24 กันยายน 2555 - วิทยุการบินฯ เตรียมความพร้อมบุคลากรด้านควบคุมจราจรทางอากาศ รวมถึงอุปกรณ์ระบบต่าง ๆ รองรับการเปิดให้บริการเที่ยวบิน ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยได้กำหนดเส้นทางบินหลักเข้า-ออก 15 เส้นทาง และปรับปรุงวิธีปฏิบัติต่าง ๆ ในการนำเครื่องบินขึ้น – ลง ของทั้ง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมืองไว้อย่างชัดเจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นาวาอากาศตรีประจักษ์ สัจจโสภณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ วิทยุการบินแห่งประเทศไทย (บวท.) เปิดเผยว่า “วิทยุการบินฯ ได้มีการเตรียมความพร้อมในการให้บริการควบคุมจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ในทุก ๆ ด้าน เพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 190เที่ยวบิน/วัน ปัจจุบันมีปริมาณเที่ยวบินให้บริการ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ประมาณ 250 เที่ยวบิน/วัน หลังวันที่ 1 ตุลาคม 2555 คาดว่าจะมีปริมาณเที่ยวบินให้บริการ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ประมาณ 400 เที่ยวบ ิน/วัน การที่สายการบินโลว์คอสต์ส่วนหนึ่งจะกลับไปใช้บริการ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง ส่งผลให้ปริมาณเที่ยวบิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิลดลงเฉลี่ยวันละ 150 เที่ยวบิน จะมีผลทำให้การบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เกิดความคล่องตัวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”
นาวาอากาศตรีประจักษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกเหนือจากการจัดเตรียมอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานทุกส่วนงาน และจัดเตรียมระบบ/อุปกรณ์เทคโนโลยีให้พร้อมรองรับปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น วิทยุการบินฯ ยังได้มีการออกแบบเส้นทางบินใหม่ โดยจัดทำเส้นทางบินหลักเข้า-ออกท่าอากาศยานดอนเมืองและสุวรรณภูมิ หรือ (SID/STAR) 15 เส้นทาง เพื่อรองรับเที่ยวบินจากทุกทิศทาง เนื่องจากระยะห่างของทั้ง 2 ท่าอากาศยานไม่มากนัก หากมีเที่ยวบินที่วิ่งขึ้นจากดอนเมืองทางทิศตะวันออก ก็จะไปตัดเส้นทางกับเครื่องบินที่จะมาลงที่สุวรรณภูมิ จึงจำเป็นต้องจัดหาเส้นทางหลบหลีกที่เหมาะสม อีกทั้งวิทยุการบินฯ ได้มีการเพิ่มตำแหน่งปฏิบัติงานรองรับการให้บริการ โดยเพิ่มตำแหน่ง ATC Clearance Delivery Control และเพิ่มตำแหน่งควบคุมจราจรทางอากาศ เพื่อลดความแออัดของการสื่อสารทางวิทยุอีกด้วย สำหรับอุปกรณ์ระบบติดตามอากาศยาน ระบบเครื่องช่วยการเดินอากาศ ระบบสื่อสารการบิน รวมถึงวิทยุสื่อสาร Trunked Radio ที่ให้บริการอำนวยความสะดวกแก่สายการบินต่าง ๆ นั้นมีความพร้อมเต็มประสิทธิภาพทุกระบบ โดยระบบอุปกรณ์ที่ให้บริการอยู่นั้น จะเชื่อมโยงกับระบบอุปกรณ์ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นไม่มีปัญหาในการให้บริการแต่อย่างใด และยังมีความปลอดภัยสูงสุดเช่นเดิม”