Jump to content



 
จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จองรถเช่า
แผนกบริการลูกค้า โทร 02-3737-555 จันทร์ - เสาร์ 09.00-18.00น.

 

ค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวและการบินในเอชไฟล์ท เชิญด้านล่างนี้

หน้าแรก | เว็บบอร์ดรีวิว | จองตั๋วเครื่องบิน | จองโรงแรม | เที่ยวต่างประเทศ | เที่ยวในประเทศ | ลงโฆษณา

ยาที่ควรมีไว้เวลาเดินทาง


  • Please log in to reply
9 replies to this topic

#1 arq

arq

    สมาชิก Business Class

  • Premium Members
  • 6,466 posts
  • LocationBKK,SYD, CNX

 


Posted 20 October 2011 - 10:15 AM

Advertisements

วันนี้นั่งเช็คยาที่ชอบมีไว้ระหว่างเดินทาง ก็เลยทำเป็น list ขึ้นมาให้ครับ ใครจะเอาไปใช้ก็ตามสบาย ผมว่า ครอบคลุมเกือบหมดทุกการทอ่งเที่ยวละ

CPM (Chlorpheniramine) เม็ด ขนาด 4 มก.แก้แพ้ แก้หวัด ลดน้ำมูก (และใช้เป็นยานอนหลับอ่อนๆได้ด้วย) ถ้าจะเอาแบบไม่ง่วง ก็ Clarinase Tablet ครับ แพงหน่อย เม็ดละ 25 บาท แต่ดีมากๆ น้ำมูกไม่มีเลย ไม่ง่วงด้วย หาซื้อที่ Boots ครับ

Atarax 5 หรือ 10 มก. ถ้าแพ้อะไรมากๆที่ CPM เอาไม่อยู่ ตัวนี้ง่วงพอกันกับ CPM เลย

Dramamine แก้เมารถเมาเรือ (Dimenhydrinate) กินก่อนเดินทาง 30 นาทีแล้วจะหลับยาววว ตัวนี้หาที่ไหนก็มี สบายมาก

แก้ท้องเสีย จะมีสองส่วนคือ ให้หยุดถ่ายก็ Emodium (Loperamide)ทั่วๆไป แต่จะทำให้เชื้อโรคมันถูกกักเก็บอยู่ในลำไส้ ก็ต้องกินยาฆ่าเชื้อไปด้วย ผมใช้ Norfloxacin 400 mg วันละ 2 ครั้ง หลังอาหารนาน3-5วัน

แก้ไข้ ก็ตามแต่ ชอบ Aspirin หรือ Paracetamol ก็ตามสบายครับ

ทาแก้คัน แพ้แมลง Zambuk ก็ได้ครับ ถ้าไปทะเลผมจะมี Metabetasone ครีม เป็นหลอดเพิ่ม สำหรับเวลาแพ้หนักๆ โดนแมงกะพรุน โดนแตนทะเลเป็นผื่นแสบร้อน (เป็นยาเสตียรอยด์นะครับ ถ้ามีแผลติดเชื้อไวรัส หรือเริม ห้ามทาเด็ดขาด) ตัวนี้กลับมาแล้วต้องทิ้งเลย เพราะต้องเก็บในที่เย็น ส่วนมากไปทะเลนี่ กระเป๋ามักจะโดนทิ้งให้ตากแดดหัวเรือตลอด ทริปนึงซื้อหลอดนึงเลยเชียว

ยาหม่อง ยาดม

ทาแผลสด Bernol Plus ครับ ได้ทั้งแผลสด แผลเป็นหนอง น้ำร้อนลวก ใครชอบ Betadine ก็ตามแต่

พลาสเตอร์ยา

ยาทากันยุง อันนี้ชื่อเป็นยา แต่ไม่ใช่ยา :D

ครบละมั้ง ใครอยู่ในวงการแล้วเห็นว่าผมใช้ยาไม่ถูกต้อง ก็รบกวนเตือนหน่อยก็ดีครับ อันนี้ผมก็จำๆเอาจากเวลาไปหาหมอแล้วเค้าสั่งยามา ก็เอามาประยุกต์ติดกระเป๋าไว้ยังงั้นเอง

  • N e w j e r s y, PeterP.™, JAL and 1 other like this


Advertisements

#2 Amakung

Amakung

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2,698 posts

Posted 20 October 2011 - 01:03 PM

ขอบคุณมากนะครับที่สรุปทุกอย่างไว้ให้ ตัวผมเองเวลาเดินทางแทบจะไม่เคยพกยาเลยก็ว่าได้ แต่คราวหลังถ้าเดินทางเองคงต้องพกมั่งล่ะครับ ซื้อยาต่างประเทศยุ่งยากและแพงมากๆๆๆ

จากเท่าที่ผมเรียนรู้มา จะขอแจงรายละเอียดยาข้างต้นนิดนึงละกันนะครับ
-chlorpheniramine เป็นยาแก้แพ้แบบต้านฮิสตามีนกลุ่มแรก ซึ่งทุกตัวจะมีฤทธิ์ทำให้ง่วงได้ทั้งนั้น แต่ตัว CPM นี่ง่วงมากเป็นอันดับต้นๆ เลยครับ
-clarinase (pseudoephedrine+tripolidine) ตัวนี้จะไม่ค่อยง่วงเพราะ pseudoephedrine จะออกฤทธิ์ลดน้ำมูกคนละแบบ (ไม่ใช้วิธีต้านฮิสตามีน) แต่ผมว่ามันแพงอ่ะ ถ้าใครไม่มีตังใช้ยาแก้แพ้ตัวอื่นอย่าง rhinohist (pseudoephedrine+carbinoxamine) ก็จะถูกกว่า แต่เท่าที่เคยกินมาแล้วทั้ง 2 ตัว clarinase ประสิทธิผลกินขาดครับ
-dramamine (dimenhydrinate) ตัวนี้ก็เป็นยากลุ่มต้านฮิสตามีนกลุ่มแรกเช่นกัน แต่ฤทธิ์จะอ่อนกว่าและไม่ได้เอาไว้ลดน้ำมูก แต่อย่างที่บอกคือเอาไว้แก้คลื่นไส้อาเจียน รวมถึงเมารถ เมาเครื่องบิน (motion sickness) ด้วย ตัวนี้ดีมากๆ ครับ เวลานอนไม่หลับบนเครื่องก็ขอพ่อแม่อยู่บ้างเหมือนกัน
-ไม่แนะนำให้ใช้ยานอนหลับ เช่น Ativan (lorazepam) ยากลุ่มนี้เรียกว่า benzodiazepines ซึ่งใช้แล้วติดได้ ต้องให้แพทย์เป็นผู้จ่ายเพื่อรักษาโรคนอนไม่หลับเท่านั้น อีกอย่างคือถึงยาพวกนี้ทำให้หลับได้เร็วจริง แต่คุณภาพการนอนไม่ได้ดีขึ้นครับ
-ยาแก้ไข้ ขอให้ใช้ paracetamol ดีที่สุดครับ เพราะผลข้างเคียงน้อยกว่า aspirin มาก และห้ามกินเกิน 4 กรัมต่อวันนะครับ (เน้นตามฉลากครับ) เวลากินเม็ดนึง 500 มิลลิกรัม ก็คอยดูด้วยละกัน
-สำหรับการลดการท้องเสีย อันที่จริงแล้วเวลาเราท้องเสีย ถ้าไม่ได้ถ่ายออกมาเป็นเลือดเช่นเป็นโรคบิด ไม่ต้องทานยาอะไรเลยครับ รวมถึงยาลดการถ่ายเช่น loperamide ด้วยแต่ก็พอเข้าใจเวลาเดินทางมันหาห้องน้ำไม่ได้ตลอดนี่นะ ถือว่าหยวนๆ กันไปได้ครับ ที่สำคัญที่สุดคือต้องกินน้ำเยอะๆ ครับ และเสริมเกลือแร่ด้วย
-betamethasone (ไม่ใช่ metabethasone นะครับ ;) ) เป็นสเตียรอยด์แบบทาชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้ได้กับผื่นแพ้หรือการอักเสบ ไม่แนะนำให้ใช้กับแผลที่มีเชื้อโรค (แบคทีเรีย รา ไวรัส) เพราะสเตียรอยด์จะกดภูมิคุ้มกันทำให้แผลหายช้าลง เชื้ออาจกระจายได้ ในขณะที่ผื่นแพ้จะเป็นปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันมากเกินกว่าความจำเป็น ซึ่งเราควรจะจำกัดมันไว้ครับ เอาเป็นว่าถ้ามีแผลหรือยังไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร อย่าเพิ่งทาสเตียรอยด์ครับ (แพ้แมลงสัตว์กัดต่อยนี่ใช้ได้ครับ :D :D )
  • arq and PeterP.™ like this

#3 KYUNKiM

KYUNKiM

    สมาชิก Economy Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 510 posts

Posted 20 October 2011 - 07:00 PM

หลายประเทศที่ไม่อนุญาติให้นำยาบางชนิดเข้า อาจเพราะประเทศอื่นๆเค้าไม่ขายพร่ำเพรื่อเหมือนเราน่ะครับ
วันก่อนผ่านตาเข้าเว็บการท่องเที่ยว หรือของกรมแรงงานนี่แหละ มีเอกสารเรื่องการจับกุมคนไทย ที่พกพายาต้องห้ามเข้าประเทศ
ทางกระทรวงเขาก็เลย แนะนำมา อย่างไรเสียผมจะเอาเอกสารนั้นมาอัพให้อ่านกัน

สรุปคือ ศาลตัดสินจำคุก 2 เดือน ปรับ สี่หมื่นกว่าบาท รอให้กระทรวงของไทยรับทราบอะไรสักอย่าง
ยังไงไปต่างประเทศก็เชคดีๆแล้วกันน่ะครับ ++

#4 arq

arq

    สมาชิก Business Class

  • Premium Members
  • 6,466 posts
  • LocationBKK,SYD, CNX

Posted 20 October 2011 - 11:35 PM

ขอดูเอกสารเป็นข้อเตือนใจไว้ก็ดีครับ แต่ยาพวกนี้ไม่น่ามีปัญหา เพราะเป็นยาสามัญประจำบ้านทั้งหมด ยาที่ต้องออก prescription ก็จะมีแต่ Norfloxacin เท่านั้นเอง ตัวนี้ก็ตัดออกไปได้ถ้าไปประเทศที่สุขอนามัยค่อนข้างดี แต่ถ้าไปทางอินเดีย เนปาล ที่เราอาจไม่คุ้นกับอาหารของเขา จำเป็นต้องพกเลยครับ ผมได้ตัวนี้ช่วยชีวิตไว้ที่เนปาลเลยแหละ ไม่งั้นแย่แน่ๆ (และพกไปแล้ว ผม declare ด้วยว่าพกยาอะไรเข้ามา เขาก็ให้ผ่านครับ)

ขอบคุณคุณ Amakung สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม และการแก้ไขชื่อยานะครับ

#5 Amakung

Amakung

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2,698 posts

Posted 21 October 2011 - 12:35 AM

สำหรับยาสามัญประจำบ้าน ส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาครับ ยกเว้นตัวนึงคือยาแก้ไอ (อาจารย์ผมสอนว่าจริงๆ ต้องเรียกว่ายากดไอ เพราะไม่ได้แก้อาการระคายเคืองในทางเดินหายใจซึ่งเป็นสาเหตุของการไอ)
ตัวที่ว่านี้คือยาแก้ไอน้ำดำ มีส่วนประกอบหลักคือโคเดอีน (codeine) ซึ่งจะช่วยกดศูนย์การไอที่สมองไม่ให้เราไอ แต่มันเป็นสารเสพติดครับ
ตะกี้ลองเปิดๆ ดูประกาศยาต้องห้ามของกระทรวงการต่างประเทศ (ในที่นี้ดูของ UAE) เห็นยาที่มี codeine ผสมอยู่หลายชนิดทีเดียว
อย่างไรก็ตาม codeine เป็นยากดไอที่ประสิทธิภาพดีมาก และถ้าใช้ตามแพทย์สั่งก็จะไม่ติดแน่นอนครับ อีกอย่างคือเราไม่ได้ใช้ codeine เท่าไหร่นะครับถ้าไม่ได้ไอรุนแรงจริงๆ ถ้าจะพกก็ใช้ dextromethorphan พอถมเถแล้วครับ

สำหรับ dextromethorphan เป็นยาแก้ไอที่เราใช้กันอยู่เป็นประจำ เคยได้ยินว่าบางคนเจ้าเล่ห์เอาไปทำเป็นสารเสพติดก็มี แต่ต้องใช้ปริมาณมาก ผมว่าถ้าไม่ได้เอามาเยอะเว่อร์เค้าก็ไม่ว่าอะไรหรอกครับ แต่ติดฉลากยาไว้หน่อยก็ดี จะได้ไม่ต้องให้ ตม มาสืบว่าเป็นยาอะไร
  • arq likes this

#6 arq

arq

    สมาชิก Business Class

  • Premium Members
  • 6,466 posts
  • LocationBKK,SYD, CNX

Posted 21 October 2011 - 08:28 AM

^
^
^
อ้อ... ไอ้ที่ตลาดแห่งนึงเค้าติดป้ายบอกว่า ห้ามนำน้ำอัดลมผสมยาแก้ไอดื่มในตลาด ก็เพราะงี้เองสินะครับ กินแล้วคงเมาไปทั่ว.....

#7 Flight Mania

Flight Mania

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 2,453 posts

Posted 07 November 2011 - 01:09 PM

สำหรับใครที่ต้องใช้ยาลดความดัน (พ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่) แนะนำให้เอาไปเผื่อเพิ่มอย่างน้อย 7 วัน แผงนิดเดียว เผื่อการเดินทางเลื่อน

ขอเสริมนะครับ ถ้าไปนานๆ 15+วัน เอายาปฏิชีวนะพวก Amoxicillin เพราะเมืองนอกต้องมีใบสั่ง อาการหนักที จนเพราะหมอเลย เอาไปพอกิน 5 วัน ไม่น่ามีปัญหาครับ (resonable consumption)
แล้วก็พวกย่าถ่านครับ activated carbon เอาไว้ถอนพิษทั่วๆไป หรือแก้อาหารเป็นพิษได้

UAE ระวังเป็นพิเศษครับแต่ถ้ามีใบสั่งหมอ ก็โอเคครับ

#8 priiaw peed

priiaw peed

    สมาชิกนั่งแท็กซี่

  • Members
  • PipPipPip
  • 126 posts
  • LocationBKK, HKT, NST

Posted 10 November 2011 - 09:00 PM

ยาแก้ท้องเสีย ปกติจะใช้ ultracarbon ได้หรือเปล่าค่ะเนี่ย

#9 The traveler

The traveler

    สมาชิก Premium Economy

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPip
  • 1,034 posts

Posted 10 November 2011 - 09:31 PM

๊Ultra carbon จริงๆ แล้ว คือถ่านค่ะ ใช้ดูดซับเชื้อโรคหรือพิษในทางเดินอาหาร
แต่ไม่ได้มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแต่อย่างใดค่ะ
เป็นยาที่ปลอดภัยมาก เพราะเวลาเราเดินทางมักจะติดเชื้อแบคทีเรียง่าย (ซึ่งเชื้อประจำถิ่นในทางเดินอาหารเราไม่คุ้นชิน จึงเกิดอาการจุ๊ด จู๊ด ขึ้นมา)
Activate charcoal จึงทำหน้าที่ดูดซับแบคทีเรียนี้ไว้ แล้วขับออกทางอุจจาระต่อไป น่ะค่ะ
ควรพกไว้อย่างยิ่ง และหากไม่จำเป็นไม่ควรใช้ยาระงับถ่าย เพราะจะทำให้แบคทีเรียสะสมในลำใส้อย่างที่คุณอาร์คบอกน่ะค่ะ ให้เค้าออกมาเร็ว ๆ ดีกว่า
แล้วเราก็ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อลดการสูญเสียน้ำทดแทนค่ะ :D
  • arq likes this

#10 N-Shock

N-Shock

    สมาชิกใหม่กิ๊ก

  • Members
  • 8 posts
  • LocationBangkok,Thailand

Posted 28 November 2011 - 02:43 PM

ขอลอกเก็บไว้เลยนะครับ ปกติเวลาเดินทางผมก็จะพกยาพวกนี้ไปอยู่เหมือนกัน

แต่บางตัวไม่ได้ใช้นานเลยลืมไปแล้วว่าต้องทานยังไง ก่อนหรือหลังอาหาร กี่เม็ด

จนตอนนี้ต้องมานั่งเขียนหน้าซองยาเอาไว้จะได้ไม่ลืม




1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users

ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Galileo (แสดงผล waiting list)     ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Amadeus (เแสดงเฉพาะที่นั่งว่าง)
   
    ติดต่อเจ้าหน้าที่แผนก ตั๋วเครื่องบิน โทร 02-3737-555 / จันทร์ - ศุกร์ 09.00~18.00 น. // เสาร์ 09.00-16.00 น.