมายเลขชานชาลายังไม่ขึ้น

[Win~BangTaLai]

พอเลขชานชาลาขึ้นปุ๊บ ทุกคนก็รีบเดินไปที่ขบวนรถไฟ พอถึงโบกี้ของเราแล้วก็จะมีพนักงานประจำโบกี้คอยตรวจตั๋วอยู่ ต้องยื่นตั๋วและพาสปอร์ตให้เขาตรวจ พนักงานคนนี้จะต้องอยู่ไปกับเราอีกห้าวันสี่คืน พนักงานประจำโบกี้ของผมใจดียังหนุ่มๆอยู่เลยเหมือนเพิ่งทำงานได้ไม่นาน ระหว่างทางก็พยายามจะมาคุยด้วย แต่ก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่พูดเยอรมันได้พอดีผมพูดเยอรมันได้นิดหน่อยก็เลยพอสื่อสารกันรู้เรื่องหารู้ไม่ว่าพนักงานคนนี้จะเป็นคนเพียงคนเดียวที่สามารถคุยกันรู้เรื่องตลอดสี่วันถัดไป ทั้งขบวนไม่มีคนพูดภาษาอังกฤษได้เลย

[Win~BangTaLai]

ทางเข้าโบกี้ ข้าพเจ้าคิดว่าขึ้นเรือรบ

[Win~BangTaLai]

เข้าไปในห้องก้าวแรกก็อึ้งในความเก่าของที่นอน.....นี่เราต้องนอนบนฟูกนี้ไปอีกห้าวันจริงๆหรือ ที่นั่งก็มีแต่ฝุ่น


พอทำใจได้ก็เอา wet wipe มาเช็ดเบาะคิดว่าต้องอยู่ในนี้อีกสี่วันเต็มๆ ขออยู่แบบสะอาดดีกว่า เช็ดแผ่นแรกออกมาดำปี๋ เช็ดไปเกือบสิบแผ่นกว่าจะสะอาด ตอนนี้ห้องก็เลยหอมอบอวลไปด้วยกลิ่นที่เช็ดตูดเด็ก เวลาจะนอนก็ต้องปูเอง เขาจะให้ผ้าคลุมมาตอนรถออก หมอนฟูกผ้าห่มมีอยู่ในห้องอยู่แล้ว นอนเตียงบนบ้าง นอนเตียงล่างบ้าง จะได้ไม่จำเจ

[Win~BangTaLai]

ตอนนี้เริ่มชอบโบกี้เก่าๆนี่แล้วสิผนังก็เป็นไม้ให้ความรู้สึกคลาสสิก ดูไปดูมาเหมือนอยู่บนเรือดำน้ำสมัยก่อน แต่ถึงตู้จะเก่าแต่ก็อยู่สบาย เวลาร้อนก็เปิดแอร์ ตอนหนาวก็มีฮีทเตอร์

แขวนเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก็เหมือนอยู่โรงแรม แต่มันส์กว่าตรงที่วิวนอกหน้าต่างเปลี่ยนไปตลอดเวลา

[Win~BangTaLai]

เพราะว่าอยู่คนเดียวก็เลยสามารถล๊อคห้องได้สบาย กลางคืนไม่ต้องกลัวว่าจะมีคนเข้ามาขโมยของ ด้านซ้ายของภาพคือสวิตซ์ไฟรุ่นพระเจ้าเหาอันใหญ่เท่ากับกล่องทัปเปอแวร์


ส่วนตัวอักษรบนสวิตซ์หมุนๆอ่านว่า RADIO เอาไว้ปรับระดับเสียงของเสียงตามสาย ก็จะมีรายการข่าวและเพลงสลับกันไป มีทั้งเพลงป๊อบรัสเซีย เพลงคลาสสิก และเพลงรักยุค80จากอเมริกา ช่วยทำให้บันเทิงจิตได้ไม่น้อย

[Win~BangTaLai]

รถไฟทางไกลในรัสเซียจะจอดพักตามสถานีใหญ่ๆเป็นเวลานาน อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ให้คนได้ไปเดินเล่นและซื้อของ


ออกจากมอสโคว์ได้ไม่นานก็ได้เห็นชีวิตชนบทของรัสเซีย บ้านไม้สีสวยแบบนี้มีให้เห็นไปตลอดทางจนถึงมองโกเลีย


บางครั้งวิวข้างทางก็เป็นป่าสนแบบนี้เป็นหลายๆชั่วโมง

[Win~BangTaLai]

ก็เลยใช้เวลานี้ในการจดบันทึก สิ่งที่เราได้เห็น ได้เจอ และได้รู้สึก ในการเดินทางไกลๆบางครั้งถ้าเราไม่จดมันไว้เราก็อาจจะลืมมันไปได้

[Win~BangTaLai]

อุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดในโบกี้ .........หม้อต้มน้ำร้อน เป็นแหล่งน้ำที่สะอาดที่สุดบนรถไฟ และผลิตน้ำร้อนให้ใช้ในการปรุงอาหาร


หลายคนคิดว่าถ้ามาเดินทางแบบนี้จะได้กินแต่มาม่าทุกวัน แต่ถ้าเราวางแผนให้ดีๆๆว่าเราสามารถเอาอะไรไปได้บ้าง และสามารถปรุงอาหารอะไรได้บ้างบนรถไฟโดยใช้แค่น้ำร้อน เราก็สามารถทำอาหารหลากหลายบนรถไฟได้ เช่น ข้าวต้ม ปลากระป๋องผัดพริก กินแนมกับ ไข่ต้มและแตงกวา

[Win~BangTaLai]

หรือคูสคูส กับปลาทูน่า.... คูสคูสเป็นแป้งที่ปรุงให้สุกได้ง่ายมากเพียงแค่เติมน้ำร้อนแล้วกวน


ข้าวต้ม กับปลากรอบและเกี้ยมฉ่าย


และของตายอย่างคัพโจ๊ก

[Win~BangTaLai]

เดินทางต่อ ผ่านทุ่งราบอันกว้างใหญ่


โรงงานใหญ่โตมีให้เห็นได้ตลอดทาง ส่วนมากทรุดโทรม แสดงให้เห็นถึงการล่มสลายของระบบคอมมิวนิสและความล้มเหลวของระบบเศรษกิจแบบ Control Economy ในโซเวียตได้เป็นอย่างดี

[Win~BangTaLai]

บางครั้งเวลาเห็นบ้านเก่าๆก็ยังสงสัยว่าเขาอาศัยอยู่ในนั้นช่วงเวลาหน้าหนาวอันแสนทรมานของรัสเซียได้อย่างไร


รถไฟกำลังข้ามเทือกเขาUralที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเซีย ขณะนี้เวลาท้องถิ่นเร็วกว่ามอสโคว์สองชั่งโมง

[Win~BangTaLai]

สถานี Yekaterinburg เมืองนี้มีความสำคัญในประวัติศาสตร์รัสเซียเพราะเป็นเมืองที่ซาร์นิโคลัสที่สองหรือซาร์องค์สุดท้ายของรัสเซียและครอบครัวถูกพวกบอลเชวิกสังหารอย่างโหดเหี้ยม เพื่อเป็นการกำจัดเสี้ยนหนามในช่วงปฎิวัติรัสเซีย


ที่สถานีนี้เราได้มาสวนกับรถด่วน Rossiya ที่เดินในสายTrans-Siberia โดยใช้เวลาเดินทางจากมอสโคว์ไปวลาดิวอสตอกแปดคืน


แม่น้ำ Irtysh เป็นแม่น้ำสายใหญ่ของรัสเซีย มีความสำคัญในการขนส่งไปยังเมืองที่อยู่ทางเหนือ โดยมีการขนถ่านสินค้าจากรถไฟไปลงเรือที่ท่านี้