58 replies to this topic

[Title by KU]

Advertisements

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว hflight ทุกท่านครับ กลับมาอีกครั้งกับรีวิวแบบ unseen ซึ่งเป็นภาคต่อจากรีวิวนครศรีธรรมราช โดยหาชมได้จากลิ้งค์นี้ครับ

Title by KU พาลุยนอกเมืองแบบ unseen @ นครศรีธรรมราช

จากทริปวันที่ 22-27 กรกฎาคมที่ผ่านมา เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจที่นครศรีธรรมราชแล้ว เราก็เดินทางลงใต้กันต่อครับ จุดหมายของเราอยู่ที่พัทลุง

พวกเราไปที่ไหนกันบ้าง แล้วไปทำอะไร ตามผมมาได้เลยครับ

Attached Thumbnails

• 

[Title by KU]

เมื่อเดินทางถึงพัทลุง เราก็เข้าพักกันที่โรงแรมแกรนด์ P.L. พัทลุงครับ ซึ่งอยู่ในตัวเมืองพัทลุงครับ เราพักที่นี่กัน 2 คืน เดินทางถึงพัทลุงก็ค่ำแล้วครับ บวกกับความเหนื่อยและอ่อนเพลียไปตามๆ กัน ถึงห้องพักก็หลับเป็นตายครับ พอรุ่งเช้า เราก็ปฏิบัติภารกิจกันต่อ กับการสำรวจสถานที่หนึ่งที่ผมคิดว่าหลายท่านน่าจะรู้จักกันดีนะครับ

เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย

Attached Thumbnails

• 

[Title by KU]

เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ได้รับการประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2518 แต่ประชาชนมักเรียกกันว่า "อุทยานนกน้ำทะเลน้อย" ซึ่งนับเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพรรณพืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รอบๆทะเลน้อย บริเวณพรุควนขี้เสียน เป็นแรมซาร์ไซต์แห่งแรกของประเทศไทย เขตห้ามล่าสัตว์ป่านี้มีเนื้อที่ประมาณ 285,625 ไร่ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัดคือ พัทลุง สงขลา และนครศรีธรรมราช ส่วนที่เป็นพื้นน้ำ (ทะเลน้อย) ประมาณ 17,500 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลน้อยเป็นพื้นที่ราบริมทะเลสาบ ประกอบด้วย นาข้าว ป่าพรุ ทุ่งหญ้า ตัวทะเลน้อยกว้างประมาณ 5 กิโลเมตร ยาวประมาณ 6 กิโลเมตร มีพืชน้ำปกคลุม เช่น ผักตบชวา กง กระจูดหนู บัวต่างๆ และพืชลอยน้ำ ความลึกเฉลี่ย 1.25 เมตร สัตว์ป่าที่อาศัยอยู่แบ่งออกเป็น นกน้ำ 287 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 26 ชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 6 ชนิด นกน้ำมีทั้งนกที่ประจำถิ่นและนกอพยพ เช่นนกกาบบัว นกกุลา นกกระสานวล นกกระสาแดง นกกาเล็กน้ำ นกแขวก เป็นต้น สิ่งที่น่าสนใจในการเที่ยวชมอุทยานนกน้ำทะเลน้อยคือ พระตำหนักทะเลน้อย ทะเลบัวยามเช้า ฝูงนกน้ำนานาชนิด แหล่งทำรังวางไข่ของนกน้ำบริเวณอ่าวหม้อ หน่วยพิทักษ์ป่าควนขี้เสียน แหล่งทำรังวางไข่ของนกน้ำบริเวณควนทะเลมอง และจุดชมธรรมชาติบริเวณศาลานางเรียม

วันนี้ฝนตกทั้งวันเลยครับ เละกันสุดๆ อ่ะวันนี้

อีกทั้งเราไม่ได้มาเที่ยวทะเลน้อยกันอย่างเดียวนะครับ แต่เรามาสำรวจป่าพรุที่ถือว่าเป็นแรมซาร์ไซต์แห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่อีกฟากหนึ่งของทะเลน้อย วิธีการเดินทางก็ต้องนั่งเรือข้ามไปอย่างเดียวครับ

ปล.นั่งเรือข้ามทะเลน้อยกลางสายฝนนี่ให้ลองคิดสภาพกันเอาเองครับ อิอิ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[Title by KU]

ติดต่อเรือได้แล้วก็ไปกันเลยครับ

สาหร่ายไฟเยอะมาก

Attached Thumbnails

• 

[Title by KU]

ไปโลด

ระหว่างทางก็ดื่มด่ำกับบรรยากาศทะเลน้อยท่ามกลางสายฝน

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 

[Title by KU]

ถึงอีกฝากของทะเลน้อยแล้วครับ ไปสำรวจป่าพรุกัน

ปล.ใครที่ได้ดูรีวิวนครศรีธรรมราชของผม ลองเปรียบเทียบดูนะครับว่าป่าพรุทะเลน้อย ต่างจากป่าพรุที่ชะอวดยังไง

Attached Thumbnails

• 
• 

[Title by KU]

เดินตามเค้าไปครับ

Attached Thumbnails

• 

[Title by KU]

ตอนนี้ฝนหยุดแล้วก็เลยสะดวกขึ้นครับ

สภาพป่าที่ผมคิดว่าที่นี่อุดมสมบูรณ์ทีเดียวครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[Title by KU]

เดินป่าพรุ กางเกงขายาวตัดทิ้ง รองเท้าผ้าใบตัดทิ้ง บูทก็ไม่ช่วยอะไรกรณีที่น้ำสูง

สำหรับผมก็เลย กางเกงบอลลากแตะครับ สภาพเลยออกมาเป็นอย่างที่เห็น

ปล.กลัวปลิงเกาะเหมือนกันนะ แต่โชคดีที่ไม่โดน อิอิ

Attached Thumbnails

• 

[Title by KU]

กระจูด เป็นกกชนิดหนึ่งครับ

Attached Thumbnails

• 

[Title by KU]

ต้นเสม็ดมีเฟิร์นขึ้นตามต้นเต็มไปหมด แสดงถึงความชุ่มชื้นของป่าพรุได้เป็นอย่างดีครับ

เสริมความรู้กันนิดนึงนะครับ

ป่าพรุเป็นป่าไม้ไม่ผลัดใบที่ปรากฎอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ลักษณะเป็นแอ่งกระทะมีน้ำท่วมขังตลอดปี มีพรรณไม้ของป่าดงดิบชื้นขึ้นหนาทึบพื้นป่ามีซากอินทรีย์วัตถุที่ไม่สลายตัวทับถมกันหนาประมาณ 50-200 ซ.ม. เรียกว่า Peat Bog มีลักษณะเป็นดินหยุ่น ๆ ที่เป็นกรดสูง ส่งผลให้น้ำภายในป่าพรุกลายเป็นกรดจัดไปด้วย น้ำในป่าพรุเกิดจากการรองรับน้ำฝนเอาไว้มิใช่เกิดจากแม่น้ำลำคลอง น้ำที่ดูเหมือนหยุดนิ่งแท้จริงมีการไหลเอื่อย ๆ ตลอดเวลา ทำให้มีปริมาณอากาศเพียงพอต่อรากไม้และสัตว์น้ำ
ป่าพรุในประเทศไทยพบกระจายอยู่ในบางจังหวัด ทั้งเขตภูเขาสูงและที่ราบชายฝั่งทะเล เช่น พรุอ่างกาบนดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่และป่าพรุที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ที่สุด คือ พรุโต๊ะแดง จังหวัดนราธิวาส ครอบคลุมเนื้อที่ถึง 50,000 ไร่ นิเวศของป่าพรุถือเป็นแหล่งรวมของสิ่งมีชีวิตอันหลากหลาย โดยมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมากกว่า 50 ชนิด เช่น เสือดำ นากใหญ่จมูกขน และสัตว์ป่าคุ้มครองที่หายากอย่าง แมวป่า หัวแบน นกประมาณ 200 ชนิด รวมไปถึงจระเข้น้ำเค็ม และสำรวจพบพืชดอกแล้วไม่ต่ำกว่า 109 วงศ์ 437 ชนิด ต้นไม้ในป่าพรุมีรากหายใจ พูพอน และรากค้ำยันซับซ้อน มีพืชสำคัญหลายชนิด อาทิ ตังหน อ้ายบ่าว หลุมพี ทองบึ้ง เถาวัลย์ หมากแดง กระพ้อ ระกำ และย่านลำเภา บนเรือนยอดไม้ยังมีพืชอิงอาศัยรูปร่างแปลกตาเกาะอยู่ทั่วไป เช่น เฟิร์นชายผ้าสีดา และกล้วยไม้สิงโตก้ามปูแดง กลายเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ช่วยจุนเจือชีวิตแก่ชาวบ้านในท้องถิ่น

Attached Thumbnails

• 

[Title by KU]

สำรวจป่าพรุเสร็จแล้ว ขากลับ เราจะสำรวจทะเลน้อยก่อนขึ้นฝั่งกันครับ

ปล.ฝนลงอีกและ

Attached Thumbnails

• 

[Title by KU]

นั่งเรือออกมาแล้วครับ

Attached Thumbnails

• 

[Title by KU]

ที่นี่ถือได้ว่าเป็น habitat ที่สำคัญของพืชน้ำ รวมไปถึงสัตว์น้ำ และนกน้ำนานาชนิดครับ

Attached Thumbnails

• 

[Title by KU]

บัวหลวงที่นี่สวยมาก

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Title by KU]

ใหญ่แค่ไหนลองเทียบกับมือผมดูครับ

Attached Thumbnails

• 

[Title by KU]

เอ้าโพส

Attached Thumbnails

• 

[Title by KU]

บึงบัวสุดลูกหูลูกตาครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[Title by KU]

การถ่ายภาพทะเลน้อยต้องยุติเพียงเท่านี้ครับ เพราะหลังจากนี้ฝนตกหนักมากครับ คิดอยู่ว่าเรือจะถึงฝั่งมั๊ย เพราะลมแรงมากด้วยเหมือนพายุเข้าเลยอ่ะ แต่พี่คนขับเรือก็สามารถมากครับ พาเรามาถึงฝั่งได้อย่างปลอดภัย แต่สภาพนี่ เหอๆๆๆ ขอไม่บรรยายครับ

Attached Thumbnails

• 

[Title by KU]

สถานที่ต่อไป เราไปกันที่สวนพฤกษศาสตร์พัทลุงครับ ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาบสงขลา

Attached Thumbnails

•