ทางเข้าพระธาตุ ป้ายอ่านไม่ออกค่ะ ไกด์บอกมา ..
ทางขึ้นไปไหว้พระธาตุอินแขวน จาก โรงแรมที่พัก จะเป็นทางลาดแบบนี้ ระยะทางประมาณ 1-2 กิโล
(ใครไปเที้ยวพม่าต้องฟิตร่างกายดีๆ นะจ้ะ )
-แต่พอขึ้นไปถึงพระธาตุแล้ว หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง ทั้งวิว บรรยากาศ อากาศสดชื่น หนาวกำลังดี แนะนำให้มาพระธาตุช่วงหน้าหนาว
และตอนกลางคืนนะ จะดูเหมือนว่าเราอยู่บนสรวงสวรรค์เลย เพราะถ้ามาช่วงกลางวัน จะร้อนนะจ้ะ การที่เราจะมีสมาธิและสวดมนต์
มันก็จะน้อยลง แต่ถ้าขึ้นพระธาตุมาช่วงกลางคืน จะรู้สึกสงบ เยือกเย็นกว่ากันเยอะเลยค่ะ อ้อ..ถ้ามาช่วงกลางคืน ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่
ปลอดภัยนะค่ะ เพราะคนมาเที่ยวพระธาตุช่วงกลางคืนจะเยอะมาก และคนพม่าจะไม่มีการจี้ ปล้น หรือขโมยเลยค่ะ คนที่คณะทัวร์เคย
ลืมของไว้ แต่ของไม่หายเลยค่ะ ถึงแม้ว่า ประเทศพม่าเค้ายังไม่เจริญทางวัตถุ แต่วัฒนธรรมเค้าชอบไปวัด คนที่พม่าจะกลัวบาปมาก
เค้าจึงไม่กล้าทำบาปกันนะค่ะ ชื่นชมคนพม่ามากๆ เลยในจุดนี้
จุดไฮไลท์ที่นี่ คือ พระธาตุอินแขวนค่ะ ซึ่งจะเป็นก้อนหินทองอร่ามมากๆ เลย ซึ่งปาฎิหารย์แก่ผู้พบเห็นมากๆ ทั้งๆ ที่ส่วน
ของก้อนหินไม่ได้ตั้งอยู่บนหน้าผา แต่ก้อนหินไม่หล่นลงมา ไม่ว่าจะโดนภัยธรรมชาติ หรือ คนที่มาบุกรุก แต่ก็ไม่สามารถทำ
อะไรได้ ประวัติของพระธาตุ อินแขวนโดยคร่าวๆ มีดังนี้ ...
พระธาตุอินแขวน หมายถึง พระอินทร์ได้ทรงแขวนเอาไว้ สิ่งที่แขวนไว้คือ พระเกศาธาตุทั้ง 3 เส้นของพระพุทธเจ้า
สืบเนื่องมาจาก มีพระฤาษี 3 ตน ได้มีโอกาสเข้าพบพระพุทธเจ้า และพระพุทธเจ้าทรงมอบพระเกศาให้ฤาษีตนละ 1 เส้น แต่เนื่องจาก
พระเกศาธาตุเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พระฤาษี 3 ตนเลยปรึกษากันว่าจะเก็บพระเกศาธาตุไว้บนศรีษะตนเอง หากใครมรณภาพก่อน ให้เอาพระ
เกศาธาตุของฤาษีที่มรณภาพไปก่อน มาฝากไว้ฤาษีที่ยังมีชีวิตอยู่ ครั้นเหลือฤาษีตนสุดท้าย ฤาษีตนสุดท้ายกังวลว่าจะจัดเก็บพระเก
ศาธาตุอย่างไร เมื่อความรู้ไปถึงพระอินทร์ ๆ ทรงไปเก็บหินที่แม่น้ำอิระวดี และเจาะรูที่หินก้อนนั้น พระฤาษีจึงได้มอบพระเกศาธาตุ
ให้กับพระอินทร์ และพระอินทร์จึงนำพระเกศาธาตุไปไว้ที่รูในก้อนหินที่เจาะไว้ และนำก้อนหินไปวางไว้บนภูเขา จึงเป็นที่มาของ
พระธาตุอินแขวน ค่ะ
อีกสักรูปหนึ่ง ดูกันชัดๆ
ยลรูปพระธาตุอินแขวน อีกมุมหนึ่ง แอมชมพระธาตุทีไร รู้สึกอิ่มเอิบใจมาก สำหรับผู้เกิดปีจอเหมาะมากที่จะเดินทางไปสักการะ
สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะพระธาตุอินแขวนเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีจอค่ะ
นอกจากพระธาตุอินแขวนแล้ว ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ยังมี เทพทันใจ ด้วยค่ะ สำหรับใครที่ต้องการขอพร สามารถมากราบไหว้
เทพทันใจองค์นี้ได้ ส่วนมากจุดไฮไลท์ของพม่าที่คนนิยมมาเที่ยว นอกจาก พระธาตุอินแขวนแล้ว ยังมีเทพทันใจค่ะ ที่ทุกคนต้องการ
มากราบไหว้ และขอพรได้ 1 ข้อ (ต้องขอพรได้ 1 ข้อเท่านั้น ถึงจะสัมฤทธิ์ผล) เท่าที่แอมสอบถามจากคนที่ได้ไปไหว้และตัวแอมเองนั้น
สามารถตอบได้เลยว่า ได้พรทันใจเลย ทันทีที่กลับมาถึงกรุงเทพค่ะ ( ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละท่านค่ะ)
TIP : นักท่องเที่ยวบางคนคิดว่า ถ้าจะไหว้เทพทันใจ ต้องไหว้ที่ เจดีย์โบตาทาวน์ เท่านั้น จริงๆ แล้ว เทพทันใจของทางพม่ามีถึง 5 องค์
ด้วยกันค่ะ องค์แรก อยู่ที่ พระธาตุอินแขวน , องค์ที่ 2 อยู่ที่ เจดีย์สุเหล่ , องค์ที่ 3 อยู่ที่ เจดีย์กลางน้ำเยเลพญา , องค์ที่ 4 อยู่ที่
เจดีย์ชเวดากอง , องค์สุดท้ายซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนไทย คือ เจดีย์โบตาทาวน์ ชื่อ ท่าน นัต โบโบยี
(แอมจะลงรูปในรีวิวถัดไปค่ะ)
TIP : หลักการไหว้ขอพร คือ สามารถไหว้เทพทันใจได้ทุกองค์ และถ้าจะให้ขลังและได้สมความปรารถนา ต้องขอพรได้ที่ละ 1ข้อ
เท่านั้น และพรแต่ละข้อต้องไม่ซ้ำกันนะค่ะ ( ในกรณีที่ไปไหว้เทพทันใจ 5 องค์ ) การไปเที่ยวครั้งนี้ แอมจึงขอพรได้ถึง 5 ข้อ
เลยค่ะ ( ไม่ค่อยโลภเลยเนอะ หุหุ นานๆ จะมีโอกาสซะที )
TIP : ถ้ามาไหว้พระธาตุอินแขวน ผู้หญิงไม่สามารถเข้าไปถึงพระธาตุได้ เค้าจะอนุญาติให้ผู้ชายเข้า
ไปไหว้เท่านั้น ส่วนผู้หญิงสามารถไหว้จากด้านนอก แล้วปักธูป บริเวณด้านหน้า หรือถ้าจะปิดทอง ก็สามารถฝากผู้ชายที่ไปด้วย
กันเข้าไปปิดแทนได้ค่ะ
การเขียนขอพรที่กระดิ่งแล้วแขวนไว้ที่พระธาตุอินแขวน
มีผู้คนทั้งนักท่องเที่ยวและชาวพม่า ล้วนมาไหว้และสักการะพระธาตุอินแขวนกันอย่างเนืองแน่น ทั้งกลางวันและกลางคืน
นอกจากนี้ยังมีผู้คนมานั่งสมาธิ และสวดมนต์เป็นเวลานานๆ หรือ บางคนก็เดินรอบพระธาตุ 3 รอบ พร้อมกับสวดมนต์ สำหรับแอม
ทำทุกกิจกรรมค่ะ ใช้เวลาอยู่บนพระธาตุ ประมาณ 3 ชม. ทั้งนั่งสมาธิ , สวดมนต์ , และเดินจงกลม ทำให้ได้สัมผัสว่า สวรรค์อยู่แค่เอื้อมค่ะ
ร้านขายของที่ระลึก บนพระธาตุอินแขวน ( ภาพอาจจะมืดๆ หน่อยนะ เพราะถ่ายรูปตอน 2 ทุ่มค่ะ)
เริ่มเช้าวันใหม่ ด้วยอาหารเช้าแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา มัวแต่หม่ำเพลินอ่ะ หลังจากทานข้าวเช้าแล้ว คณะของแอมก็เริ่มออกเดินทางเพื่อไป
พระราชวังบุเรงนอง แต่ระหว่างทาง ขอแวะทานชาชักก่อน ขอบอกว่า ชาชัก ที่พม่า อร่อยสุดๆๆ