104 replies to this topic

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

Advertisements

หลายๆ สายการบินแม้จะไม่มี PTV ในเครื่องบินหลายๆ ลำ(อาทิเช่นคุณป้าพิศมัยของเรา )
แต่ก็มี PTV (Pae-dann หรือ Pha-nang TV -- เพดานหรือผนังทีวี)กันทั้งนั้น

แต่คุณหางแดง ตัดออกหมดทุกอย่างครับ ไม่มีวันล่วงรู้ได้เลยว่า ตอนนี้บินถึงไหนแล้ว สภาพข้างนอกเป็นอย่างไร ไม่รู้ครับ
นอกจากจะต้องรอให้คุณกัปปิตันประกาศอย่างเดียว ต้องทำใจครับ สายการบินราคาประหยัด อิอิ

มาดูใบ Safety information ของเจ้า A330 กันก็คล้ายๆ กับ A320 แต่มีสไลด์นิรภัย ประตูทางออกฉุกเฉินมากกว่า นั่นเอง ...
ทุกประตูมีลูกเรือนั่งประจำการอยู่ ไม่ต้องเปิดประตูเองนะครับ อิอิ

แล้วก็ดูเมนู ไม่เหมือนกับเครื่องแอร์เอเชีย AK FD QZ ปกตินะครับ
เพราะว่า ราคาแพงกว่าปกติ เมนูหน้าตาเหมือนกันเด๊ะ แต่ราคาแพงขึ้นประมาณ 30% ครับ !!!
เมนุอาหารร้อนบางอย่างก็ไม่มี ขึ้นอยู่กับเส้นทางการบินด้วย ....

Attached Images

• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

มาดูเมนูอาหารกันบ้างนะครับ ว่ามีอะไรบ้าง ...

แบ่งเป็นเที่ยวบินกลุ่มบินไกลไม่เกิน 10 ชั่วโมง และกลุ่มที่บินเกิน 10 ชั่วโมงนะครับ ...
ถ้ากลุ่มที่ไม่เกิน 10 ชั่วโมง จะได้รับอาหาร pre-book meal แค่ครั้งเดียว สามารถเลือกได้ว่าจะทานตอนไหน เอาบอร์ดดิ้งพาสไปเคลมกับแอร์ได้เลย
ส่วนกลุ่มที่เกิน 10 ชั่วโมง อย่างไฟล์ท กัวลาลัมเปอร์-ลอนดอน 14.30 ชั่วโมง จะได้อาหาร 2 รอบครับ (คิดราคาอาหาร 20 ริงกิตด้วยเช่นกัน)

ตอนแรกผมก็คิดว่า ไฟล์ทออสเตรเลีย ควรจะเสิร์ฟอาหาร Pre-book meal สองรอบ แต่ความจริงเสิร์ฟครั้งเดียว ทั้งๆ ที่บินตั้ง 8 ชั่วโมง
เดินรถอาหาร 2 รอบ ตอนช่วงชั่วโมงแรก และชั่วโมงสุดท้ายก่อนถึงปลายทางครับ ถ้าเราทานตามที่สั่งล่วงหน้าไว้ตอนรอบแรกไปแล้ว รอบที่สองก็ต้องซื้อทานแล้วหล่ะครับ

ดูตามภาพแรกนะครับ สำหรับเที่ยวบินระยะไม่เกิน 10 ชั่วโมง
พวกเที่ยวบินสั้นๆ อย่างไปเมืองจีน แค่ 4-5 ชั่วโมง อย่าง เฉิงตู /หังโจว และ ไทเป จะโหลดอาหารทั้ง ขาไป-ขากลับ จากกัวลาลัมเปอร์
ดังนั้น เมนูอาหารก็เลยเหมือนกันครับ มีให้เลือกแค่ 4 แบบคือ ข้าวมันไก่, ไก่ย่างบาร์บีคิว, ข้าวกับผัดเปรี้ยวหวานมังสวิรัติ และ สปาเก็ตตี้ลูกชิ้นไก่ เหมือนกันทั้งขาไป-กลับ

พวกเที่ยวบินที่ไกลขึ้นมาหน่อย อย่าง กัวลาลัมเปอร์-เทียนจิน (ปักกิ่ง)ประมาณ 6 ชั่วโมงขึ้นไป จะโหลดอาหารขากลับจากปักกิ่งด้วย
ดังนั้น เที่ยวบินขาไปจากกัวลาลัมเปอร์ อาหารจะไม่เหมือนกับเที่ยวขากลับจากเทียนจิน
-- จากเทียนจิน เมนูก็จะกลายเป็น ปลาเปรี้ยวหวาน, ไก่ย่างบาร์บีคิว, ก๋วยเตี๋ยวเห็ดมังสวิรัติ และ ข้าวผัดโอเรนทัล เป็นต้น

ส่วนเที่ยวบินออสเตรเลีย ตอนแรกผมก็งงๆ ครับ นึกว่าเสิร์ฟสองรอบ พอดูไปดูมา ก็ถึงบางอ้อครับ ...
เที่ยวบินจากกัวลาลัมเปอร์ มี นาซีเลอมัค, ไก่ย่างบาร์บีคิว, ข้าวกับผัดเปรี้ยวหวานมังสวิรัติ และ สปาเก๊ตตี้ลูกชิ้นไก่
ส่วนเที่ยวบินขากลับจากออสเตรเลีย โหลดอาหารขึ้นจากออสเตรเลีย มี ข้าวไก่ผัดเครื่องเทศแบบมาเลย์, ไก่ย่างบาร์บีคิว, พาสต้ามังสวิรัติ และ นักเก็ตไก่กับมันฝรั่ง ประมาณนี้ ...

ดังนั้น ถ้าหากว่าเราไม่ได้ Pre-book มาก็สั่งอาหารได้แต่ตามนี้เท่านั้นครับ จะโหยหาข้าวมันไก่ บนเที่ยวบินไปออสเตรเลีย ก็ไม่มีเหมือนกันครับ หรือบินไปเมืองจีน อยากกินนาซีเลอมัค ก็ไม่ได้เช่นกัน .... ปัญหาทีมักจะเกิดคือ ตอนที่แอร์เดินอาหารรอบสอง ก่อนถึงปลายทางประมาณ 1 ชั่วโมง อาหารบางอย่างหมดนะครับ อาจจะต้องเลือกเท่าที่มี บางทีอาจจะต้องเลี่ยงไปกินพวกมาม่า หรือขนมแทน ดังนั้น ถ้าใครชอบทานเยอะๆ เตรียมอาหารส่วนตัวขึ้นไปด้วยจะดีครับ จะได้ไม่ทนหิวมากนัก

Attached Images

• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

มาดูเที่ยวบินระยะไกลขั้นเทพ > 10 ชั่วโมงกันบ้าง

อย่างเส้นทาง กัวลาลัมเปอร์-ลอนดอน บินกัน 14.30 ชั่วโมง จึงมีการเสิร์ฟอาหาร Pre-booked meal 2 รอบครับ
แต่ก็เห็นว่า ระยะห่างมื้ออาหารก็นานร่วมสิบชั่วโมงเลยทีเดียว ดังนั้น เตรียมอะไรขึ้นไปได้ ก็เตรียมไปเถอะครับ
เพราะอาหารบนเครื่องก็หลายตังค์อยู่ทีเดียว ....

อย่างดูจากเมนูนะครับ อาหารขาไป-ขากลับ จะไม่เหมือนกัน ขากลับโหลดอาหารจากลอนดอน
แต่ถ้าคิดจะเลือกอาหารเอเชีย ขาไปและขากลับ ก็จะเจอเหมือนกันเด๊ะ คือ ได้ Chicken Briyani และ Nasi Lemak
ถ้าเลือกอาหารอินเตอร์ ขาไปได้ ลาซานญ่ากับ Fettuccini ส่วนขากลับได้ Roast Chicken กับ พายไก่ พระเจ้าจอร์จ (จะอยู่ได้ไหม)
เลือกอาหารมังสวิรัติก็ไม่เหมือนกันทีเดียวนะครับ ขาไปจะได้ พาสต้ามังสวิรัติ กับข้าวกับผัดเปรี้ยวหวานมังสวิรัติ ส่วนขากลับ ก็ได้พาสต้า กับ ข้าวอะไรซักอย่าง
ส่วนอาหารเด็ก นี่ไม่คิดเลยว่าเด็กจะหิวไหม บิน 14 ชั่วโมง ขาไปให้กินแค่ฮ๊อตดอกบ้านๆ กับ สปาเก๊ตตี้ลูกชิ้นไก่ ส่วนขากลับ เป็นพาสต้า กับ ไก่นักเก็ต ยังพอทนได้อยู่ ...

อาหารนี้จะเปลี่ยนไปในแต่ละเดือนนะครับ
แต่พอจะดูเป็นแนวทางได้ว่า ถ้าบินไฟล์ทนี้ จะสั่งซื้ออาหารอะไรได้บ้าง ไม่ใช่ว่าจะไปโหยหาข้าวมันไก่ ในเที่ยวบินอังกฤษ คงเจอแม่สาวหางแดงมาเลย์ ตบเปรี้ยง เป็นต้น ....

เดี๋ยวหน้าตาอาหารจะเอาให้ดูตอนที่แอร์มาเสิร์ฟนะครับ อิอิ

Attached Images

• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ส่วนเครื่องดื่ม ราคาจะแพงกว่า แอร์เอเชีย AK FD QZ อยู่หน่อยนึงนะครับ

น้ำดื่มราคา 2 ริงกิตเท่ากัน ส่วนเครื่องดื่มร้อนคิด 6 ริงกิต (AK คิด 5 ริงกิต)
พวกเครื่องดื่มเย็น ก็เลยแพงขึ้นเป็น 7 ริงกิต
อาหารร้อน ถ้าสั่งเพิ่ม เมนูละ 12 ริงกิต
ขนาดฮ๊อตดอกบ้านๆ ยังราคา 10 ริงกิตเลยครับ ....

ดังนั้น ไฟล์ทขากลับ ผมก็เลยมี Catering ส่วนตัวมาด้วย เพราะอาหารแพงเกินจริงๆ ....
-----------------------------------------------------------------------------------------

แป๊บเดียวเครื่องบินก็ไต่ระดับเรียบร้อยแล้วครับ .... อ้อ ตอนสาธิตความปลอดภัย แสดงสดเพราะไม่มี PTV (เพดานผนังก็ไม่มี) นะครับ

ของอีกอย่างหนึ่ง ที่ผมแนะนำให้ซื้อ กรณีบินข้ามทวีปนะครับ
นั่นก็คือ Comfort Kit ซึ่งประกอบไปด้วย หมอนรองคอ ผ้าห่ม และผ้าปิดตา ได้ใช้แน่นอนครับ
ถ้าจองล่วงหน้าตอนซื้อตั๋ว (ต้องตอนซื้อตั๋วเท่านั้น) ราคา 25 ริงกิต แต่ถ้าซื้อบนเครื่อง ราคา 35 ริงกิตครับ
สำหรับผม ซื้อเฉพาะไฟล์ทขาไป ส่วนขากลับก็ใช้ของเดิมที่ได้มาจากไฟล์ทขาไปนี่หล่ะครับ ประหยัดดี อิอิ

สำหรับวิธีการเป่าลมตรงหมอนรองคอ อย่าลืมบีบที่จุกเป่าลม ก่อนเป่าลมเข้าไปนะครับ
ไม่งั้นจะเป่าไม่เข้า หน้าแดงหน้าดำเลยทีเดียว .... เป่าไปแป๊บเดียวก็พองพอจะหนุนหัวนอนได้แล้ว อิอิ

Attached Images

• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

แห่ะๆๆ คุณแอร์ก็แจกใบ ตม. มากรอกให้เรียบร้อย ตามความเป็นจริงนะครับ
เพราะด่านออสซี่เค้าถามด้วย ...

จากนั้นก็เอนนอนกันดีกว่า เอนได้เท่านี้จริงๆ ....

Attached Images

• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

พูดถึงเรื่อง Entertainment on board ซักหน่อยนึงครับ

เทียบง่ายๆ นะครับ ถ้าไม่จ่ายเงินเพิ่ม ก็หลับไป หรือ นั่งอ่านหนังสือ อ่านนิยายเพลินๆ คงจะจบเล่มพอดี

แต่ถ้าจะจ่ายเงินเพิ่ม ก็จะได้เครื่องเล่นหนัง/เพลง/ซีรีย์/เกมส์ มาเล่น ชื่อว่า E-Player ราคา 30 ริงกิตครับ
ถ้าต้องการก็แจ้งกับคุณแอร์ฯ ได้เลย ของมีจำนวนจำกัด และแอร์ฯ จะเก็บก่อนเครื่องร่อนลงจอดประมาณ 1 ชั่วโมงครับ ...

Attached Images

• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ คุณลูกเรือก็เริ่มขายอาหาร และแจกอาหารสำหรับผู้โดยสารที่สั่งจองอาหารล่วงหน้าครับ
คือ มาพร้อมกันเลย ทั้งขาย และ ทั้งเคลม ไม่มีการเดินมาแจกอาหารก่อนแบบเที่ยวบินแอร์เอเชียปกติครับ ...

การเสิร์ฟจะเริ่มตั้งแต่แถวหน้าสุด คือแถว 1 และ แถวที่ 51 สุดท้ายท้ายเครื่อง มาบรรจบกันตรงกลางเครื่องบินครับ
ดังนั้น ผู้โดยสารแถว 24-26 จะเป็นกลุ่มสุดท้ายที่ได้รับอาหาร

ไฟล์ทขาไปเมลเบิร์น ผมนั่งแถว 24 แทบจะเป็นลมครับ เหอๆ ข้างหน้ากินกันจนจะเสร็จแล้ว
คุณจ๊วตแถวผมก็ดูจะชิลล์เกินไปแล้ว .... จนรถคันที่มาจากทางท้ายเครื่องมาถึงก่อนอ่ะครับ

มาดูนาซีเลอมัคกันก่อนนะครับ .... อาหารร้อนที่สั่งล่วงหน้า จะได้น้ำดื่มฟรีนะครับ
แต่ถ้าขวดต่อไปก็ต้องซื้อในราคาขวดละ 2 ริงกิตครับ

ขนาดกล่องเท่ากับเครื่อง AK ทุกประการครับ
เมื่อเปิดฝากล่อง ก็เหมือนกันเด๊ะๆ ครับเป็น Pak's Nasi Lemak เหมือนกัน
รสชาติอร่อยเหมือนกันครับ โรยปลาแห้งไปแล้วอร่อยเหาะเลยทีเดียว

Attached Images

• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

แล้วก็ ... อาหารอินเตอร์อย่าง ไก่ย่างบาร์บีคิว หน้าตาก็เป็นแบบนี้หละครับ ....

หลังจากหนังท้องตึง หนังตาก็หย่อนครับ
ลูกเรือประกาศขอความร่วมมือให้ปิดม่านหน้าต่างด้วย
ตอนนี้เวลาก็ประมาณ สี่โมงเย็นมาเลย์ หรือ 1 ทุ่มออสเตรเลียแล้วหล่ะครับ ....

Attached Images

• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

บินไปได้มาค่อนทาง เหลือประมาณ 3 ชั่วโมง
ด้านนอกฟ้ามืดแล้ว ... กัปตันประกาศออกไมค์ว่า ตอนนี้เราบินเข้าเขตออสเตรเลียแล้ว
จะไปถึงปลายทางประมาณ 0.10 น. (ดีเลย์ไปประมาณ 40 นาที) และขออภัยในความล่าช้า บลาๆๆๆ

จนก่อนเวลาเครื่องลงประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง
ลูกเรือก็เริ่มเดินรถอาหารรอบ 2 ก่อนจะร่อนลงจอดครับ ...
ทีนี้ ใครไม่มีเสบียงตุนมาก็ต้องควักเงินจ่ายค่าอาหารแว๊ว ....

ตอนนี้อารมณ์หิวหน้ามืดครับ ...
อาหารต่างๆ หมดสิ้นเลย เหลืออยู่แค่ 2 อย่างก็คือสปาเก็ตตี้ลูกชิ้นไก่
และ ข้าวกับผัดเปรี้ยวหวานมังสวิรัติ ก็เลยต้องทานตามนี้หล่ะครับ

ดูสปาเก็ตตี้ก่อน ก็ดูหน้าตาน่าทานดีนะครับ แต่ราคาแพงกว่า AK เยอะคือ 12 ริงกิตแหน่ะ
แต่ก็ยังดี ถ้าลงจากเครื่องไป เจออาหารออสซี่ ราคาขนลุกกว่านี้เยอะครับ

แล้วอีกอันหนึ่งก็คือผัดเปรี้ยวหวานมังสวิรัติ ส่วนประกอบส่วนใหญ่เป็นเต้าหู้ครับ
รสชาติผมว่าอร่อยทีเดียวเชียว ... คิดถึงเปรี้ยวหวานบนเครื่อง FD ตอนสมัยเอา A320 มาบินใหม่ๆ ครับ

Attached Images

• 
• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

หลังจากขายอาหารเสร็จ ก็ขายของ Duty Free กันต่อครับ

จากนั้น ก่อนเครื่องจะลงจอดไม่ถึงครึ่งชั่วโมง
ลูกเรือประกาศว่า ตามข้อบังคับของออสเตรเลีย จะต้องมีการสเปรย์ฆ่าเชื้อบนเครื่องบินก่อนร่อนลงจอด

ทีนี้ คุณจ๊วตก็เลยต้องเดินพ่นสเปรย์กันแบบนี้หล่ะครับ กลิ่นฉุนสุดๆ ไปเลย
(เหมือนกับไฟล์ทที่บิน กรุงเทพ-ปีนัง ก็ต้องทำแบบนี้เหมือนกัน)

แล้วก็ก่อนที่เครื่องจะลงเล็กน้อยครับ เลยเก็บภาพบรรยากาศบนเที่ยวบินมาให้ดูซักกะหน่อย ... จะถึงเมลเบิร์นแล้ว

Attached Images

• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เครื่องบินก็ได้ร่อนลงจอดอย่างนุ่มนวล สู่ท่าอากาศยาน Tullamarine นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียครับ
เวลาขณะนี้ 0.10 น. เที่ยงคืน 10 นาที หรือ 21.10 น. ตามเวลาประเทศไทย

ก็เป็นอันจบสิ้นไฟล์ทบินไกล 7.50 ชั่วโมง กับหางแดงนะครับ อากาศข้างนอก 8 องศาเซลเซียส อิอิ หนาวอีกแล้ว ....
แค่เดินเข้าไปในงวงก็สัมผัสได้ถึงความหนาวสุดๆ

ลูกเรือชุดนี้ แวะลงนอนเมลเบิร์น 1 คืนแล้วตีกลับ KL กับไฟล์ทวันรุ่งขึ้นครับ
เช่นเดียวกันกับไฟล์ท โกลด์โคสต์ และ เพิร์ธ ได้แวะลงนอนคืนนึงด้วย

ตามทางเดินไปด่าน ตม. มีคู่มือท่องเที่ยวเมลเบิร์นแจกด้วยนะครับ แล้วก็มีดิวตี้ฟรีด้วย ....

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ด่านตรวจคนเข้าเมืองออสเตรเลีย ...

เป็นสิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนกลัว เมื่อจะมาออสเตรเลีย
สำหรับตัวผมก็กลัวครับ ไม่รู้ว่าจะถามอะไรบ้าง
สิ่งที่ผมเตรียมก็คือใบ Itinerary แสดงเที่ยวบินขากลับประเทศไว้ ให้ทราบเลยว่า ฉันไม่อยู่ประเทศยูนานหรอก (จะจนเอา ค่าครองชีพแพงมาก)
คิว ตม. ไม่ยาวเลยครับ มีหลายช่องที่เปิดอยู่แม้ว่าตอนนี้จะดึกมากแล้วก็ตาม
ผมก็ยื่นพาสปอร์ต พร้อมแบบฟอร์มที่กรอกเรียบร้อยให้คุณ จนท. ตม.ผู้หญิง เธอก็ดูพาสปอร์ตนิดๆ หน่อยๆ
ดูประวัติการเดินทางอันโชกโชนของผม แล้วก็สแกนพาสปอร์ต มองหน้าผมเล็กน้อย

แล้วก็ประทับตราให้ผมเข้าประเทศเฉยเลย ไม่ถามอะไรซักนิดครับ อยู่ตรงหน้าเธอไม่ถึงครึ่งนาทีด้วยซ้ำไปครับ ....
ผมก็อึ้ง ยิ้ม อิอิ ผ่านด่านแรกแล้ว เหลือด่านที่สองคือ ศุลกากร .....

ด่านศุลกากรออสเตรเลีย

จากทีอ่านหลายๆ กระทู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งของคุณหมอ Ethanol เพื่อนผม เคยเล่าว่ามีหมาบีเกิ้ลมาตรวจเรื่องอาหารด้วย
ในแบบฟอร์ม ตม. จะมีช่องให้กรอกเรื่องเกี่ยวกับอาหารด้วยครับ
พอเดินผ่านจากด่าน ตม. ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาสัมภาษณ์เรา เรื่องสิ่งของที่นำเข้าประเทศ
ว่ามีพวกอาหาร หรืออะไรที่กินได้ติดตัวมาด้วยหรือไม่ ผมก็ตอบตามจริงว่าไม่มีอะไร คุณ จนท. ก็ให้เดินผ่านมา
ถึงสายพานรับกระเป๋า ... รับกระเป๋าเรียบร้อย ก็จะต้องผ่านด่าน ศุลกากรครับ

ผมก็ยื่นใบแบบฟอร์ม ตม. ให้ จนท.
คุณ จนท. เธอก็ชี้ทางออกให้กับผมเลยครับ โดยไม่ต้องผ่านเครื่องสแกนอะไรใดๆ ทั้งสิ้น
อ่าว รู้ตัวอีกทีนึง ผ่านด่านศุลกากร ออกมายืนด้านนอกสนามบินแล้ว

สรุปก็คือ ผมไม่โดนตรวจอะไรเลยครับ ไม่โดนเปิดกระเป๋าด้วย ทั้งๆ ที่ก็เตรียมใจมาแล้ว จัดกระเป๋าอย่างดีก็ไม่โดนให้เปิดกระเป๋าดู
เห็นหลายๆ คนเข้าทางเมลเบิร์น ก็ไม่โดนอะไรนะครับ แม้ว่าเราจะเป็นเอเชียหัวดำๆ ก็ตามทีเถอะ
ก็เลยสงสัยว่า ปกติด่านนี้ไม่เขี้ยวมาก หรือ เป็นเพราะว่าบินมาถึงดึก ตั้งเที่ยงคืนหน่อยๆ แล้ว จนท. ก็เลยปล่อยผ่านได้

จริงๆ แล้ว หลายๆ คนโดนส่งให้เอาสัมภาระไปผ่านด่านเข้าเครื่องสแกนด้วยนะครับ แต่ผมไม่โดนแฮะ ก็ยังงงๆ อยู่ถึงทุกวันนี้

เอาเป็นว่า สบายใจเถอะครับ ตม. ออสซี่ไม่ได้โหดร้ายมากอย่างที่คิด แต่ระวังเรื่องของกินไว้ให้ดีหน่อยก็แล้วกันครับ

Attached Images

• 
• 
• 
• 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

สำหรับวิธีการเข้าเมืองเมลเบิร์น ไม่ยากเลยครับ
ดึกๆ แบบนี้ มีรถ Skybus ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงครับ
เพียงแต่ดึกๆ อาจจะลดความถี่ลงเหลือทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ถึง 1 ชั่วโมงครับ
รถ Skybus จะไปจอดที่ท่ารถสถานี Southern Cross ครับ ทีนี้จะเดินไปไหนใน Melbourne CBD ก็ได้แล้วครับ
ต่อแท๊กซี่ไปก็ได้ หรือเลือกที่พักที่พอจะเดินได้ก็ได้เช่นกัน (CBD ไม่ได้ใหญ่มากครับ)

ค่าโดยสาร ไป-กลับ 26 AUD ถ้าซื้อเที่ยวเดียวคิด 16 AUD
สามารถซื้อตั๋วได้ตรงเคาน์เตอร์ขายตั๋วข้างๆ ป้ายรถเมล์เลยครับ
แต่ดึกๆ ถ้าบินไฟล์ทนี้มา เคาน์เตอร์นี้จะปิดไปแล้ว เราสามารถซื้อตั๋วกับตู้อัตโนมัติ แล้วชำระเงินด้วยบัตรเครดิตก็ได้เช่นกันครับ

แห่ะๆ คงต้องไปพักอีกแล้วนะครับ สำหรับไฟล์ท โกลด์โคสต์-กัวลาลัมเปอร์-เชียงใหม่ จะมาต่ออีกนะครับ ยาวเฟื้อยจริงๆ กระทู้นี้
กลางคืนพรุ่งนี้จะมาต่อให้จบครับ ....

Attached Images

• 
• 
• 
• 
• 
• 

[do_D]

เป็นอะไรที่สุดยอดมากๆๆครับ ทั้งความรู้เรื่องราวของหางแดง
รวมทั้ง ตม. ออสซี่

ขอบคุณหมอยุ่งมาก ๆ นะครับ

ที่นำข้อมูลดีดีมาบอกกัน

[Namcha]

สวัสดีค่ะหมอยุ่ง(กินเก่ง)ชะมัด...สัตวแพทย์

จำได้ว่าชุดคอมฟอร์ทคิที่สั่งของแอร์เอเชียกลิ่นนี่เหม็นสุดๆ แบบทนหนุนไม่ไหวเลยหรือป่าวค่ะ หรือว่าทางแอร์เอเชียเค้าปรับปรุงแล้ว

ส่วนอาหารน่ากินทุกเมนูเลยค่ะ เคยบินไปลอนดอนด้วยแอร์เอเชียร์เอ๊กซ์ อาหารอร่อยทุกมื้อจริงๆค่ะ ตอนนั้นจำได้ว่าสั่ง International หวังว่าเค้าจะยังไม่ลดคุณภาพอาหารลงนะคะเหมือนFD แล้วก็แบบที่หมอยุ่งบอกจริงๆเสริฟ 1hrเครื่องออก1hrก่อลเครื่องลง ระหว่างทางก็เลยต้องสั่งของมากินอีก แต่อร่อยจนอยากเสียเงินอีก

[ann_vareewan]

ตามมาชมต่อ
สรุปว่ารีวิวนี้มีประโยชน์จริงๆ
ชอบรีวิวลักษณะนี้ที่ให้ข้อมูลกับผู้เข้ามาชมอย่างละเอียด
ใครอ่านแล้วสามารถนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริง

ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ
รอชมไฟล์ทต่อไปนะคะ

[too6604]

ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ
รอชมไฟล์ทต่อไปนะครับ

[jamescx]

ผมว่า Air Asia วุ่นวายนะครับ

[Title by KU]

จากที่ดูแล้ว ผมว่าเบาะที่นั่งดูเก๋ทีเดียวคับ ผมชอบอ่ะ และที่ชอบอีกอย่างคือเครื่องแบบลูกเรือชายคับ ผมว่ามันเท่ห์ดี

ยินดีด้วยนะคับที่ผ่าน ตม. มาได้แบบสบายๆ เพื่อนผมเข้าออสเตรเลียทางเมืองซิดนีย์คับ รายนั้นนี่แทบจะโดนแก้ผ้าเลย

รอชมไฟลท์ต่อไปนะคับ ขอบคุณสำหรับรีวิวคับ

[Suteerat Atlantis]

ขอบคุณมากครับสำหรับรีวิว...แอร์เอเชียเปลี่ยนเอ็กซ์เปลี่ยนที่นั่งใหม่แล้วก็ดูดีขึ้นนะครับ เป็นเบาะที่ดูธรรมดาจริงๆ สมแล้วที่เป็นโลคอส ถ้าเป็นผมคงต้องฟังเพลงทั้งแปดชั่วโมงเพื่อคลายความเบื่อเป็นแน่ อิอิอิ

ปล.ที่ช่องTPBSมีรายการสารคดีBorder Security ของประเทศออสเตรเลียฉายอยู่ครับ ทุกวันจันทร์ประมาณห้าทุ่ม ผมว่าเป็นสารคดีที่ดีมากเลยนะครับ สนุกดีผมชอบสารคดีที่ช่องนี้เอามาฉาย