66 replies to this topic

[Hibino4520]

Advertisements

ลาแล้ว ที่นั่ง 25F ของผม
เดินลงจากเครื่อง เป็นคนสุดท้าย ของเที่ยวบินนี้อีกตามเคย
มาถึงหาดใหญ่ในไม่กี่ชั่วโมง รวดเร็วดีจริงๆ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[Hibino4520]

บ๊ายบาย เจ้า HS - ABI

ลงไปรอรับกระเป๋า ตามระเบียบ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[Hibino4520]

รับกระเป๋าเสร็จ เดินออกมา จะหารถเข้าตัวเมืองหาดใหญ่
ก็ได้รับคำตอบว่า... อยู่โน่นนนนนน ต้องข้ามถนน ไปขึ้นรถสองแถวหัวสูง

อัตราค่ารถสองแถว จากสนามบินเข้าไปยังตลาดกิมหยง คนละ 20 บาท

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[Hibino4520]

แล้ว รถสองแถวก็ พาผมข้ามสะพานข้ามทางรถไฟ สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่
ไปจอดยัง ตลาดกิมหยง ... จ่ายค่าโดยสารเสร็จปุ๊บ ก็รีบเดินจากป้ายรถเมล์/รถตู้/รถสองแถว
มายัง สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่โดยเร็ว

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[Hibino4520]

เข้ามาถึง ตัวอาคารสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่แล้ว
พบว่า ขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางนั่งปรับอากาศ ขบวนที่ 41 กรุงเทพ - ยะลา
เพิ่งจะเข้าเทียบชานชาลาสถานีชุมทางหาดใหญ่

เรียกได้ว่าล่าช้ามาพอสมควรเลยล่ะครับ เพราะปกติ เที่ยงกว่าๆ แบบนี้ มันต้องไปถึง จะนะ เทพา แล้ว
แล้วนี่ยังอยู่หาดใหญ่ ไหนจะต้องเติมน้ำ เช็คระบบ อะไรหลายๆอย่างอีก ... ช้าได้โล่ ไปเลย

Attached Thumbnails

• 

[Hibino4520]

ในตอนแรก ที่มาถึง หาดใหญ่ ได้นัดแนะ กับน้องในแก้งค์รถไฟ ที่รู้จักกันให้พาเที่ยวเมืองหาดใหญ่ซักหน่อยสิ
ไหนๆก็มาแล้ว อยากเที่ยวหาดใหญ่ เจาะลึก

น้องมันบอกผมว่า ... ถ้าพี่มาซะเวลาแบบนี้ คงไปไหนไม่ได้แล้วล่ะ อย่างมากก็แค่เดินตลาดกิมหยง กับ นั่งตากแอร์ โรบินสัน

คิดในใจ เวรกรรม ... มาหาดใหญ่ทั้งที ถ้าได้เที่ยวแค่นี้ ไม่คุ้ม ...เอาไงดีหว่า???


น้องมันเลยเสนอไอเดียว่า ... พี่!! นั่ง ด่วนลังกาวี ไปปาดังเบซาร์ แล้วรอขึ้น ขบวน 36 กลับกรุงเทพ จากที่โน่นเลยดิ !!!

ในตอนแรกผมก็ไม่มั่นใจว่าจะไปดีหรือเปล่า เพราะ นั่นคือการเดินทางข้ามประเทศ แล้ว ตัวผมก็ยังไม่ได้ไปทำพาสปอร์ตใหม่ เพราะมันหมดอายุมาหลายปีแล้ว
แต่น้องมันยืนยันว่า ไปได้แน่นอน ไม่ต้องใช้พาสปอร์ต ...เราก็ เออ เอาวะ ไปก็ไป ลองดูซักตั้งนึง

ผลที่ได้ก็คือ
1 ซื้อตั๋วโดยสาร อัตราพิเศษ ของขบวนรถ Ekspres Senandung Langkawi ในราคา 57 บาท
2 เปลี่ยนตั๋วขบวนรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศ ที่ 36 ที่จองไว้จากกรุงเทพ แต่เดิมต้นทาง
ชุมทางหาดใหญ่ - กรุงเทพ ...ราคา 945 บาท เป็น ... ปาดังเบซาร์ - กรุงเทพ ราคา 960 บาท
โดยจ่ายส่วนต่าง ไป 15 บาท

แล้วผมก็ได้มาแล้วครับ ตั๋วโดยสารรถด่วนลังกาวี การนั่งรถไฟข้ามประเทศกำลังจะเกิดขึ้น

Attached Thumbnails

• 

[Hibino4520]

หลังจากนั้นก็ให้ เจ้าน้องวัชร มันพาผมเดินเล่นในย่านตลาดกิมหยง หาดใหญ่ ฆ่าเวลา
เพื่อที่จะรอรถด่วนลังกาวี ออกจากหาดใหญ่ ตอนบ่าย 4 โมง

น้องมันพาผมเดินวนไปทั่วเลย ตั้งแต่ ลีการ์เด้น ตลาดกิมหยง วนมาโรบินสัน มาสถานีรถไฟ ไปโน่นนั่นนี่
จนสุดท้าย ก็กลับมาตั้งหลักกันที่ โรบินสัน กินข้าวกันที่นั่น

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[Hibino4520]

เดินกลับมา ที่สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ เพื่อที่จะรอขึ้นรถด่วนลังกาวี ตอนบ่ายสี่โมง
ก็พอดีเจอ ขบวนรถท้องถิ่นที่ 455 นครศรีธรรมราช - ยะลา กำลังเข้าเทียบชานชาลาพอดี
วันนั้น ได้ ดีเซล Alsthom 4223 ทำขบวนมาด้วย สีใหม่มาเลย

Attached Thumbnails

• 
• 

[Hibino4520]

มาดูภายนอกของ ขบวนรถด่วนลังกาวี ขบวนนี้กันดีกว่า

Ekspres Senandung Langkawi ขบวนที่ 21
เป็นขบวนรถด่วนระหว่างประเทศ รับส่งผู้โดยสาร จาก ชุมทางหาดใหญ่ - Kuala Lumpur Sentral

ซึ่งขบวนรถชุดนี้ เป็นขบวนรถที่อยู่ในการดูแลของ ประเทศมาเลเซีย
ดำเนินการโดย Keretapi Tanah Melayu Berhad - KTMB เรียกให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ การรถไฟของมาเลเซียเขาน่ะแหละ

ขบวนรถขบวนนี้ ชุดรถที่เข้ามาวิ่งในประเทศไทย จะมีเพียง 3 โบกี้ คือ
1 โบกี้ไฟฟ้ากำลัง - โบกี้ปั่นไฟนั่นเอง

2 โบกี้รถนอนปรับอากาศชั้น 2 (ADNS) - เป็นรถนอน เตียงบน เตียงล่างเหมือนกันกับบ้านเรา

3 โบกี้รถนั่งปรับอากาศชั้น 2 (ASC) - เป็นรถนั่งปรับเอน มีแอร์ เหมือนรถสปรินเตอร์บ้านเรานี่แหละ

มีเพียงเท่านี้

Attached Thumbnails

• 
• 

[Hibino4520]

เผื่อมีคนสงสัย เดี๋ยวผมพาๆไปดูละกัน ว่ารถไฟมาเล บ้านเขาหน้าตาภายในเป็นอย่างไร?

ตามเข้ามาเลยครับ
นี่คือ โบกี้รถนอนปรับอากาศชั้น 2 (ADNS) - เป็นรถนอน เตียงบน เตียงล่างเหมือนกันกับบ้านเรา
มีจำนวน 40 เตียง แบ่งเป็น เตียงบน 20 เตียง และ เตียงล่าง 20 เตียง


ภาพแรก ตู้นอนของมาเล จะมีลักษณะเตียงที่ค่อนข้างแคบ เพราะเว้นทางเดินให้ดูกว้าง กว่ารถนอนบ้านเรา
ผ้าม่าน นิยมใช้ผ้าสีออกน้ำตาลทอง

ภาพ 2 ลักษณะของเตียงล่าง ...
รถนอนของประเทศมาเลเซีย จะปูเตียงไว้แบบนี้ตลอดเวลา ไม่มีการปรับเป็นที่นั่ง ปรับเป็นที่นอน ไปๆมาๆ
แบบที่ประเทศไทย ทำอยู่ทุกวันนี้ ... รถนอนของเขาก็คือรถนอนอย่างเดียวเลย

ภาพ 3 ลักษณะของเตียงบน ...
เตียงบนของเขาก็เช่นกัน ไม่มีการพับเก็บ แบบรถนอนประเทศไทย จะกางเตียงปูที่นอนไว้แบบนั้นตลอดเวลา
แต่ที่พิเศษกว่า นั่นก็คือ มีหน้าต่างเล็กๆ ไว้ให้ผู้โดยสารเตียงบนได้ชมวิว ตลอดเส้นทางเช่นกัน กับผู้โดยสารเตียงล่าง

รถไฟของประเทศไทย น่าจะเจาะช่องหน้าต่างให้ผู้โดยสารเตียงบน แบบนี้บ้างเนาะ?

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[Hibino4520]

สำหรับ โบกี้รถนั่งปรับอากาศชั้น 2 (ASC) - เป็นรถนั่งปรับเอน มีแอร์ เหมือนรถสปรินเตอร์บ้านเรานี่แหละ

เพียงแต่ว่า ตู้โดยสารนี้มีจำนวน 60 ที่นั่ง จะไม่มีการ หมุนกลับทิศที่นั่ง
ตรงกลางตู้เป็น การแบ่งครึ่ง หันหน้า ไปทางเดียวกับหัวรถจักร และ หันหลังให้กับหัวรถจักร
และ มีจอ แอลซีดี ประจำตู้ อยู่ 2 จอ เพื่อเปิดภาพยนตร์ให้ผู้โดยสารได้ชม ระหว่างการเดินทาง

Attached Thumbnails

• 
• 

[Hibino4520]

16.00 น. ขบวนรถด่วนลังกาวี ก็ได้เวลา ออกจากสถานีชุมทางหาดใหญ่ แล้วครับ

วันนั้นได้หัวรถจักร GEA 4539 สีใหม่วิ๊ง เลย ทำขบวนรถด่วนลังกาวี ข้ามด่านพรมแดนไทย - มาเลเซีย ไปถึง สถานีปาดังเบซาร์
แล้วก็รับขบวนรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศ ที่ 36 บัตเตอร์เวอร์ธ - กรุงเทพ กลับมาจาก ปาดังเบซาร์ เข้าเขตประเทศไทย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[Hibino4520]

ขบวนรถวิ่งไปตามเส้นทาง หาดใหญ่ - ปาดังเบซาร์ เรื่อยๆ
สำหรับ เส้นทางนี้ เป็นเส้นทางที่ใช้สำหรับการขนส่งสินค้าเป็นสำคัญกว่าการเดินรถโดยสาร
ทำให้ บางสถานีที่อดีตเคยใช้เป็นที่หยุดรับส่ง ผู้โดยสาร ต้องปิดตัวลง
กลายเป็นสถานีร้าง และในที่สุดก็โดนยกเลิกชั้นสถานี กลายเป็นเพียงที่หยุดรถ ป้ายหยุดรถ เพียงเท่านั้น

ดังเช่น

ที่หยุดรถ บ้านพรุ
ที่หยุดรถ ศาลาทุ่งลุ่ง

สถานีนีต่อไป คือสถานีเดียวในเขตประเทศไทย ของเส้นทางนี้ นั่นคือ
สถานีคลองแงะ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Hibino4520]

หลุดจากที่หยุดรถศาลาทุ่งลุ่ง มาได้ไม่นาน
ก็เข้าสู่ เขตชุมชนเมือง ซึ่งที่นี่ ก็เป็นที่ไหนไปไม่ได้
นอกจากย่านสถานี "คลองแงะ"

สถานีนี้ มีขบวนรถที่หยุดรับส่งผู้โดยสารเพียง 2 ขบวนคือ

ขบวนรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศที่ 35 กรุงเทพ - บัตเตอร์เวอร์ธ และ
ขบวนรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศที่ 36 บัตเตอร์เวอร์ธ - กรุงเทพ

เท่านั้น

สำหรับขบวนรถด่วนลังกาวี ที่ผมโดยสารมาด้วยนั้น ไม่หยุดรับส่งผู้โดยสารที่สถานีนี้ ครับ วิ่งฉิว ฟริ้ววววววว เลยล่ะ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[Hibino4520]

ผ่านสถานีคลองแงะ มาแล้ว
ก็เริ่มเข้าใกล้ ด่านชายแดนไทย - มาเลเซีย มากขึ้น
ระหว่างเส้นทาง ช่วงนี้ ก็จะเป็นเส้นทางที่วิ่งเลาะป่าเขาเขตร้อนภาคใต้
มีการทำสวนยาง สวนปาล์ม สวนมะพร้าวให้เห็นอยู่บ่อยๆ

และที่สำคัญ ยังได้เจอกับ อดีตสถานี คลองรำ ซึ่งถูกยกเลิก
ให้เป็นเพียงป้ายหยุดรถ ที่รกร้างจนถึงปัจจุบัน

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[Hibino4520]

เอาละครับ เรามาถึงด่านชายแดนไทย - มาเลเซีย เรียบร้อยแล้วล่ะครับ
สังเกตได้จาก เสาเตือน ซึ่งเป็นสัญญาณไฟสี มาเลเซีย (แอบคล้ายกับของอังกฤษ เลยแฮะ)

และไม่นานหลังจากผ่านเสาเตือนมาเป็นระยะ 500 เมตร
ขบวนรถด่วนลังกาวี ก็ได้หยุด ณ ป้ายหยุดรถ สทล.973.316
ซึ่ง สทล. นี้ ย่อมาจากคำว่า "เสาโทรเลข" ต้นที่ 973 ซึ่งหมายถึง เราเดินทางมาไกลถึง 973 กิโลเมตร
(นับหลักกิโลฯจากสถานีธนบุรี ถ้านับจากสถานีกรุงเทพหรือหัวลำโพง ให้บวกเพิ่มไปอีก 16 กิโลเมตร)

ณ ที่ตรงนี้ นับได้ว่าเป็น "สถานีปาดังเบซาร์ ฝั่งของประเทศไทย"
เป็นเพียงแค่ ที่หยุดรถเท่านั้น แต่มีย่านรับส่งสินค้า จะเห็นได้จากตู้สินค้า ตญ. บตญ.
ที่ไม่ใช้แล้ว จอดค้างคาย่าน สทล. 973.316 อยู่เต็มไปหมด

จากจุดนี้ ผมสามารถเห็นด่านปาดังเบซาร์ ทางรถยนต์ได้ด้วย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Hibino4520]

แล้วขบวนรถด่วนลังกาวี ก็ค่อยๆไหลขบวน ข้ามชายแดนประเทศไทย เข้าสู่ประเทศมาเลเซีย
รั้วกั้นเขตชายแดนยังคงตั้งตระหง่านอยู่ตลอดเวลา แบ่งพื้นที่อย่างชัดเจน

จนขบวนรถด่วนลังกาวีได้เข้ามาเทียบชานชาลาที่ 4 ของสถานี ปาดังเบซาร์ (ฝั่งประเทศมาเลเซีย) เรียบร้อย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[Hibino4520]

สำหรับผู้โดยสารทุกคนที่จะเดินทางต่อ เข้าไปยังกรุง กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
ต้องมาต่อแถวสำหรับการตรวจลงตรา Passport ที่ด่าน ตม. สถานีปาดังเบซาร์นี้แหละครับ

สำหรับผมมาแค่สถานีปาดังเบซาร์ แค่นี้ ก็เลยไม่ต้องไปต่อแถวกับพวกเขาเหล่านั้น
ก็เลยเดินเล่น ถ่ายรูปสถานีปาดังเบซาร์ ที่กำลังทำการปรับปรุงสถานี เพื่อรับกับระบบรถไฟรางคู่
ของทางมาเลเซีย เขา หากใครไปเดินเล่นปาดังเบซาร์ ตอนนี้ ก็อาจจะไม่สะดวกและภาพถ่ายก็จะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่
เนื่องจาก จะได้แต่แคมป์ก่อสร้าง มาเยอะแยะเลย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[Hibino4520]

ที่สถานีปาดังเบซาร์ นี้ เป็นสถานีร่วมระหว่างประเทศไทย และ ประเทศมาเลเซีย
แต่ สิทธิในการใช้งานสถานี เป็นของประเทศมาเลเซียเป็นหลัก ดังนั้น
จะเห็นได้จาก สถานีนี้เป็นย่านรับส่ง ตู้คอนเทนเนอร์

และยังมีหัวรถจักรของประเทศมาเลเซีย วิ่งไปมาอยู่ในย่านสถานีอยู่บ่อยครั้ง

ปล. หัวรถจักรของประเทศมาเลเซีย มีแต่หัวใหญ่ๆ ทั้งนั้นเลยแฮะ - -"

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Hibino4520]

15 นาทีผ่านไป ที่ผมเดินเล่น สำรวจสถานีปาดังเบซาร์
ทางสถานีก็ประกาศให้ระมัดระวังอันตรายจากขบวนรถ

เนื่องจาก ที่สถานีปาดังเบซาร์นี้ ได้เก็บชุดรถตัวเต็มของขบวนรถด่วนลังกาวี ขบวนนี้ไว้ในย่านหลังสถานี
ซึ่งเมื่อขบวนรถด่วนลังกาวี 3 ตู้ สั้นๆ ที่ผมนั่งจากหาดใหญ่มาถึงปาดังเบซาร์แล้ว

หัวรถจักรไทย ก็จะปลดดีเซลออกแล้วไปต่อเข้ากับตู้ บพห. ไว้รอทำขบวนรถด่วนพิเศษระหว่างประเทศที่ 36 บัตเตอร์เวอร์ธ - กรุงเทพ
ส่วนชุดรถด่วนลังกาวีก็จะยังคงจอดคา ชานชาลาที่ 4 เพื่อรอรับชุดรถใหญ่จากปาดังเบซาร์มาต่อขบวน

จนกลายเป็นชุดขบวนเต็ม ของ Ekspres Senandung Langkawi ขบวนที่ 21 อย่างเต็มยศ ที่สถานีปาดังเบซาร์นี้ นั่นเอง

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
•