69 replies to this topic

[The traveler]

Advertisements

ถึงแล้วค่ะ หุบเขาเสือกระโจน
ด้านซ้ายเป็นภูเขาหิมะฮาบา ด้านขวาคือภูเขายู่หลง หรือเทือกเขามังกรหยกนั่นเองค่ะ
มีทางเดินลัดเลาะเลียบไปกับสายน้ำ ซึ่งก็คือแม่น้ำแยงซีเกียงนั่นเอง

คุณลี่ก็เล่าต่อว่า ตามตำนานมีสองพี่น้องฮาบา ยู่หลง คอยปกปักรักษาเมืองลี่เจียง จากการทำลายของเหล่ายักษ์อสูร
ฮาบาผู้พี่ถือดาบต่อสู้จนตัวตาย กลายเป็นหุบเหาฮาบา ส่วนยู่หลงกวัดแก่งดาบสิบสามเล่มเพื่อป้องกันเมืองต่อ และภายหลังหลุมศพของยู่หลงก็กลายเป็นหุบเขายู่หลง หรือเขาหิมะมังกรหยกนั่นเอง

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

ิเิดินต่อไปจะเป็นส่วนหางของเขาฮาบาที่เป็นยอดหิมะ เด่นชัดเชียวค่ะ

บางจุดที่อันตรายจะไม่ให้เดินผ่านแต่จะเจาะเป็นอุโมงค์ให้ลอดแทน

Attached Thumbnails

• 
• 

[The traveler]

เดินลอดได้สี่อุโมงค์ ก็เจอแล้วตามที่เค้าเล่าว่า
ลูกเสือหนีนายพรานมาจาก เจอแม่น้ำแยงซีเกียง เชี่ยวกราดมาก จึงตัดสินใจกระโดนไปยังโขดหินรูปสามเหลี่ยมกลางแม่น้ำ
ก่อนกระโจนต่อไปยังอีกฟากหนึ่ง

ก้อนสามเหลี่ยมกลางน้ำนี่แหล่ะค่ะ คือหินตามตำนาน

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

ก่อนกลับไกด์พาเดินไปยังสะพานชมวิว โอย..... เหนื่อยมากๆ เลยค่ะ

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

ขากลับแวะชมวิวที่จุดโค้งแรกของแยงซีเกียง
คุณลี่บอกว่าตอนเราไปน้ำน้อย เลยเห็นพักหักศอกไม่ชัด เพราะหิมะบนเขายังไม่ละลาย
ถ้าเป็นช่วง กรกฏาคม ถึง สิงหาคม หิมะจะละลายเกือบหมด น้ำเยอะ คนจีนชอบมาเล่นล่องแก่งกันที่นี่

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

กลับมาถึงโรงแรม ล้างหน้าล้างตากันก่อน เดี๋ยวไปเดินเล่นเมืองเก่าอีกแห่งค่ะ
เมืองเก่านี้ชื่อว่า "ซูเหอ"ค่ะ ห่างจากบันยันทรีถ้าเดินไปก็แค่สิบนาทีค่ะ

Attached Thumbnails

• 
• 

[The traveler]

คนที่นั่นน่ารัก ชอบถ่ายรูป (เราขออนุญาติปุ๊บ ก็ Action ปั๊บ)
โดยเฉพาะน้องสาวคนนี้ พอเราชมว่า "เหมยลี่" เธออายใหญ่เลยค่ะ ..เหมยลี่แปลว่าน่ารักค่ะ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[The traveler]

มีสะพานแห่งหนึ่งเรียกกันว่าสะพานสตูดิโอค่ะ ใครๆ ก็พากันมาถ่ายรูป
สองสาวนี้เหมือนมาถ่ายรูปลงนิตยสารท้องถิ่น เราเลยขออนุญาติเก็บภาพมาไว้ด้วย

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

เดิมทีที่นี่ก็เป็นชุมชนเกษตรกรรมเหมือนกัน เป็นเมืองที่สร้างมาพร้อมกับเมืองใบ๋ชา

ต่อมาเมื่อเมืองดาหยันเจริญขึ้นมา ที่นี่ก็เลยพัฒนาตัวเองเป็นเมืองที่ใช้พักม้า พักคน หรือเป็นโรงเตี๊ยมท้องถิ่นนั่นเองค่ะ
สำหรับให้พ่อค้าต่างเมืองได้มาพักกัน


รูปนี้เป็นสามภาษาค่ะ ทั้งตงป๋า จีน และอังกฤษ

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

ร้านรวง และอาหารเย็นของเราวันนี้

Attached Thumbnails

• 
• 

[The traveler]

เจ้าตัวนี้ ดูมีความสุขจัง

แสงสุดท้าย ที่ซูเหอ...

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

เดินกลับไปโรงแรม มืดตึ๊ดตื๋อเลยค่ะ
โรงแรมตอนกลางคืนสวยคลาสสิคไปอีกแบบ

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

เช้าวันที่สามเก็บกระเป๋า แล้วออกเดินทาง สู่เชียงกรีล่ากันค่ะ
คันนี้แหล่ะที่จะไปส่งเรา

วิวระหว่างทาง สวยบาดตาบาดใจเลยค่ะ ทิวเขาหิมะฮาบา ที่เป็นที่ตั้งของยอดเขาเหมยลี่เสวี่ยวซานที่สวยที่สุดของยูนาน

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

เข้าที่พักกันก่อนค่ะ บันยันทรีริงฮา เชียงกรีลา

Attached Thumbnails

• 
• 

[The traveler]

วันแรกได้แต่เดินเล่นรอบๆ รีสอร์ทไปก่อน
ที่นี่คือตำบลริงฮา เมืองจงเตี้ยนค่ะ ชนพื้นเมืองเป็นชาวทิเบต หากใครมาที่นี่ท่องคำว่า"ตาชิ เดเล"ไว้นะคะ เป็นคาถาผูกมิตรได้ดีทีเดียว แปลว่า"สวัสดี"แบบทิเบตค่ะ



และอาหารทิเบตมื้อแรกของเรา ที่ทางโรงแรมจัดให้ (รสชาดจืดๆ มันๆค่ะ อร่อยอยู่แตู่ไม่ค่อยถนัดสำหรับไทยอย่างเรา )

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

เช้าแล้ว วันนี้เราซื้อ Day tour ของทางโรงแรมค่ะ ไกด์ท้องถิ่นมารับ ชื่อ"เทรซี่" เป็นหนุ่มทิเบตที่เดินไปร้องเพลงไปอยู่ตลอดเวลา
เราเริ่มกันด้วยวัดจงซานหลินเลยนะคะ
เดินทางประมาณสามสิบนาทียังประตูทางเข้า แล้วขึ้นรถ shuttle bus ไปที่วัดกันค่ะ

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

ถึงแล้วค่ะ วัดจงซานหลิน หรือ โปตาลาน้อย เป็นวัดที่ทาไลลามะที่ห้า ท่านสร้างไว้ โดยย่อส่วนทุกส่วนมาจาก พระราชวังโปตาลา เมืองลาซา ทิเบต

Attached Thumbnails

• 
• 

[The traveler]

เทรซี่ชี้ให้ดูภาพนี้ เป็นภาพพระราชวังโปตาลาค่ะ
ที่นี่เหมือนภาพวาดโปตาลาจริงๆ เทรซี่เล่าต่อไปถึงตำนานทิเบตว่า
ท่านจงขะปะ เห็นลามะในลัทธิตันตระหย่อนยานในพระวินัย จึงปฏิรูปการปกครองกันใหม่รวมศาสนจักร อานาจักรเข้าด้วยกัน ภายใต้การปกครองของ ทาไลลามะ
ใช้ความเชื่อแบบหินยานเข้ามาแทน ซึ่งเป็นลัทธิที่ลามะปัจจุบันถือปฏิบัติกันเรียกว่าลามะหมวกเหลือง ส่วนพระลามะลัทธิอื่นๆ จะเป็นหมวกขาว หมวกดำ และหมวกแดง ก็ยังมีอยู่เหมือนกัน
นอกจากนี้ท่านจงขะปะได้มีทำนายไว้ว่า..เมื่อใดก็ตามที่พาหะนะล้อเหล็กจากคนต่างศาสนาเคลื่อนเข้ามา อาณาจักร ศาสนจักร ของทิเบตจะสั่นคลอน
และแล้วช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งกองทัพอังกฤษได้มีทหารขับรถหลงเข้ามจริงๆ แล้วสิ่งที่เราทราบกันต่อมาก็เกิดขึ้น
นึกสัมพันธ์ไปถึงนวนิยายของเจมส์ ฮิวตั้น ที่พูดถึงเชียงกรีลา เป็นนิยายปลอบประโลมยุคหลังสงครามที่มีทหารขับเครื่องบินมาตกในบริเวณนี้..แล้วกลายเป็นนวนิยายที่กลายเป็นตำนาน เชียงกรีล่าที่เราได้ยินกันมา

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

เดินขึ้นบันไดไป หอบใช้ได้เลยค่ะ
เทรซี่เล่าต่อว่า วิหารด้านบนมีสามวิหาร ตรงกลางคือพระสมณโคดม ด้านซ้ายคือพระโพธิสัตว์อมิตายุส พระโพธิสัตว์ด้านอายุ
ด้านขวาคือพระโพธิสัตว์มัชชุศรี เป็นพระโพธิสัตว์ด้านปัญญา (หากใครเคยไปวัดสวยมภูวนาทที่เนปาล จะคุ้นชื่อนี้ดีค่ะ พระโพธิสัตว์พระองค์นี้เป็นผู้ใช้ดาบตัดช่องเขาชมพูทวีปที่นั่นเอง)

ภายในอาคารห้ามถ่ายภาพค่ะ เลยได้แ่ต่เก็บไว้ที่ memory น้อยๆ ในรอยหยักร่องหางตา เอร้ยยย !!! ร่องสมอง

ทิเบตมีสัญลักษณ์มงคลแปดอย่าง ที่เห็นบ่อยๆ คือสังข์ค่ะ เราจะเห็นสังข์อยู่บริเวณกลางอกพระโพธิสัตว์หลายองค์

Attached Thumbnails

• 

[The traveler]

มุมมองเมื่อมองย้อนกลับลงมา

Attached Thumbnails

• 
•