50 replies to this topic

[Noom_Muang_Krung]

Advertisements

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมจะพาไปชมโรงแรมที่แปลกประหลาดแหวกแนวไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนที่ประเทศสิงคโปร์กันครับ นั่นก็คือ “The Merlion Hotel” ซึ่งตั้งอยู่ที่ตัวเมอร์ไลอ้อน สัญลักษณ์ประจำชาติของสิงคโปร์ ณ ริมอ่าวมารีน่าเบย์ครับ นี่คือเรื่องจริงนะครับ!!!

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

รูปนี้คือ Merlion ยามปกติ ที่เราคุ้นเคยกันดีเมื่อมาเที่ยวสิงคโปร์ครับ

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

ว่าแต่...คุณรู้ไหมครับว่า Merlion มีตำนานที่มาอย่างไร...เรื่องนี้เกี่ยวพันกับชื่อประเทศ “Singapore” ด้วยนะครับ...เรื่องมันมีอยู่ว่า...

กาลครั้งนึง มีเจ้าชายแห่งเกาะสุมาตรา นามว่า “ปรเมศวร” เสด็จมาล่าสัตว์ริมฝั่งทะเล ครั้งนั้นเจ้าชายก็มองเห็นเกาะใหญ่เกาะนึงกลางทะเล มีหาดทรายขาวสะอาดน่าดู จึงถามกับอำมาตย์คนสนิทว่านั่นคือเกาะอะไร อำมาตย์ทูลเจ้าชายว่าเกาะนั้นชื่อว่า “เตมาสิก” เจ้าชายก็เกิดสนพระทัยจะไปเที่ยวเล่นชมเกาะนั้น จึงพาข้าราชบริพารลงเรือข้ามไปยังเกาะเตมาสิก…ระหว่างทางทะเลเกิดปั่นป่วนขึ้น เรือกำลังจะอัปปาง ทุกคนในเรือต้องทิ้งข้าวของต่างๆลงทะเลหมด เพราะกลัวเรือจะจม แม้แต่เจ้าชายปรเมศวรเอง ก็ต้องทิ้งมงกุฏของพระองค์ลงทะเลไปด้วย…แต่ทันทีที่มงกุฏตกถึงทะเล คลื่นลมปั่นป่วนนั้นก็สงบลงทันที ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนในเรือจึงได้รอดตายมาถึงเกาะเตมาสิกโดยสวัสดิภาพ…เจ้าชายและบริวารทั้งปวงก็ลงจากเรือ พากันมาพักผ่อนให้หายเหนื่อย ที่หาดทรายของเกาะนี้…ขณะที่กำลังสำราญพระอิริยาบถนั้นเอง เจ้าชายก็มองเห็นสัตว์ประหลาดตัวหนึ่ง กระโจนหนีเข้าไปในพุ่มไม้อย่างว่องไว แม้จะเห็นเพียงแวบเดียว แต่เจ้าชายก็จำลักษณะประหลาดของมันได้ เพราะเจ้าตัวนั้นมันมี “หัวสีดำ ลำตัวแดง อกสีขาว” ตัวใหญ่กว่าแพะตัวโตๆซะอีก…เจ้าชายจึงถามอำมาตย์ผู้เฒ่าอีกคนนึงที่มาด้วยกันว่า นั่นคือตัวอะไร…อำมาตย์ผู้เฒ่านั้นทูลว่า “ข้าพระองค์ เคยได้ยินตำนานเก่าแก่ เล่าว่าเกาะเตมาสิกแห่งนี้ มีสิงโตอาศัยอยู่พระเจ้าค่า ชะรอยว่ารอยว่าจะเป็นเจ้าสัตว์ตัวนี้แหละ ที่เป็นสิงโตในตำนานพระเจ้าค่า”…เจ้าชายจึงตรัสตอบไปว่า “ดีล่ะท่านอำมาตย์ แต่นี้สืบไปเมื่อหน้า ข้าจะสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่ริมฝั่งทะเลบนเกาะแห่งนี้ แลจักตั้งนามเมืองใหม่นี้ว่า “สิงคปุระ” (Singapura) อันหมายถึง “นครสิงโต” แลเมืองนี้จะยิ่งใหญ่ต่อไปในอนาคต”….เจ้าชายปรเมศวร จึงเป็นบุคคลแรกที่ริเริ่มสร้างเมืองใหม่บนเกาะแห่งนี้ จนในที่สุดชื่อเมืองก็ได้กลายจาก “สิงคปุระ” มาเป็น “สิงคโปร์” (Singapore) ในภายหลัง….

สิงโตที่เจ้าชายปรเมศวรทอดพระเนตรเห็น ก็คือ Merlion ไงล่ะครับ

ป.ล. รูปนี้เป็นสมุดภาพตำนานชื่อประเทศสิงคโปร์ใน Asian Civilisations Museum ครับ

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

รูปนี้คือ Merlion เดือนเมษายน 2554 ครับ...ที่เดียวกันเลย กลายเป็น “โรงแรมชั่วคราว” ไปซะแล้ว!!!

หลายคนอาจจะนึกว่ารัฐบาลสิงคโปร์เพี้ยนไปแล้ว ถึงกล้าเอาสัญลักษณ์ประจำชาติมาทำอะไรพิลึกแบบนี้ เขาไม่ “ถือ” กันหรือไง ซึ่งในความเป็นจริงคนสิงคโปร์หลายคนก็เชื่อถือเรื่องเมอร์ไลอ้อนนะครับ ปีก่อนนู้นที่มีฟ้าผ่าก็มีคนลือกันให้แซ่ดทั้งเกาะว่าจะมีอาเพศ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับนอกจากต้องซ่อมตัวเมอร์ไลอ้อนเท่านั้นเอง

ว่าแต่ปีนี้ทำเอานักท่องเที่ยวตกตะลึงโดยการแปลงโฉมเมอร์ไลอ้อนเป็นโรงแรมซะงั้นอ่ะครับ

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

แท้จริงแล้ว Merlion Hotel เป็นผลงานทางศิลปะชิ้นหนึ่งซึ่งศิลปินชาวญี่ปุ่นนามว่า “Tatzu Nishi” เป็นผู้ออกแบบครับโดยขออนุญาตจากรัฐบาลสิงคโปร์เรียบร้อยแล้ว งานศิลปะชิ้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของเทศกาล “Singapore Biennale 2011” ซึ่งเป็นเทศกาลศิลปะและสื่อผสมครั้งใหญ่ของประเทศนี้ครับ มีการจัดแสดงผลงานหลายที่ทั้งที่ Singapore Art Museum, Marina Bay, Old Kallang Airport, National Museum

รายละเอียดงานเทศกาลศิลปะครั้งนี้ ดูได้ที่นี่ครับ http://www.singaporebiennale.org/

สำหรับ Merlion Hotel น่าจะเป็นชิ้นงานที่ใหญ่ที่สุด (และแปลกที่สุด!!) ของงานนี้ล่ะครับ หุหุ...ผมว่างานนี้รัฐบาลสิงโปร์นี่สุดยอดของความใจถึงเลยครับ ที่กล้าให้ใช้สัญลักษณ์ประจำชาติเป็นส่วนหนึ่งของการมทำงานศิลปะแบบนี้ครับ

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

The Merlion Hotel เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมฟรีนะครับ!!! เปิดทุกวันเวลา 10.00 – 19.00 น. ครับ...เพราะหลังจากนั้น ที่นี่จะกลายเป็นห้องพักโรงแรมจริงๆ แขกที่เข้าพักที่นี่จะเข้าห้องพักเวลา 20.00 น. ครับ และได้รับอนุญาตให้พักค้างสำราญใจเป็นเวลา 1 คืนจนกระทั่ง 8.00 น. ก็ต้องเช็คเอาท์ออกไปครับ

ก่อนเข้าชมก็ต้องมารอคิวกันนิดนึงครับ จะมีเจ้าหน้าที่มาแจกบัตรคิวเป็นรอบๆด้วย...ผมได้ไปเยี่ยมชมเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เองครับ (วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2554) คนมีพอสมควรแต่รอคิวไม่นานครับ รอในแถวแป๊บเดียวก็ได้ขึ้นไปชมแล้ว

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

ก่อนเข้าเยี่ยมชมห้องพัก ณ Merlion Hotel ก็ต้องถอดรองเท้าก่อนครับ...เข้ามาปุ๊บก็เจอมุมนี้เลยครับ

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

มีที่แขวนเสื้อ (พร้อมร่มและรองเท้าแตะ) โต๊ะวางชุดชากาแฟ และที่วางกระเป๋าสัมภาระครับ...ก็เฉกเช่นโรงแรมปกตินั่นแล

[Noom_Muang_Krung]

มีที่แขวนเสื้อ (พร้อมร่มและรองเท้าแตะ) โต๊ะวางชุดชากาแฟ และที่วางกระเป๋าสัมภาระครับ...ก็เฉกเช่นโรงแรมปกตินั่นแล

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

แต่ไปดูข้าวของเครื่องใช้ใกล้ๆก็จะรู้ว่า การบริการทั้งหมดของ Merlion Hotel เป็นของ The Fullerton Hotel รับผิดชอบดูแลทั้งสิ้นครับ แสดงว่าถึงจะเป็นโรงแรมชั่วคราวแต่ก็แอบหรูนะครับ หุหุ

สังเกต Wallpaper นะครับจะมีสัญลักษณ์สิงคโปร์ทั้ง Merlion วัดพระเขี้ยวแก้ว Marina Bay Sands และท่านเซอร์ Raffles ด้วยครับ

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

อืมมม...พระเอกของเราอยู่กลางห้องเลยครับ...ใกล้ชิดนักท่องเที่ยวสุดๆๆ

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

ว้าวๆๆๆ ไม่เคยชม Merlion แบบใกล้ชิดขนาดนี้มาก่อนครับ เห็นท่อน้ำในปากพี่แกชัดๆเลยครับ

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

บรรยากาศในห้องพักหน้า Merlion ครับ...แขกเหรื่อนักท่องเที่ยวตื่นเต้นกันมาก ถ่ายรูปกันไม่ยั้งเลยครับ เพราะคงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้มาชม Merlion ในรูปแบบพิลึกเช่นนี้...ที่นี่สามารถถ่ายรูปได้ทุกมุมครับ แต่ห้ามไปยุ่งกับเตียงนอนและเฟอร์นิเจอร์นะครับ เจ้าหน้าที่เขาคุมดูอยู่ตลอดครับ

อ้อ การเข้าชมแต่ละรอบมีเวลาไม่มากนะครับ ไม่ถึง 10 นาทีครับ ดังนั้นใครจะถ่ายรูปใน Merlion Hotel ต้องโพสท่าให้ไวถ่ายให้ไวนะครับ มีน้ำใจเผื่อแผ่ผู้อื่นกันนิดนึง โพสเสร็จถ่ายเสร็จก็รีบสลับมุมให้ท่านอื่นถ่ายรูปต่อจะดีมากๆครับ

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

ระหว่างรอคนอื่นถ่ายรูปตรงกลางห้อง ผมก็แวะชมส่วนอื่นรอบๆครับ ความจริงห้องก็ไม่ใหญ่นะครับแต่รู้สึกโล่งดีแม้ว่าคนจะเยอะ...ตรงนี้เป็นโต๊ะทำงานครับ ดูสวยคลาสสิคดี

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

ตรงนี้เป็นชุดรับแขกแบบโซฟาครับ ที่เจ๋งคือโต๊ะสี่เหลี่ยมนั่นคือหีบทรงโบราณที่มีสัญลักษณ์ East India Company ให้ความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์จริงๆครับ

(แต่ผมแอบกลัวหีบใบนี่นะครับ เหอๆๆ)

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

จากตรงโซฟามองไปข้างๆจะเห็นทะลุไปถึงลานถ่ยรูปหน้าเมอร์ไลอ้อนข้างนอกนู่นเลยครับ

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

และแล้วก็มาถึงมุมมองที่ทุกคนอยากเห็นและแทบไม่เชื่อสายตาว่าเป็นจริง...มุมนี้เลยครับ!!!

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

เตียงนอนดูไม่ใหญ่นะครับ นอนสองคนนี่คงเบียดเล็กน้อย ถ้านอนคนเดียวกำลังดีครับ...ทางแก้คือถ้าเข้าพัก 2 ท่านก็นอนกอดกันซะจะได้หมดห่วงเรื่องเบียดกันครับ อิอิ

ว่าแต่ จะทำอะไรมากกว่าการนอนพักผ่อน กรุณาเกรงใจท่าน Merlion ด้วยนะครับ...แต่ผมว่าคงไม่มีใครทำอะไรเกินเลยที่นี่หรอกครับ เพราะเกรงว่าทางสิงคโปร์จะวางกลไกพิเศษไว้ ถ้าเกิดแรงสั่นสะเทือนในห้องพักแบบผิดวิสัยปกติเมื่อไหร่เมอร์ไลอ้อนจะพ่นน้ำทันที!!! 5555+

ประโยคข้างหลังนี่ผมพูดเล่นนะครับ...แต่ถ้าผมเป็นรัฐบาลสิงคโปร์ จะสั่งให้วางกลไกอันนี้จริงๆครับ อิอิอิ

ป.ล. ผมว่าผมเห็น HSBC แอบมาโฆษณานะครับ!!

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

สุขาอยู่หนใด...อยู่ตรงนี้ครับ เด็ดสุดคืออ่างอาบน้ำ สามารถอาบไปชมวิวมารีน่าเบย์ไปพลาง พร้อมทั้งเห็นแสงสียามค่ำคืนที่ Singapore Flyer และ Marina Bay Sands ด้วยครับ

Attached Thumbnails

• 

[Noom_Muang_Krung]

ล้างหน้าแปรงฟันก็ทางนี้เลยครับ

Attached Thumbnails

•