Jump to content



 
จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จองรถเช่า
แผนกบริการลูกค้า โทร 02-3737-555 จันทร์ - เสาร์ 09.00-18.00น.

 

ค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวและการบินในเอชไฟล์ท เชิญด้านล่างนี้

หน้าแรก | เว็บบอร์ดรีวิว | จองตั๋วเครื่องบิน | จองโรงแรม | เที่ยวต่างประเทศ | เที่ยวในประเทศ | ลงโฆษณา

บินไปญี่ปุ่นกับแอร์เอเชียเอ๊กซ์ ชมซากุระที่คันไซ ไป-กลับกลางคืนอย่างคุ้ม : Fly AirAsia X to Osaka, Japan


  • This topic is locked This topic is locked
57 replies to this topic

#1 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

 


Posted 22 April 2012 - 10:17 AM

Advertisements

สวัสดีครับ ... ได้ฤกษ์ปล่อยรีวิวเที่ยวบินระยะไกลกับแอร์เอเชียเอ๊กซ์ กันแล้ว
กับเส้นทางบินใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา สู่จุดบินที่สองในญี่ปุ่นนั่นก็คือเส้นทางบิน กัวลาลัมเปอร์-โอซาก้า (คันไซ)
กับโปรโมชั่นเปิดตัว NOW OSAKA เมื่อปีที่แล้ว บินไป-กลับจากกัวลาลัมเปอร์แค่ 5 พันกว่าบาทเท่านั้น
ส่วนจากไทยไปมาเลย์ก็ต้องหาจองกันเอง ราคาไม่ได้ถูกมากแต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ได้ไปญี่ปุ่นในช่วงซากุระพอดีครับ

ณ ปัจจุบันนี้ คนไทยสามารถจองตั๋วเครื่องบินแอร์เอเชียแบบ Fly-Thru สู่จุดบินต่างๆ มากมาย
โดยไม่จำเป็นต้องผ่านด่าน ตม.มาเลเซีย หรือต้องไปรับกระเป๋าใหม่ที่สนามบิน LCCT กัวลาลัมเปอร์
สามารถเดินผ่านช่อง Transfer ตรงไปรอเครื่องบินเที่ยวบินต่อไปได้เลย โดยต่อเครื่องใหม่ได้ภายใน 1.30-6 ชั่วโมงสบายๆ
ใครที่ไม่แน่ใจกลัวหลงสนามบิน ใช้บริการนี้ จองตั๋วรวดเดียวจ่ายเป็นเงินบาทได้ จ่าย SCB Easy ก็ได้ ซื้อบริการเสริมเพิ่มเติมเป็นเงินบาทได้หมดครับ

เราสามารถบินแบบ Fly-Thru ไปเปลี่ยนเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ ในเส้นทางดังนี้
กรุงเทพ-กัวลาลัมเปอร์-ออสเตรเลีย (โกลด์โคสต์, เมลเบิร์น, เพิร์ธ, ซิดนีย์)
กรุงเทพ-กัวลาลัมเปอร์-จีน (เฉิงตู, หังโจว)
กรุงเทพ-กัวลาลัมเปอร์-ญี่ปุ่น (โตเกียว-ฮาเนดะ, โอซาก้า-คันไซ)
กรุงเทพ-กัวลาลัมเปอร์-นิวซีแลนด์ (ไครส์เชิร์ส) -- ให้บริการถึงแค่ 31 พฤษภาคมนี้ จะปิดเส้นทางแล้ว
กรุงเทพ-กัวลาลัมเปอร์-เกาหลีใต้ (โซล-อินชอน)

เชียงใหม่-กัวลาลัมเปอร์-ออสเตรเลีย (โกลด์โคสต์, เมลเบิร์น)
เชียงใหม่-กัวลาลัมเปอร์-จีน/ไต้หวัน (หังโจว, ไทเป) (แต่เหมือนจะจองไทเปไม่ได้แฮะ)
เชียงใหม่-กัวลาลัมเปอร์-ญี่ปุ่น (โตเกียว-ฮาเนดะ, โอซาก้า-คันไซ)
เชียงใหม่-กัวลาลัมเปอร์-เกาหลีใต้ (โซล-อินชอน)

ภูเก็ต-กัวลาลัมเปอร์-ออสเตรเลีย (โกลด์โคสต์, เมลเบิร์น, เพิร์ธ, ซิดนีย์)
ภูเก็ต-กัวลาลัมเปอร์-จีน/ไต้หวัน (เฉิงตู, หังโจว, ไทเป)
ภูเก็ต-กัวลาลัมเปอร์-ญี่ปุ่น (โตเกียว-ฮาเนดะ, โอซาก้า-คันไซ)
ภูเก็ต-กัวลาลัมเปอร์-นิวซีแลนด์ (ไครส์เชิร์ส) -- ให้บริการถึงแค่ 31 พฤษภาคมนี้ จะปิดเส้นทางแล้ว
ภูเก็ต-กัวลาลัมเปอร์-เกาหลีใต้ (โซล-อินชอน)


ทริปนี้ไม่ได้บินแบบ Fly-Thru แต่ก็ต่อเครื่องกันเองแบบสนุกสนาน เนื่องจากจองโปรฯ สมัยก่อนที่จะมี Fly-Thru เส้นทางเชียงใหม่
ซึ่งต่อๆ ไปโปรฯ ในอนาคต อาจจะได้เห็นโปรฯ Fly-Thru ที่ราคาดีขึ้นก็ได้ ถ้าเพื่อความสะดวกจองแบบ Fly-Thru สบายกว่ากันเยอะครับ
ไม่ต้องลุ้นต่อเครื่อง เพราะยังไงสายการบินก็รับผิดชอบในกรณีที่เที่ยวบินดีเลย์จนต่อเครื่องไม่ทัน หรือกัปตันอีกเที่ยวบินหนึ่งก็อาจจะรอเราด้วยเช่นกันครับ

ไปญี่ปุ่น บินกับแอร์เอเชียเอ๊กซ์สู่สนามบินคันไซ โอซาก้ากันนะครับ
บินแบบอ้อมนิดนึง สนุกๆ ขำๆ เชียงใหม่-กรุงเทพ-กัวลาลัมเปอร์-โอซาก้า-กัวลาลัมเปอร์-เชียงใหม่ รวม 5 ตุ๊บ เจอครบทั้ง FD D7 AK ครับ
เชียงใหม่-กรุงเทพ FD3235 14.35-15.45 HS-ABH
กรุงเทพ-กัวลาลัมเปอร์ FD3575 18.30-21.40 HS-ABY
กัวลาลัมเปอร์-โอซาก้า D7532 01.00-8.25 9M-XXD
โอซาก้า-กัวลาลัมเปอร์ D7537 23.15-5.00 9M-XAA
กัวลาลัมเปอร์-เชียงใหม่ AK816 6.55-8.40 9M-AHS

Attached Thumbnails

  • IMG_3482.JPG
  • IMG_3300.JPG
  • IMG_6142.JPG


  • tottui, YUDYA52 and CazukiTezuka787 like this


Advertisements

#2 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 10:23 AM

เรื่องน้ำหนักกระเป๋า เป็นสิ่งสำคัญกับการบินสายการบินนี้ครับ
แน่นอนว่า ใครๆ ก็รู้ว่า บินแอร์เอเชีย อะไรๆ ก็ต้องซื้อเพิ่มหมด

ที่สำคัญ เที่ยวบินขากลับจากญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่เข้มมวดกับน้ำหนักกระเป๋ามาก ดังนั้นต้องซื้อไปให้พอดี หรือเกินกว่าที่ต้องการ
เพราะถ้าขาดอาจถูกปรับในอัตราที่สูงได้ครับ

ของเราก็เลยต้องชั่งน้ำหนักกระเป๋ากันแบบนี้ แบบบ้านๆ เพื่อคำนวนว่าเราจะต้องซื้อแพคเกจน้ำหนักเท่าไหร่ดี
โดยเราสามารถซื้อน้ำหนักเพิ่มได้ในเมนู manage My Booking ล่วงหน้าอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทางครับ
หรือจะซื้อเพิ่มผ่าน Call Center โดยโทรไปแจ้งเลขที่ Booking แล้วชำระเงินตัดบัตรเครดิตก็ได้เลย แต่ต้องทำก่อนเวลาออกเดินทางอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
มิฉะนั้นโดนเรตมหาโหดหน้าเคาน์เตอร์เช็คอินแน่นอนครับ

เที่ยวบินขากลับจากญี่ปุ่น สัมภาระที่ขึ้นเครื่องทุกชิ้นจะถูกชั่งน้ำหนักและตรวจสอบ
ก่อนที่จะติด Tag ให้ขึ้นเครื่องครับ ดังนั้น เวลาไปญี่ปุ่นกับแอร์เอเชียเอ๊กซ์ จัดสัมภาระให้ดีๆ นะครับ เจ้าหน้าที่ ANA (ที่แอร์เอเชียเอ๊กซ์จ้างมาให้ทำ Ground Handling ให้)
เข้มจริงอะไรจริงแน่นอน (เหมือนกับที่ฮาเนดะจะเข้มกว่าคันไซครับ)

ปล. ภาพล่างนี้ของทริปก่อนๆ นะครับ

Attached Thumbnails

  • IMG_7050.JPG
  • IMG_1102.JPG


#3 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 10:27 AM

แล้วเราก็เริ่มออกจากเชียงใหม่กัน .... แวะด่าน ตม.สุวรรณภูมิ
โดยรับกระเป๋าที่กรุงเทพ ขึ้นไปโหลดใหม่พร้อม Verify เอกสาร รับใบ ตม. แล้วก็เข้าด่าน ตม.
โชคดีที่แทบไม่มีคนครับ ... สบายๆ (3 เมษายน) คุณ ตม.ก็ยิ้มแย้มแจ่มใส่ ชวนคุยด้วย :lol:

ไปพักผ่อนสบายๆ ที่ King Power Lounge ทุกครั้ง
บิน 0 บาทก็เข้าเล้าจน์ได้ (ช่วงนี้ปิดปรับปรุง 19-26 เมษายนครับ อยากรู้ว่าหลังปรับปรุงแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง)

Attached Thumbnails

  • IMG_3197.JPG
  • IMG_3198.JPG
  • IMG_3199.JPG


#4 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 10:31 AM

พูดถึงเรื่องการบริการในเล้าจน์
ด้วยความที่เป็นเล้าจน์ฟรี อย่าได้คาดหวังกับการบริการจากเจ้าหน้าที่เลย
เพราะเจ้าหน้าที่ she ดูไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่นัก เหมือน she เหนื่อยแล้ว หงุดหงิดๆ เวลาเราขอนั่นขอนี่

ให้คิดว่าไม่รู้ไม่เห็นละกันครับ เพราะที่ผมเจอก็จัดว่าค่อนข้างแย่นะ แต่อย่างน้อยเราก็มีที่พักและมีอะไรให้รองท้องก่อนขึ้นเครื่อง อย่าได้คิดอะไรมาก

เนื่องด้วยเล้าจน์อยู่ Concourse A แต่ขึ้นเครื่องที่ Gate G1A ต้องเผื่อเวลาเดินไปซัก 10-15 นาทีนะครับ
ไม่ควรกระชั้นมากเพราะตับและไส้อาจจะออกมากองข้างนอกได้ ...

ระหว่างทางแวะแลกเงินกับบูธ SCB ซึ่งมีโปรโมชั่นสามารถใช้บัตรเครดิตรูดแลกเงินได้
แม้ว่าจะไม่ได้ point และเรตอาจจะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับร้านแลกเงินข้างนอก แต่จะได้เครดิตเหมือนบัตรเครดิต และสำหรับใครที่ต้องการผ่อนชำระ
ก็สามารถโทรไป Call Center เพื่อแจ้งขอผ่อน SCB ใจดี 0.89%/เดือน ก็ได้เช่นกันครับ ...

ขึ้นเครื่องตรงลานจอด เห็นน้องสามเหรียญทองจอดอยู่ ว้า เสียดายไม่ได้ขึ้น
แต่ผมก็ดีใจที่คราวนี้เจอน้องนุชสุดท้อง HS-ABY นั่นเอง ....

Attached Thumbnails

  • IMG_6077.JPG
  • IMG_6078.JPG
  • IMG_6079.JPG


#5 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 10:36 AM

ภายในแบบละเอียดมีอีกที่กระทู้นึงแล้วนะครับ

ช่วงที่บินไปมาเลย์ไม่ได้สั่งอะไรเลย
แถมสารภาพว่า เราตื่นมาตั้งแต่ตี 3 เพื่อจัดสัมภาระ ก็เลยง่วง หลับยาวลูกเดียวเลย
รู้สึกได้อย่างเดียวว่า ที่นั่งแบบใหม่ของ RECARO บนเครื่อง HS-ABX และ HS-ABY เหมือนจะนั่งสบายกว่าที่นั่งแบบเก่า
อย่างน้อยก็หัวเข่าไม่ติดครับ

ไฟล์ทนี้เจอพี่ๆ ที่รู้จักหลายท่านเลยกำลังจะบินไปต่อเครื่องไปโอซาก้าเหมือนกันครับ :lol:

บ้ายบายอ่าวไทย แล้วเจอกันใหม่

Attached Thumbnails

  • IMG_6080.JPG
  • IMG_6084.JPG
  • IMG_6092.JPG
  • IMG_6093.JPG


#6 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 10:42 AM

หลับๆ ตื่นๆ อ่าน Travel3Sixty ไปพลางๆ แป๊บเดียวก็ถึงแล้วครับ
สนามบิน LCCT กัวลาลัมเปอร์ ผมไม่ได้มีความรู้สึกเหมือนกับออกนอกประเทศเลยครับ
รู้สึกเหมือนไปโลตัสมากกว่า แค่ไม่ได้ใช้ภาษาไทยเท่านั้นเอง

อ้อ ... บนเครื่องบินมีประกาศว่าไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพบริเวณลานจอดสนามบิน LCCT ครับ แต่ก็ถ่ายกันทู๊กที

ลงจากเครื่อง ถ้าจองแบบ Fly-Thru ก็เข้าช่องพิเศษไปนั่งรอเครื่องใหม่ได้เลย (ภาพล่างสุด ประตูด้านซ้ายมือเลยครับ เข้าช่องนั้นไปได้เลย)
แต่ของเรา ไม่ได้จองแบบ Fly-Thru ก็ต้องไปผ่านด่าน ตม.มาเลย์ รับกระเป๋า แล้วเอาไปโหลดใหม่ ...

Attached Thumbnails

  • IMG_6096.JPG
  • IMG_6098.JPG
  • IMG_6099.JPG
  • IMG_6100.JPG


#7 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 10:48 AM

ตม. มาเลย์ ใช้เวลาแป๊บเดียวครับ

เดี๋ยวนี้ไม่ต้องกรอกใบ ตม. ให้เมื่อยแล้ว
บางที จนท. อาจจะถามว่ามาทำอะไร บางทีเค้าอาจจะขอให้สแกนนิ้วมือ
แต่บางทีเค้าก็ไม่อะไรครับ ประทับตราให้ผ่านอย่างเดียว แล้วแต่อารมณ์เค้า

พอผ่านด่าน ตม. ก็มารับกระเป๋าข้างล่าง ที่ LCCT นี่กระเป๋ามาเร็วไม่เคยผิดหวัง ไม่ต้องให้รอนานเลยครับ
แม้จะเป็นเที่ยวบินแอร์เอเชียเอ๊กซ์ คนเยอะๆ ก็ตาม

รับกระเป๋าเสร็จปุ๊บ .... ออกไปข้างนอก ไปโหลดกระเป๋าใหม่ครับ
ปัจจุบันนี้ ที่ LCCT เค้าเอาเคาน์เตอร์ Verify เอกสารของแอร์เอเชียไปไว้ข้างใน Gate
ซึ่งถ้าใครไม่มีสัมภาระโหลดของแอร์เอเชีย (AK FD QZ PQ) สามารถเดินตรงไปผ่าน ตม. แล้วไป Verify ข้างในได้เลยครับ

แต่ของแอร์เอเชียเอ๊กซ์ จะมีเคาน์เตอร์ใหญ่ ทางด้านขวาของภาพที่ 3 ครับ ถ้าใครไม่มีสัมภาระก็แวะตรวจเอกสารตรงนี้ได้เลย
ด้วยของเราก็ต้องโหลดเนาะ ก็ไปเข้าคิวโหลดกระเป๋าตรวจเอกสารตามปกติ
อย่าลืมเตรียมหลักฐานเที่ยวบินขากลับให้เจ้าหน้าที่ดูด้วยนะครับ

Attached Thumbnails

  • IMG_6102.JPG
  • IMG_3218.JPG
  • IMG_3221.JPG
  • IMG_3217.JPG


#8 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 10:54 AM

หลังจากที่โหลดกระเป๋าเรียบร้อย (น้ำหนักพอดีเป๊ะๆๆ)

ข้อดีของการไม่ Fly-Thru ก็คือเราสามารถมานั่งจิบกาแฟที่ร้าน Old Town ได้ครับ
หาอะไรนั่งกินก่อนที่จะเข้าไปข้างในก็ได้
แต่ LCCT ก็ไม่ได้มีอะไรมากมายนะครับ เหมือนโลตัสจริงๆ

เมนูประจำที่สั่งทู๊กทีก็คือ นาซีเลอมัก และขนมปังปิ้งกับเนย ชอบครับ
แต่ชามะนาวเค้าอาจจะไม่ค่อยโดนลิ้นเท่าไหร่

แล้วเราก็เข้าด่าน ตม. ครับ ประตู Gate T18
แต่ก่อนคงจะคึกคัก เพราะจะมีไฟล์ทไปยุโรปด้วย ตอนนี้กลายเป็นไฟล์ทคันไซจะเป็นไฟล์ทเกือบปิดสนามบินแล้ว ...
แอบเสียดายเหมือนกัน

สำหรับใครที่ซื้อบริการ Red Carpet นอกจากจะเช็คอินบนพรมแดงแล้ว (ภาพที่ 3) ยังสามารถใช้บริการเล้าจน์ (ในภาพที่ 4 ด้านข้างทางเข้า ตม.) ได้ด้วย
แต่ราคาก็แอบขนลุกนะครับคือ 100 ริงกิตสำหรับการจองล่วงหน้า ได้สิทธิ์ขึ้นเครื่องก่อน มีรถมารับไปส่งที่เครื่องไม่ต้องเดินเอง บินอย่างราชากับหางแดง ทำนองนั้น

Attached Thumbnails

  • IMG_6104.JPG
  • IMG_6109.JPG
  • IMG_7201.JPG
  • IMG_3220.JPG


#9 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 11:05 AM

ไปนั่งรอข้างในดีกว่า ...

ขาออก ตม.มาเลย์ แป๊บเดียวเหมือนเคย
คุณเธอเจอถามว่า มาทำอะไรที่มาเลย์แป๊บเดียว เธอก็ตอบฉะฉานว่าชั้นมาเปลี่ยนเครื่องไปญี่ปุ่นเฉยๆ ย่ะ ...
ด่าน Security อาจจะเจอมาเลย์หรืออินโดออกแนวรุงรังๆ นิดหน่อย

คือชุดเสื้อกันหนาวถอด และเอาอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ Laptop ฯลฯ ออกจากกระเป๋าไว้เลยครับ คิดว่าคนที่เดินทางบ่อยๆ มักไม่มีปัญหา
แต่บางทีที่เจอคิวยาวๆ เพราะบางทีเค้าอาจจะไม่คุ้น ก็เลยต้องตรวจแล้วตรวจอีกแบบนั้นแล ... (ควรเผื่อเวลาไว้ด้วยนะครับ)

มานั่งรอข้างล่าง สิ่งที่สำคัญในการบินไฟล์ทระยะไกลกับแอร์เอเชียเอ๊กซ์ คือ น้ำดื่มครับ
ให้เตรียมซื้อน้ำดื่มไปได้เลย 500 ซีซี/คน ควรแลกเงินริงกิตติดตัวไว้บ้างเวลาบินแอร์เอเชียเอ๊กซ์ เวลาหิวน้ำจะได้ไปซื้อได้ (เพราะไม่มีอะไรฟรีบนเครื่อง)

ข้างล่าง ... ร้านนี้ขายขวดละ 1.5 ริงกิตครับ
บนเครื่องขาย 3 ริงกิต (ก็ไม่ถือว่าโหดมาก เพราะน้ำขวด 500 ซีซี เท่ากัน)
กรณีสั่งอาหารร้อนไว้ล่วงหน้าบนเครื่อง (13 ริงกิต) จะมีน้ำดื่มขนาด 330 ซีซีมาให้ด้วยครับ

Attached Thumbnails

  • IMG_3222.JPG
  • IMG_3223.JPG
  • IMG_6112.JPG
  • IMG_6111.JPG


#10 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 11:10 AM

ร้านที่ขายน้ำจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ Gate T14 นะครับ คิดว่าน่าจะถูกสุดแล้วเพราะมีหลายร้านขาย 1.6-2 ริงกิตกัน

สำหรับที่ LCCT มี Wi-fi ให้เล่นเน็ตฟรีนะครับ ไม่ได้เร็วมากแต่ก็ถือว่าดีกว่าไม่มี
ถ้าใครต้องการชาร์จแบตทั้งหลาย อย่าลืมเตรียมปลั๊ก 3 ขาแบบมาเลย์,สิงคโปร์ มาเองนะครับ

แป๊บเดียวได้เวลาเรียกขึ้นเครื่องแล้ว ... ไฟล์ทนี่คนเยอะมากๆ เกือบๆ เต็มเลยทีเดียว
คนไทยมีไม่น่าจะต่ำกว่า 30 คนครับ :D
ตรงปากประตูจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจพาสปอร์ต และตรวจวีซ่าซ้ำอีกครั้งหนึ่ง เป็นอะไรที่เข้มมวดพอสมควรเหมือนกัน
ยิ่งถ้าไปทางออสเตรเลีย เข้มอย่างกะส่องพระเลยทีเดียว

ปล. มีอยู่มุมนึง (ไม่เห็นในภาพ) ผมเห็นเจ้าแอร์บัส A340-300 ที่เดิมเคยใช้ไปยุโรป จอดนอนแน่นิ่งคู่กัน 2 ลำแล้วอดใจหายไม่ได้จริงๆ คิดว่าน่าจะถึงคิวโดนปลดแน่ๆ เลย

Attached Thumbnails

  • IMG_6115.JPG
  • IMG_6116.JPG
  • IMG_6118.JPG
  • IMG_6119.JPG


#11 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 11:25 AM

ลืมเล่าบรรยากาศ Boarding ...

เพราะมีเรียกพร้อมๆ กันทั้ง Perth และ Sydney บรรยากาศเหมือน Puduraya
หรือ หมอชิต ยังไงไม่รู้ มีประกาศแข่งกัน Boarding ด้วย

ซิดนีย์ๆๆ เพิร์ธๆๆ ก็สนุกๆ ดีครับวัฒนธรรมของเขา

ขึ้นมาบนเครื่องดีกว่า ... ผ่านส่วนที่เป็น Premium Seat
ซึ่งหลายๆ คนที่จองตั๋วแอร์เอเชียเอ๊กซ์มา อาจจะได้รับอีเมล์จากเว็บไซต์ Optiontown.com ซึ่งร่วมมือกับแอร์เอเชียเอ๊กซ์
ในการวัดดวงลุ้นอัพเกรด หรือ วัดดวงนอนยาว 3 ที่นั่ง ...

เรื่องวัดดวงลุ้นอัพเกรดไปเป็น Premium Seat กับ Optiontown.com
มีหลายๆ ท่านถามผมมาเยอะมากเลยครับว่า ควรจะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อลุ้นวัดดวงดีไหม
หลักๆ ก็คือ ผู้สนใจจะต้องชำระเงินค่าอัพเกรด (ในราคาที่ก็ไม่ได้แพงเท่าไหร่ครับ)
ซึ่งจะได้รับบริการเหมือนกับผู้โดยสาร Premium ทุกประการ เช่นที่นอนยาวสบายๆ มีหมอนผ้าห่มอย่างหนา (เอาลงจากเครื่องไม่ได้)
โหลดกระเป๋าฟรี 20 กิโลกรัม และมีอาหารร้อนให้ (ทุกที่นั่งมีปลั๊กให้ชาร์จแบตได้เต็มที่ แต่ไม่มี PTV หรือ Entertainment อื่นใดครับ)

แต่จะรู้ผลการวัดดวงประมาณ 2-3 วันก่อนการเดินทางครับ
ที่สำคัญคือ ใครวัดดวงลุ้นอัพเกรด ห้ามทำเว็บเช็คอินก่อนเพราะไม่งั้นจะถือว่าสละสิทธิ์การวัดดวงทันที
กรณีที่ดวงดี ก็จะได้นั่ง Premium Seat ราคาแบบสุดคุ้มไปเลย
แต่ถ้าดวงไม่ดี เราก็ต้องเสียค่าธรรมเนียมการวัดดวง 10 ริงกิต/คน เป็นค่ากินเปล่าไปครับ

ลองนึกภาพนะครับ ที่นั่ง Premium Seat บนเครื่องแอร์เอเชียเอ๊กซ์ A330-300 มีแค่ 12 ที่นั่ง
สมมติว่าผู้โดยสารปกติจองไปแค่ 4 ที่นั่ง
ก็จะเหลือทีน่ั่งว่างแค่ 8 ที่นั่งให้เสี่ยงวัดดวงกัน

ถ้ามีคนเลือกวัดดวงกัน 7 ที่นั่ง ก็แปลว่าทุกคนได้อัพเกรดไปนั่ง Premium Seat ทั้งหมด
แต่ถ้ามีคนเลือกวัดดวง 10 ที่นั่ง ก็แปลว่า จะมีคนโชคดีได้อัพเกรดแค่ 8 ที่นั่ง ส่วนอีก 4 ที่นั่งก็ถือว่าดวงไม่ดีต้องจ่ายค่ากินเปล่าไปฟรีๆ นั่นเอง ไม่ได้อัพเกรดด้วย
เรียกได้ว่า เหมือนกับซื้อหวยหน่ะครับ ถ้าโชคดีก็ได้อัพเกรด ถ้าโชคไมม่ได้ เกิดคนจอง Premium Seat มาเยอะๆ ก็อดเป็นเรื่องธรรมดา

เช่นเดียวกันกับ ... Option ให้วัดดวงนั่ง 3 ที่นั่งติดจะได้นอนยาวได้
สำหรับใครหลายๆ คนที่เดินทางคนเดียว แต่อยากได้ที่นั่ง 3 ที่ติด แนะนำว่าจะลองวัดดวงดูก็ได้ จ่ายเงินเพิ่มเล็กน้อย
เพื่อไม่ให้คนอื่นมาแย่งที่นั่งกับเรา เราก็ได้นอนยาว .... แต่ถ้าไฟล์ทนั้นเกิดคนจองเยอะแล้วเกิดเต็ม ก็เท่ากับว่าดวงไม่ดี เสียเงินกินเปล่าให้ Optiontown ไปฟรีๆ เช่นกัน ...

ลองดูนะครับ เผื่อจะนึกภาพออกเวลาบินแอร์เอเชียเอ๊กซ์ แล้วมีอีเมล์มาเชิญชวนให้ไปวัดดวงเสี่ยงซื้อหวยกับ Optiontown.com กัน

ปล. สำหรับใครที่อยากจะเสียเงินอัพเกรดบนเครื่องเองก็ได้นะครับ
จ่ายเงินกับแอร์แล้วไปนั่งได้เลย แต่ราคาก็อลังการอยู่ แถมไม่ได้อาหารร้อน และไม่ได้โหลดกระเป๋าเพราะเป็นการอัพเกรดบนเครื่องครับ

Attached Thumbnails

  • IMG_6120.JPG
  • IMG_7170.JPG
  • IMG_6122.JPG
  • IMG_6123.JPG


#12 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 11:33 AM

ตอนแรกผมก็คิดว่าจะใช้มุขเดิม ก็คือเล็งหาที่นั่งว่าง 3 ที่นั่ง

แล้วพอได้ยินเสียงสวรรค์ "Ready for Departure"
"Cabincrew arms all doors and cross check" ทำนองนี้ ก็แปลว่าที่นั่งว่างๆ นั้นเป็นของเรา เย้ๆๆๆ


ปรากฎว่า ไฟล์ทนี้ ...
คุณกัปปิตันประกาศออกไมค์ว่า ต้องขออภัยในความล่าช้า
เนื่องจากเรากำลังรอผู้โดยสารจากจาการ์ต้าอยู่
(เครื่อง QZ จากจาการ์ต้าดีเลย์ และมีผู้โดยสาร Fly-Thru ไปโอซาก้าหลายคน)
นี่หล่ะครับ ข้อดีของการจองแบบ Fly-Thru คือเค้าจะรอ

แต่ผู้โดยสารไฟล์ทจาการ์ต้าที่วิ่งขึ้นเครื่องมาแต่ละคนนี่ก็ลิ้นห้อยเลยนะ ไม่มีใครว่าอะไรเพราะรู้ว่าเค้าไม่ได้ผิด
เค้าต่อเครื่องแล้วเครื่องดีเลย์ให้เค้าทำไงหล่ะ แฮ่ๆๆๆ

สุดท้าย ที่นอนยาว 3 ที่ก็ไม่ได้ครับ เพราะมีเจ้าของหมด อย่างที่บอกคือไฟล์ทเกือบเต็ม
เราก็ต้องกลับไปประจำที่เดิม นอนบนที่นั่งปกติ ซึ่งก็พอนอนได้ครับ แต่ที่นั่งจะแคบกว่าเครื่องแอร์เอเชียปกติราวครึ่งนิ้วนะครับ

ใครที่ตัวอวบๆ เจ้าเนื้อๆ หน่อยอาจจะรู้สึกนอนไม่สบายนัก :D

Attached Thumbnails

  • IMG_6121.JPG


#13 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 11:44 AM

ด้วยความที่ที่นั่งไม่ได้ติดริมหน้าต่างก็ไม่มีภาพวิวใดๆ นะครับ :D

หลังจากเครื่องไต่ระดับได้ คุณแอร์ก็ขายของเหมือนเดิม ใครสั่งอะไรไว้ก็สามารถเคลมได้
แต่ส่วนใหญ่ก็จะหลับกันหมด พอขายอาหารเสร็จก็ขายดิวตี้ฟรีตอนดึกๆ ต่ออีกรอบนึง แล้วก็ปิดไฟนอนยาวเลยครับ

ไฟล์ทนี้ใช้เวลาบิน 6.25 ชั่วโมงจากกัวลาลัมเปอร์ ไป คันไซ ผู้โดยสารหลับปุ๋ย
ผมก็หลับครับ ง่วง และเหนื่อย ก่อนนอนแนะนำให้ดื่มน้ำเยอะๆ นะครับ เพราะจะได้ไม่คอแห้งจนต้องตื่นขึ้นมา
อากาศบนเครื่องบินแห้งมากจริงๆ (แม้จะดื่มน้ำเยอะก็ไม่ได้เข้าห้องน้ำเลยครับ)
ส่วนอากาศไม่ได้หนาวมากเท่าไหร่ เสื้อกันหนาวตัวเดียว และผ้าห่มส่วนตัวเอาอยู่ครับ
(แนะนำเตรียมถุงนอน หรือผ้าห่มไปเอง ในกรณีที่ไม่ได้ซื้อชุด Comfort Kit ครับ)

ก่อนเครื่องร่อนลงจอดราว 2 ชั่วโมง แอร์ก็จะเปิดไฟ ปลุกขึ้นมาขายอาหารกันก่อน เร่เข้ามาใครจะเคลมใครจะซื้ออาหาร เตรียมบอร์ดดิ้งพาสไว้เคลมอาหารด้วย
เลยเปิดดูเมนูซักหน่อยนึง

เดือนนี้เมนูประจำเดือนคือข้าวแกงเขียวหวานครับ ถ้าขาออกจากกัวลาลัมเปอร์เค้าขาย 15 ริงกิต (ซื้อบนเครื่อง ไม่มี pre-book และไม่มีน้ำดื่มให้)
แต่เที่ยวบินขากลับจากคันไซ ก็มีขายครับ แต่ขายราคา 39 ริงกิต หรือ 1,000 เยน (ราว 390 บาท) โหยยย ข้าวแกงเขียวหวาน ถึงหิวเท่าไหร่ก็ซื้อไม่ลงจริงๆ
นอกจากนี้ยังมีชุดเบนโตะขายด้วยนะครับ จากกัวลาลัมเปอร์ขาย 25 ริงกิต แต่ถ้าซื้อขากลับจากคันไซก็ขาย 39 ริงกิตเช่นกัน (ค่าใช้จ่ายเรื่อง Catering ที่ญี่ปุ่นแพงกว่ามาเลย์ ค่าอาหารจึงไม่เท่ากัน)

อาหารในแต่ละเส้นทางบินก็จะไม่เหมือนกันนะครับ จะเป็นกลุ่มๆ แล้วแต่เดือนว่าเดือนนี้จะเสิร์ฟอะไร
โดยผู้โดยสารเลือกได้แค่ว่าต้องการ Asian (Malaysian) Meal หรือ International meal, Vegetarian หรือ Kids
ลองดูตามเมนูก็ได้ครับ
นอกจากนี้ยังสามารถสั่งอาหารเสริมอื่นเช่น All-Day Breakfast บวกกาแฟ ราคา 10 ริงกิต หรือพวกแซนวิชอื่นๆ ได้ด้วย
ผู้โดยสาร 1 คนสามารถสั่งอาหารได้ 2 อย่างครับ จึงแนะนำว่า ถ้าบินไกลๆ 6-7 ชั่วโมง สั่งไว้ 2 อย่างแยกเคลมสองรอบก็ได้ (รอบแรกตอนออกเดินทาง และรอบสองตอนใกล้จะถึงปลายทาง)

อย่างไฟล์ทนี้ ผมเลือก Inter และ Malaysian จองล่วงหน้ามา ปรากฎว่า ได้ข้าวไก่เทริยากิ เป็นเมนูอินเตอร์ และ Malaysian เป็นนาซีเลอมัก เหอๆๆ

Attached Thumbnails

  • IMG_6132.JPG
  • IMG_6133.JPG
  • IMG_6134.JPG
  • IMG_6135.JPG
  • IMG_6136.JPG


#14 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 11:54 AM

มาดูหน้าตาอาหารกันนะครับ
อันดับแรก ... คุณแอร์จะปูโต๊ะด้วยกระดาษรองให้ก่อน อันเป็นเอกลักษณ์ของแอร์เอเชียเอ๊กซ์ ครับ ...

อาหารที่ผมสั่ง Pre-book ไป ... ค่อนข้างเยอะอยู่ แบบว่ากลัวจะหิว
คือ Inter meal, malaysian meal, All-Day Breakfast และ Sandwich ครับ แซนวิชราคาเท่ากันทั้งขาไปและขากลับ
เข้าใจว่าน่าจะโหลดมาจากมาเลย์หมดเลย แช่เย็นมาเลยทีเดียว ขนมปังค่อนข้างแข็งนะครับ ไส้ก็โอเค เป็นขนมปังแบบไม่ตัดขอบ มาตัดให้เป็นสามเหลี่ยมครับ

ตอนแรกผมก็คิดว่า Inter Meal น่าจะประมาณ ไก่ย่างบาร์บีคิว(อีกแล้ว--เจอตลอด) คราวนี้มาแปลกเป็นข้าวไก่เทริยากิ
เอาใจคนญี่ปุ่นแบบสุดๆ รสชาติโอเคเลยครับ

ส่วนตัวผมเลือก Malaysian Meal ออกมาเป็นนาซีเลอมัค
ตรงถั่วเค้าจะแยกถุงออกมาเพื่อความสดใหม่ครับ เวลาเปิดกล่องมาก็เอาถั่วโรยลงไป
รสชาติ Pak's Nasi Lemak ของแท้ฉบับ AK และ D7 ไม่เคยผิดหวังจริงๆ อร่อยมากๆๆๆ

ส่วนอันสุดท้ายคือ All-Day Breakfast ครับ
เป็นอาหารตระกูลไข่และไส้กรอกแบบเบาๆ มาพร้อมกับกาแฟ ในราคาจองล่วงหน้า 10 ริงกิต ผมก็ว่าเมนูนี้ก็คุ้ม สำหรับใครที่ต้องการทานอะไรเบาๆ ช่วงเช้าก่อนเครื่องลงครับ :D

Attached Thumbnails

  • IMG_6126.JPG
  • IMG_6124.JPG
  • IMG_6127.JPG
  • IMG_6129.JPG
  • IMG_6130.JPG


#15 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 12:03 PM

แสงแดดสาดส่องเข้ามาแล้วครับ กัปตันประกาศว่า อุณหภูมิข้างนอก ณ สนามบินปลายทาง 8 องศา หุหุ เย็นแล้วๆๆ

สำรวจเมนูกันต่อนะครับ
สำหรับใครที่ต้องการอัพเกรด ก็จ่ายเพิ่มได้เลย (แจ้งกับแอร์ตอนที่ขึ้นเครื่องก็ได้ครับ แอร์เค้าจะได้เชิญไปนั่งได้ทั้ง Premium หรือ Hot Seat แต่ผมว่าออกแนวไม่คุ้มนะ แพงเอาเรื่องเลย)

ใครที่ต้องการเช่าเครื่องเล่น ePlayer มาราคาจองล่วงหน้า 30 ริงกิต บนเครื่อง 35 ริงกิตก็ย่อมได้ครับ
เหมาะสำหรับบินไฟล์ทกลางวัน ไม่มีอะไรทำ ซึ่งข้อดีก็คือ แบตเตอรี่อยู่ยาวกับเราจนถึงปลายทาง แต่ข้อเสียคือ แอร์จะเอามาแจกให้หลังจากที่เครื่องไต่ระดับได้
และจะเรียกคืนประมาณ 1 ชั่วโมงก่อนเครื่องร่อนลงจอดครับ หนังที่อยู่ในเครื่องก็เป็นภาษาอังกฤษหมด และมี Sub จีนให้

ซึ่งใครคิดว่า...อยากได้ Sub ไทยหรือหนังส่วนตัว แนะนำโหลดหนังลงไอแพดหรือลงคอมอาจจะประหยัดได้มากกว่า แต่ก็แล้วแต่นะครับ

สุด่ท้าย มีเครื่องเล่นเกมส์ให้เช่าด้วยครับ ทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองหมดหล่ะ ไม่มีอะไรฟรี

Attached Thumbnails

  • IMG_6137.JPG
  • IMG_6138.JPG
  • IMG_6139.JPG
  • IMG_6131.JPG
  • IMG_6140.JPG


#16 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 12:37 PM

เครื่องลงเวลา 8.30 น. พอดีเลยครับ ... อากาศข้างนอกสดใสมากๆ

เครื่องจอดเทียบ Gate 1 ฝั่ง North Wing (ฝั่งเดียวกับค่าย Star Alliance เพราะ ANA เป็นเจ้าถิ่นครองฝั่งนี้ และ AirAsia X จ้าง ANA ทำกราวน์ให้
รวมไปถึงในอนาคตที่ AirAsia Japan จะเกิดเพราะ AirAsia+ANA นั่นเอง)
สำหรับที่คันไซ เราจะต้องเกาะเจ้ารถไฟฟ้าอัตโนมัติเข้าไปที่ตัว Main Wing นะครับ

วันนี้ ตม.คิวยาวจริงอะไรจริงครับ ... ควรเผื่อเวลาตรงนี้ไว้ด้วย คิวยาวมากๆ
ช่องคนญี่ปุ่นก็เร็วหน่อย แต่ช่องต่างชาติยาวจริง ขั้นตอนในการผ่านไม่ยากครับ
เพราะทุกคนมีวีซ่ามาแล้ว แต่ต้องสแกนนี้วมือ ดูจากบนหน้าจอซึ่งมีภาษาไทยได้อยู่แล้วครับ

Attached Thumbnails

  • IMG_6141.JPG
  • IMG_6143.JPG
  • IMG_6144.JPG
  • IMG_6145.JPG


#17 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 12:41 PM

ผ่านด่าน ตม. มา ประทับตราปุ๊บ
(ผมขอแบบ Short Term Repeater ได้วีซ่า 15 วันสบายๆ
โดยไม่ต้องยื่น Statement แต่อย่างใด -- สำหรับชาวต่างชาติที่เคยพำนักในญี่ปุ่นแบบไม่เกิน 15 วันในครั้งก่อน)

ลงมารับกระเป๋าซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดึงออกจากสายพานมากองไว้แล้ว
จากนั้นก็จะผ่านด่าน Custom ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะถามถึงของที่อยู่ภายใน
ซึ่งของต้องห้ามทั้งหลายคือของที่กินได้ แล้วแต่ว่าเค้าจะสุ่มเปิดกระเป๋าหรือไม่ก็ต้องวัดดวง ก่อนจะได้หลุดออกไปข้างนอกครับ

เวลานี้ 9 โมงกว่าๆ พอดี ใช้เวลาที่ด่าน ตม. นานจริงครับ

Attached Thumbnails

  • IMG_6146.JPG
  • IMG_6149.JPG
  • IMG_6150.JPG


#18 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 01:35 PM

http://www.youtube.com/watch?v=chvOVErISJg
คลิ๊ปการร่อนลงจอดของแอร์เอเชียเอ๊กซ์ ที่สนามบินคันไซ แบบ Cross-wind ครับ แจ่มจริงๆ
วันที่ผมบินก็ลงทางทิศเหนือแบบนี้หละ่ครับ แล้วก็ taxi มาจอดฝั่ง North Wing
โดยสนามบินคันไซ ตั้งอยู่บนเกาะห่างจากชายฝั่งเกือบ 5 กิโลเมตร โอกาสที่จะเกิด Cross-wind ก็ย่อมมีเช่นกัน
การเดินทางเข้าเมืองของเรา ... แน่นอน คือรถไฟครับ ...

เราจะต้องขึ้นไปชั้น 3 เพื่อเดินข้ามไปยังสถานีรถไฟซึ่งอยู่ตรงข้ามด้านหน้าตัว Main Terminal
สำหรับรถไฟที่ให้บริการขบวนรถเข้าเมืองโอซาก้า ก็จะมี 2 เจ้าหลักเป็นคู่แข่งกัน

ก็คือ JR ซึ่งมีทั้งรถ Limited Express ชื่อว่า Haruka วิ่งจาก Kansai Airport
แวะจอดที่สถานี Tennoji (เชื่อมต่อกับ JR Osaka Loop Line ไปสถานีอื่นๆ รอบโอซาก้า) และสถานี Shin-Osaka (เชื่อมต่อชินกังเซ็น) ปลายทางสถานีเกียวโต
รวมไปถึงรถไฟแบบ Express และ Local นั่งเข้าเมืองแบบเพลินๆ มากมาย โดยใช้เวลาเดินทางราว 40-50 นาทีจากตัวเมือง ในราคาเริ่มต้นที่ 1,030 เยน

ส่วนอีกเจ้าหนึ่งคือ Nankai เป็นบริษัทรถไฟเอกชนที่ให้บริการรถไฟเข้า-ออกสนามบินคันไซ ตรงไปยังสถานี Namba ใจกลางเมืองโอซาก้า
ซึ่งมีรถ Limited Express ให้บริการหลายแบบ อาทิเช่น Rapit หรือ Southern (สองขบวนนี้จอดน้อยสถานีมาก ไม่สามารถใช้บัตร Kansai Thru Pass ได้ หรือถ้าใช้ต้องจ่ายเงินเพิ่ม 500 เยน) และรถแบบ Airport Express เข้าตัวเมืองในราคาเริ่มต้นเพียง 890 เยนเท่านั้น ระยะทางเดินรถถือว่าสั้นกว่า JR อยู่เล็กน้อย ใช้เวลาเดินทางราว 40 กว่านาทีในการเข้าเมืองครับ

ทั้ง 2 เจ้ามีบัตรโดยสารรถไฟแบบเหมาจ่ายด้วยกันทั้งคู่ ...
สำหรับใครที่วางแผนจะท่องเที่ยวในย่านคันไซ (โอซาก้า, เกียวโต, นารา, โกเบ) บัตรที่คุ้มและครอบครุมที่สุด
ก็คือ Kansai Thru Pass
ซึ่งเป้นบัตรที่สามารถใช้รถไฟและรถเมล์ในพื้นที่คันไซได้ (ยกเว้นรถไฟ JR ไม่เข้าร่วม โดยบัตรนี้เป็นการร่วมมือของบริษัทรถไฟเอกชนหลายเจ้า)
สามารถศึกษารายละเอียดบัตรเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://www.surutto.c...ru_english.html
http://www.nankai.co...utto/index.html
ราคาบัตร 3 วันอยู่ที่ 5,000 เยน และ 2 วันอยู่ที่ 3,800 เยน ข้อดีก็คือ ไม่จำเป็นต้องใช้ติดกัน 2-3 วัน สามารถเลือกวันที่จะใช้บริการได้

ในขณะที่ค่าย JR ก็จะมีบัตรรถไฟซึ่งคนไทยรู้จักกันดีอย่าง Japan Rail Pass
ซึ่งสามารถใช้ได้กับรถไฟแทบจะทุกอย่างของ JR ทั่วประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงชินกังเซ็นก็สามารถใช้ได้
(มีข้อยกเว้นแค่รถไฟชินกังเซ็น Nozomi และ Mizuho กับพวกรถนอนบางขบวนเท่านั้น) แน่นอนว่า ใครเปิด Japan Rail Pass ที่สนามบินคันไซ
สามารถนั่งรถไฟ Limited Express ที่ชื่อว่า Haruka เข้าเมืองได้ครับ
สำหรับบัตร Japan Rail Pass จะต้องซื้อก่อนเข้าประเทศญี่ปุ่น สามารถซื้อได้กับตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย บริษัททัวร์มากมาย
จะออกมาแข่งทำโปรโมชั่นในงาน เที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก ปลายเดือนกุมภาพันธ์ และงานไทยเที่ยวไทย ต้นเดือนมีนาคม
ราคาบัตร 7 วันเริ่มต้นเพียงแค่ประมาณ 10,100 บาทเท่านั้น แค่ใช้นั่งชินกังเซ็น โตเกียว-โอซาก้า ไป-กลับ 1 รอบก็เกือบเท่ามูลค่าบัตร 28,300 เยนแล้ว
แต่ก็มีข้อเสียคือ ต้องใช้ต่อเนื่อง 7 วัน หยุดพักไม่ได้ ถ้าเดินทางน้อยก็ไม่คุ้มค่าบัตร เดินทางมากไปอาจจะอาเจียนออกมาเป็นชินกังเซ็นได้เช่นกัน

สำหรับใครที่ไม่อยากจะซื้อ Pass ระยะยาวแบบนั้น JR-WEST ก็มี Pass อีกรุ่นหนึ่ง
สามารถซื้อได้ที่สนามบินคันไซ นั่นก็คือ JR-WEST Pass ซึ่งก็จะมีรายละเอียดตามลิ๊งค์นี้เลยครับ http://www.westjr.co...formation/pass/
ข้อมูลหลักๆ คือสามารถนั่งรถไฟ Limited Express ชื่อ Haruka เข้าเมืองโอซาก้าได้ แต่จะต้องเป็นตู้แบบ Non-Reserve Seat เท่านั้น
และสามารถใช้ขึ้นรถไฟของ JR ได้ทุกขบวนตามเส้นทางที่กำหนด (ยกเว้นชินกังเซ็นไม่สามารถใช้ได้) ราคาบัตร 1 วันเริ่มต้นที่ 2,000 เยน
ซึ่งถ้าใครคิดอยากจะนั่ง Haruka เข้าเมือง ซื้อบัตรแบบบุฟเฟต์ก็ว่าคุ้มอยู่ครับ แต่ข้อเสียของ JR คือความครอบครุมจะสู้บริษัทรถไฟเอกชนอื่นๆ ซึ่งร่วมกันออกบัตร Kansai Thru Pass ไม่ได้

ดังนั้น ทริปนี้ ผมจะพาเข้าเมืองด้วยรถไฟ Limited Express ของ JR ที่ชื่อว่า Haruka (เพราะผมมี Japan Rail Pass)
และขากลับเข้าสนามบินจะเดินทางด้วยรถไฟของบริษัท Nankai ขบวน Airport Express ราคา 890 เยนครับ

อันดับแรก เดินจากตัวอาคารผู้โดยสาร ไปสถานีรถไฟซึ่งอยู่ด้านหน้าอาคารก่อน ....
เมื่อเดินเข้าไปถึงตัวสถานี ฝั่งซ้ายคือค่ายส้ม Nankai ส่วนฝั่งขวาคือค่ายน้ำเงิน JR เป็นคู่แข่งกันครับ
สำหรับใครที่ต้องการซื้อบัตร Kansai Thru Pass สามารถเดินเข้าไปซื้อตรงห้องขายด้านซ้ายของภาพที่ 2 ได้เลย
ส่วนใครที่มี Japan Rail Pass หรือต้องการซื้อบัตร JR-WEST ของค่าย JR ก้เดินไปทางห้องตั๋วด้านขวาของภาพที่ 3 ได้เลยครับ

Attached Thumbnails

  • IMG_6151.JPG
  • IMG_6152.JPG
  • IMG_6153.JPG


#19 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 01:45 PM

เริ่มที่เอา Exchange Order ที่เราซื้อมาจากไทย
มาเปลี่ยนเป็น Japan Rail Pass ที่นี่ก่อนเลยครับ
เมื่อเราเปลี่ยนเป็นบัตร Japan Rail Pass เราสามารถใช้จองตั๋วรถไฟทุกขบวนล่วงหน้าได้หมดเลย ตามอายุการใช้งานที่เลือก

เราสามารถเลือกใช้งานวันนี้เลย หรือเลือกให้บัตรเริ่มต้นใช้งานวันไหนก็ได้ จนกระทั้งสิ้นสุดในอีก 7 วันข้างหน้า (หรือตามอายุบัตร 14 หรือ 21 วัน)

คิวแอบยาวนะเนี่ยะ เจ้า Haruka เข้าเมืองทุกๆ ครึ่งชั่วโมงครับ
ก่อนการเดินทางควรศึกษาตารางรถไฟญี่ปุ่นจากเว็บไซต์ http://www.hyperdia.com/en ก่อนเพื่อวางแผนว่าจะต้องทำเวลา มาขึ้นรถไฟกี่โมงๆ อย่างไรครับ

การแลก Exchange Order ก็เตรียมพาสปอร์ตด้วยครับ
โดยจุดสำคัญมากคือ วีซ่าเข้าญี่ปุ่นของเราจะต้องมีสถานะเป็น Temporary Visitor อยู่ได้ 15 หรือ 90 วันเท่านั้น
ถ้าเป็นสถานะอื่นเช่นมาราชการ หรือมาเรียน ก็ใช้ไม่ได้นะครับ แสดงหลักฐาน กรอกแบบฟอร์มนิดหน่อย เจ้าหน้าที่ก็จะออก japan Rail Pass ให้ครับ
เมื่อได้บัตรแล้ว ต้องเก็้บรักษาบัตรนี้ไว้เยี่ยงชีพครับ เพราะถ้าเกิดทำหายหรือถูกขโมย จะออกบัตรใหม่นี้ไม่ได้
บัตรนี้สามารถใช้เบ่งเข้า-ออกสถานีรถไฟของ JR ทุกสถานีทั่วประเทศ เพียงแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรงทางเข้า-ออก ก็สามารถใช้ได้จนหมดอายุเลยครับ ...

เมื่อเราออก Japan Rail Pass ปุ๊บเราสามารถ Reserve ที่นั่งได้เลย อย่างเช่นเราจะเข้าเมืองด้วย Haruka เราก็แจ้งเจ้าหน้าที่เลย เค้าจะได้จองที่นั่งให้ครับ
ข้อดีของการ Reserve ที่นั่งก็คือ มีที่นั่งชัวร์ และบางขบวนที่นั่ง Reserve นั่งสบายกว่าที่นั่ง Non-Reserve เป็นไหนๆ ครับ

Attached Thumbnails

  • IMG_6154.JPG
  • IMG_6155.JPG
  • IMG_6159.JPG


#20 ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์

    สมาชิก Business Class

  • Sponsor Member
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,586 posts
  • Locationเชียงใหม่

Posted 22 April 2012 - 01:54 PM

พอเราได้ตั๋ว ได้บัตรทุกอย่าง เราก็เข้าสู่ตัวสถานีกันครับ ...

ผู้ใช้บัตรเบ่งทั้งหลาย จะต้องเข้าช่องพิเศษ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่่ตรงปากทางเข้าออกเท่านั้นนะครับ ไม่สามารถผ่านเครื่องอัตโนมัติได้

อย่างในภาพนี้จะเห็นว่า JR คือสีฟ้า Nankai คือสีส้ม ทั้งสองเจ้าแยกกันชัดเจนมากๆ ทางเข้าออกคนละทางกัน อย่าเข้าผิดเจ้านะครับ
Japan Rail Pass เบ่งได้เฉพาะรถไฟค่าย JR เท่านั้น เจ้าอื่นเบ่งไม่ได้
ตรงช่วงกลางๆ จะมีป้ายเขียนว่า Japan Rail Pass มีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ เข้าสถานีตรงนั้นเลยครับ
เปิดหน้าบัตรให้เห็นวันที่หมดอายุให้ชัดๆ เลย เจ้าหน้าที่เค้าก็จะพยักหน้าให้เราเข้าไปในสถานีได้ครับ

เจ้า Haruka มาพอดีเลย ไปยืนรอตามหมายเลขตู้ได้เลยครับ ....
บนรถกำลังหมุนเก้าอี้อยู่ รอแป๊บเดียวก็ได้ขึ้นรถแล้ว ...

ข้อดีของการนั่งเจ้า Haruka ของ JR (หรือรถไฟบริษัท Nankai ขบวน Rapit หรือ Southern) ก็คือรถถูกออกแบบมาสำหรับเส้นทางสนามบิน
จะมีช่องเก็บสัมภาระมากพอสมควรครับ เราไม่ต้องกระเตงกระเป๋าไปถึงที่นั่ง หรือต้องหาที่วางของให้วุ่นวายแบบขบวนรถอื่นๆ
พอขึ้นรถวางของเสร็จก็หลับยาวได้เลย .... สบายๆ จริงๆ

พวกฝรั่งนิยมนั่งขบวนนี้ยาวไปถึงเกียวโตเลยครับ แต่ของเราจะลงที่สถานี Shin-Osaka เพื่อต่อชินกังเซ็นไปเที่ยวก่อน อิอิ

Attached Thumbnails

  • IMG_6156.JPG
  • IMG_6160.JPG
  • IMG_6158.JPG
  • IMG_6161.JPG
  • IMG_6978.JPG





1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users

ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Galileo (แสดงผล waiting list)     ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Amadeus (เแสดงเฉพาะที่นั่งว่าง)
   
    ติดต่อเจ้าหน้าที่แผนก ตั๋วเครื่องบิน โทร 02-3737-555 / จันทร์ - ศุกร์ 09.00~18.00 น. // เสาร์ 09.00-16.00 น.