Jump to content



 
จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จองรถเช่า
แผนกบริการลูกค้า โทร 02-3737-555 จันทร์ - เสาร์ 09.00-18.00น.

 

ค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวและการบินในเอชไฟล์ท เชิญด้านล่างนี้

หน้าแรก | เว็บบอร์ดรีวิว | จองตั๋วเครื่องบิน | จองโรงแรม | เที่ยวต่างประเทศ | เที่ยวในประเทศ | ลงโฆษณา

อิ่มเอมใจ แอ่วเวียงเชียงใหม่ ไหว้พระ ขึ้นดอย...


  • This topic is locked This topic is locked
204 replies to this topic

#141 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

 


Posted 22 January 2011 - 10:17 PM

Advertisements

หอมณเฑียรธรรม เป็นมณฑปปราสาทจัตุรมุขทรงล้านนา 2 ชั้น สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2523 สำเร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ.2538 สำหรับชั้นล่างจัดเป็นห้องสมุดศูนย์วัฒนธรรมท้องถิ่นล้านนาเพื่อรวบรวมวัตถุโบราณของพื้นเมืองต่าง ๆ

Attached Thumbnails

  • P1160530_resize.JPG
  • P1160534_resize.JPG
  • P1160535_resize.JPG




Advertisements

#142 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 22 January 2011 - 10:20 PM

หอมณเฑียรธรรมชั้นบน เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงพระราชทานนามว่า พระพุทธบุพพาภิมงคล ภปร.

Attached Thumbnails

  • P1160537_resize.JPG
  • P1160540_resize.JPG
  • P1160539_resize_resize.JPG


#143 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 22 January 2011 - 10:23 PM

วัดต่อไปที่เราไปกัน คือ วัดเชียงมั่น วัดแรกของเมืองเชียงใหม่

วัดเชียงมั่นที่ปรากฎในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่และพงศาวดารโยนก มีดังนี้คือ หลังจากที่พญางำเมือง พญาร่วง และพญามังรายทรงสร้างเมืองเชียงใหม่ สำเร็จในปี พ.ศ.1839 แล้ว ทั้งสามพระองค์ทรงโปรดให้สร้างเจดีย์ขึ้นตรงที่หอนอนบ้านเชียงมั่นซึ่งพญามังรายทรงสร้างเป็นที่ประทับชั่วคราวในระหว่างที่ควบคุมการสร้างเมืองใหม่โดยให้ชื่อที่ประทับแห่งนั้นว่า "เวียงเล็ก" หรือ "เวียงเหล็ก" หมายถึง"ความมั่นคงแข็งแรง" ต่อมาเมื่อพญามังรายเสด็จแปรพระราชทานไปยังพระราชนิเวศน์มณเฑียรสถานแห่งใหม่ซึ่งเรียกว่า "เวียงแก้ว" (ปัจจุบันคือเรือนจำกลางเชียงใหม่) แล้ว ทรงอุทิศตำหนักคุ้มหลวงเวียงเหล็ก ถวายแด่พระศาสนา โดยตั้งเป็นพระอารามหลวงแห่งแรกและพระราชทานนามอันเป็นมงคลว่า "วัด เชียงมั่น" อันหมายถึงบ้านเมืองที่มีความมั่นคง

Attached Thumbnails

  • P1160546_resize.JPG
  • P1160543_resize.JPG
  • P1160544_resize.JPG


#144 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 22 January 2011 - 10:28 PM

พระอุโบสถทรงล้านนา ถือว่าเป็นพระอุโบสถที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาอีกแห่งหนึ่ง ที่ สำคัญคือ ปัจจุบันนี้เป็นที่ตั้งของศิลาจารึกวัดเชียงมั่นซึ่งมีข้อความกล่าวถึงการสร้างเมืองเชียงใหม่โดย พญามังราย

เจดีย์สร้างสมัยพญามังราย เป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมผสมทรงกลม ทรงสูง (ทรงปราสาท)ประกอบ ด้วยเรือนธาตุและซุ้มจรนำ ตรงฐานเจดีย์ทำเป็นรูปช้างล้อม ๑๖ เชือก คล้ายกับแนบฐานอยู่ ซุ้มจระนำ ของเจดีย์มีด้านละสามซุ้ม เหนือเรือนธาตุขึ้นไปเป็นชั้นมาลัยเถาแปดเหลี่ยมรองรับองค์ระฆังกลม สันนิษ ฐานว่าสร้างเลียนแบบเจดีย์ช้างล้อมของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชที่เมืองศรีสัชนาลัย และคงจะหมายถึง ช้างที่ค้ำชูพระพุทธศาสนา ที่ตั้งของเจดีย์แสดงให้เห็นถึงที่ตั้งของราชมณเทียรแห่งพญามังราย เพราะมีข้อ ความปรากฏในตำนานดังที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น เจดีย์องค์นี้ถือเป็นเจดีย์แบบแรก ๆ ของล้านนาและมีเค้า แบบเหมือนเจดีย์บางองค์ในพุกาม

Attached Thumbnails

  • P1160548_resize.JPG
  • P1160545_resize.JPG
  • P1160549_resize.JPG


#145 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 22 January 2011 - 10:29 PM

พระวิหารประดิษฐานพระพุทธเสตังคมณีหรือพระแก้วขาวซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักจากผลึกหินสี ขาวขุ่น ขนาดหน้าตักกว้าง ๔ นิ้ว สูง ๖ นิ้ว ศิลปทวาราวดี สร้างโดยชนชาติมอญ ระหว่าง พ.ศ. ๑๑๐๐ - ๑๖๐๐ จามเทวีวงศ์ได้กล่าวถึงพระแก้วขาวว่าพระนางจามเทวีนำมาประดิษฐานที่เมืองหริภุญชัย เมื่อ พ.ศ.๑๒๐๔ ดังนั้น พระพุทธเสตังคมณีจึงเป็นเสมือนตัวแทนอันยาวนานของประวัติศาสตร์หริภุญชัย เลยทีเดียว ภายหลัง พญามังรายตีเมืองหริภุญชัยได้ในปี พ.ศ.๑๘๒๔ จึงนำมาประดิษฐานไว้ที่วัดเชียงมั่น ในปี พ.ศ.๑๘๓๙ บางตำนานกล่าวว่ามีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุไว้ ๔ แห่ง คือ ที่พระโมลี พระนลาฎ พระโอษฐ์และพระอุระ สำหรับฐานพระพุทธรูปนั้นสร้างเมื่อ พ.ศ.๒๔๗๑ นอกจากนี้ ในตำนานเชียงใหม่ปางเดิมได้ระบุว่าในพิธีสืบชะตาเมือง ได้มีการอัญเชิญพระแก้วขาวแห่งวัดเชียงมั่นเข้าร่วมด้วย

Attached Thumbnails

  • P1160551_resize.JPG
  • P1160554_resize.JPG
  • P1160556_resize.JPG


#146 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 22 January 2011 - 10:36 PM

พระประธานของวัดเชียงมั่นครับ

Attached Thumbnails

  • P1160559_resize.JPG
  • P1160553_resize.JPG
  • P1160560_resize.JPG


#147 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 22 January 2011 - 10:43 PM

วัดต่อไปที่เราไปคือวัดโลกโมฬี

เดิม วัดโลกโมฬี มีสภาพเป็นวัดร้าง โดยวัดได้ร้างไปเมื่อคราวเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ มีโฉนดออกเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๒
วัดโลกโมฬี ได้รับการรื้อฟื้นจากการเป็นวัดร้างให้เป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ โดยคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้พระญาณสมโพธิ เจ้าคณะอำเภอเมือง เชียงใหม่ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ และพระครูประภัทร์ธรรมรังษี เจ้าคณะตำบลศรีภูมิเขต 3 ดำเนินการพัฒนาบูรณะวัดโลกโมฬี จนกระทั่งวันที่ 9 ตุลาคม 2544 กรมศาสนา กระทรวงศึกษาธิการได้อนุมัติให้ยกวัดโลกโมฬี(ร้าง)เป็นวัดมีพระสงฆ์อยู่จำ พรรษอย่างถูกต้องตามกฏหมาย และได้แต่งตั้งให้ พระญาณสมโพธิ เป็น รักษาการเจ้าอาวาสวัดโลกโมฬี.

Attached Thumbnails

  • P1160562_resize.JPG
  • P1160563_resize.JPG


#148 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 22 January 2011 - 10:45 PM

บริเวณหน้าวัดมีรุปหล่อพระนางจิรประภามหาเทวี

Attached Thumbnails

  • P1160565_resize.JPG
  • P1160566_resize.JPG


#149 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 22 January 2011 - 10:47 PM

พระวิหารถูกบูรณะขึ้นมาใหม่

Attached Thumbnails

  • P1160574_resize.JPG
  • P1160569_resize.JPG
  • P1160572_resize.JPG


#150 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 22 January 2011 - 10:48 PM

ภายในพระวิหารวัดโลกโมฬี

Attached Thumbnails

  • P1160570_resize.JPG
  • P1160571_resize.JPG


#151 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 22 January 2011 - 10:50 PM

เจดีย์วัดโลกโมฬี
เจดีย์วัดโลกโมฬี มีหลักฐานปรากฏอย่างชัดเจนว่า เจดีย์ของวัดโลกโมฬีในปัจจุบันเป็นเจดีย์ที่สร้างปลาย พุทธศตวรรษที่ 21 ตำนานระบุว่าสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลพระเมืองเกศเกล้า เมื่อ พ.ศ. 2071 เป็นเจดีย์ทรงปราสาท ได้มีการพัฒนาการอย่างต่อเนื่องที่เจดีย์วัดโลกโมฬี การพัฒนารูปแบบได้เพิ่มความสูงของเจดีย์คือ
ส่วนฐาน ได้แก่ชุดฐานปัทม์ ลูกแก้ว อกไก่ เพิ่มเป็น 2 ชุดอย่างชัดเจนโดยฐานปัทม์ชั้นล่างไม่มียกเก็จ ที่ฐานปัทม์ชั้นที่สองมีจำนวนยกเก็จที่เพิ่มมากขึ้น และเป็นมุมที่มีขนาดเล็กล ส่วนกลาง ยังคงเป็นเรือนธาตุในผ้าสี่เหลี่ยมยกเก็จ ที่มีขนาดของมุมเล็กลง และจำนวนของมุมมากขึ้นเช่นเดียวกับฐานปัทม์ด้านล่าง ทั้งสี่ด้านของเรือนธาตุมีซุ้มจระนำ มีรูปแบบของซุ้มลดได้ กรอบซุ้มจระนำมีการผสมผสานกันทั้งกรอบแบบคดโค้ง และกรอบแบบวงโค้ง ตลอดจนแนวของลูกแก้ว อกไก่ที่ประดับเสารับซุ้มจระนำ ก็มีขนาดเด่นขึ้น กลายเป็นรูปงอนคล้ายบัวคว่ำที่เรียกกันว่า ปากแล
ส่วนยอด เหนือเรือนธาตุ มีการพัฒนาความสูงโดยเพิ่มจำนวนของชั้นลดรูปฐานปัทม์ลูกแก้ว อกไก่ ยกเก็จซ้อนกันสามฐาน รับทรงระฆังและบัลลังก์สิบสองเหลี่ยม ปล้องไฉนและปลี ซึ่งองค์ระฆังและบัลลังค์นั้น เป็นลักษณะร่วมของเจดีย์ทรงระฆัง

Attached Thumbnails

  • P1160573_resize.JPG


#152 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 23 January 2011 - 08:57 AM

วัดต่อไปที่เราไปคือวัดป่าเป้า ออกจากวัดโลกโมฬีตรงมาไม่ไกลก็จะเจอวัดป่าเป้าครับ

วัดป่าเป้าตั้งอยู่ที่ถนนมณีนพรัตน์ เป็นวัดเงี้ยวแห่งแรกในเมืองเชียงใหม่ สร้างขึ้นเมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2426 ชาวเงี้ยว หรือชาวไทยใหญ่ในสมัยนั้นจะอาศัยอยู่บริเวณย่านช้างเผือก ข่วงสิงห์ ช้างม่อย ฟ้าฮ่าม และวังสิงห์คำ แต่เดิมบริเวณนี้มีต้นเป้าเป็นจำนวนมาก วัดจึงได้ชื่อว่า วัดป่าเป้า ลักษณะของพระธาตุที่วัดป่าเป้านี้เป็นแบบไทยใหญ่ เละที่วัดได้จัดประเพณีปอยส่างลองเป็นประจำในเดือนเมษายนของทุกปี

Attached Thumbnails

  • P1160577_resize.JPG
  • P1160575_resize.JPG
  • P1160576_resize.JPG


#153 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 23 January 2011 - 09:01 AM

พระธาตุเป็นศิลปะไทยใหญ่

สถานที่นี้เคยเป็นหอคำ (วังเก่า) ของพระเจ้ากือนาธรรมิการาชเจ้า
หลังจากพระเจ้ากือนาธรรมิการาชได้สวรรคตลงไปแล้ว อัครมหาเสนาบดีแสนผานอง
ได้นำพระศพของพระเจ้ากือเข้าไปในเมืองทางด้านกำแพงตรงข้ามวัดพราหมณ์
ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดป่าเป้าทุกวันนี้
เพื่อที่จะทำพิธีแต่งการถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระเจ้ากือนา
เมื่อเสร็จแล้ว ภายหลังก็ไม่ได้มาดูแลที่หอคำเก่าทางนอกกำแพงเมือง
เพราะติดพันอยู่กับสงครามด้านอื่นๆ อยู่
จึงเป็นอันชำรุดทรุดโทรมลงไปกลายเป็นที่รกร่างว่างเปล่า มีหมู่ไม้นานาพันธ์ชนิดขึ้นเต็มไปหมด
ในบรรดาหมู่ไม้ทั้งหลายโดยเฉพาะ ไม้ต้นเป้า ( ต้นเป้านี้เป็นยาสมุนไพร )
มีมากกว่าหมู่ไม้ทั้งหลาย

Attached Thumbnails

  • P1160578_resize.JPG
  • P1160580_resize.JPG
  • P1160581_resize.JPG


#154 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 23 January 2011 - 09:06 AM

เมื่อวานเรากลับมาถึงตัวเมืองเชียงใหม่เร็วทำให้มีเวลาอยุ่ที่วัดเจดีย์หลวงไม่มาก วันสุดท้ายที่เราจะอยุ่เชียงใหม่เลยอยากมาเดินชื่นชมความงามของวัดนี้อีกครั้ง

วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นวัดเก่าแก่ในจังหวัดเชียงใหม่
มีชื่อเรียกหลายชื่อ ได้แก่ ราชกุฏาคาร วัดโชติการาม
สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าแสนเมืองมา กษัตริย์ลำดับที่ 7
แห่งราชวงศ์มังราย ไม่ปรากฏปีที่สร้างแน่ชัด

Attached Thumbnails

  • P1160583_resize.JPG
  • P1160586_resize.JPG
  • P1160591_resize.JPG


#155 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 23 January 2011 - 09:17 AM

พระวิหารของวัดเจดีย์หลวง เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลายองค์แต่ที่ปรากฏอยู่โดดเด่นที่สุด คือ พระประธานซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนอยู่ระหว่างพระสาวกยืนอีกสององค์ พระพุทธรูปองค์นี้มีนามว่า พระอัฏฐารส ซึ่งมีประวัติว่า พระราชมารดาของพระเจ้าติโลกราชโปรดฯ ให้สร้างพระวิหาร และหล่อพระอัฏฐารสองค์นี้หลังจากพระเจดีย์หลวงสร้างเสร็จคือประมาณ พ.ศ. ๑๙๘๑ ในสมัยต่อมามีการสร้างและเปลี่ยนแปลงพระวิหารใหม่อีกหลายครั้ง แต่พระอัฏฐารสคงไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ มากนัก นักประวัติศาสตร์ศิลปะมีความเห็นว่า ลักษณะของพระพุทธรูปเป็นแบบศิลปะล้านนาในพุทธศตวรรษที่ ๒๐ และมีอิทธิพลศิลปะสุโขทัยผสมผสานอยู่ ร่องรอยวัฒนธรรมของสุโขทัยที่ปรากฏอยู่อย่างชัดเจนก็คือนามพระอัฏฐารส ซึ่งเป็นคตินิยมการสร้างพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ (๑๘ ศอก) ซึ่งเป็นที่แพร่หลายในอาณาจักรสุโขทัยพุทธศตวรรษที่ ๒๐ นั่นเอง

วิหารหลวงของวัดนี้เจ้าคุณอุบาลีคุณปรมาจารย์ (สิริจันทะเถระ) และเจ้าแก้วนวรัฐเป็นผู้สร้างขึ้นใน พ.ศ. ๒๔๗๑ หน้าประตูทางเข้าวิหาร มีบันไดนาคเลื้อยงดงามยิ่ง ใช้หางเกี่ยวกระหวัดขึ้นไปเป็นซุ้มประตูวิหาร นาคคู่นี้เป็นฝีมือเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่เดิมได้ชื่อว่าเป็นนาคที่สวยที่สุดของภาคเหนือ

Attached Thumbnails

  • P1160589_resize.JPG
  • P1160593_resize.JPG


#156 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 23 January 2011 - 09:24 AM

พระแก้วมรกตเคยมาประดิษฐานระหว่าง พ.ศ.2011-2091 นานถึง 80 ปี ต่อมาในสมัยพระนางจิระประภา ได้เกิดแผ่นดินไหวเมื่อปี พ.ศ. 2088 ทำให้ยอดเจดีย์หักโค่นลง ปัจจุบันเจดีย์มีความสูงคงเหลือ 40.8 เมตร ฐานกว้างด้านละ 60 เมตร

วันนี้เราจะชมพิพิธภัณฑ์ของวัดเจดีย์หลวงกันครับ

Attached Thumbnails

  • P1160596_resize.JPG
  • P1160597_resize.JPG
  • P1160595_resize.JPG


#157 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 23 January 2011 - 09:35 AM

เมื่อเข้าไปจะพบกับรุปเหมือนพระธรรมดิลก(หลวงปู่จันทร์ กุสโล) อดีตเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จ.เชียงใหม่
และพบเครื่องอัฎฐบริขาลของท่าน

นามเดิม จันทร์ แสงทอง กำเนิด 26 พ.ย. 2460 สถานที่เกิด อ.ป่าซาง จ.ลำพูน อุปสมบท อุปสมบท ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2480 โดยมี พระพุทธิโสภณ (แหวว) เป็นพระอุปัชฌาย์ สมณศักดิ์ พระธรรมดิลก

หลวงปู่เข้าสู่เพศบรรพชิตโดยบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 15 ปี ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ. เมือง จ.เชียงใหม่ ท่านสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค ในปีพ.ศ. 2483 ท่านให้ความสนใจต่อการพัฒนาชนบท และการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง โดยได้อุทิศตนเพื่องานดังกล่าวอย่างไม่ย่อท้อ กระทั่งสามารถสร้างผลงานด้านการพัฒนาชนบท และการศึกษาจนเป็นที่ ยอมรับโดยทั่วไป อาทิเช่น - ร่วมกับมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย จัดตั้งมหาวิทยาลัยสงฆ์ ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตั้งชื่อว่า สภาการศึกษา มหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตล้านนา - จัดตั้งมูลนิธิเมตตาศึกษา และโรงเรียนเมตตาศึกษา ณ วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เพื่อช่วยเหลือให้เด็กยากจนได้มี โอกาสศึกษาเล่าเรียนแบบให้เปล่าทั้งด้านทุนการศึกษา ผู้อุปการะ ที่พักอาศัย อุปกรณ์การเรียน เป็นต้น - จัดตั้งมูลนิธิศึกษาพัฒนาชนบท เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนในชนบทที่ด้อยการศึกษาได้รับการพัฒนาถึงระดับ ที่สามารถช่วยเหลือตนเอง และชุมชนได้ ทั้งด้านอาชีพทางการเกษตร และงานฝีมือท้องถิ่น โดยมีแนวคิดในการ พัฒนาที่ว่า “เศรษฐกิจ จิตใจ ต้องแก้ไขพร้อมกัน” ผลงานจำนวนมากที่หลวงปู่ท่านได้สร้างไว้ล้วนเป็นผลงานที่มีคุณประโยชน์ต่อสังคม และประเทศชาติอย่างมาก กระทั่งท่านได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติจากหน่วยงาน และองค์กรต่าง ๆ มากมาย

Attached Thumbnails

  • P1160603_resize.JPG
  • P1160601_resize.JPG
  • P1160602_resize.JPG


#158 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 23 January 2011 - 09:42 AM

ทองจังโก ( แผ่นทองเหลือง ทองแดง (ทองจังโก) ปิดรอบฐานเจดีย์จนมองไม่เห็นเนื้อ )และวัตถุโบราณอื่นๆ

Attached Thumbnails

  • P1160605_resize.JPG
  • P1160606_resize.JPG
  • P1160598_resize.JPG


#159 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 23 January 2011 - 09:47 AM

ตู้พระธรรมและศิลปวัตถุมีค่าอื่นๆ

เราไปชั้น 2 กันครับ

Attached Thumbnails

  • P1160599_resize.JPG
  • P1160600_resize.JPG
  • P1160607_resize.JPG


#160 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 23 January 2011 - 09:52 AM

ชั้นสองของอาคารจะพบกับรูปเหมือนพระอริยสงฆ์รูปสำคัญของภาคเหนือ หลวงปู่แหวน สุจินต์โน และหีบพระธรรมมากมาย

Attached Thumbnails

  • P1160609_resize.JPG
  • P1160610_resize.JPG
  • P1160611_resize.JPG





1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users

ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Galileo (แสดงผล waiting list)     ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Amadeus (เแสดงเฉพาะที่นั่งว่าง)
   
    ติดต่อเจ้าหน้าที่แผนก ตั๋วเครื่องบิน โทร 02-3737-555 / จันทร์ - ศุกร์ 09.00~18.00 น. // เสาร์ 09.00-16.00 น.