16 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

หลังจากที่เครื่องบินแอร์บัส เอ330-300 ลายผ้าบาติกลำใหม่ได้เดินทางมาถึงและเข้าประจำการเป็นสมาชิกในฝูงบินของ Thai Lion Air เมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ ในที่สุดก็ได้เวลาพร้อมให้บริการ ซึ่งช่วงเวลานี้สายการบินได้ใช้ให้บริการในเชิงพาณิชย์ด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ330-300 ลำใหม่เอี่ยม ซึ่งเข้าประจำการแล้วจำนวน 3 ลำ ในเส้นทางในประเทศก่อน นั่นก็คือเส้นทางเชียงใหม่และภูเก็ต โดยเริ่มตั้งแต่ วันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา 

 

เรามีโอกาสไปลองสัมผัสการเดินทางบน เอ330-300 ของไทย ไลอ้อน แอร์ ซึ่งมีอะไรแตกต่างจากฝูงบินหลักเดิมคือ โบอิ้ง 737-900อีอาร์และ 737-800 เดิม เลยนำรีวิวมาให้ชมกัน

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ก่อนอื่นเลยต้องบอกก่อนว่า จริง ๆ แล้วสายการบินมีแผนจะใช้ เอ330 ซึ่งเป็นเครื่องบินลำตัวกว้างสำหรับเส้นทางระยะไกลหรือเส้นทางที่ต้องความความจุผู้โดยสารมากเป็นหลัก เพราะว่า เอ330 นั้นเป็นเครื่องบินลำตัวกว้างและมีพิสัยการบินที่ไกลกว่า ฝูงบิน 737 ที่สายการบินใช้อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเหมาะกับเส้นทางระยะสั้นและเส้นทางภูมิภาคเป็นหลัก แต่ว่าเนื่องจากสายการบินเพิ่งรับ เอ330 เข้ามาและอยู่ในระหว่างดำเนินการเตรียมการที่จะนำไปประจำการในเส้นทางระยะไกลหรือเปิดเส้นทางใหม่ ๆ ที่เหมาะสมกับ เอ330 ในช่วงแรกนี้จึงนำมาให้บริการเส้นทางในประเทศอย่างเชียงใหม่และภูเก็ตไปก่อนและเมื่อพร้อมแล้วก็จะนำไปให้บริการในเส้นทางระยะไกลตามแผนต่อไป

 

สำหรับเที่ยวบินที่เราจะเดินทางในวันนี้คือ เที่ยวบิน SL510

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เช็คอินเสร็จแล้วก็เดินไปเกทกันครับ เครื่องบินเราจอดรออยู่แล้วที่ เกท 51 

 

เป็นแอร์บัส เอ330-300 ทะเบียน HS-LAH

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เนื่องจากวันนี้เป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์อย่างเป็นทางการ(จริง ๆ แล้วเครื่องใช้บินตั้งแต่วันที่ 16 แต่เนืองจากตรงกับเสาร์อาทิตย์ เลยเริ่มเที่ยวบินปฐมฤกษ์อย่างเป็นทางการในวันที่ 18) จึงมีผู้บริหารของสายการบิน นำโดยนายอัศวิน ยังกีรติวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยแขกตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมเดินทางไปด้วย

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

โฉมหน้าของ HS-LAH น้องเล็กที่ตัวใหญ่ที่สุดของฝูงบิน Thai Lion Air

นอกจาก HS-LAH แลัวยังมี เอ330 อีก 2 ลำที่เข้าประจำการแล้วได้แก่ HS-LAI และ HS-LAJ

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แอร์บัส เอ330-300 เป็นเครื่องบินลำตัวกว้าง ก็จะมี 2 ทางเดินและ

 

ความพิเศษของ เอ330 ที่แตกต่างจากฝูงบินโบอิ้ง 737 ของไลอ้อน ก็คือจะมีห้องโดยสารชั้น Premium Economy ด้วยมีจำนวน 18 ที่นั่ง จัดที่นั่ง แบบ 2-2-2 ทางส่วนหน้าสุดของเครื่องเลย

 

สำหรับผู้โดยสารในชั้น Premium Economy จะได้รับ

 

- บริการน้ำหนักสัมภาระ 20 กิโลกรัม สำหรับเส้นทางบินภายในประเทศ (ชั้นประหยัดได้ 10 กิโลกรัม)

- บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน

- บริการสิ่งบันเทิงบนเครื่องบิน  ผ่านจอส่วนตัวหน้าที่นั่ง

- ที่นั่งมีระยะห่างระหว่างแถว 60 นิ้ว พร้อมช่องเสียบ USB สำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือ  พร้อมด้วยโคมไฟสำหรับอ่านหนังสือส่วนตัว

 

ที่นั่งจะกว้างและปรับเอนนอนได้มากกว่า (แต่ไม่ได้เป็นเตียงราบนะ)

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ห้องโดยสารส่วนต่อมาจัดเป็น Economy Seats อีกจำนวน 374 ที่นั่ง จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 

 

- บริการน้ำหนักสัมภาระ 10 กิโลกรัม สำหรับเส้นทางบินภายในประเทศ

- บริการสิ่งบันเทิงบนเครื่องบินผ่านจอหน้าที่นั่ง

- ระยะห่างระหว่างแถว 31 นิ้ว พร้อมช่องเสียบ USB สำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือ

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สำหรับจอหน้าที่นั่ง ก็จะมีตัวเลือกความบันเทิง อยู่พอสมควร มีตัวเลือกหลัก ๆ คือ ภาพยนตร์ รายการโทรทัศน์ และเกมส์ 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ถึงเวลาออกเดินทาง และลูกเรือเริ่มสาธิตขั้นตอนอุปกรณืในยามฉุกเฉิน

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เส้นทางบินของเราในวันนี้ก็คือ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ตอนนี้ก็มีข้อมูลการเดินทางแสดงผ่านหน้าจอให้ดูได้แล้ว

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เครื่องลำใหม่ที่ใหญ่ที่กว้างขวางกว่าเดิม 

 

หลายคนอาจมีคำถามว่า เมื่อเทียบกับ เอ330-300(เหมือนกัน) ของสายการบินโลวคอสต์อีกเจ้าในประเทศไทยที่มีประจำการอยู่มีอะไรแตกต่างกันบ้าง ทำไมที่นั่งถึงไม่เท่ากัน (ของไทย ไลอ้อน แอร์ คือ 392 = 18 Premium Eco + 374 Eco ส่วนอีกเจ้านั้น 377 = 12 Flatbed + 365 Eco) ก็ในส่วนของชั้นประหยัดนั้นจะเห็นว่าที่นั่งต่างกันอยู่ 9 ที่นั่ง นั่นคือจำนวนแถว 1 แถว นอกเหนือจากระยะห่างระหว่างแถวที่ไม่เท่ากัน ของไทย ไลอ้อน แอร์ pitch 31 กับอีกเจ้า pitch 32 แล้วยังมีการจัดวางตัวครัวและห้องน้ำไม่เหมือนกัน (แต่จำนวนห้องน้ำในชั้นประหยัดมีเท่ากันคือ 7 ห้องรวมอีก 1 ที่หน้าเครื่องก็คือมี 8 ห้องเท่ากัน) ก็อาจจะทำให้สามารถจุที่นั่งเพิ่มได้มากน้อยต่างกันไปด้วย ส่วนเรื่องระยะห่างระหว่างแถวไม่ว่าจะ 31 หรือ 32 นั้น ก็ถือว่าดีกว่าเครื่องบินที่ใช้ในฝูงบินพิสัยใกล้ของบรรดาโลวคอสต์อยู่มากเพราะฝูงบินพิสัยใกล้จะมีระยะระหว่างแถวแค่ 28-29 นิ้วเท่านั้น

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ลูกเรือเริ่มบริการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน สำหรับเที่ยวบินของไทย ไลอ้อน แอร์ตอนนี้ชั้นประหยัดก็จะสามารถสั่งจองอาหารล่วงหน้าได้ด้วย หรือจะซือบนเครื่องก็ได้(แต่ตัวเลือกน้อยกว่า)

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สำหรับตัวเลือกอาหารต่าง ๆ ก็ดูจากรายการอาหารหน้าที่นั่งหรือสั่งจองล่วงหน้าผ่านคอลเซ็นเตอร์ได้เลยนะครับ
 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ระหว่างเที่ยวบินมีลองไปชมในโซนหน้าอีกครั้ง หากเป็นผู้โดยสารชั้น Premium Economy ก็จะมีบริการอาหารและเครื่องดื่มให้ด้วย

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ไม่นาน เที่ยวบิน SL510 ก็เดินทางมาถึงเชียงใหม่เป็นที่เรียบร้อย และนี่ก็คือ 2 นักบินผู้ควบคุมอากาศยานในเที่ยวบินนี้

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ที่เชียงใหม่ ก็มีการต้อนรับเที่ยวปฐมฤกษ์ของแอร์บัส เอ330 ของไทย ไลอ้อน แอร์อย่างเป็นทางการในเที่ยวบินนี้ด้วย ก็มีผู้บริหารของท่าอากาศยานและหน่วยงานต่าง ๆ มาร่วมต้อนรับ

 

 

 

สำหรับแผนการให้บริการด้วย เอ330 ของไทย ไลอ้อน แอร์ ตอนนี้ก็จะบินในเส้นทางระหว่างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่และกรุงเทพฯ-ภูเก็ตในบางเที่ยวบิน ไปจนถึงกลางเดือนมกราคมนี้จากนั้นนายอัศวิน ยังกีรติวรเปิดเผยว่าจะเริ่มนำไปให้บริการในเส้นทางระหว่างประเทศระยะไกลขึ้น เช่น เส้นทางจากกรุงเทพฯไปประเทศจีนบางเมืองที่มีผู้ใช้บริการสูง รวมถึงเส้นทางระหว่างภูเก็ตและจีนที่สายการบินก็มีให้บริการอยู่ด้วยเช่นกัน นอกเหนือจากนั้นแผนการที่จะเปิดให้บริการเส้นทางไปยังญี่ปุ่นและเกาหลีซึ่งเป็นที่นิยมของคนไทยนั้นคาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในเดือน พฤษภาคม-มิถุนายน ปีหน้า ซึ่งขณะนี้กำลังมีการดำเนินการเรื่องการขออนุญาตต่าง ๆ อยู่

 

 

ขอบคุณที่เข้ามาติดตามชม แล้วพบกันในโอกาสต่อไปสำหรับรีวิวเที่ยวบินที่น่าสนใจอีกเช่นเคย สวัสดีครับ

[Patchayada]

ขอบคุณนะคะสำหรับรีวิวดีๆ