หลังจากที่ Blackberry Torch 9800 เปิดตัวไปไม่นาน ก็เกิดความคิดว่า iPhone4 ที่เพิ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ จะสู้กันได้มั้ย หรือถ้าจะซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่องจะเลือกรุ่นไหนดี ฉะนั้นขอทำการรีวิวเป็นหัวข้อ ดังนี้
***รีวิวนี้เป็นความเห็นส่วนบุคคลของผมเอง ถ้าเพื่อนๆ เห็นผิดถูกประการใด ช่วยกันให้ความคิดเห็นด้วยครับ***
ราคา
ราคาเปิดตัวของ Blackberry Torch 9800 ของทรู อยู่ที่ 20468 บาท
มีหน่วยความจำในตัวเครื่อง 4 กิก และได้การ์ดเพิ่มมาอีก 4 กิก รวมเป็น 8 กิก
ซึ่งสามารถเพิ่มหน่วยความจำได้อีกถึง 32 กิก
สำหรับ iPhone ถ้าจะสู้กันด้วยความจุที่ 8 กิก จะอยู่ที่ 17900 บาท (iPhone 3GS) ซึ่งแน่นอน เพิ่มความจุไม่ได้
ถ้าซื้อ iPhone4 16 กิก ราคาเครื่องเปล่าจะอยู่ที่ 22250 บาท และถ้าซื้อเครื่องพร้อมแพคเกจ จะอยู่ที่ 20650 บาท (จะเห็นว่า ราคาใกล้เคียงกับ Blackberry)
ถ้าซื้อ iPhone4 32 กิก ราคาอยู่ที่ 26000 บาท และซื้อพร้อมแพคเกจ อยู่ที่ 23900 บาท ราคาจะสูงกว่า Torch ประมาณ 3 พันกว่าบาท
จะสังเกตว่า ราคาของทั้ง Blackberry Torch 9800 และ iPhone4 จะมีความสูสีกันมาก
ฉะนั้นเรามาดูกันว่า ลักษณะด้านอื่นๆ ของสมาร์ทโฟนทั้งสองเจ้านี้มีความเหมือนหรือต่างกันอย่างไร?
หน้าจอ
หน้าจอของ iPhone4 มีขนาด 3.5 นิ้ว และ มีความละเอียดอยู่ที่ 960x640 พิกเซล ซึ่ง Blackberry Torch มีขนาดหน้าจอที่ 3.2นิ้ว และมีความละเอียด 360x480 พิกเซลสังเกตว่าหน้าจอไอโฟนมีความละเอียดมากกว่า รวมทั้งหน้าจอแบบ capacitive ที่แอปเปิ้ลได้ทำการบ้านมานานกว่าแบล็คเบอรี่ แถมยังเป็นจอภาพแบบเรตินาดีสเพล ที่มีความสว่างและคมชัดกว่าด้วย
การประมวลผล
ไอโฟนมีการประมวลอยู่ที่ 1 GHz ซึ่งไม่ได้หมายความว่า จะมีความที่มากกว่า blackberry torch ซึ่งมีการประมวลผลอยู่ที่ 624 MHz แต่ Blackberry มีการจัดการเรื่องหน่วยความจำที่เยี่ยมยุทธกว่า อีกทั้งใน iPhone ยังมีฟังก์ชั่น multitask ยังทำงานได้ไม่เต็มที่ ซึ่งต่างกับ Blackberry ที่ทำงานหลายๆ อย่างได้โดยที่ไม่ต้องใช้กำลังจากชิปการประมวลผลเหมือนอย่างที่ iPhone ใช้
เบราเซอร์
Safari เป็นเบราเซอร์ที่ iPhone4 ใช้อยู่ แต่ Blackberry Torch 9800 ใช้เบราเซอร์ที่ชื่อว่า WebKit อย่างแรก WebKit สามารถใช้แทปได้ (คล้าย Chrome และ IE8 ที่มี Tab หลายอันในหน้าเดียว) แน่นอน Safari ก็สามารถใช้งานได้หลายๆ หน้าเช่นกัน แต่ทำสลับไปแต่ละหน้านั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ "
โปรแกรม
สำหรับเรื่องโปรแกรมที่จะมาติดตั้งไว้ที่เครื่องนั้น แน่นอนคงจะไม่พ้น iPhone4 ที่มี Application ให้เลือกมากมาย ซึ่งหาได้ง่ายมากกว่า App World ของ Blackberry ส่วนราคานั้น App World มีราคาที่สูงกว่าด้วย
คีบอร์ด
ผู้ที่ใช้มือถือแบบจอสัมผัสจะมีความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า คีบอร์ดทัชสกรีนนั้นใช้ง่าย ก็ต่อเมื่อ เราคุ้นเคยกับมัน ซึ่ง iPhone4 ก็เป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้คีย์บอร์ดทัชกรีน สำหรับทาง Blackberry นั้นนอกจากจะเป็นจอสัมผัสแล้ว ยังมี Qwerty ซึ่งเป็นแบบสไลด์มาให้ด้วย ซึ่งนั้นก็หมายถึงว่า การพิมพ์ด้วยดีย์บอร์ดจริงๆ จะมีความคล่องตัวมากกว่า และถ้าจะพิมพ์ข้อความหรืออีเมล์ยาวๆ แล้วละก็ keyboard Qwerty ของ blackberry น่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
ระบบปฏิบัติการ
ด้านของ iPhone4 ก็มีโอเอสเวอร์ชั่นใหม่ที่ชื่อว่า iOS4 มีการพัฒนาและปรับปรุงข้อด้อยต่างๆ จาก iOS3 ในหลายๆ จุด สำหรับทางด้าน Blackberry ก็ได้ออกเวอร์ชั่น 6 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นที่ใหม่ และปรับปรุงหลายๆ อย่างมาแล้ว ตรงนี้คงจะตัดสินได้ยากว่า ระบบปฏิบัติการของเจ้าไหนจะดีกว่า หรือ เจ๋งกว่า เพราะทั้งคู่ต่างก็ปรับปรุงพร้อมสู่ตลาดเป็นอย่างดี
หน่วยความจำ
iPhone4 มาพร้อมกับหน่วยความจำ 16 กิก และ 32 กิกเท่านั้น และผู้ใช้หลายๆ ท่านคงจะอึดอัดไม่มากก็น้อยที่ไม่สามารถใส่ MicroSD เพิ่มเติมได้
ทางด้านของ Blackberry Torch 9800 มาพร้อมกับ 4 กิก ในตัวเครื่อง แต่เราสามารถใส่ microSD เพิ่มได้ถึง 32 กิก และต่อไปสามารถใส่เพิ่มได้มากกว่านี้อีกถ้าเครื่องมีความสามารถสูงขึ้น ซึ่งจะเห็นว่า ทาง Blackberry Torch 9800 จะมีความยืดหยุ่นต่อผู้ใช้ได้มากกว่า
กล้อง
ทั้งคู่มาพร้อมกับกล้อง 5 ล้านพิกเซล แต่ iPhone4 สนับสนุนการบันทึกวีดีโอแบบ HD ซึ่ง Blackberry Torch สามารถบันทึกได้เพียง VGA เท่านั้น
Blackberry ให้ภาพถ่ายที่มีความคมชัด แต่สำหรับ iPhone นอกจากถ่ายภาพได้แล้ว ยังสามารอัดวีดีโอแบบ HD ได้ด้วย ซึ่งมีความเหนือกว่า
การใช้งานแบตเตอรี่
iPhone ใช้ความจุแบตอยู่ที่ 1420 mAh และ Blackberry Torch 9800 ใช้ความจุแบตอยู่ที่ 1300 mAh จะเห็นว่าแบตของ iPhone4 จะมีความจุที่มากกว่า
แต่ทว่า นักเล่นมือถือหลายๆ บอกว่า แบต iPhone จะหมดเร็วมาก คือต้องชาร์ททุกวัน แต่ของ Blackerry นั้นจะอยู่ได้นานกว่า
จริงๆ แล้วเรื่องของแบตหมดช้าหรือเร็วนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนใช้งานกันแบบไหน ถ้าเปิด Edge หรือ wifi หรือ 3G ไว้ทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นมือถือรุ่นไหน ก็หมดเร็วแน่นอน
สรุป
ค่าย Apple และ RIM ต่างก็นำเสนอ สมาร์ทโฟนที่โดดเด่นมากในตลาดไตรมาสที่สามนี้
ทั้งสองค่ายต่างก็มีความเป็นตัวของตัวเอง คงต้องขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่า จะใช้งานหนักไปด้านไหนมากกว่า
ถ้าชอบพิมพ์อีเมล์ ชอบแชท ถ้าหาสมาร์ทโฟนแบบมี Qwerty keyboard ก็จะสะดวกว่า คีย์บอร์ดทัชสกรีนแน่นอน
ถ้าชอบบันเทิง ชอบโปรแกรมเสริมมากๆ คงจะต้องมองมา iPhone และ Android จะดีกว่า
แต่ที่แน่ๆ คงจะต้องดูทุนทรัพย์ ดูรายจ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย ว่าเราจะต้องจ่ายรายเดือนค่าอินเตอร์เน็ต มากแค่ไหน
อย่างไรก็ดี ถ้าเราซื้อเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ไหนมาใช้ ก็ขอให้ใช้อย่างชาญฉลาด และใช้ให้เกิดประโยชน์ครับ ถึงจะเรียกว่าคุ้มค่ากับเงินที่สูญไป