0
19 กรกฎาคม 2555 - นาวาอากาศตรีประจักษ์ สัจจโสภณ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) กล่าวว่า “หลังจากการปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออก ด้านทิศเหนือ ของ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 1 แล้วเสร็จ วิทยุการบินฯ มีแนวทางการวางแผนการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ในช่วงที่มีการปรับปรุงทางวิ่งฝั่งตะวันออกของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 คือ มีการปรับวิธีปฏิบัติการจราจรทางอากาศบางส่วน โดยจะใช้ Runway 19L หรือทางวิ่งฝั่งตะวันออก สำหรับให้เครื่องบินทุกประเภททำการขึ้นเป็นหลัก ยกเว้น เครื่องบินที่ต้องทำการบินระยะไกล (long haul) ซึ่งจำเป็นต้องใช้ทางวิ่งมากกว่า 2,750 เมตร และไม่สามารถทำการวิ่งขึ้นได้ และในกรณีที่ต้องใช้ Runway 01R หรือทางวิ่งฝั่งตะวันออก สำหรับการลง ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขต่อไปนี้ คือ สภาพอากาศดี เป็นช่วงเวลากลางวัน ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก และต้องทำการลงแบบสามารถมองเห็นทางวิ่งด้วยสายตา ส่วน Runway 19R หรือทางวิ่งฝั่งตะวันตก จะใช้สำหรับให้เครื่องบินทุกประเภททำการลงเป็นหลัก ยกเว้น ให้เครื่องบินที่ต้องทำการบินระยะไกล (long haul) ซึ่งจำเป็นต้องใช้ทางวิ่งมากกว่า 2,750 เมตร สามารถทำการวิ่งขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม วิทยุการบินฯ จะดำเนินการบริหารจัดการจราจรทางอากาศอย่างเต็มความสามารถ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการบินในภาพรวม โดยยังคงคำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุด”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา วิทยุการบินฯ ได้วางแผนบริหารจัดการจราจรทางอากาศ โดยใช้ข้อมูลจากตารางการบินของสายการบิน (Airline flight schedule) และ Daily flight plan เพื่อนำมาวิเคราะห์และคาดการณ์สภาพการจราจรล่วงหน้าทุก 7 วัน นำมาบริหารจัดการจราจรทางอากาศให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาความล่าช้าของภาคอากาศ เนื่องจากขณะนี้มีปริมาณเที่ยวบินที่ขึ้นลงในแต่ละชั่วโมงมากเกินขีดความสามารถในการรองรับของทางวิ่ง นอกจากนี้ได้มีการใช้วิธีปฏิบัติ Gate hold procedures ในการจัดลำดับการวิ่งขึ้นของเครื่อง เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาความล่าช้าของภาคพื้นอีกด้วย ซึ่งวิทยุการบินฯ ได้ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลสถิติการให้บริการจราจรทางอากาศ ระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน – 15 กรกฎาคม 2555 พบว่า ค่าเฉลี่ยของการล่าช้าของภาคอากาศในช่วงเวลากลางคืนจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยการล่าช้าของภาคอากาศในช่วงเวลากลางวัน ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากในช่วงเวลากลางคืนมีสัดส่วนของเครื่องบินขาเข้ามาลงสูงกว่าเครื่องบินขาออก อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่ทำให้เกิดการ Delay เช่น ปัญหาพื้นผิวทางวิ่งหรือทางขับชำรุด ปัญหาจากสภาพอากาศ และปัจจัยอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งการประสานงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ระหว่างวิทยุการบินฯ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) กรมการบินพลเรือน และสายการบินฯ จะช่วยลดปัญหาความล่าช้าดังกล่าว
Attached Thumbnails
