สวัสดีกันอีกครั้งคร๊าฟฟฟ เนื่องจากวันหยุดที่ผ่านมาวันที่ 4-7 Feb 2010 ผมและพ้องเพื่อนในออฟฟิศคิดแพลนที่จะไปสุราบายา เพื่อที่จะไปดูภูเขาไฟที่ยังไม่ดับอันสวยงาม หลังจากที่พี่ที่ออฟฟิศคนหนึ่งเดินทางไปก่อนหน้านั้นแล้วมาเป่าหูว่า สวยมาก หนาวมาก ต่างๆนาๆ ผมจึงไม่รอช้ารีบคลิก Web Airasia เพื่อตรวจสอบค่าตั๋วปรากฎว่าได้ตั๋ว Return มาในราคา 1000 บาท/คน หลังจากที่กลับแล้ววันนี้จึงได้โอกาสมานำเสนอรีวิวภูเขาไฟโบรโม่ในรูปแบบที่ไกด์ธรรมดาไม่เที่ยวกันครับ เริ่มต้นเราไปรู้จักกับภูเขาไฟโบรโม่กันก่อนครับ
ภูเขาไฟโบรโม (Gunung Bromo) ภูเขาไฟโบรโมเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับสนิท หนึ่งในภูเขาไฟหลายๆ ลูกของเทือกเขา Tengger ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Bromo-Tengger-Semeru เมืองสุราบายา มีความสูงถึง 2,329 เมตร แต่ก็ยังไม่ใช่จุดที่สูงที่สุดของเทือกเขาแห่งนี้
ภูเขาไฟโบรโมเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว ที่มาดื่มด่ำบรรยากาศ และความงามของภูเขาไฟโบรโม ซึ่งสามารถเข้าไปถึงปากปล่องภูเขาไฟโบรโมได้ง่ายที่สุดกว่าภูเขาไฟลูกใกล้เคียงอื่นๆ เนื่องจากเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ จึงมีควันครุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา ทำให้ภูเขาไฟโบรโมได้รับสมยานามว่า "ลมหายใจเทพเจ้า"
กลุ่มควันจากภูเขาไฟโบรโมที่ล่องลอยจากปล่องด้านบนที่เป็นแอ่งกว้างคล้ายหลุม ทำให้ตัวภูเขาไฟโบรโมที่มีสัณฐานป้านเตี้ยดูคลุมเครือ กลายเป็นภาพประกอบด้านหลังให้กับภูเขาไฟบาตอก (Mount Batok) ที่ตั้งอยู่ด้านหน้า รูปทรงของภูเขาไฟบาตอกสมมาตร พูนสูงขึ้น มีรอยจีบย่นรอบ ๆ อันเกิดจากลาวาที่ไหลออกมายามปะทุระเบิด ทำให้แปลกตากว่าภูเขาทั่วไป ภูเขาไฟโบรโมมีสีเขียวอ่อนที่เกิดจากพันธุ์ไม้ที่ขึ้นปกคลุม ทำให้ภูเขาไฟบาตอกดูมีชีวิตชีวา อ่อนเยาว์ ท่ามกลางความหม่นเทาของผืนทรายและกลุ่มควัน ด้านหน้าบริเวณตีนภูเขาไฟโบรโม วัดฮินดูสีเข้มตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว… ขับเน้นให้ภาพที่เห็นเบื้องหน้าคล้ายดินแดนแห่งเทพเจ้า…
ทัศนียภาพปากปล่องภูเขาไฟที่คุกรุ่นของโบรโมยามรุ่งอรุณ สวยงามปานดินแดนแห่งสรวงสวรรค์ ยอดเขาที่อยู่ไกลสุดคือ กูนุง ซูเมรุ (Sumeru) ยอดเขาสูงสุดของอินโดนีเซีย ที่มีระดับความสูง 3,676 เมตร เป็นฉากหลัง
ประมาณตี 4 ผู้คนนักท่องเที่ยวต่างพากันเดินทางโดยรถจี๊ป บุกตะลุยฝ่าความมืดขึ้นเขาลงเขา ไปยังจุดชมวิวบนยอดเขา“พีนันจากัน” บนระดับความสูงราว 2,770 เมตร เมื่อถึงจุดชมทัศนียภาพปากปล่องจากระยะไกลเป็นจุดแรก สิ่งที่เห็นคือภาพภูเขาไฟสามลูกเรียงกันอยู่ตรงหน้า งามจับใจจนหายง่วงและลืมความเหนื่อยล้าจากการนั่งรถ
การเที่ยวชมกูนุงโบรโม ต้องเสียค่าธรรมเนียมเล็กน้อย เพราะตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ (ข้อมูลและรูปด้านบนจาก http://www.earththai...sia&topic=bromo)