0
ตู้ส่งไปรษณีย์อัตโนมัติ Automatic Postal Machine : APM ส่งของได้ทั่วโลกแบบ 24 ชั่วโมง ให้บริการแล้วที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าในการเดินทางกับอากาศยานนั้นจะมีข้อกำหนดในการฝากโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่องและในการนำติดตัวไปกับผู้โดยสาร ซึ่งในส่วนของการฝากโหลดใต้ท้องเครื่องบินนั้นกระเป๋าสัมภาระจะต้องผ่านการเอ็กเรย์ว่าไม่มีวัตถุต้องสงสัยหรือผิดกฎหมาย รวมทั้งไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รวมถึงสิ่งของมีค่าที่ตัวผู้โดยสารไม่ควรจะบรรจุไว้ในกระเป๋าสัมภาระดังกล่าวด้วย
ส่วนสัมภาระที่ผู้โดยสารจะนำติดตัวขึ้นเครื่องบินส่วนใหญ่ถูกกำหนดน้ำหนักของสัมภาระไว้ที่ไม่เกิน 7 กิโลกรัม และจะต้องไม่มีวัตถุแหลมคมที่อาจใช้เป็นอาวุธ หรือของเหลว เจล สเปรย์ที่มีขนาดบรรจุต่อชิ้นเกิน 100 มิลลิลิตร แต่เราก็จะพบว่าในบางครั้งที่เราเดินผ่านจุดตรวจค้นก่อนขึ้นเครื่องบิน จะมีผู้โดยสารที่จำเป็นต้องเปิดกระเป๋าเพื่อให้พนักงานตรวจค้นเนื่องจากพบวัตถุที่ไม่อาจนำติดตัวขึ้นเครื่องบินจากการเอ็กซเรย์กระเป๋า หรือบางครั้งเราก็จะเห็นตู้ทิ้งของต้องห้ามเหล่านั้นเต็มไปด้วยของที่ผู้โดยสารต้องทิ้งไว้เพราะไม่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินเดินทางไปด้วยได้
เชื่อว่าผู้ที่ต้องทิ้งสิ่งของที่มีความผูกพันธ์ ซึ่งบางครั้งอาจะเป็นสิ่งของหายากหรือมีมูลค่าสูง ก็อาจมีความรู้สึกเสียดาย แต่ก็ไม่สามารถเลี่ยงได้อันเนื่องมาจากความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามกฏการบิน ในบางครั้งเราอาจจะแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ด้วยการใช้บริการศูนย์ไปรษณีย์ที่เปิดทำการอยู่ในอาคารผู้โดยสารของสนามบิน แต่ก็ใช่ว่าไปรษณีย์นั้นจะเปิดให้บริการตลอดเวลา หรืออาจจะตั้งอยู่ในจุดที่ไกลจากจุดตรวจค้นไปมาก วันนี้เราจึงจะมานำเสนอบริการใหม่จากไปรษณีย์ไทยที่จะตอบโจทย์ ช่วยลดปัญหาและความเสียดายที่จะต้องทิ้งสิ่งของที่รักของเราแต่เป็นของต้องห้ามนำขึ้นเครื่องบิน
เจ้าตู้สีแดงนี้คือ “เครื่องบริการฝากส่งไปรษณีย์อัตโนมัติ” (Automatic Postal Machine : APM) ที่ให้บริการตลอด 7 วัน ทำงานวันละ 24 ชั่วโมง ไม้เว้นวันหยุดราชการหรือนักขัตฤกษ์ใด ๆ มีติดตั้งให้บริการแล้ว 2 ตู้ ที่ชั้น 4 ภายในอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และยังตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ถือว่าสะดวกมาก นั่นคือตู้หนึ่งจะอยู่บริเวณใกล้จุดตรวจค้นก่อนเข้าสู้พื้นที่ผู้โดยสารขาออกหลัง Row D ส่วนอีกตู้จะอยู่บริเวณหลัง Row L
แต่ทั้งนี้ก็มีข้อกำหนดว่าสิ่งของที่ฝากส่งจะต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 500 กรัม และมีข้อจำกัดในการส่งของด้วยเครื่องบริการฝากส่งไปรษณีย์อัตโนมัตินี้อยู่เช่นกัน อาทิ ในการจัดส่งด้วยอากาศยานจะไม่สามารถฝากส่งสิ่งต่อไปนี้ ; สารเสพติด สารพิษ สารกัมตภาพรังสี วัตถุระเบิด วัสดุอัดก๊าซและวัตถุไวไฟ วัตถุมีคมที่ไม่มีสิ่งห่อหุ้ม ของเหลว แบตเตอรี่ลิเทียมและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีแบตเตอร์รี่ สัตว์มีชีวิต รวมถึงอาวุธ เป็นต้น และยังมีสิ่งต้องห้ามในการฝากส่งไปรษณีย์ภายในประเทศ นั่นคือ วัตถุมีคมที่ไม่มีสิ่งห่อหุ้ม วัตถุระเบิด สิ่งโสโครก สัตว์มีชีวิต สิ่งลามกอนาจาร สิ่งเสพติด ธนบัตร สิ่งพิมพ์ใบ้หวย สิ่งของปลอมแปลงหรือลอกเลียนลิขสิทธิ์ วัสดุอัดก๊าซและวัตถุไวไฟ เป็นต้น ซึ่งหากพบว่ามีการละเมิดส่งสิ่งของต้องห้ามส่งไปรษณีย์ดังกล่าวเหล่านี้ สิ่งนั้นจะถูกละทิ้งเพื่อรักษามาตรฐานความปลอดภัย
ส่วนในด้านของการใช้งานนั้นแม้จะมีหลายขั้นตอนแต่ก็ถือว่าเข้าใจและใช้งานง่ายด้วยจอระบบทัชสกรีน ซึ่งหลังจากผู้ใช้ได้กดยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขเบื้องต้นที่ได้กล่าวไปแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนฝากส่งที่เริ่มต้นด้วยการกรอกรหัสบัตรประชาชนหรือเลขที่หนังสือเดินทางของผู้จัดส่ง เลือกโซนพื้นที่จัดส่ง ต่อด้วยนำสิ่งของที่ต้องการฝากส่งวางตรงที่ชั่งน้ำหนักเพื่อให้ระบบคำนวณน้ำหนักและค่าบริการจัดส่งแบบเหมาจ่ายตามพื้นที่ เริ่มต้นที่ 50 บาทสำหรับการจัดส่งภายในประเทศ ส่วนการจัดส่งไปยังต่างประเทศนั้นมีอัตราค่าบริการแบ่งตามโซนทวีป เริ่มต้นที่ 400 บาท เมื่อทราบค่าบริการแล้วให้ชำระเงินที่ช่องใส่ธนบัตรและเหรียญที่อยู่ทางด้านขวาบนของตู้ตามจำนวน จากนั้นเครื่องก็จะพิมพ์แสตมป์และสลิปที่มีบาร์โค้ดออกมาให้อย่างละ 1 ชิ้น พร้อมกับซองกันกระแทกขนาดมาตรฐาน C4 สำหรับการจัดส่งแบบ Post & Fly ที่จะออกมาทางช่องรับซองทางด้านซ้ายมือของเครื่อง (ไม่สามารถใช้ซองจากภายนอกที่เตรียมมาเองได้) ให้ผู้ใช้หยิบซองมาเขียนจ่าหน้าถึงผู้รับให้ชัดเจน (ซึ่งอาจเป็นการส่งกลับบ้านหรือส่งไปหาตัวเราที่ปลายทางได้ทั้งภายในประเทศและปลายทางต่าง ๆ ทั่วโลก) บรรจุสิ่งของและปิดผนึกให้เรียบร้อย แล้วนำแสตมป์ที่ได้รับมาติดไว้ที่มุมขวาบนของตัวซอง
ก่อนช่องเปิดรับพัสดุจะเปิดออก เรายังมีขั้นตอนที่ต้องทำอีกเล็กน้อย นั่นคือนำสลิปใบเสร็จที่ได้รับมาสแกนบาร์โค้ดด้วยเลเซอร์ จากนั้นหน้าจอจะแสดงผลให้วางบัตรประชาชน และตอบรับด้วยการกดยืนยัน ก่อนที่จะชั่งน้ำหนักซองพัสดุอีกครั้ง มาถึงตรงนี้แล้วช่องใส่ของตรงกลางจะเปิดออกให้นำซองพัสดุของเราบรรจุเข้าไปในเครื่องฝากส่งไปรษณีย์อัตโนมัติได้ เป็นอันว่าได้จัดส่งเรียบร้อย
แม้ว่าเครื่องบริการฝากส่งไปรษณีย์อัตโนมัติจะอยู่ในระหว่างการทดสอบระบบ แต่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งใหม่ที่เข้ามานำร่องและเพิ่มความสะดวกให้กับผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของเรา หากมีโอกาสก็แวะไปลองใช้กันได้นะคะ
