34 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

ย้อนความทรงจำ กับ airberlin - Your Airline
 

นับเป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่ด้านการบินในปีนี้ ที่สายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับสองของเยอรมนีและเป็นอีกหนึ่งสายการบินที่มีชื่อเสียงในยุโรป อย่างสายการบินแอร์เบอร์ลิน airberlin นั้นเกิดล้มละลายและในที่สุดก็ต้องหยุดทำการบินเหลือไว้แต่เพียงตำนาน ซึ่งเที่ยวบินสุดท้ายของสายการบินนั้นได้ทำการบินเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา

 

รีวิวนี้เลยจะขอพาไปรำลึกความหลัง บันทึกความทรงจำไว้กับประสบการณ์การเดินทางด้วยแอร์เบอร์ลินทีได้กลายเป็นอดีตไปแล้ว โดยเป็นการเดินทางในเส้นทางภายในยุโรป จากมิลานไปซูริค ผ่านดุสเซลดอล์ฟซึ่งเป็น 1 ใน 2 ฐานการบินหลักของแอร์เบอร์ลิน ลองตามไปชมกัน

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

การเดินทางครั้งนี้เราเริ่มต้นจากเมืองมิลาน ในประเทศอิตาลี เมืองที่มีมหาวิหาร Milano Duomo อันเป็นเอกลักษณ์นี้

 

จากใจกลางเมืองมิลานเราก็เดินทางไปสนามบินมิลาน มัลเป็นซาโดยรถไฟ Malpensa Express

 

โดยรีวิวครั้งนี้เป็นการเดินทางเมือปี 2014 นำมาลงให้ชมกันเพื่อรำลึกความหลังถึงสายการบินแอร์เบอร์ลิน

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

มาถึงก็มาเช็คอินกันเลย การเดินทางในวันนี้เราจะบินจากมิลานไปซูริค (ซึ่งจริง ๆ ใกล้ๆมากๆ และเดินทางโดยรถไฟอาจจะสะดวกกว่า แต่เราเลือกใช้เครื่องบิน ไม่อย่างนั้นก็จะไม่มีความทรงจำกับแอร์เบอร์ลินหนะสิ) ซึ่งเมื่อเลือกแอร์เบอร์ลินก็ต้องบินไปแวะทรานสิทที่ดุสเซลดอร์ฟซึ่งเป็นฐานการบินของสายการบิน (แอร์เบอร์ลินยังมีฐานการบินอยู่อีกแห่งคือที่สนามบินเบอร์ลิน เทเกล)

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ได้บอร์ดดิงพาสมาแล้วก็ผ่านการตรวจสัมภาระเข้าไปยังบริเวณผู้โดยสารขาออกกันเลย นี่ก็เป็นบรรยากาศร้านค้าต่าง ๆ ของสนามบินมิลาน มัลเปนซา

 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

บรรยากาศของสนามบินก็อาจจะไม่สวยสดใสเหมือนอีกหลายแห่งในยุโรปแต่ก็ไม่ได้เลวร้าย

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เอาหละได้เวลาขึ้นเครื่อง เที่ยวบิน AB8407 ของเราในวันนี้ให้บริการด้วย แอร์บัส เอ319

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สภาพที่นั่งก็เบาะหนังมาตรฐานแบบสายการบินยุโรป สำหรับเส้นทางในภูมิภาค

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ที่นั่งจัด 3-3 แบบชั้นประหยัดล้วน แต่จริง ๆ แล้วจะมีชั้นธุรกิจด้านหน้าโดยใช้วิธีการเว้นที่นั่งตัวกลางไว้เช่นเดียวกับสายการบินยุโรป

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

จอภาพบนเพดานเหนือศรีษะจะฉายแผนที่การบินและข้อมูลต่าง ๆ

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แต่ตอนนี้ก่อนออกเดินทางก็มาฉายวิดีโอสาธิตการใช้อุปกรณ์นิรภัย

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แล้วเราก็ออกเดินทางจากมิลานมุ่งหน้าไปดุสเซลดอร์ฟ เที่ยวบินนี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

จอเหนือศีรษะเปิดลงมาอีกครั้งหลังสัญญาณรัดเข็มขัดดับลงจะฉายแผนที่การบินแต่ว่าไม่ได้ฉายแบบมิติเดียวนะเดี๋ยวตามไปดูในโพสต์ถัดไป ส่วนตามทางเดินในห้องโดยสารลูกเรือก็เข็นรถเข็นออกมาให้บริการ

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สำหรับบริการอาหารและเครื่องดื่มที่ฟรี ก็จะเป็นแบบนี้ เป็นขนม 1 ห่อ กับเครื่องดื่มซึ่งเลือกได้ทั้งน้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชากาแฟ น้ำเปล่า

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สำหรับรายการอาหารและเครื่องดื่มอื่น ๆ นั้นต้องซื้อจากเมนูนี้ครับ โดยอาหารร้อนนั้นสายการบินชูว่าเป็นการให้บริการจาก Sansibar ร้านอาหารชื่อดังบนเกาะ Sylt ในประเทศเยอรมนี

 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

และแล้วเราก็เดินทางมาถึงสนามบินดุสเซลดอร์ฟในประเทศเยอรมนี

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เครื่องบินจอดเทียบอาคารแล้วเดินลงจากเครื่องเข้าไปในอาคารกัน

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เครื่องบินของเราในวันนี้ เป็น เอ319 ทะเบียน D-ASTX ที่ดุสเซลดอร์ฟนี่ก็เป็นฐานการบินของแอร์เบอร์ลินนะ

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของแอร์เบอร์ลินคือตอนลงจากเครื่อง ลูกเรือจะแจกชอคโกแลตรูปหัวใจแบบนี้ สร้างความประทับใจให้แก่ผู้โดยสารเมื่อถึงปลายทาง

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สภาพภายในท่าอากาศยานดุสเซลดอร์ฟ สำหรับการต่อเครื่องภายในยุโรปหรือเขตเชงเก้น นั้นเราไม่จำเป็นต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองหรือผ่านด่านตรวจสัมภาระอีกรอบครับเดินออกจากเครื่องก็เข้าสู่ห้องผู้โดยสารขาออกเลย

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

มีเวลาเกือบ 3 ชั่วโมงระหว่างรอต่อเครื่องไปซูริคครับ มองดูในจอตารางบินแล้วก็จะเห็นว่าในอดีตนั้นแอร์เบอร์ลินมีเส้นทางมากมายทั้งในยุโรปและบินไกล ๆ ระหว่างทวีป  เมื่อก่อนนี้เคยบินมากรุงเทพฯและภูเก็ตด้วยนะ

 

และตอนนี้ก็ได้เวลาขึ้นเครื่องไปซูริคแต่ว่าไฟลท์ AB8144 นี้ใช้บัสเกท