53 replies to this topic

[auvila]

Advertisements

สวัสดีค่าทุกคน .... เคยไม๊คะที่ขับรถผ่านที่ใดที่หนึ่งหลายๆครั้งแต่ไม่เคยแวะเข้าไปทำความรู้จักที่แห่งนั้นจริงๆจังๆเลยซักครั้ง

...... บางครั้งได้แค่หยุดแวะซื้อของ

...... บางครั้งได้แค่หยุดแวะเข้าห้องน้ำ

โดยที่ไม่เคยคิดจะทำความรู้จักสถานที่แห่งนั้นเลยซักนิด


จังหวัดชุมพรก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เป็นแบบนั้น ค่ะ เรามักมองข้ามผ่านจังหวัดนี้ไป ได้แค่อาศัยชุมพรเป็นทางผ่านในการขับรถลงไปจังหวัดทางภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นภูเก็ต ....สุราษฎธานี …. และจังหวัดอื่นๆทั้งหลายแหล่

เราก็ได้แต่มานั่งสงสัยว่า จังหวัดผอมๆยาวๆที่ปรากฎอยู่บนด้ามขวานของประเทศไทยนี้มีอะไรซ่อนอยู่บ้างหนอ

จนมีโอกาสวันหนึ่งในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่สภาพอากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน เราจะได้ไปค้นหาความเป็นชุมพรกัน

ถ้าพร้อมที่จะไปค้นหาชุมพรด้วยกัน กระโดดขึ้นรถมาเลยค่า

[auvila]

ชุมพร เป็นจังหวัดที่เรียกว่าเป็นประตูสู่ภาคใต้ ถือเป็นจังหวัดแรกของภาคใต้ตอนบนฝั่งอ่าวไทย มีรูปพื้นที่เรียวยาวตามแนวเหนือ-ใต้ มีความยาวประมาณ 222 กิโลเมตร



คำขวัญของจังหวัดชุมพรคือ “ชุมพรประตูภาคใต้ ไหว้เสด็จในกรม ชมไร่กาแฟและหาดทรายรี ดีกล้วยเล็บมือ ขึ้นชื่อรังนก “





ปล.จุดที่วงแดงๆเป็นบริเวณที่เราจะไปเที่ยวกันในทริปนี้ค่ะ

[auvila]

ชุมพรอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ระยะทางประมาณ 498 กิโลเมตร มีวิธีการเดินทางไปยัง จ.ชุมพร ได้หลายรูปแบบด้วยกันคือ


วิธีที่ 1 โดยขับรถยนต์ส่วนตัวไปเอง
การเดินทางไปยัง จ.ชุมพรโดยขับรถยนต์ส่วนตัวไปเองนั้นให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 เส้นทางธนบุรี-ปากท่อ แล้วแยกที่ อ.ปากท่อ เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จนถึงสี่แยกปฐมพร จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ตัวเมืองชุมพรตามทางหลวงหมายเลข 4001 อีกประมาณ 8 กม. ก็ถึงตัวอำเภอเมืองชุมพรแล้วค่ะ


วิธีที่ 2 โดยทางรถไฟ
ถ้าคุณรู้ตัวว่าเป็นคนขี้เกียจขับรถระยะทางไกล ๆ คุณอาจเปลี่ยนบรรยากาศมาใช้บริการของรถไฟดูบ้าง เพราะการเดินทาง โดยรถไฟจะสะดวกสบายกว่า บางครั้งอาจล่าช้าไปบ้าง แต่ก็ต้องให้อภัยเพราะรถไฟเส้นทางสายใต้มีหลายขบวน อาจจะเสียเวลารอคอยสับหลีกเปลี่ยนรางกันบาง รถไฟเส้นทางสายใต้วิ่งผ่าน จ.ชุมพร ทุกขบวน สำหรับระยะทาง 485 กม. มีทั้งรถธรรมดาและปรับอากาศ
จาก สถานีรถไฟ หัวลำโพง มีรถเร็ว และ รถด่วน ไปจังหวัดชุมพร ทุกวัน รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 02-223-7010, 02-223-7020 หรือที่ สถานีชุมพร โทร. (077) 511103
จาก สถานีรถไฟ ธนบุรี (บางกอกน้อย) มีขบวน รถดีเซลรางไปจังหวัดชุมพร ทุกวัน รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 02-411-3102
เราเองห่างไกลจากการเดินทางด้วยรถไฟมาหลายสิบปีแล้ว ต้องหาโอกาสลองซักครั้ง

วิธีที่ 3 เดินทางโดยรถโดยสารประจำทางกรุงเทพฯ - ชุมพร
การเดินทางสู่ จ.ชุมพร สำหรับผู้ที่อยู่ในกรุงเทพฯ เห็นจะหนีไม่พ้นเริ่มต้นกันที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ก่อน สำหรับรถโดยสารที่เดินทางไปยัง จ.ชุมพรนั้น มีรถโดยสารประจำทางทั้งของรัฐบาลและเอกชนบริษัทต่าง ๆ ให้เลือกใช้บริการ ดังนี้
มี รถโดยสาร ธรรมดา ของ บริษัทขนส่ง จำกัด ออกจาก สถานีขนส่งสายใต้ ไปชุมพร ทุกวัน รายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อที่ฝ่าย ประชาสัมพันธ์ สถานีขนส่งสายใต้ โทร. 02-435-1200, 02-434-7192 สำหรับเที่ยวกลับจาก ชุมพร เข้า กรุงเทพ ขึ้นรถได้ที่สถานี บ.ข.ส. ชุมพร ถนนท่าตะเภา โทร. (077) 502725 สำหรับ รถโดยสารปรับอากาศ ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

1. บริษัท โชคอนันต์ทัวร์ โทร. 02-435-0279, 02-435-7429 ที่สถานีชุมพร โทร. (077) 511480

2. บริษัท สุวรรณนทีทัวร์ โทร. 02-435-5026 ที่สถานีชุมพร โทร. (077) 511422


วิธีที่ 4 โดยทางเครื่องบิน
ในจังหวัดชุมพรมีสนามบินสายการบิน ตั้งอยู่ที่ อ.ปะทิว ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 40 กม. มีเครื่องบินของสายการบิน โซล่าร์แอร์ เปิดให้บริการทุกวันค่ะ
สำหรับอัตราค่าโดยสาร เที่ยวละ 2,900 บาท/ท่าน
ไป-กลับ 5,800 บาท/ท่าน
ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ สายการบินโซล่าร์แอร์ ติดต่อสอบถามการบริการ และ ข้อมูล Tel: 02-535-2455-6, 02-535-2448-9 Mobile:082-103-5656 , 089-896-9556 , 081-810-9556 FAX: 02-535-2450



ทริปนี้เราใช้วิธีขับรถไปกันค่ะ ถ้าขับไปแบบไม่แวะลั้ลลาที่ไหนนอกจากเติมน้ำมันกับทานข้าวแบบง่ายๆน่าจะใช้เวลาซัก 6 ชั่วโมงนะคะ แต่ทริปนี้เราเลือกที่จะแวะพักกันที่กุยบุรีกันก่อน ขออนุญาตมารีวิวที่พักที่กุยบุรีวันหลังค่ะ


......... เรามาถึงชุมพรในตอนเที่ยงๆ บ่ายๆ สังเกตุท้องฟ้าและบรรยากาศ จะครึ้มกันไปไหนคะ....

[auvila]

ตั้งใจมาจากบ้านแล้วว่ามาจังหวัดชุมพรต้องไปกราบกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ก่อนไปไหนทุกที่ เราขับรถกันไปเรื่อยๆ กะกันว่าดูป้ายเอาน่าจะหาไม่ยาก แต่เนื่องจากถนนขับลงชุมพรเป็นเส้นยาวไปเรื่อยๆจนชักหวั่นใจว่าจะเลย แวะถามคนท้องถิ่นได้ความว่าให้ไปตามป้ายปากน้ำชุมพร เดี๋ยวจะมีป้ายบอกทางไปกราบกรมหลวงชุมพรฯเองค่ะ

[auvila]

ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

พระบิดาแห่งทหารเรือไทย พระองค์ท่านเป็นที่เคารพรักของเหล่าทหารเรือ ชาวประมง และประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะชาวชุมพรนั้นกล่าวได้ว่า แทบทุกบ้านจะมีพระรูปของพระองค์ท่านไว้บูชา ด้วยทรงเป็นที่เคารพศรัทธายิ่งจนมีพระสมัญญาว่า "เสด็จเตี่ย"


กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ทรงเป็นพระเจ้าลูกยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้สเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ประสูติเมื่อ วันที่ 19 ธ.ค. 2423 พระนามเดินมว่า พระองค์เจ้าชายอาภากรเกียรติวงศ์ทรงเข้ารับการศึกษาเบื้องต้นในพระบรมมหาราชวัง และเป็นนักเรียนโรงเรียนหลวง ณ พระตำหนักสวนกุหลาบอยู่จนถึงโสกันต์


ในปี พ.ศ.2436 เมื่อพระชนมายุได้ 13 พรรษาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เสด็จไปทรงศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ และทรงศึกษาต่อในวิชาการทหารเรือ ทรงสอบผ่านหลักสูตรชั้นสูงสุดของโรงเรียนนายเรืออังกฤษ จากนั้นจึงเสด็จนิวัติสู้สยาม


ในปี พ.ศ.2447 ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาอิสริยยศขึ้นเป็นพระองค์เจ้าต่างกรม มีพระนามตามพระสุพรรณบัฏว่า พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นชุมพรเขตรอุดมศักดิ์สิงหนาม ขณะที่ดำรงตำแหน่งเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ ทรงดำริถึงการปรับปรุงกิจการทหารเรือ โดยทหารเรือสยามควรปฏิบัติงานแทนนายทหารเรือต่างชาติที่ราชสำนักสยามจ้างไว้ได้ อันถือเป็นการวางรากฐานวิชาการทหารเรือตามแบบตะวันตกเป็นครั้งแรกในสยาม


และในปี พ.ศ. 2448 ทรงกราบทูลพระราชบิดาเพื่อขอพระราชทานที่ดินในการจัดตั้งโรงเรียนนายเรือที่บริเวณพระราชวังเดิม ฝั่งธนบุรี หลังจากนั้นได้ก่อตั้งโรงเรียนพลทหารเรือในเขตจังหวัดชายทะเล เช่น สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สมุทรปราการ จันทบุรี ระยอง และชลบุรี

เมื่อครั้งที่ทรงดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือในปี พ.ศ. 2465 ได้กราบบังคมทูลพระราชบิดาขอพระราชทานที่ดินบริเวณ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อตั้งเป็นฐานทัพเรือ อันเป็นรากฐานสำคัญต่อการพัฒนากองทัพเรือต่อมา

พระราชกรณียกิจที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ทรงเป็นหมอยาไทยในช่วงที่พระองค์ทรงออกจากประจำการระหว่างปี พ.ศ. 2466 ทรงศึกษาวิชาแพทย์แผนไทยจากพระยาพิษณุฯ หัวหน้าหมอหลวงแห่งพระราชสำนัก หัวหน้าฝ่ายยาไทยแห่งประเทศไทย ซึ่งได้ทรงรักษาประชาชนทั่วไปจนรู้จักกันดีในนาม "หมอพร"


ในปี พ.ศ. 2463 ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนพระอิสริยยศเป็นพลเรือเอก พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์สิงหนาม หลังจากนั้น พ.ศ. 2466 ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ จนกระทั่งประชวรพระโรคภายใน จึงกราบบังคมทูลลาออกจากราชการและเสด็จไปประทับที่ชายทะเลหาดทรายรี ทางใต้ของปากน้ำ จ. ชุมพร และสิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2466 ขณะมีพระชนมายุเพียง 44 พรรษา

[auvila]

ศาลกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เป็นสถานที่สิ้นพระชนม์ของพระองค์ ศาลเสด็จในกรมฯ ตั้งเด่นอยู่บนเนินเขา ทางทิศเหนือของหาดทรายรี สามารถขับรถยนต์ขึ้นไปถึง ตัวศาลอยู่บนเรือรบหลวงพระร่วงจำลองที่หันหน้าออกสู่ทะเล จึงเป็นจุดที่มองเห็นทิวทัศน์ของหาดทรายรีได้ชัดเจนตลอดเวิ้งอ่าว นักท่องเที่ยวนิยมมาจุดประทัดถวายท่านกันค่ะ

[auvila]

เชื่อหรือไม่คะว่าระหว่างทางมากราบท่าน ฟ้าครึ้มฝนตกพรำๆมาตลอดทาง เราเลยตั้งจิตอธิษฐานขอให้ฟ้าเปิดเพื่อที่เราจะได้มากราบท่านได้ และเมือ่เลี้ยวรถเข้ามาถึงบริเวณศาลฝนก็หายและแดดมาเลยค่ะ และตลอดเวลาที่อยู่ชุมพรก็ได้เที่ยวตามที่ตั้งใจไว้ค่ะ

[auvila]

เรือรบหลวงชุมพร ตั้งอยู่เชิงเขาก่อนถึงทางขึ้นศาลฯเรือรบหลวงชุมพรเป็นเรือตอปิโดขนาดใหญ่ ยาว 68 ม.กว้าง 6.55 ม. ต่อในประเทศอิตาลี ขึ้นระวางประจำการเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2481


ในอดีตกรมหลวงชุมพรได้ทำหน้าที่คุ้มกันเรือลำเลียงทหารนกวิกโยธินขึ้นบก ลาดตระเวนตรวจชายฝั่ง กวาดทุ่นระเบิดและป้องกันการโจมตีและยกพลขึ้นบกของฝ่ายข้าศึก ภายหลังปลดระวางเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2518 กองทัพเรือจึงได้มอบเรือรบหลวงชุมพรให้ จ.ชุมพร นำมาจอดที่หาดทรายรีในปี พ.ศ. 2522 เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่บิดาแห่งทหารเรือไทย


บริเวณที่จัดแสดงเรือรบหลวงชุมพรเทคอนกรีตเป็นลานกว้างรอบลำเรือ นักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมได้สะดวกและนิยมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับเรือรบหลวงชุมพรกันมาก แต่ไม่อนุญาติให้ขึ้นไปบนเรือนะคะ

[auvila]

มาดูสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดชุมพรกันชัดๆอีกซักครั้งค่ะ

[auvila]

หาดทรายรีอยู่ใกล้บริเวณนี้มากที่สุดค่ะ
ตั้งอยู่บริเวณอ่าวชุมพร ห่างจากเขตเทศบาลเมืองชุมพรไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตามทางหลวง
หมายเลข 4119 และ 4098 ประมาณ 20กิโลเมตร มีรถโดยสารวิ่งจากตัวเมืองถึงชายหาดด้วยนะคะ


บริเวณนี้มีทั้งที่พักและร้านอาหารราคาเป็นมิตรต่อนักท่องเที่ยวค่ะ บรรยากาศประมาณร้านริมหาดแถวๆชะอำ แต่ไม่พลุกพล่านขนาดนั้นนะคะ



Add to Post

[auvila]

และไหนๆก็แวะมาแถวนี้แล้วแวะขึ้นไปที่จุดชมวิวเขาเจ้าเมืองกันเลยดีกว่าค่ะ

เป็นภูเขาสูงตั้งอยู่ริมทะเลบริเวณหาดทรายรี บนยอดเขาเจ้าเมืองเป็นจุดชมวิวที่สามารถชมทิวทัศน์ของชายทะเลชุมพร เกาะแก่งต่างๆ บนพื้นที่ของจุดชมวิวมีการปรับปรุงพื้นที่เพื่อให้สามารถชมทิวทัศน์ได้กว้าง นอกจากนี้ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรได้ทำทางเดินศึกษาธรรมชาติ โดยเริ่มต้นจากจุดชมวิว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินป่าศึกษาพันธุ์ไม้ชายหาดที่สำคัญ อาทิ ต้นตีนเป็ด หวาย กระทิง เตยทะเล ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร






จุดชมวิวเขาเจ้าเมืองเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นเกาะมะพร้าวซึ่งเป็นเกาะสัมปทานรังนกได้ดีที่สุดและใกล้ที่สุด

หาดทรายบนเกาะขาวมากค่ะ ปกติหาดทรายของจังหวัดชุมพรจะไม่ขาวแบบนี้นี่นา จะสีออกน้ำตาลๆตลอดแนวยาวเลียบชายฝั่งของอ่าวไทยเลยนะคะ

แต่จุดนี้ขาวมากกกกกก





วิธีเดินทาง..จากบริเวณหาดทรายรีไปตามถนนเลียบหาดไปตามถนนลาดยาง เลียบริมทะเล ประมาณ ๑ กิโลเมตร แยกขวาไปตามถนนลาดยางอีกประมาณ ๑ กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายขึ้นเนินเขาอีกประมาณ ๔๐๐ เมตร ป้ายบอกไม่ชัดเจน ขับรถวนหากันนิดหน่อย แต่ได้สัมผัสความสวยงามที่คุ้มค่าค่ะ

[auvila]

ตามเส้นทางหลังจากกราบกรมหลวงชุมพร ฯ เราจะขับรถผ่านเห็น ศูนย์เรียนรู้และพัฒนาอาชีพผลิตภัณฑ์ผ้าบาติคของหาดทรายรี จริงๆขาไปก็เห็นค่ะผ่านทั้งไปและกลับ
ที่แห่งนี้ ใช้บริเวณลานข้างๆ ร้านนั่นเอง เป็นจุดสาธิตที่ทำให้เราได้พบเห็นความลำบาก ของการทำผ้าบาติก กว่าที่จะได้ออกมาเป็นผ้าบาติกผืนสวยๆ สักผืนหนึ่ง ต้องผ่านขั้นตอนอะไรมาบ้าง จึงไม่แปลกใจที่ผ้าบาติกผืนหนึ่งจะมีราคพอสมควร ซึ่งก็ดูเหมาะสมกับระยะเวลา และขั้นตอนการทำต่อผืน นั่นก็เพราะขั้นตอนที่ต้องอาศัย ความชำนาญและฝีมือ เฉพาะตัว ที่บรรเลงออกมาเป็นผ้าผืนสวยๆ ให้เราได้ซื้อหามาใช้กัน

ใครผ่านไปแวะลงไปเรียนรู้และอุดหนุนได้นะคะ

[auvila]

และถ้ามากราบศาลกรมหลวงชุมพรฯแถวๆนี้มีร้านอาหารเรียงรายตามริมหาดมากมายหลายร้าน แต่ ร้านอาหารที่ภูมิใจนำเสนอในทริปนี้ คือร้าน “เจ๊อ่าง “ ค่ะ
ขอให้ขับรถย้อนกลับไปทางที่จะมาศาลกรมหลวงฯ นี้ค่ะ สังเกตุโรงแรมโนโวเทลชุมพรให้ดีค่ะ ร้านเจ๊อ่างอยู่ริมทะเลตรงข้ามกับโรงแรมโนโวเทลเป๊ะค่ะ





ร้านแบบ Open Air นะคะ ได้วิวแบบนี้ตอนทานข้าวค่ะ จริงๆแล้วหาข้อมูลเจอร้านแนะนำหลายร้าน แต่วันที่ไปนั้นร้านเจ๊อ่างคนนั่งเยอะสุดค่ะ เลยไม่ลังเลที่จะเดินเข้าร้านนี้ค่ะ เป็นวิธีเลือกร้านต่างถิ่นที่ไม่คุ้นเคย แต่บางทีก็มีพลาดบ้างอะไรบ้างนะคะ 5555

โชคดีที่ครั้งนี้เวิร์คค่า

[auvila]

บ่ายแก่มากแล้ว ขอทานแบบเบาๆ มาใต้ทั้งที่ จะพลาดเมนูนี้ได้อย่างไร
คนที่อ่านรีวิวปารดีของเราก็เจอเมนูนี้ที่บ้านเพนะคะ แสดงให้เห็นว่าว่าปลื้มสะตอมากกกก
ผัดสะตอกุ้งใส่กะปิรสชาติกลมกล่อมมากค่ะ สะตอเยอะสะใจ




ใบเหมียง/ใบเหลียงผัดไข่ เป็นเมนูที่จะทานกันไปเรื่อยๆค่ะ ปลื้มมมมม

[auvila]

ปิดท้ายแบบเบาๆด้วย ปลากระพงราดพริกค่ะ ทุกอย่างเกลี้ยงเกลาไม่มีเหลือให้ปลาช้ำใจในการเสียสละชีพครั้งนี้




ร้านเจ๊อ่างตั้งอยู่บนหาดภารดรภาพ เล่ากันว่าครั้งหนึ่งไทย - ญี่ปุ่นจับมือกันที่นี่ เลยเป็นที่มาของชื่อหาดภราดรภาพ ชายหาดชื่อไพเราะแห่งนี้อยู่ห่างจากตัวเมืองชุมพรไป 12 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 4119 และ 4098 ถัดจากปากน้ำชุมพรขึ้นไปนั้นเอง

จากหาดนี้จะแลเห็นหมู่เกาะในทะเลได้หลายเกาะ แต่ที่ใกล้ที่สุดคือเกาะเสม็ด ชายหาดมีหน้าหาดกว้าง และทอดยาวไปกับแนวถนน ท่ามกลางทิวมะพร้าวตลอดเส้นทาง และมีร้านอาหารทะเลรสเด็ดให้เลือกชิมหลายร้าน จอดรถก็สะดวก อาหารอร่อย บรรยากาศก็ดี จึงเป็นชายหาดที่ไม่ร้างราจากนักท่องเที่ยวเลยค่ะ เป็นที่ตั้งของโรงแรมโนโวเทลชุมพรด้วยนะคะ

[auvila]

ใกล้ๆหาดภารดรภาพนี้มีจุดชมวิวที่เด็ดอีกที่หนึ่งคือ จุดชมวิวเขามัทรี
จุดชมวิวเขามัทรี อยู่บนเส้นทาง ชุมพร - ปากน้ำ – หาดทราย ที่นี่เป็นแหล่งแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวทิวทัศน์ ที่น่าสนใจอีก แห่งหนึ่งของชุมพร สามารถชมวิวทิวทัศน์ ได้ 360 องศา สามารถมองเห็นชุมชนปากน้ำชุมพรและชายหาดของทะเลชุมพร ที่สวยงามมาก เสียดายที่หาดทรายทุกที่ที่ไปในช่วงนี้น้ำแห้งกันหมด เลยไม่ได้เห็นน้ำแบบเต็มๆวงโค้งกันเลยค่ะ
ภาพนี้ถ่ายขณะสายฝนกำลังไล่เข้ามาหาเรานะคะ



ด้านบนจุดชมวิวเขามัทรี มี พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ปางมหาราชลีลา มีลักษณะคล้ายกับท่านั่งขององค์จตุคามรามเทพ ที่เป็นที่นิยมในเมืองไทย ให้สักการะด้วยค่ะ

[auvila]

มองออกไปที่ชายทะเลชุมพรด้านขวาเป็นหาดภราดรภาพ มุมนี้แหละที่ตามกาลเวลาใฝ่ฝัน อยากได้รูปมุมนี้มาก
พอถ่ายรูปนี้เสร็จถือว่า mission completed นอนตาหลับเลยค่ะ แต่เสียดายนิดหน่อยที่วันที่เราไปฟ้าไม่ใส ไม่มีแดด แถมฝนมาอีกต่างหาก....



มองจากบน เขาเห็นชุมชนปากน้ำชุมพรและชายหาดปากน้ำชุมพรเป็นชุมชนขนาดใหญ่เนื่องจากเป็นท่าเทียบเรือประมง

“ปากน้ำชุมพร”

แหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญของชุมพร ปากน้ำชุมพรอยู่หางจากตัวเมืองเพียง 13 กิโลเมตร ซึ่งจะเป็นคลองท่าตะเภา จะไหลยาวไปออกทะเลสองฝั่งลำน้ำ จึงมีบรรดาเรือประมงนับร้อยนับพันคันจอดเรียงราย ใครที่ไม่เคยเห็นเรือขึ้นบกได้ (ขึ้นคาน - ซ่อม ) ก็มีให้เห็น
นอกจากจะมีเรือประมงหลายขนาดแล้ว ก็ยังมีเรือหางยาววิ่งข้ามคลองแห่งนี้ รวมทั้งเรือท่องเที่ยว เรือทัวร์ หลายเจ้าอยู่ด้านในของคลองนี้ เช่น ท่าเรือเจ๊นัย ปากน้ำชุมพรยังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเกาะด้วย ซึ่งสามารถไปได้หลายเกาะ เช่น เกาะมะตะโพน เกาะเสม็ด เกาะมะพร้าว เกาะมัตรา เกาะกะโหลก เกาะง่ามใหญ่ - ง่ามน้อย หินแพ ฯลฯ


ฝนตกแล้วค่ะจุดนี้ เตรียมวิ่งลงจากเขากัน

[auvila]

การเดินทางมาจุดชมวิวเขามัทรีใช้เส้นทางชุมพร-ปากน้ำชุมพร 10 กม. ถึงสามแยกเลี้ยวขวาไปหาดทรายรี ขึ้นเนินเขา สัก 800 เมตร จะมีโค้งเลี้ยว ไปทางขวา ให้สังเกต ทางขึ้น จุดชมวิวเขามัทรี เป็นเส้นทางลาดชัน 30 องศา รถเกียร์ธรรมดาขึ้นได้ แล้วขึ้นบันไดไปอีก 1 เพลิน ( หอบ )ค่ะ

รูปนี้ถ่ายตอนเดินขึ้นมาได้เกินครึ่งทางแล้ว
แต่ขาลงสนุกมากกว่า เพราะวิ่งหนีฝนกันค่ะ คนไม่ห่วง..ห่วงแต่น้องกล้อง..

[auvila]

ก่อนจะลงใต้กันไปมากกว่านี้แวะไปหาดทุ่งวัวแล่นกันก่อนดีกว่านะคะ จริงๆแล้วหาดนี้จะถึงก่อนหาดภารดรภาพ และหาดทรายรี แต่อยากไปกราบกรมหลวงชุมพรฯเอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนเลยต้องย้อนกลับไปแบบนี้ค่ะ

ถ้าใครจะแวะไปหาดทุ่งวัวแล่นซึ่งเป็นหาดที่เริ่ดที่สุด ทรายขาวที่สุดในชุมพรก่อนก็ไม่ว่ากันค่า
หาดทุ่งวัวแล่น ชายหาดที่สวยงามเป็นที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากของอำเภอปะทิวและของจังหวัดชุมพรหาดทรายที่มีเม็ดทรายสีขาวนวลละเอียดยาวสุดสายตา ชายหาดลาดเอียงน้อยเหมาะที่จะเล่นน้ำทะเล ทางใต้ของหาดติดกับภูเขาด้านนี้ชายหาดจะเป็นหาดหิน หาดทุ่งวัวแล่นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งชาวไทยและต่างชาติมีรีสอร์ทให้บริการหลายระดับ มีกิจกรรมท่องเที่ยวทางทะเลทั้งดำน้ำ ตกปลาเที่ยวเกาะ ให้บริการในหลายรูปแบบแล้วแต่จะเลือกค่ะ หาดทุ่งวัวแล่นนี้เป็นที่ตั้งของชุมพรคาบาน่า ซึ่งเป็นที่หนึ่งที่เราตั้งโจทย์ว่าอยากไปเยี่ยมชมค่ะ




สวนเพลิน @ชุมพรคาบาน่า
ในปี พ.ศ. 2543 ชุมพร คาบาน่า ได้เริ่มนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประยุกต์ใช้กับการดำเนินธุรกิจ จนทำให้รีสอร์ตแห่งนี้ประสบความสำเร็จ หลังจากต้องเผชิญปัญหาในยุคฟองสบู่แตกปี 2540

เป็นผู้ริเริ่มนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการโรงแรม แก้ไขวิกฤต จนสามารถพลิกฟื้นธุรกิจให้อยู่ได้อย่างยั่งยืน ก่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันและการช่วยเหลือเกื้อกูลกันทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมระหว่างชุมชน อีกทั้งสามารถปรับปรุงและรักษาสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับระบบนิเวศ โดยใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ ไม่ก่อให้เกิดผลเสียทั้งในระยะสั้นและระยะยาวจนถึงคนรุ่นต่อไป นับเป็นตัวอย่างของภาคธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและเป็นแบบอย่างในการใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ

[auvila]

ตั้ง "เพลิน" ศูนย์การเรียนรู้
เศรษฐกิจพอเพียง

การปฏิบัติตามแนวพระราชทานดังกล่าว ได้รับความสนใจอย่างมาก ทางชุมพร คาบาน่า รีสอร์ท จึงได้ตั้งเป็นศูนย์ "เพลิน" มาจาก Play + Learn = Plearn ตามพระบรมราโชบายของรัชกาลที่ 6 ที่ทรงต้องการให้การศึกษาอย่างเป็นสิ่งที่เพลิดเพลิน การเรียนรู้จึงไม่ควรใช้วิธีเรียนเพื่อท่องจำเท่านั้น ควรให้มีโอกาสบูรณาการทั้งกายและใจไปพร้อมๆ กัน การศึกษาควรเป็นสิ่งที่เพลิดเพลินและสนุกที่จะหาเหตุผลคำตอบว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น จึงนำมาสู่แนวคิดหลักการพัฒนาศูนย์เพลินบนพื้นที่ด้านหลังประมาณ 14 ไร่ ของรีสอร์ท ปัจจุบันศูนย์เพลินเป็นศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง และกสิกรรมธรรมชาติ ที่องค์กรต่างๆ สามารถเข้ามาศึกษาดูงานการทำงานร่วมกันของระบบรัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และเกษตรศาสตร์ ในระบบบูรณาการได้อย่างดี

"ศูนย์เพลินประกอบด้วย การนำแนวพระราชดำริจากศูนย์การศึกษาและพัฒนาทั้ง 6 แห่ง มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น ทฤษฎีการบำบัดน้ำของบึงมักกะสันและแหลมผักเบี้ย ทฤษฎีห้วยฮ่องไคร้ในการอนุรักษ์ดินและน้ำโดยใช้หญ้าแฝกและฝายแม้ว ทฤษฎีการปลูกพืชบนทรายจากห้วยทราย เป็นต้น ซึ่งการดำเนินงานยึดหลัก 4 ด. คือ ดูได้ หมายถึงสวยงามเพลินตา ดมได้ หมายถึงต้องมีดอกไม้ล่อแมลงที่มีประโยชน์ เช่น ตัวเบียน ให้มากินศัตรูพืช ดื่มได้ หมายถึงชื่นใจ และสุดท้าย แ_กได้ หมายถึงสามารถนำมารับประทานได้"
ในปัจจุบันนอกเหนือจากลูกค้าแล้ว หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้เข้ามาขอศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนความรู้ ทำให้พนักงานทุกคนมีความรู้สึกสนุกและมีคุณค่าในการทำงานขึ้นมากกว่าเดิม ขณะเดียวกันก็ได้รับความรู้ที่เป็นหลักวิชาการตามแนวพระราชดำริ และได้ศึกษากับ "พิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต" ด้วย อีกทั้งพนักงานยังมีความมั่นคงในอาชีพ ชุมชนรอบๆ ชุมพร คาบาน่า รีสอร์ท ก็มีความสุขในการอยู่ร่วมกันในลักษณะของการพึ่งพาอาศัยกัน จึงอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข มั่งคั่งอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน โดยมีแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นผู้นำทาง

ที่นี่เป็นที่ที่เราได้ยินชื่อเสียงมานานแล้วถึงหลักการเศรษฐกิจพอเพียงที่ชุมพรคาบาน่าปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหา อยากมาดูมาก ก่อนมาโทรมาถามก่อนแล้วว่าขอเข้าไปชมได้หรือไม่ ทางโรงแรมแจ้งว่าได้ให้เข้ามาได้เลย แต่เมื่อไปถึงเป็นการเดินชมเองพร้อมแผ่นพับคนละ1 ใบค่ะ
ขอแนะนำว่าหากใครต้องการชมเป็นหมู่คณะทำเรื่องติดต่อมากก่อนก็ดีนะคะ เพราะจะได้มีเจ้าหน้าที่พาชม สำหรับเราไปแบบโชคชะตาพาไป ไปเดินดูกันเอง ไม่มีใครพาชม ก็เลยผิดหวังนิดหน่อยค่ะ และช่วงที่ไปเหมือนพวกพืชผักต่างๆมีไม่มากค่ะ ข้าวในแปลงสาธิตก็ไม่มีเก็บเกี่ยวไปแล้ว แต่ยังไงก็ขอชื่นชมความคิดและแนวทางปฏิบัตินะคะ