แล้วเราก็แล่นเรือออกมาถึงโตนเลสาบ ... มันช่างกว้างใหญ่ไพศาลสุดลูกหูลูกตาจริง ๆ
ยังกะทะเลน้ำเค็มแน่ะ
|
|
Posted 22 September 2012 - 02:54 PM
แล้วเราก็แล่นเรือออกมาถึงโตนเลสาบ ... มันช่างกว้างใหญ่ไพศาลสุดลูกหูลูกตาจริง ๆ
ยังกะทะเลน้ำเค็มแน่ะ
Posted 22 September 2012 - 02:57 PM
เย็นย่ำแล้ว ... กลับเข้าฝั่งกันดีกว่า
Posted 22 September 2012 - 03:00 PM
คุณไกด์เตรียมผลไม้เอาไว้ให้เราด้วย
เพ่งพิจารณาให้ดีนะคะ
บ้านนี้ เมืองนี้ เค้ากินสับปะรดจิ้มกับผงปรุงรส "รสดี" ล่ะ
Posted 22 September 2012 - 03:05 PM
แลดูพิกล ๆ ... แต่ก็หมดเกลี้ยงนะจ๊ะ
โปรแกรมวันแรกจบลงแล้ว เราก็มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมืองเสียมราฐ ไปเช็คอินกัน
Posted 22 September 2012 - 03:08 PM
ห่องหับเขาก็สะอาดสะอ้านดีงามนะ
Posted 22 September 2012 - 03:11 PM
คอนเฟิร์มโปรแกรมเที่ยว และนัดแนะเวลากับเพื่อนสาวเสร็จแล้ว
ก็แยกย้ายกันเข้าห้อง อาบน้ำอาบท่า หลับปุ๋ย
Posted 22 September 2012 - 03:25 PM
ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความสดใสเพื่อที่จะได้มาพบกับนรกเล็ก ๆ ที่ห้องอาหาร "ทัวร์จีน"
ล๊งเล๊ง วุ่นวาย ไม่มีมารยาท
มีอาซิ้มคนนึง นางเดินถือตะเกียบกายสิทธิ์ คีบอาหารทุกชนิดในไลน์เข้าปาก
คีบชิม ~ คีบชิม
....มีความฝุกกก....
อิฉันชอบรับประทานอาตี๋ ๆ น้อย ๆ ก็จริง ... แต่อีฉันก็ยังไม่เคยไปเหยียบแผ่นดินจีนเลย
และฟังจากพี่โน๊สเล่าแล้ว อิฉันก็ไม่คิดจะไปเหยียบแล้วล่ะค่ะ
วานผู้ที่เคยไปได้โปรดเมตตาบอกกับอิฉันหน่อยเถอะค่ะ โรงแรมที่เมืองจีนเค้าเดินคีบชิม ~ คีบชิม กันอย่างนี้เป็นปรกติหรือเปล่า ??
ออกไปสูดอากาศข้างนอกดีกว่า
รถสามล้อพ่วงรับจ้าง ที่สามารถเห็นได้ทั่วไปในเมืองเสียมราฐ
Posted 22 September 2012 - 03:29 PM
พากันเดินเซ็งออกมาที่ล็อบบี้
พอได้เวลาคุณไกด์กับคุณโชเฟอร์ก็มารับชาวเรา
โปรแกรมท่องเที่ยวสำหรับวันที่ ๒ ของเราก็คือนครธม และนครวัดค่ะ
ขั้นแรกก็ไปทำบัตรกันก่อน
Posted 22 September 2012 - 03:31 PM
ได้บัตรมาแล้วเรียบร้อย สวยงาม และแสนเก๋มากนะ
Posted 22 September 2012 - 03:35 PM
ได้บัตรมาเรียบร้อยแล้ว ก็ปุเรง ~ ปุเรง ไปนครธมกัน
ระหว่างทาง อิฉันเห็นสองข้างทางแล้วก็ให้นึกอยากจะปั่นจักรยานมาเอง
มีเสื่อมาสักผืน หนังสือดี ๆ สักเล่ม ของกินอีกนิดหน่อย
ได้ปูเสื่อนั่งอ่านหนังสืออยู่แถว ๆ นี้ แล้วก็ชมวิวเมืองโบราณแห่งนี้ไปด้วย คงจะมีความสุขไม่น้อยเลย
Posted 22 September 2012 - 03:44 PM
เนื่องจากช่วงที่อิฉันเดินทางไปนั้น ตรงกับเทศกาลตรุษจีนพอดีดิบ
มนุษย์จึงแห่แหนพากันมาเยี่ยมชมแดนสวรรค์บนพื้นพิภพแห่งนี้กันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
รถติดยาวเหยียด คุณไกด์จึงชวนเราลงเดิน
เดิน ??? ทำไมไม่เอาเสลี่ยงทองมารับฉันล่ะ ?
Posted 22 September 2012 - 03:47 PM
เอาเถอะ ๆ ... อิฉันก็ไม่ได้เรื่องมากอะไรขนาดนั้นหรอก ... เดินก็เดิน
Posted 22 September 2012 - 04:11 PM
อย่างที่คุณ flying guy ได้กล่าวเอาไว้ ว่าคุณไกด์จะหาที่เหมาะ ๆ เม้าท์มอยสิ่งนั้นสิ่งนี้ให้เราได้รู้กันก่อน
แล้วจึงจะพาเราเข้าชมสถานที่นั้น ๆ
นางมีกลลวงด้วยนะ ว่าทุกเย็นนางจะมีสอบความรู้ด้วยว่าวันนี้เราไปเที่ยวชมอะไรกันมาบ้าง
และแต่ละสถานที่นั้นมีประวัติความเป็นมาเช่นไร
ใครตอบได้นางให้ตังค์ !!!
ต๊ายยยยยย ป๋านะจ๊ะ ป๋านะจ๊าาา
Posted 22 September 2012 - 04:37 PM
พอฟังเลคเชอร์จากคุณไกด์เสร็จแล้ว เราก็เดินเข้านครธมกันไปเลยสวย ๆ
อ๊ะ !! จะบอกให้ทุก ๆ ท่านที่มาอ่านรีวิวรู้ก่อนว่า รีวิวของอิฉันน่ะไม่ค่อยมีความรู้อะไรหรอกนะ
ชอบปราสาทค่ะ แต่ชอบเฉย ๆ ชอบดู ชอบมอง แต่อิฉันไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย
โอเคป้ะ ?
อ่านรีวิวอิฉันเอาฮา ก็แล้วกันนะคะ
คูน้ำรอบนครธม
อันนี้อิฉันพอจะมีความรู้นิดหน่อย ว่าที่ต้องมีคูน้ำ ก็เพราะเขาจะติ๊ดต่างให้เป็นมหานทีสีทันดร ที่ล้อมรอบเขาไกรลาสซึ่งเป็นที่อยู่ของเทพเจ้า
Posted 22 September 2012 - 04:44 PM
เราจำความรู้สึกของตัวเอง ณ วินาทีนั้นได้เลยล่ะ
มันทึ่งนะ ... ทึ่งกับความสามารถ ทึ่งกับความทุ่มเท ทึ่งกับความวิริยะ อุตสาหะ ของผู้คนบนผืนแผ่นดินแห่งนี้
Posted 22 September 2012 - 04:48 PM
ประตูที่เราเห็นตะกี๊ พอเดินลอดใต้ประตูปุ๊บ เลี้ยวขวาปั๊บ มันจะมีเดินดินให้เราเดินขึ้นไปข้างบนกำแพงได้
นี่เรายืนอยู่บนกำแพงแล้วนะ มองลงมาข้างล่าง รถยังติดยาวเหยียดเลย
Posted 22 September 2012 - 04:50 PM
เหลียวขวามาเจอกับหน้าพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรระยะประชิด
ไม่รู้ว่าเขาสรุปกันได้หรือยังเนอะ ว่าใบหน้าที่เห็นในนครธม และที่ปราสาทบายนนั้นเป็นใบหน้าของผู้ใดกันแน่
Posted 22 September 2012 - 04:54 PM
เดินลงมา ก็พบกว่าคุณพี่โชเฟอร์ขับรถมาจอดรถรออยู่แล้ว
แล้วคุณพี่แกก็มาเทกระจาดเราไว้ที่นี่ ... "ปราสาทบายน"
Posted 22 September 2012 - 05:00 PM
ที่เห็นกระดำ กระด่างอยู่นั่น เขากำลังบูรณะซ่อมแซมกันอยู่ค่ะ
เขาไปเอาหินชนิดเดียวกัน จากแหล่งเดียวกันกับที่คนเมื่อราว ๆ พันปีที่แล้วไปเอามา
นำมาแปะ ๆ แล้วสลัก ๆ เข้าไป
ความเห็นส่วนตัว : อิฉันไม่เห็นด้วยกับการทำเช่นนี้ เพราะมันคือการเอาวิทยาการสมัยใหม่ โดยคนยุคใหม่ เข้าไปรวมไว้กับของโบราณ
จริง ๆ แล้วเขาไม่น่าจะไปต่อเติมอะไรมันนะคะ บรรพบุรุษสร้างมาแค่ไหน ก็ให้อยู่แค่นั้น เพียงแต่รักษามันเอาไว้
ให้โบราณสถานเหล่านี้สามารถยืนหยัดอยู่บนแผ่นดินผืนนี้ไปได้อีกนาน ~นาน น่าจะดีกว่า
Posted 22 September 2012 - 05:09 PM
คุณไกด์เล่าว่า เนื่องจากชาวเขมรโบราณได้กระหน่ำสร้างปราสาทกันอย่างมากมาย
ทำให้หินคุณภาพดี ๆ ในพื้นที่โดยรอบถูกขุดขึ้นมาสร้างปราสาทไปเสียมากมาย
หินที่เหลือ ที่ทำมาสร้างปราสาทบายนจึงเป็นหินคุณภาพต่ำ
จึงเห็นว่า ณ ปัจจุบันมีตะไคร่ มีรา มีโน่นนี่นั่น ปรากฎอยู่บนเนื้อหินของปราสาทบายน
แต่ในมุมมองของอิฉัน รู้สึกว่ามันทำให้ปราสาทแห่งนี้ดูขลังขึ้นเป็นกองเลย
0 members, 0 guests, 0 anonymous users
ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Galileo (แสดงผล waiting list) | ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Amadeus (เแสดงเฉพาะที่นั่งว่าง) | |
ติดต่อเจ้าหน้าที่แผนก ตั๋วเครื่องบิน โทร 02-3737-555 / จันทร์ - ศุกร์ 09.00~18.00 น. // เสาร์ 09.00-16.00 น. |