Jump to content



 
จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จองรถเช่า
แผนกบริการลูกค้า โทร 02-3737-555 จันทร์ - เสาร์ 09.00-18.00น.

 

ค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวและการบินในเอชไฟล์ท เชิญด้านล่างนี้

หน้าแรก | เว็บบอร์ดรีวิว | จองตั๋วเครื่องบิน | จองโรงแรม | เที่ยวต่างประเทศ | เที่ยวในประเทศ | ลงโฆษณา

[CR peter]ดำน้ำลึก หมู่เกาะสิมิลัน, ริเชริว ผั่งอันดามันเหนือ ฯลฯ 20-24พ.ย.54


  • Please log in to reply
50 replies to this topic

#21 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

 


Posted 04 July 2012 - 07:49 PM

Advertisements

Posted Image

Posted Image
ปลา ? รอบปะการังเขากวาง

  • Liameboyroire likes this


Advertisements

#22 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 07:50 PM

Posted Image

Posted Image
:rolleyes:

#23 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 07:50 PM

Posted Image

Posted Image
ดำลึก ลัดเลาะไปในล่องเขาเรียบหน้าผา

#24 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 07:52 PM

Posted Image
กัลปังหา สัตว์ทะเลชนิดหนึ่ง
ถึงแม้เมื่อมองผ่านๆ กัลปังหาจะดูเหมือนต้นไม้แต่จริงๆ ถูกจัดเป็นสัตว์ทะเลชนิดหนึ่งที่ไม่มีกระดูกสันหลัง กัลปังหาสามารถสืบพันธุ์ได้ทั้งแบบอาศัยเพศและไม่อาศัยเพศ โดยการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศจะใช้วิธีการแตกหน่อ (budding) หรือการแยกออกจากกัน (fragmentation) ส่วนการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศจะเป็นการผสมภายในระหว่างเซลสืบพันธุ์ของเพศผู้และเพศเมีย กัลปังหาชอบอาศัยอยู่ตามที่มีกระแสน้ำไหล เนื่องจากกระแสน้ำจะช่วยพัดพาอาหารมาให้และจะช่วยพัดพาของเสียที่ถูกปล่อยออกจากกัลปังหาออกไป โดยกัลปังหาจะใช้หนวดในการดักจับสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเพื่อนำมาเป็นอาหารส่วนเข็มพิษที่หนวดจะช่วยในการจับพวกแพลงก์ตอนสัตว์ กัลปังหามีประโยชน์โดยเป็นแหล่งที่อาศัยของสัตว์ทะเลขนาดเล็กหลายชนิดโดยสัตว์เหล่านี้จะเกาะตามกิ่งก้านและนอกจากนี้กัลปังหาสามารถใช้เป็นสมุนไพรตามความเชื่อของชาวจีนโบราณ

Posted Image

กัลปังหาจัดเป็นสัตว์ที่มีเข็มพิษจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับปะการังอ่อน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใกล้เคียงกับปะการัง โดยกัลปังหาที่เราเห็นเป็นต้นหรือเป็นกอขนาดใหญ่นั้นหาใช้ตัวของมันจริงๆ ไม่ แท้จริงแล้วตัวของมันมีขนาดเล็กมากขนาดประมาณครึ่งเซนติเมตรเห็นจะได้ โดยอาศัยอยู่ร่วมกันนับหมื่นนับล้านตัวในกอหรือต้นเดียวกันหรือที่เรียกว่า อยู่ร่วมกันเป็นโคโลนี นอกจากนี้ บางคนอาจเคยได้ยินคำบอกเล่าในเรื่องของความเชื่อที่มีการนำกัลปังหามาทำเป็น เครื่องรางของขลัง โดยนำมาทำเป็นเครื่องประดับ เพื่อป้องกันสิ่งร้ายโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่นเดียวกับหินแร่หลายชนิด ซึ่งก็อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้กัลปังหาในท้องทะเลบ้านเราลดจำนวนลง นอกเหนือจากถูกทำลายโดยเหล่าอวนลากของเรือประมงที่ครูดไปตามหน้าดิน

โดยปกติกัลปังหามักอาศัยอยู่บริเวณน้ำลึกและมีกระแสน้ำค่อนข้างแรง การที่อยู่ในน้ำลึกนั้นทำให้กัลปังหาส่วนใหญ่มีการปรับตัวให้มีสีสันออกแดงๆ หรือใกล้เคียง เพื่ออำพรางตัวเอง เนื่องจากแสงสีแดงที่ผ่านเข้าไปในมวลน้ำนั้นจะถูกดูดกลืนไปหมดเสียก่อนที่ บริเวณผิวน้ำ ดังนั้น เมื่อไม่มีแสงสีแดงส่องไปกระทบกับตัวที่มีสีแดงของมันก็ทำให้ศัตรูหรือแม้ แต่คนเรามองเห็นกัลปังหาเป็นสีดำๆ ทมึนๆ แต่ถ้าหยิบไฟฉายมาส่อง หรือนำขึ้นมาที่ตื้นหรือเหนือน้ำแล้ว สีแดงๆ เหล่านี้จะปรากฏออกมาให้เห็นการศึกษากัลปังหาในน่านน้ำบ้านเรายังมีน้อย โดยศึกษาในระดับความลึกไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม ในประเทศญี่ปุ่นมีรายงานการพบกัลปังหาที่ระดับความลึกมากกว่า 500 เมตร หลายชนิด

#25 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 07:53 PM

Posted Image

Posted Image
ปลา? ขนาด 2 ซม. สวยงามมาก ไม่เคยเห็นมาก่อน ครูเตี้ยชี้ให้ถ่ายรูป

#26 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 07:53 PM

Posted Image
:rolleyes:

#27 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 07:54 PM

Posted Image


Posted Image
ดอกไม้ทะเลหรือซีแอนนีโมนี่ (sea anemone) ไม่ใช่พืช แต่เป็นสัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลังกลุ่มหนึ่ง จัดอยู่ในไฟลั่มไนดาเรีย (Phylum Cnidaria) คล้าสแอนโธซัว (Class Anthozoa) และออร์เดอร์ แอคตินีอาเรีย (Order Actiniaria) มีหลายครอบครัว ทั่วโลกพบมากกว่า ๑,๐๐๐ ชนิด ในแต่ละชนิดจะมีลักษณะของหนวดแตกต่างกัน อาศัยเกาะตามพื้นหินหรือทรายที่มั่นคง พบเพียง ๑๐ ชนิดเท่านั้นที่ปลาการ์ตูนใช้อาศัยได้

อาวุธที่สำคัญของดอกไม้ทะเลคือเข็มพิษที่เรียกว่า นีมาโตสิสท์ (nematocyst) ซึ่งจะอยู่ตามบริเวณหนวดใช้สำหรับป้องกันตัวและจับเหยื่อ การที่ปลาการ์ตูนไม่เป็นอันตรายนั้น เนื่องจากดอกไม้ทะเลต้องสร้างเมือกบางชนิดออกมาเพื่อป้องกันตัวมันเองจากเข็มพิษที่มันปล่อยออกมาเช่นกัน ปลาการ์ตูนจะว่ายไปที่ฐานของดอกไม้ทะเลแล้วเอาลำตัวถูกับเมือกเหล่านี้ให้ติดตัว ทำให้เข็มพิษไม่สามารถทำอันตรายได้

ปลาการ์ตูน ดอกไม้ทะเลและสาหร่ายซูแซนธาลลี่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข โดยปลาการ์ตูนเป็นสัตว์ที่มีพฤติกรรมหวงถิ่น มันจึงช่วยไล่ปลาผีเสื้อปากยาวที่ชอบมากินดอกไม้ทะเล ในขณะเดียวกันมันก็จะหลบภัยจากสัตว์อื่นโดยว่ายเข้าไปอยู่บริเวณหนวดของดอกไม้ทะเลที่มีเข็มพิษเป็นอาวุธ ส่วนสาหร่ายนั้นจะทำการสังเคราะห์แสงเพื่อผลิตน้ำตาลและกรดอินทรีย์ให้กับดอกไม้ทะเล ในขณะเดียวกันดอกไม้ทะเลจะผลิตกรดอะมิโนที่สาหร่ายนำไปใช้ประโยชน์ได้

#28 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 07:54 PM

Posted Image

Posted Image
ปลาสิงโต (Lionfish) ที่มีครีบยาวเด่นมีสีสันสวยงาม ซึ่งเป็นปลาที่มีพิษร้ายแรงและมีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้อย่างดียิ่ง ซึ่งปลาสิงโตนั้นชอบว่ายน้ำไปมาอยู่ตามแนวปะการังหรือใกล้ๆกับพื้นทราย มันพัฒนาก้านครีบให้ยื่นยาวโดดเด่นออกมาจากลำตัวเป็นเสมือนการพัฒนาอาวุธป้องกันตัวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

#29 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 07:55 PM

Posted Image
ปลาสิงโต มันจะลอยตัวนิ่ง ๆ เคลื่อนไหวช้า ๆ เพราะไม่ต้องว่ายน้ำหนีใคร ด้วยไม่มีใครไม่ว่าจะเป็นปลาใหญ่ขนาดไหนกล้าแตะต้อง และอาการลอยตัวนิ่ง ๆ ดูท่าทางสงบเสงี่ยมของมัน ก็มักจะทำให้ฝูงปลาเล็กอย่างปลาชิงชั้ง ปลาหัวกระจกตัวเล็ก ๆ ตายใจ ว่ายเข้ามาใกล้ให้เจ้าปลาสิงโตฮุบเข้าปากอย่างรวดเร็ว — ที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

#30 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 07:56 PM

Posted Image

ปลาหิน (Stonefish) ซึ่งล้วนเป็นปลาที่มีเข็มพิษที่ไม่มีผู้รุกรานหน้าไหนอยากเข้าไปแตะต้อง โดยเจ้าปลาแมงป่องกับปลาหินนั้น มักมีรูปร่างหน้าตาและสีสันที่ดูกลมกลืนกับก้อนหิน หรือแนวปะการัง ชอบพรางตัวคอยซุ่มจับเหยื่ออยู่นิ่ง ๆ บนพื้นหิน

โดยปลาหินนั้นได้ชื่อว่ามีพิษร้ายแรงที่สุดในบรรดาญาติพี่น้องในตระกูลเลยทีเดียว ซึ่งเมื่อมันพรางตัวจนกลมกลืนกับพื้นหิน ลานปะการัง และเกาะตัวอยู่นิ่งๆ นักดำน้ำมือใหม่ๆจึงมักจะมองไม่ค่อยเห็นหรือไม่ทันได้สังเกต เมื่อดำน้ำไปเจอกระแสน้ำ หรือต้องการจะเกาะยึดจับก้อนหินจึงอาจจะไปคว้าเจ้าปลาแมงป่องหรือปลาหินเข้าเต็มไม้เต็มมือ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิดว่าผลจะเป็นเช่นใด เพราะทั้งปลาหินและปลาแมงป่องนั้นจะมีพิษร้ายแรงอยู่ที่ก้านครีบโดยเฉพาะครีบแหลมที่บนหลัง ครีบข้างลำตัว ครีบพิษเหล่านี้ไม่ได้มีไว้สำหรับการทิ่มแทงเหยื่อ แต่เพื่อป้องกันตัวจากการถูกรุกราน เพราะเมื่อตกใจมันจะสะบัดครีบทิ่มแทงผู้รุกราน เมื่อครีบทิ่มแทงเข้าไปในเนื้อ หนังหุ้มครีบจะลอกออก ต่อมพิษก็จะทำการฉีดพิษเข้าไปในบาดแผลผู้รุกราน พิษร้ายแรงนี้จะสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้เคราะห์ร้ายอย่างแสนสาหัส ถ้าผู้เคราะห์ร้ายเกิดอาการแพ้ก็ยิ่งจะมีอาการเจ็บปวดและอาจทำให้ระบบต่างๆของร่างกาย เช่นระบบประสาท ระบบการเต้นของหัวใจล้มเหลวซึ่งจะเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ในส่วนของผู้บาดเจ็บทั่วไปอาจจะมีอาการเจ็บปวดนานราว 24 ชั่วโมงแล้วอาการก็จะทุเลาลง ในขณะที่บางรายอาจจะมีอาการเจ็บปวดนานหลายวัน สำหรับการรักษาพยาบาลเบื้องต้นนั้น จะต้องรีบนำผู้ป่วยขึ้นจากน้ำอย่างรวดเร็ว จากนั้นรีบชำระล้างทำความสะอาดบาดแผล แล้วใช้น้ำอุ่นที่ค่อนข้างร้อนเท่าที่ผู้ป่วยจะทนได้ ประคบหรือแช่เพื่อทำลายพิษ หรืออาจจะใช้ไดเป่าผมเป่าลมร้อนที่บาดแผลเพื่อสลายพิษ เพราะพิษของปลาชนิดนี้เป็นสารประกอบโปรตีนที่จะสลายตัวเมื่อถูกความร้อน ขณะรักษาพยาบาลอาจให้ผู้ป่วยกินยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวดควบคู่ไปด้วย — ที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

#31 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 07:59 PM

Posted Image
หมึก กระ ดอง ลายเสือ (อังกฤษ: Pharaoh Cuttlefish, ชื่อวิทยาศาสตร์: Sepia pharaonis) หรือ หมึกหน้าดิน หรือ หมึกแม่ไก่ มีหนวด 10 เส้น ลักษณะตัวแบนใหญ่สีขาว หมึก กระดอง เป็นหมึกที่อาศัยอยู่ตามหน้าดิน ปกติจะนอนหรือฝังตัวอยู่ตามหน้าดิน เช่นเดียวกับสัตว์น้ำประเภท กุ้ง ปู และปลาหน้าดินชนิดต่าง ๆ ซึ่งเป็นอาหารของหมึกกลุ่มนี้ หมึก กระ ดอง เป็นสัตว์น้ำที่ชอบน้ำใสไม่มีตะกอนรบกวนระบบหายใจ หมึ กระดอง บางชนิด เช่น หมึก กระดอง ก้นไหม้ (Sepiella inermis) อาจจะทนทานต่อน้ำที่มีความขุ่นสูง โตเต็มที่อาจยาวได้ถึง 42 เซนติเมตร น้ำหนัก 5 กิโลกรัม นับเป็นหมึก กระ ดอง ชนิดหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ พบทั่วไปในมหาสมุทรอินเดีย, อ่าวเปอร์เซีย, ทะเลแดง ตลอดจนอ่าวไทยและทะเลอันดามัน หากินในเวลากลางคืน โดย อาหารได้แก่ สัตว์มีเปลือกและ กระ ดอง ชนิดต่าง ๆ รวมทั้งหมึกด้วยกันเองที่มีขนาดเล็กกว่า วงจรชีวิตไม่ยาวนานนัก โดยหมึกตัวเมียจะมีอายุราว 240 วัน หลังจากเติบโตเต็มที่ก็จะผสมพันธุ์และวางไข่ จากนั้นหมึกตัวเมียก็จะตายลง ในขณะที่หมึกตัวผู้จะมีอายุยาวนานกว่า

กำลังจะผสมพันธ์กันครับ มีเพือนนักดำน้ำระดับมืออาชีพชาวสเปนถ่ายวีดีโอ และส่องไฟฉายมาที่หมึก กระ ดอง

Posted Image
การผสมพันธุ์ของหมึก กระ ดอง หมึกทั้งสองเพศจะว่ายนน้ำคลอเคลียกันไปมา อาจะสลับเปลี่ยนสีลำตัวไปด้วยอย่างรวดเร็ว จากนั้นจะหันหน้ามาแนบชิดกัน แล้วใช้หนวดโอบกอดสอดประสาน หมึกเพศผู้จะใช้หนวดยาวคู่พิเศษล้วงเอาถุงสเปิร์มในลำตัวสอดเข้าไปเก็บไว้ในลำตัวของหมึกเพศเมียเพื่อผสมกับไข่ หมึก กระ ดอง จับคู่กันราว 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นหมึกเพศเมียก็เริ่มวางไข่ โดยใช้หนวดนำไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจากภายในออกมา ค่อย ๆ บรรจงยื่นไปวางติดกับวัสดุใต้นเประเภทต่าง ๆ เช่น หินหรือปะการังหรือกัลปังหา จำนวนไข่ที่วางครั้งหนึ่งอาจมีมากถึง 900-2,700 ฟอง ซึ่งหมึกเพศเมียต้องใช้เวลายาวนานหลายวัน ในขณะที่หมึกเพศผู้ก็จะว่ายคลอเคลียไม่จากไปไหน เพื่อคอยป้องกันภัยและป้องกันหมึก กระ ดอง เพศผู้ตัวอื่นด้วยที่อาจมาชิงผสมพันธุ์กับเพศเมียตัดหน้า

#32 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 08:00 PM

Posted Image
ว่ายไปสักพักก็เจอ ไข่ปลาหมึกที่ได้รับการผสมพันธ์เรียบร้อยแล้ว

#33 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 08:01 PM

Posted Image
ปลาไหลมอเรย์ ลายหินอ่อน : Laced Moray Eel : Gymnothorax favagineus (Laced = ลายลูกไม้)

Posted Image
ปลาไหลมอเรย์

#34 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 08:03 PM

Posted Image

Posted Image

Posted Image
ปลาไหลมอเรย์ตาขาว

#35 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 08:04 PM

Posted Image
Giant Moray eels

#36 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 08:04 PM

Posted Image

Posted Image
การดำน้ำในทะเลอันดามันมักจะพบทากทะเลหลากชนิด และก็มีชนิดแปลกใหม่ให้พบและตื่นเต้นกัน

#37 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 08:06 PM

Posted Image
ทากทะเลเป็นสัตว์ขนาดเล็ก แต่มีความสวยงามมาก เป็นที่สนใจของนักดำน้ำและผู้ที่สนใจเกี่ยวกับทะเลทั่วไป

Posted Image

โดยปกติทากเปลือยมีรูปร่างลักษณะที่หลากหลาย และมีสีสันสวยสดงดงาม จึงเป็นที่ดึงดูดสำหรับบรรดานักถ่ายภาพใต้น้ำ สีสันเหล่านี้บ่งบอกถึงความเป็นพิษที่สะสมอยู่ในตัวของมัน เนื่องจากทากเปลือยไม่มีโครงสร้างแข็งปกคลุมลำตัวที่อ่อนนิ่ม สารพิษที่สะสมอยู่นั้นจึงเป็นเสมือนเครื่องมือปกป้องจากการถูกล่าของสัตว์อื่น

ทากเปลือยโดยทั่วไปมีอายุไม่เกินหนึ่งปี มีบางชนิดที่หลังจากวางไข่แล้วก็จะตายทันที ขนาดโตเต็มวัยมีตั้งแต่ขนาดเล็กประมาณ 1 เซนติเมตร จนถึงขนาด 23 เซนติเมตร อาหารของทากเปลือยแต่ละชนิดแตกต่างกัน ส่วนใหญ่เป็นพวกฟองน้ำ ไฮดรอยด์ สาหร่ายทะเล ดอกไม้ทะเล หรือแม้กระทั่งปะการัง โดยสามารถพบทากเปลือยได้ตั้งแต่ในเขตน้ำขึ้นน้ำลงจนกระทั่งลึกลงไปถึง 1,000 เมตร นอกจากนั้นแล้วยังพบทากเปลือยได้ในระบบนิเวศอันหลากหลายๆ เช่น บริเวณป่าชายเลน หาดทราย หาดหิน แหล่งหญ้าทะเล แนวปะการัง และกลางทะเลลึก

#38 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 08:06 PM

Posted Image
ทากเปลือยมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่ของอาหารในทะเล เช่น ช่วยควบคุมการกระจายของชนิดพันธุ์ต่างถิ่นจำพวกไบรโอซัว (Bryozoa) ในทะเลได้ นอกจากนั้นแล้วในปัจจุบันพบว่าทากเปลือยบางชนิดสามารถสร้างสารผลิตภัณฑ์ธรรมชาติทางทะเลซึ่งมีฤทธิ์ทางชีวภาพเป็น “สารต้านมะเร็ง” โดย ทากเปลือยโจรันนา Jorunna funebris ที่พบกระจายในน่านน้ำไทย ซึ่งกินฟองน้ำสีน้ำเงินเป็นอาหาร สามารถสร้างสารที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งได้ และในขณะนี้ภาควิชาเภสัชเวช คณะเภสัชศาสตร์ ร่วมกับภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กำลังดำเนินการศึกษาอยู่

#39 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 08:07 PM

Posted Image
หมึก หรือที่นิยมเรียกกันในภาษาไทยว่า ปลาหมึก เป็นสัตว์ทะเลที่ไม่มีกระดูกสันหลัง ที่มีขนาดใหญ่ เคลื่อนที่ได้รวดเร็ว และว่องไว มีหนวดรอบปาก 4-5 คู่ บนหนวดมีปุ่มดูดเรียงเป็นแถว มีหน้าที่จับเหยื่อป้อนเข้าปาก

การเคลื่อนที่ของหมึกจะใช้วิธีขับน้ำจากบริเวณส่วนในของลำตัวผ่านออกทางท่อที่อยู่ใกล้ ๆ หัว จึงทำให้เกิดแรงดันตัวให้พุ่งไปอีกด้านหนึ่ง ขณะเคลื่อนที่จะลู่หนวดตัวเองไว้เพื่อไม่ให้ต้านน้ำ นอกจากนี้แล้วหมึกยังมีอวัยวะที่ช่วยในการพยุงตัวที่เรียกว่า Statocyst ซึ่งหลักการทำงานเหมือนกับแท่งกระดูกในหูของมนุษย์ที่ช่วยในการทรงตัว จึงช่วยให้หมึกสามารถพุ่งไปในทิศทางต่าง ๆ ได้ทั้งขึ้นและลง นอกจากนี้แล้วยังมีสิ่งที่คล้ายกับกระดูกอ่อนที่เรียกว่า Statolith จะอยู่ในระหว่างเซลล์ประสาทแบบขน ซึ่งในกลุ่มหมึกกล้วยจะมีอวัยวะส่วนนี้วิวัฒนาการถึงขีดสุด นับว่าได้ว่า หมึกยังเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังกลุ่มเดียวในโลกที่มีอวัยวะช่วยในการทรงตัว — ที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน

#40 peter

peter

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 3,715 posts
  • Locationbangkok thailand

Posted 04 July 2012 - 08:08 PM

Posted Image
การหายใจของหมึก

หมึกจะมีจังหวะการยืดหดตัวของผนังลำตัว ที่จะกระตุ้นการดูดน้ำเข้าและขับน้ำออก น้ำที่มีออกซิเจนจะให้ไหลผ่านเหงือกตลอดเวลา โดยการทำงานร่วมกันของกล้ามเนื้อลำตัว ช่องตัวและลิ้นปิดเปิด มีการทดลองพวกหมึก****งในสกุล Sepia ในภาวะปกติ จะมีอัตราการหายใจเข้า 55 ครั้งต่อนาที การหายใจจะเพิ่มขึ้นเมื่อถูกกระตุ้นหรือระหว่างการเคลื่อนที่ก็จะมีการยืดหดตัวอย่างแรง

หนวดหมึกนั้น นอกจากใช้จับเหยื่อแล้วยังใช้เพื่อข่มขู่และต่อสู้อีกด้วย เมื่อหมึกชูหนวดคู่หน้าที่ยาวกว่าหนวดอื่น หมายความว่า มันพร้อมที่จะสู้ ซึ่งหมึกโดยเฉพาะตัวผู้มักจะต่อสู้กัน เพื่อแย่งตัวเมียและปกป้องอาณาเขตหากิน สมองและการมองเห็นของหมึกนั้นวิวัฒนาการมาดีที่สุดในบรรดาสัตว์ไม่มีกระดูกสั้นหลังทั้งหมด ระบบประสาทเมื่อเทียบกับมนุษย์แล้วถือว่าดีกว่าถึง 50 เท่า
หมึกเมื่อจะล่าเหยื่อ จะเริ่มต้นด้วยการจ้องเหยื่อก่อน และกะระยะให้พอดีที่จะจู่โจมเข้าใส่ ซึ่งหมึกจะใช้หนวดที่แข็งแรงมัดรัดเหยื่อไว้ก่อนที่จะใช้ขากรรไกรที่แข็งแรงและคมเหมือนปากนกแก้ว ฉีกกัดเหยื่อ นอกจากนี้แล้วในน้ำลายของหมึกยังมีสารเคมีที่เรียกว่า Chephalotoxin ซึ่งมีเฉพาะในกลุ่มหมึกยักษ์และหมึก กระ ดอง เท่านั้น ซึ่งส่งผลต่อระบบประสาทในสัตว์จำพวกกุ้งปูเท่านั้น เพื่อตกเป็นอาหารตามธรรมชาติของหมึก แต่ทว่าในหมึกน้ำลึกบางชนิดก็ไม่มีน้ำหมึกที่ว่านี้
นอกจากนี้แล้ว หมึกในสกุล หมึกสายวงน้ำเงิน (Hapalochlaena spp.) ซึ่งเป็นหมึกในกลุ่ม หมึกยักษ์หรือหมึกสาย เป็นหมึกขนาดเล็กกว่า แต่ทว่าในน้ำลายมีพิษที่ร้ายแรงมาก เทียบเท่ากับพิษของงูเห่า 20 ตัวเลยทีเดียว[2]
โดยมากแล้ว หมึกจะใช้เวลากลางคืนออกหาอาหาร ส่วนกลางวันนั้นใช้พักผ่อนนอนหลับ หมึกทุกชนิดเป็นสัตว์กินเนื้อ โดยจะออกล่าเหยื่อที่เป็นสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ เป็นอาหาร ไม่เว้นแม้แต่กระทั่งหมึกด้วยกันเอง — ที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน




1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users

ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Galileo (แสดงผล waiting list)     ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Amadeus (เแสดงเฉพาะที่นั่งว่าง)
   
    ติดต่อเจ้าหน้าที่แผนก ตั๋วเครื่องบิน โทร 02-3737-555 / จันทร์ - ศุกร์ 09.00~18.00 น. // เสาร์ 09.00-16.00 น.