86 replies to this topic

[e a k a h a n]

Advertisements

สวัสดีครับพี่ๆน้องๆ ช่วงนี้เจอกันบ่อยหน่อยนะคับ เพราะมีเวลาว่างช่วงลาพักร้อนอยู่กับบ้านที่เมืองไทย เลยทำรีวิวที่ค้างคามาให้ชมครับ เมื่อเดินธันวาที่ผ่านมาผมได้มีโอกาศได้ไปเที่ยวบาหลีอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไปกับครอบครัวทั้งหมดเลย ทริปนี้มีความสุขมากๆเลยครับ เป็นยังงัยก็ไปติดตามได้เลยครับ แต่ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกกับบาหลีก่อนนะครับ (ข้อมูลด้านล่าง เป็นข้อมูลจาก Google http://www.marketatn...untry/bali.html ครับ)

“บาหลี” สวรรค์บนดิน
เกาะบาหลี ได้รับการขนานนามว่า “อัญมณีแห่งมหาสมุทรอินเดีย” อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของอินโดนีเซีย ความหลากหลายและมนต์เสน่ห์ของเกาะบาหลี ถูกขนานนามมากมายว่าเป็น เกาะแห่งพระเจ้าบ้าง เป็นจุดรุ่งอรุณของโลกบ้าง
ทั้งหมดนี้ เกิดจากความประทับใจของผู้ที่เคยไปเยือน ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศและทัศนียภาพอันสวยงาม
เกาะที่ห่างไกลแห่งนี้ให้ความรู้สึกถึง ความเป็นเอเชียอย่างมาก
บาหลี เป็นเกาะที่สวยงามที่สุดในเอเชียแปซิฟิก การเดินทางก็สะดวกด้วยสายการบินตรงทุกวันจากเมืองต่างๆ ทั่วโลก แล้วเดินทางต่อด้วยรถโค้ชแสนสบาย
บาหลีเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่มี อากาศตลอดปีอยู่เพียง 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนเมษายน-ตุลาคม และ ฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มีนาคม อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 20-33 องศาเซลเซียส ตลอดทั้งปี
ด้วยความร้อนของแสงแดดจึงต้องเตรียมป้องกันตัวเองจากแสงอาทิตย์ที่จะแผดเผาไหม้ผิวหนังของคุณ ควรเตรียมหมวกกันแดดและครีมทากันแดดไปด้วยให้พร้อมและเพียงพอ
วันนี้ นักท่องเที่ยวเริ่มหวนเดินทางกลับไปเที่ยวบาหลีมากอีกครั้ง โดยเฉพาะในช่วงปิดเทอมและสงกรานต์ของไทยด้วยราคาห้องพักที่นี่อยู่ในอัตราเดียวกับเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะภูเก็ตของไทย แต่นักท่องเที่ยวจะได้ชมความงามตามธรรมชาติ วัด รวมถึงวัฒนธรรมที่แตกต่างไป

บนเกาะบาลีมีกลิ่นอายของน้ำทะเลยามเช้าสดชื่นบริสุทธิ์ จากนั้นเดินขึ้นสู่ ภูเขาไฟคินตามณี (Kintamani) ที่ท่านจะตะลึงกับความงามของขุนเขาที่งดงามราวสรวงสวรรค์
ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด ชมความงามของ ภูเขาไฟกุหนุงอากุง (สูงจากระดับน้ำทะเล 3,142 เมตร) ภูเขาไฟที่เชื่อกันว่าเป็นที่สถิตของมวลเทพเจ้าต่างๆ
ยังมี ภูเขาไฟบาตูร์ (สูงจากระดับน้ำทะเล 1,760 เมตร) ที่บนปากปล่องภูเขาไฟมีปุยเมฆ ปกคลุมทัศนียภาพที่งดงามราวสรวงสวรรค์ ภูเขาไฟ ทั้งสองนี้ยังไม่ดับและนับวันรอวันปะทุอีกครั้ง ที่นี่มี ทะเลสาบบาตูร์ ทะเลสาบน้ำจืดที่งดงามอีกด้วย
จากนั้นเดินทางสู่ Tempak Siring วิหารศักดิ์สิทธิ์ภัคศิริงค์ สร้างในศตวรรษที่ 13 ในสมัยโบราณใช้ประกอบพิธีทางศาสนาในราชวงศ์กษัตริย์เท่านั้น
ก่อนเข้าไปในสถานที่แห่งนี้จะได้รับผ้าซึ่งนำมาคาดเอวเพื่อแสดงความเคารพต่อสถานที่และชมความมหัศจรรย์ของ บ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ (Terta Empul) ที่มีแหล่งน้ำจากบ่อน้ำผุดขึ้นจากใต้ดินให้ชาวบ้านได้ใช้เป็นพันปีโดยไม่มีวันหมด

ผู้เดินทางมาถึงที่นี่จะดื่มด่ำความสุขและต้องมนต์ความงดงามแห่งท้องทะเลและแมกไม้ที่รายล้อมอย่างใกล้ชิด จนรู้สึกผ่อนคลายไปกับธรรมชาติ หรือจะสัมผัสอากาศที่สดชื่น ดูกลิ่นอายธรรมชาติบนเฉลียงใต้ร่มไม้เหนือสวนสวยก็ได้ มีเสียงน้ำพุคอย ขับกล่อมสไตล์บาหลี
ถ้าจะประชุมหรือทำกิจกรรมต่างๆ ในรูปแบบที่ต้องการแล้ว ยังมีการสร้างสรรค์กิจกรรมในหลากหลายรูปแบบให้ด้วย มีทีมงานมืออาชีพที่จะร่วมเติมเต็มความสุข ความสนุกสนานตื่นเต้นไปกับประสบการณ์ สร้างความประทับใจ ณ ดินแดน อันงดงามดุจความฝันนี้

[e a k a h a n]

เริ่มต้นด้วย LCCT ครับ จริงๆแล้วทริปนี้มีกำหนดการเดินทางในเดือนมกราคม แต่เนื่องจากทาง Airasia ได้ Re-time เวลาบินเป็นเวลาอื่น + กับเวลาที่บินไม่สวยงามเท่าใดนัก เลยได้รับอนิสงค์เปลี่ยนเวลาบินได้ฟรี 1 ครั้ง เลยเลื่อนการเดินทางมาเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

วันนี้เรานั่ง AK ครับ ทาง Ground ประกาศให้ไปขึ้นเครื่อง On-Time ครับ แต่พอเดินไปใกล้เครื่องบินแล้ว เจ้าหน้าที่เดินมาบอกว่าเดี่ยวก่อนนะค่ะคุณตอนนี้เครื่องมีปัญหาทางเทคนิคค่ะ น้ำมันรั่ว รบกวนเดินกลับไปที่ Terminal และรอก่อนสักครู่ ทางเราจะประกาศถึงเวลาขึ้นเครื่องอีกครั้งค่ะ ก็ต้องเดินกลับไปที่ Terminal อีกครั้ง แล้วรอประมาณ 45 นาทีเค้าถึงเรียกขึ้นเครื่องอีกครั้ง สรุปแล้ว Delay 45 นาทีครับ

[e a k a h a n]

ขึ้นได้สักพักก็นึกว่ากัปตันพาบินไปถึงดูไบครับ เห็นสิ่งก่อสร้างที่คล้ายต้นปาล์มเหมือนที่ดูไบเลยครับ แต่จริงๆแล้วทีนี้จะเป็นมะละกาครับ เค้ามีการสร้างโรงแรมในทะเล ลอกเลียนแบบดูใบไม่มีผิด เห็นแล้วก็สวยดีนะคับ

[e a k a h a n]

บินเหงาๆ ไปเรื่อยๆ ตลอดเวลาเกือบ 3 ชั่วโมงบิน จะบอกว่าเบื่อมากๆ นึกไม่ออกเลยว่าคนที่บินมาจากเมืองไทยจะน่าเบื่อขนาดไหน ที่นั่งแคบๆ ไม่ไหวนะคับ

บินมาได้สักพัก กัปตันประกาศว่าด้านข้างขวาของคุณเป็นภูเขาไฟ เลยหันไปดูกันทั้งลำ กัปตันก้อใจดี พาบินใกล้ๆ เพื่อให้ผู้โดยสารเก็บภาพสวยๆแบบนี้ครับ

[e a k a h a n]

และก็มาถึงเกาะบาหลีแล้วละครับ ครั้งนี้กัปตันพาบินชมเมืองก่อนเลย เพราะวันนี้ไม่ได้ Landing ฝั่งรันเวย์ที่ยืนไปในทะเลครับ แต่จะ Land อีกฝั่งซึ่งเป็นเมืองครับ แย่จัง อยาก Land อีกฝั่งจังเลย จะได้เห็นกาด Kuta

เป็นทะเลสาปมั้งคับ

ถนนที่เข้าไปเมืองและอีกทางจะไป Uluwatu ครับ รถติดมากมายฝั่งเข้าเมือง Denpasar

[e a k a h a n]

แล้วเราก็ Landed ที่ Ngurah Rai International Airport โดยสวัสดิภาพ Delay ไป 45 นาทีครับ :-)

ไม่ได้จอดที่ Gate นะครับ แต่จอดที่ Bay แทน ข้างๆ Royal Brunei Airlines เหลืองสดใสดีคับ

[e a k a h a n]

นัดกับคนขับรถเรียบร้อยแล้วละครับ คนขับรถชื่อป๊ะมาเดครับ น่ารักมากครับ สุภาพ พูดภาษาอังกฤษดีเลยทีเดียว (แต่เค้าจะพูดภาษาอินโดฯกับผมและครอบครัวครับ) รู้ประวัติบาหลีหมดเลย เค้าเล่าความเป็นมาตลอดระยะเวลาที่อยู่บนรถจนถึงโรงแรมที่ Ubud เลยครับ

อนุสาวรีย์พระวิษณุหรือเปล่าไม่แน่ใจครับ ลืมไปแล้ว ป๊ะมาเดเค้าบอกแต่ลืม แต่อยู่หน้าสนามบิน

ตลอดระยะทางไป Ubud ครับ ต้นไม้เยอะมาก และร่มรืนดีครับ

[e a k a h a n]

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม ก็เดินทางมาถึง Ubud ครับ เมืองนี้เงียบสงบมาก และสมเป็นเมืองแห่งศิลปินจริงๆครับ

ประตูเข้าห้องพักครับ ชื่อโรงแรม Puri Garden

เตียงนอนน่านอนมากครับ แต่ต้องนอนคนเดียวถึงจะสบายครับ ถ้านอนสองคนนอนไม่หลับพอดี ก็มัวแต่ระแวงว่ากรูจะตกเตียงหรือเปล่าคืนนี้ :-)

[e a k a h a n]

บริเวณรอบๆโรงแรมครับ

รอบๆ

[e a k a h a n]

รอบๆอีกสักรูป

ตอนเย็นๆก็เดินออกไปดูบรรยากาศ ไปสูดดมอากาศสดชื่นบริเวณโรงแรมครับ

จะได้รู้ว่าเป็นเมือง Ubud จริงๆครับ

[e a k a h a n]

เดินๆไปก็เจอะกับป้าๆ 3 คนครับ ลั่นชัตเตอร์แทบไม่ทัน ผมชอบรูปแบบนี้มากๆครับ เพราะสะท้อนไปถึงเมืองไทยเมื่อสมัยโบราณ เมื่อก่อนเมืองไทยก็เป็นแบบนี้

เจอทุ่งนาเขียวขจี สังเกตุได้ว่าต้นข้าวอ้วนท้วนสมบูรณ์มากมาย

[e a k a h a n]

มาถึงวันเที่ยววันแรกครับ ทริปนี้โชคดีที่ได้พี่แหม่มคนไทยที่ไปมีสามีคนต่างชาติแล้วไปเป็นเชฟโรงแรมชื่อดังที่บาหลีมาเป็นไกด์ครับ รู้จักกับพี่แหม่มในห้อง Blue Planet พี่แหม่มน่ารักมาก เป็นมากกว่าไกด์ ดูแลพวกเราเป็นอย่างดี ตลอดเวลา 5 วันที่อยู่บาหลี ที่สำคัญค่าไกด์ถูกมากๆด้วยครับ ใครสนใจก็ PM มาได้นะครับ ต้องขอบคุณพี่แหม่มมากๆครับ รอบหน้าคงได้ใช้บริการพี่แหม่มอีกนะครับ

เริ่มด้วยวัดเม็งวีครับ วัดนี้จะรายล้อมไปด้วยสระน้ำ เหมือนเทวาลัยในสรวงสวรรค์ครับ

อีกด้านครับ เป็นวัดที่สวยมากๆครับ

อีกรูปครับ ก่อนไปอีกที่

[e a k a h a n]

ระหว่างที่จะไปวัดที่ 2 ครับ เป็นโรงแรมที่อยู่กลางหุบเขา สวยมากครับ แต่คงไม่มีปัญญาพักหรอกครับ เพราะคงแพงมาก เลยได้แค่แวะดูครับ

วัดที่ 2 ในวันนี้คือ Pura Ulun Danu Bratan เป็นวัดที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของบาหลี มักได้พบภาพวัดแห่งนี้ใช้ในการโปรโมทการท่องเที่ยวของบาหลีหรือตามนิตยสารท่องเที่ยวอยู่เสมอ ตั้งอยู่บริเวณกลางน้ำ ริมทะเละสาบบราตัน มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟสูง วัดนี้เป็นวัดที่เก่าแก่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 17 ชาวบดูกุลสร้างวัดแห่งนี้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาพระแม่แห่งทะเลทะเลสาบของพวกเขา บริเวณทะเลสาบมีเรือเร็วให้เช่าเพื่อชมความงามของทะเลสาบอีกด้วย อากาศที่ทะเลสาบค่อนข้างเย็นชื้นอยู่ตลอดทั้งปี มาทีนี้แล้วไม่อยากไปไหนอีกแล้ว อยากล้มตัวลงนอนแล้วดูวิวทิวทัศน์รอบๆ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด

[e a k a h a n]

เจดีย์สวยมากครับ

ใกล้ๆ

ไม่รู้จะพิมพ์อะไรครับ อึ้งกับความสวยงาม (จริงๆแล้วไม่มีมุข อิอิ)

[e a k a h a n]

ขออนุญาติอีกนะคับ

รูปเหงาๆ

เรือนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของทีนี้ด้วยครับ

[e a k a h a n]

และวันนี้โชคดีครับ ได้มาเจอะกับพิธีกรรมของชาวบาหลีครับ ไม่รู้เป็นพิธีกรรมอะไร แต่เดินขบวนมากันเยอะมากครับ

อีกรูป

[e a k a h a n]

ส่งท้าย Pura Ulun Danu Bratan ครับ

[e a k a h a n]

จุดหมายสุดท้ายในวันนี้คือ Tanah Lot ครับ แต่ระหว่างทางที่จะไป Tanah Lot นั้น พี่แหม่มไกด์ใจดีของเราพาไปเยี่ยมชมหมู่บ้านนาขั้นบันไดกันก่อน สวยมากๆครับ อากาศเย็นสบายอีกแล้ว แอบสังเกตุใบหน้าของโคและกระบือบริเวณนี้ก็รู้แล้วคับว่าพวกมันสุขสบายแค่ไหนที่ได้มาทำนาบริเวณนี้ ฮ่าๆ

[e a k a h a n]

จาก Pura Ulun Danu Bratan เมื่อสักครู่ ก็เดินทางลงจากตอนเหนือสู่เขตตาบานัน เพื่อเยี่ยมชม Pura Tanah Lot ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่ที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในบาหลี ตั้งอยู่บนผาหินนอกชายฝั่งในเวิ้งอ่าวที่เกิดจากการกัดเซาะของเกลียวคลื่น สิ่งที่ทำให้วัดแห่งนี้มีความพิเศษเนื่องจากเมื่อชม Tanah Lot ยามพระอาทิตย์ตกจะเห็นเป็นเสมือนภาพของ หอคอยสีดำและไม้ช่อใบที่ปกคลุมเหนือหน้าผาชวนให้นึกถึงความอ่อนช้อยของภาพวาดจีน และนอกจากนี้ยังสามารถชื่ชมความงามของพระอาทิตย์ยามอัศดงได้จากชายฝั่งข้างเคียง เมื่อมาถึงก็สะดุดตากับว่าวนี้ครับ ว่าวเรือใบ ไม่รู้ว่าเค้าชักขึ้นได้งัย แปลกดี ก็เลยซื้อมาเป็นของตัวเอง 1 อัน เอากลับมาชักที่บ้าน หุหุ

เดินฝ่าฝุงมหาชนแม่ค้าขี้ตื้อมาได้ เหนื่อยแทบตาย แต่ก็หายเหนื่อยที่ได้มาเห็นภาพเหล่านี้

...

[e a k a h a n]

มาแล้วว นายแบบประจำทริปนี้ หลานผมเองละคับ นู๋ชื่อฮนีฟ คร๊าฟฟฟ

มาทีนี้ก็ไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมากมายครับ และไม่ได้รอพระอาทิตย์ตกดินด้วยครับ เพราะอากาศร้อนมากครับเลยกลับโรงแรมตั้งแต่หัววันเลยยย