13 replies to this topic

[TelevisionHub]

Advertisements

สวัสดีครับวันนี้อยากโพสถามเพื่อนๆหน่อยครับว่าอยากให้มีการแยกเลาจ์ชั้นธุรกิจของการบินไทยหรือกลุ่มดาวโดยเฉพาะผดส.ชั้นธุรกิจจริงๆ กับเลาจ์ที่ลองรับผดส.ชั้นประหยัดที่ใช้บัตรเอกสิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นบัตรดาวทองหรือสมาชิกอภิสิทธิ์บัตรเครดิตอื่นๆ อย่างที่บางสายการบินหลายสนามบินมีอยู่ 

มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ

[hern]

เห็นด้วยครับ

[Dionysus]

ถ้าแยกแล้วดีขึ้นก็ควร เพราะทุกวันนี้ lounge TG ห่วยจนไม่รู้จะห่วยกว่านี้ได้ยังไงแล้ว lounge บัตรเบ่งคงเหลือแค่เก้าอี้กับน้ำเปล่า

[ohmclub]

ความเห็นส่วนตัว สำหรับผมนะครับ ก็น่าเห็นใจผู้โดยสารชั้นธุรกิจอยู่เหมือนกันครับที่น่าจะเดือนร้อนที่เหมือนกับว่าโดนแย่งที่นั่งในเลาช์จากผู้ถือบัตรเบ่งต่างๆ

 

ผมก็เป็นคนหนึ่งที่มีบัตรเบ่งครับ เมื่อมีแล้วสามารถใช้ประโยชน์จากเลาช์ได้มากมาย เช่น เล่นเน็ต อาบน้ำ กินข้าว แต่ถ้าบัตรเบ่งเข้าเลาช์ไม่ได้ หรือเลาช์มีการตัดสิทธิบางอย่างลง ผมก็คงไม่จำเป็นต้องบินกับสายการบินในกลุ่มเครือเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องสะสมไมล์กับใคร แล้วมาบินกับเจ้าอื่นที่ถูกกว่า สะบายกว่า ปกติถ้าบินในประเทศ ก็บินการบินไทย ต่างประเทศ ก็กลุ่มดาว ถ้ามีการปรับเปลี่ยน ในประเทศผมก็จะบินแอร์เอเชียร ไม่ก็นกแอร บางกอก แทน ต่างประเทศก็บินสายตะวันออกกลางที่ราคาถูกๆเอา

 

แต่ถ้ามีการแยกเลาช์ ก็จะทำให้ทุกสนามบินต้องมี 2 เลาช์ สนามบินเชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต เป็นต้น แต่ถ้าเป็นสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินใหญ่ๆก็น่าจะทำได้ เช่นที่เยรมัน LH มี Lounge ทั้งของ ผู้ถือบัตรเบ่งต่างๆรวมถึงบัตรสมาชิกสะสมไมล์ และสำหรับชั้นธุรกิจ แต่ถ้าแยกแล้วยังคงมาตรฐานเดิมที่รองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมดก็น่าจะดีกว่าครับ

[jk..lsky]

(คำเตือน ยาวมากและจริงจัง มีภาพประกอบด้วย)

ก่อนอื่นขอจำกัดวงให้แคบก่อน โดยกล่าวถึงเฉพาะ Hub Lounge หรือเลาจน์ที่สนามบินซึ่งเป็นฐานการบินของสายการบิน เช่น สุวรรณภูมิในกรณีของการบินไทย เป็นต้น สำหรับเลาจน์ตามสถานีอื่น ๆ ที่ทำการบินไปคงยกไปไม่กล่าวถึงเพราะสายการบินส่วนใหญ่ก็ยังไม่แยกเนื่องจากคงเพิ่มต้นทุนอีกมหาศาล

ในกรณีของ Hub Lounge ถ้าจะแยก จะแยกแบบไหนดีหละครับ???

1.ตอนนี้มาตรฐานของสายการบินส่วนใหญ่ในกลุ่ม Star Alliance (เอาเฉพาะสตาร์ก่อนละกัน เพราะผมมีข้อมูลมากที่สุด) นั้น Hub Lounge ส่วนใหญ่นั้น สมาชิกบัตรทอง (บัตรอื่นยกไว้ก่อน เอาเฉพาะบัตรทอง สตาร์ฯ ซึ่งถือเป็น frequent flyer ของสายการบินและพันธมิตร) มักจะได้สิทธิใช้เลาจน์เดียวกับผู้โดยสารชั้นธุรกิจ เช่น เลาจน์การบินไทยที่สุวรรณภูมิ Royal Silk Lounge เป็น Star Alliance Gold Lounge หรือ Asiana Lounge ที่อินชอน หากถือบัตรทอง พนักงานก็ผายมือให้ไปใช้ฝั่ง Business Class เป็นต้น
หรือ Star Alliance Lounge (เลาจน์รวมภายใต้แบรนด์สตาร์ฯ ไม่ใช่แบรนด์ของสายการบิน) ซึ่้งตอนนี้ มีอยู่ที่ LAX CDG EZE NGO ฯลฯ นั้นเลาจน์ก็มักจะแบ่งภายในเป็นสองระดับคือส่วนของ First และ Business หากถือบัตรทองบิน Eco มาจะได้รับการให้ใช้สิทธิเข้าฝั่ง Business

2. สำหรับบางสายที่ทำ Hub Lounge ผิดแผกแตกต่างไปจากมาตรฐานตาม 1 ก็มี แต่ก็มีสองแบบได้แก่

2.1 มีเลาจน์เฉพาะให้ บัตรทอง ที่เหนือกว่าหรือเทียบเท่า Business Class Lounge ....
เคส 2.1 นี้ไม่ใช่ใครอื่นเลย แต่เป็นมาตรฐานของ Lufthansa และพวก (พวกก็คือบรรดาสายการบินลูกของ Lufthansa ซึ่งล้วนห้อยเป็นพรวนอยู่ใน Star Alliance ได้แก่ SWISS Austrain เป็นต้น) ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า Lufthansa Group เป็นพี่ใหญ่ใน Star Alliance นะครับ หลายคนมักกล่าวว่า Star Alliance ก็คือ Lufthansa และบรรดาสายการบินในเครือทั้งหลาย LH LX OS SN เนี่ยก็กินจำนวนเที่ยวบินเข้าไปมากโขในสัดส่วนของทั้งหมดของ Star Alliance
หลายคนที่เดินทางบ่อย ๆ หรือเป็น Star Gold คงพอจะทราบดีว่า Lufthansa นั้น เคารพยกย่อง(ถ้าเป็นภาษาอังกฤษคือ respect) สถานะ Star Alliance Gold มาก มากกว่าผู้โดยสารชั้นธุรกิจเสียอีก หลายสนามบินนั้นเวลา Lufthansa Group เปิดเคาเตอร์ Check-in ผู้โดยสาร Star Gold นั้นจะได้เช็คอินกับช่อง First Class นะครับ ไม่ใช่ Business Class และเลาจน์ก็เช่นกัน Hub Lounge ของบรรดาสายการบินในเครือของ Lufthansa นั้นมักจะให้สิทธิ Star Alliance Gold เข้าใช้ First Class Lounge ได้ (เช่นที่ FRA, อันนี้คือตัวเลาจน์นะครับไม่ใช้ First Class Terminal ที่แยกต่างหากสำหรับผู้โดยสาร First) หรือใช้ Business Class Lounge ก็ได้
หรือบางสนามบิน เช่น VIE BER MUC จะมีเลาจน์ที่ชื่อว่า Senator Lounge คือเลาจน์สำหรับบัตรทองตั้งคู่กับ Business Class Lounge โดยทั้งสองเลาจน์นั้นเป็น Star Alliance Gold Lounge ตามสิทธิคือผู้โดยสารบัตรทองจะใช้เลาจน์ไดก็ได้ (แต่ผู้โดยสาร BC ที่ไม่ได้ถือบัตรทองเข้าได้แต่ Business Class Lounge นะครับ จะมาเข้า Senator ไม่ได้) แต่ทางปฏิบัติพนักงานจะผายมือให้บัตรทองเข้า Senator Lounge เพราะมีสถานะสูงกว่า Business Class Lounge และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ คือใน Senator Lounge จะมีอะไรที่เพิ่มเติมมากกว่า Business Class Lounge แต่ก็เล็ก ๆ น้อยๆ มาก เช่นอาหารร้อนเพิ่มมาหน่อย มี facilities เพิ่มมาอีกนิด (อ้อ สำหรับผู้โดยสาร First Class ตัวจริง มักจะมีห้องเลาจน์เล็ก ๆ ตามสนามบินเหล่านี้เอาไว้สำหรับ LH First LX First และ HON โดยเฉพาะ)
สรุปสั้น ๆ หากอ่านยาว ๆ แล้วงงข้อ 2.1 คือมีเลานจ์แยกให้บัตรทองครับ แต่เลาจน์นี้เหนือกว่า Business Class Lounge นะครับ และบัตรทองก็ใช้ Business Class Lounge ได้(เพราะเหนือกว่าจะลงไปใช้เลาจน์ที่ต่ำกว่าย่อมได้) แต่ผู้โดยสาร BC จะใช้เลาจน์บัตรทองไม่ได้นะ

2.2 มีเลาจน์เฉพาะให้บัตรทอง ที่ด้อยกว่า Business Class Lounge
2.2 นี่ไม่ใช่ใครอืนเลย ตัวอย่างก็คือ Singapore Airlines(และโดยความคิดส่วนตัว ผมขอเรียกว่าตัวอย่างที่ไม่ดี เพราะว่าเป็นสายการบินที่เคารพยกย่องความเป็น Star น้อยที่สุด หางเครื่องบินตอนแรก ๆ ก็ไม่ยอมมีรูปดาวต้องเป็นโลโก้ตัวเอง เช็คอินก็ให้ใช้กะเคาเตอร์ Premium Eco เลาจน์ก็เอาให้ด้อยกว่า ไมล์แลกข้ามไปก็ยากมาก ถ้าไม่รักกันไม่ให้เกียรติแล้วจะมาอยู่ร่วมกันทำไม กระซิก ๆ) Singapore Airlines มี Hub Lounge ที่ SIN คือ Business Lounge ซึ่งไม่เป็น Star Gold Lounge รองรับแต่ผู้โดยสาร BC ของตัวเองและพวกพ้องเท่านั้น(และ paid membership บางรายการ) แต่ก็สร้างเลาจน์ที่ชื่อว่า KrisFlyer Gold Lounge ไว้ให้บัตร Star Gold ใช้ ซึ่ง KrisFlyer Gold Lounge นี่ด้อยกว่า Business Lounge มาก เช่นอาหารน้อยกว่า ห้องน้ำในตัวไม่มี ห้องอาบน้ำไม่มี ตัวอย่างแบบ 2.2 นี่ผมยังนึกไม่ออกว่ามีใครอีก

จากประสบการณ์ที่เดินทางมาและการค้นคว้าแบบเร็ว ๆ ก็ทำให้ได้ข้อมูลมาประมาณข้างต้น

ต่อไปสำหรับการบินไทยที่สุวรรณภูมิ เข้าใจว่าที่ จขกท. ตั้งก็เพราะว่า เลาจน์ Royal Silk Lounge ทั้ง 4 แห่ง(ฝั่งอินเตอร์) ได้แก่ D Cซ้าย Cขวา Eซ้าย และ Royal Orchid Lounge(Eขวา) เกิดความแออัด ในช่วงเวลา Peak เช่นชั่ว สามทุ่มยันเที่ยงคืน ที่ทั้ง ไฟลท์แขก(หมายถึงไฟลท์ไปยังเอเชียใต้) เอเชียเหนือ และยุโรป พร้อมใจกันออก ความแออัดนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะผู้โดยสาร BC เยอะ แต่ว่าบางไฟลท์นั้น ผู้โดยสาร Gold ที่นั่ง Eco เยอะมาก (เช่นไฟลท์แขก) อันจะพบเห็นได้จาก ผู้ใช้บริการ Royal Silk Lounge Cซ้ายและ Cขวา ในช่วงเวลานั้น ๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้โดยสารไฟลท์แขก
แต่ว่าจริงๆ แล้วหากไม่ใช่ช่วงเวลา Peak ยามดึก แม้แต่ตอนเช้า ๆ 6-9 โมงเช้า ที่ Regional และ เอเชียเหนือรอบเช้าแห่กันออก Royal Silk Lounge ทั้ง 4 แห่งก็จัดว่าไม่แออัดนะ ค่อนข้างสบาย (ช่วงเวลาอื่นไม่ต้องพูดถึง เรียกว่าโล่งมากกกกกกกกกกกก) จากประสบการณ์ที่เดินทางมา

ผมว่าการบินไทยเขาก็พอรับรู้ปัญหานี้อยู่นะ และเขาก็มีมาตรการ(แบบเบาๆ เพราะทำจริงจังไม่ได้ เนื่องจากจะไปขัดกับ Standard ของ Star Alliance) ก็คือ เขาพยายามจะสื่อสารกับผู้โดยสารว่า หากท่านเป็นบัตรทองและใช้สิทธิบัตรเครดิตที่บิน Eco กรุณาใช้เลาจน์ C และ E เท่านั้น แต่เลาจน์ D (ซึ่งใหญ่สุด แต่ดันไม่มีห้องอาบน้ำ) ขอสงวนไว้ให้ผู้โดยสารที่เดินทางชั้นธุรกิจจริงๆ ป้ายหน้าเลานจน์ ก็มักจะเขียนไว้แบบนั้นครับ แต่ว่าจริงๆ แล้วถามว่า Star Gold จะใช้เลาจน์ D ได้ไหม คำตอบคือ ได้ครับ เพราะว่าตาม policy ของ Star Alliance แล้ว เลาจน์ Royal Silk Lounge ที่คองคอร์ส D ยังเป็น Star Gold Lounge (มีป้าย Star Gold อันเล็ก ๆ ตั้งไว้ตรงเคาเตอร์) ดังนั้นแล้ว บัตรทองก็ย่อมใช้ได้ครับ พนักงานไม่ปฏิเสธด้วย (แต่ปฏิเสธ บัตรเครดิตนะ)

เอาหละถึงช่วงตอบคำถามว่าเห็นด้วยไหม
สำหรับผมเอง ผมเป็น Star Gold ส่วนมากเข้าเลาจน์ก็ด้วยสิทธิ Star Gold ไม่เคยใช้สิทธิบัตรเครดิตเลย ถ้าไม่ได้บิน Star ก็เข้าแต่เลาจน์ King Power ตอบคำถามคือถ้าจะแยกแล้ว Lounge Gold แย่กว่า Royal Silk Lounge ผมก็ย่อมไม่เห็นด้วยครับ เพราะกว่าจะเป็น Gold ไม่ใช่ง่าย ๆ Value ที่ผม Contribute ให้กับสายการบินและกลุ่มพันธมิตรนี้นั้นตีเป็นมูลค่าได้มากมาย ผมถึงได้สถานะนี้ และการที่จะสายการบินและกลุ่มพันธมิตรจะหลอกล่อให้ผู้โดยสารคนหนึ่งจมปลักกับคุณไม่ไปบินคนอื่น เพื่้อให้ได้ไมล์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้สถานะและรักษาสถานะนั้น

 

ไม่ใช่แค่เรื่องการให้บริการผู้โดยสารชั้นธุรกิจกับบัตรเบ่ง เบื้องหลังและภาพรวมของการมี Loyalty Program และ Loyalty Status มีอะไรมากกว่านั้น...
Loyalty Program ก็เป็นเครื่องมือทางการตลาดอย่างหนึ่งครับ สายการบินไม่ได้เสียประโยชน์ให้บัตรทองฟรีๆ และผู้โดยสารบัตรทองก็ไม่ได้ได้มันมาฟรี ๆ ไม่ใช่เป็นของแถมที่ได้มาจากหางตั๋ว (จริง ๆแล้วของแถมทุกชนิด ไม่ว่าจะซื้อบ้านแถมรถ หรือซื้อขนมซอง 5 บาทแถมสติกเกอร์มันก็ไม่ใช่ของฟรี เป็นเรื่องการตลาดทั้งสิ้น) รายการสะสมคะแนนมันเป็นเครื่องมือ(ก็เหมือนการทำโปรโมชัน)ที่ใช้เป็นแรงจูงใจให้ผู้โดยสารนั้นยึดติดกับแบรนด์ ยึดติดกับสินค้าของคุณ และบางครั้งยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อให้ได้ tier miles ที่มากขึ้น หรือพยายามบินพยายามใช้บริการให้มากขึ้นให้ได้ tier miles และสถานะ ดังนั้นแล้วหาก ผู้โดยสารสถานะบัตรทอง ไม่ได้ผลตอบแทนจากการถือบัตรทองที่คุ้มค่า สมกับสถานะ(และเงินที่ใช้ไปมากมาย)ผู้โดยสารไม่รู้จะเป็น Gold ไปทำไม ไม่เลือกบินไม่เลือกที่จะใช้จ่ายมากนาดนี้ ไปบินเบี้ยหัวแตก เดี๋ยวสายนั้นทีสายนี้ทีกลุ่มนั้นทีกลุ่มนี้ที หรือจ่ายแต่คลาสต่ำ ๆ ได้ไมล์ 0 ไมล์ 25 ก็พอ ถ้าทำแบบนั้นระบบการตลาดด้วย Loyalty Program จะพังนะครับ ถ้าหลายสายการบินทำมากๆ เข้าจะพังทั้งกลุ่ม Alliance (ความยิ่งใหญ่ของ Star ที่อวดอ้างอยู่ทุกวันนี้เพราะว่าเครือข่ายที่ใหญ่กว่ากลุ่มพันธมิตรอื่น สายการบิน เส้นทางการบินที่มากกว่าคนอื่น ไอ่ความยิ่งใหญ่นี้มีไว้ทำไม ไม่ได้มีไว้แค่ต่อเครื่องและออกตั๋วร่วมอย่างเดียว แต่มีไว้ในเชิงการตลาดเพื่อล่อให้ผู้โดยสารบินวน ๆ อยู่แต่ในกลุ่มนี้เพื่อให้ ได้ Loyalty status หากเป็น Star Gold แล้วได้สิทธิประโยชน์ทั่วถึงในการใช้บริการกับสายการบินที่กว้างขวางกว่า ตัวเลือกมากกว่า network ใหญ่กว่า ย่อมทำให้ผู้โดยสารรู้สึกว่า บินกับสายการบินในกลุ่มสตาร์ ดีกว่าไปบินกับกลุ่มพันธมิตรอื่น) ผมถึงได้บอกว่า ถ้าทำไปทำมาแล้วการตลาดผ่านระบบ Loyalty Program นี้พังไม่ใช่จะพังคนเดียว จะพากันพังทั้ง Alliance (อันนี้อาจเป็นอีกเหตุผลด้วยว่าทำไมพี่ใหญ่แห่ง Star Alliance ถึงได้เคารพยกย่อง และให้สิทธิแก่ Star Gold มากมาย มากกว่าสายการบินอื่น ๆ )

แต่ถ้าแยกแล้วจะดำเนินตามรอย Lufthansa Group ทีปฏิบัติต่อบัตรทองดีมาก ดีเหนือผู้โดยสารชั้นธุรกิจอย่างที่กล่าวไปแล้ว อันนี้ผมเห็นด้วย   (แหงหละ เพราะตัวเองเป็น Gold)

ภาพประกอบ

เลาจน์ที่ Frankfurt ของ Lufthansa ผู้โดยสาร Star Gold ใช้ได้ทั้งชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ




เลาจน์ที่เวียนนาของ Austrian
มี Senator Lounge สำหรับบัตรทองโดยเฉพาะ อย่างไรก็ตามก็สามารถใช้ Business Class Lounge ได้






ป้ายบอกทางไปเลาจน์ที่ Berlin เห็นชัดๆ ว่า Star Alliance Gold นั้นใช้เลาจน์ First Class (แต่เบอร์ลินมีเที่ยวบิน Regional เป็นหลักซึ่งไม่มีชั้น First ผู้โดยสารส่วนใหญ่คือผู้โดยสารบัตรทอง และผู้โดยสารที่ถือตั๋วชั้นหนึ่งนั่งใน Cabin Business Class ในขา Regional เพื่อไปต่อ First ในเส้นทาง Long Haul ที่ฮับใหญ่อย่าง FRA MUC ZRH)



ส่วนนี่เคาเตอร์เช็คอินที่สุวรรณภูมิ Lufthansa (และสายการบินในกลุ่มคือ OS LX) บัตรทองเช็คอินร่วมกับ First Class แต่ SQ ผู้ไม่ค่อยน่ารัก ให้บัตรทองใช้กับ Premium Eco (นี่คนอื่น ๆ อย่างน้อย ๆ เขาก็ให้เช็คอินกับ Business นะ)

 

เบื้องต้นตอบเรื่องบัตรทองจากพันธมิตรก่อนเพียงแค่นี้ ส่วนเรื่องสิทธิการใช้เลาจน์จากบัตรอื่น ๆ บัตรเครดิตที่นอกเหนือจากรายการ Loyalty Program ของสายการบินนั้นเดี๋ยวมาว่ากันอีกที มีมิติที่ทั้งใกล้เคียงกันและแตกต่างกัน

 

หมายเหตุ : สำหรับ SQ นั้นเรื่องเลาจน์ เรื่องเช็คอิน เขาก็มีเหตุผลของเขานะครับ ซึ่งก็เป็นเรื่องหนึ่งของการตลาดเช่นกัน ใจความสำคัญโดยสรุปก็คือ เขาต้องการจะทำให้ตำแหน่ง Premium Class ของเขาเป็นสิ่งที่เหนือชั้น หรูหรา พิเศษสุด exclusive เป็น position ใน market ของผลิตภัณฑ์ชั้น premium ของเขา ดังนั้นแล้วเขาจึงอยากให้ product ต่าง ๆ ของ premium class ของเขานั้นได้ใช้บริการโดยลูกค้า premium ตัวจริงเท่านั้น ซึ่ง ซึ่งก็แล้วแต่ว่าใครจะให้น้ำหนักกับวิธีการใดมากกว่ากัน เรื่องนี้ Lufthansa เองก็มีเช่นกัน เพราะถึงจะให้ Gold ใช้เลาจน์ที่มีฐานะเท่า First Class แต่หลาย ๆ สนามบินจะมีแยกย่อยลงไปเป็นเลาจน์ที่เป็นห้องเล็ก ๆ เฉพาะ ผู้โดยสาร First และ HON เท่านั้น (HON อันนี้ก็เป็น Loyalty Status หนึ่งเช่นกัน แต่มีผลเฉพาะภายใน Lufthansa Group ในสายตาของพันธมิตรโดยรวมมีค่าเทียบเท่า Star Gold , เหมือนกับ ROP Platinum แหละครับ มีสถานะเฉพาะในสายตาการบินไทย ในสายตาคนอื่นในพันธมิตรมีสถานะเท่า Star Gold เช่นเดียวกับ ROP Gold) เท่านั้น หรือที่ Frankfurt มี First Class Terminal แยกไปเลย)

[Alfonso787]

คุณ jk..Isky ตอบและวิเคราะห์ได้ดีมากครับ

 

ในส่วนตัวผมเป็น ROP Gold มีความเห็นว่า ไม่ควรจะเรียกบัตรทองว่าบัตรเบ่งครับ เพราะมันก็เป็นสิทธิ์ที่ผู้ถือบัตรทองจะต้องได้ตามสิทธิประโยชน์ที่สายการบินและกลุ่มพันธมิตรจะให้ครับ เนื่องจากการได้บัตรทองมานั้นก็ไม่ได้มาฟรีๆ ต้องบินเก็บไมล์ให้ครบตามที่สายการบินกำหนดในแต่ละปี เช่น ต้องบินกับการบินไทยหรือกลุ่ม Star ให้ครบ 50,000 ไมล์ในหนึ่งปี เป็นต้น เมื่อผู้โดยสารเลือกบินกับสายการและพันธมิตรของคุณมาโดยตลอด ก็สมควรได้รับการตอบแทนจากสายการบินด้วย ไม่อย่างงั้นจะเลือกบินกับสายการบินคุณทำไม ผมจึงมองว่าไม่เป็นเรื่องที่เบ่งอะไรเลย

 

ผมเข้าใจครับว่าผู้โดยสารพรีเมียมที่นั่ง BC ก็อยากได้ความเป็นส่วนตัว หรือไม่ก็อยากเจอเลาจ์ที่คนไม่แน่น ไม่ต้องแย่งเก้าอี้กันในช่วง peak time แบบปัจจุบันนี้ ผมคิดว่าปัญหานี้เป็นปัญหาที่การบินไทยจะต้องปรับปรุงและทำเป็นการบ้าน เพราะในปัจจุบันแม้ว่าเลาจ์ Business ที่สนามบินสุวรรณภูมิจะเป็นฮับเลาจ์ของการบินไทย แต่คุณภาพนี้ด้อยหรือแย่มากถ้าเทียบกับฮับเลาจ์ของสายการบินอื่น ยกตัวอย่างเช่น อาหารร้อนก็มีน้อย บางครั้งมีบางครั้งไม่มี ไวน์ก็ไม่มีให้บริการ เป็นต้น ผมยังคิดว่าเลาจ์การบินไทยที่ฮ่องกงยังดีกว่าที่สุวรรณภูมิเสียด้วยซ้ำ ในส่วนของคนเยอะจนล้นเลาจ์ผมคิดว่าไม่ได้มีเพียงแต่ผู้โดยสารชั้นธุรกิจของการบินไทย และบัตรทองอย่างเดียวนะครับ แต่ยังมีผู้โดยสารพรีเมี่ยมของสายการบินอื่นๆที่ใช้บริการของเลาท์การบินไทยด้วยนะครับจึงทำให้เลาจ์ของการบินไทยแออัดมากครับ

 

ผมจึงขอตอบคำถามกระทู้ว่าควรแยกเลาจ์ระหว่างผู้โดยสารชั้นธุรกิจกับบัตรทองดีหรือไม่ คำตอบคือ ควรแยกถ้า

1. การบินไทยสามารถพัฒนาเลาจ์ชั้นธุรกิจ สร้างความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวแก่ผู้โดยสารชั้นธุรกิจได้มากกว่านี้ เช่น การจัดอาหารและเครื่องดื่มต่างๆในเลาจ์ให้มีปริมาณและตัวเลือกมากขึ้น อาจจัดอาหารแบบถาดร้อนและแบบตามสั่งได้ มี Cocktail Bar มีมุมคอมพิวเตอร์ และมีห้องอาบน้ำ ควบคู่การบริการ Spa ที่มีอยู่แล้ว จุดนี้ก็น่าจะสามารถอุดรอยรั่วของการบินไทยในการบริการและสร้างอัตลักษณ์ในการให้บริการชั้นธุรกิจได้ ในเมื่อปรับปรุงการให้บริการบนเครื่องบินแล้ว ก็ควรจะปรับปรุงเลาจ์ด้วยเช่นกัน

2. สำหรับผู้โดยสารบัตรทอง รวมถึงผู้โดยสารพรีเมี่ยมของสายการบินอื่น ควรจะมีเลาจ์แยกออกมาใช้ร่วมกัน ในส่วนของการคุณภาพเลาจ์ผมคิดว่า คุณภาพเลาจ์แบบปัจจุบันก็น่าจะดีพอแล้ว ที่มีห้องอาบน้ำและอาหารเครื่องดื่ม อาจจะปรับปรุงในส่วนของอาหารที่มีมากขึ้นเล็กน้อย

 

ถ้าการบินไทยสามารถทำได้เช่นนี้ก็สมควรจะแยกครับ แต่ถ้าแยกแล้วบริการในเลาจ์ยังเหมือนปัจจุบัน แค่แยกสัดส่วนความเป็นส่วนตัวระหว่างผู้โดยสารชั้นธุรกิจกับผู้โดยสารอื่นๆ ผมคิดว่าไม่มีประโยชน์ที่จะทำครับ สู้พัฒนาคุณภาพและการบริการในเลาจ์ให้ดีมากขึ้นกว่านี้ แล้วใช้ร่วมกันยังจะดีกว่าครับ   

[TelevisionHub]

ขอบคุณทุกท่านสำหรับความคิดเห็นครับ

 

คุณ jk..Isky วิเคราะห์ได้เห็นชัดมากอ่านเพลิน ขอบคุณครับ ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับ 2.1 คือแยกแล้วก็ต้องดีกว่าขึ้นนิดหน่อย ไม่ใช่แยกแยกแล้วเหมือนSQที่สิงค์โปร์ผมก็ไม่ค่อยชอบครับ ฮาๆๆ

[Joel Jinwei]

กระทู้นี้อยากตอบครับ  ผมมีบัตรของสตาร์บัตรทองสองใบ สองสายการบิน บัตรเครดิตที่ให้สิทธิเข้าเล้าจ์ก็มี

- ผมคิดว่าไม่ควรเรียกว่าบัตรเบ่ง เพราะต้องบินบ่อยๆถึงจะได้มา มันมีเงินที่ใส่ลงไป

- โดยเฉลี่ย ปีๆนึงผมเข้าเล้าเกิน ห้าสิบครั้ง ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องกิน แต่อยากได้ที่นั่งพักผ่อนก่อนบิน ซึ่งค่อนข้างเป็นปัญหาอยู่บ้างในชั่วโมงเร่งด่วน

- เห็นด้วยอย่างมากเรื่องสภาพเล้าจ์ของการบินไทยเน่ามาก ทั้งอาหารที่น้อย และเครื่องดื่มที่จำกัดกำเขี่ยจริงๆ ดูแล้ว ถูกๆ แค่ที่กว้างเฉยๆ

- เข้าใจว่าตอนนี่การบินไทยให้ผู้โดยสารที่ใช้บัตรเครดิตไปเข้าเล้าจ์ที่ประตู E แทนเพื่อลดการแออัด

- ถึงแม้ว่าจะถือบัตรทอง แต่เข้าเลาจ์ที่สิงคโปร์รู้สึกด้อยค่ามาก นอกจากจะบินโดยชั้นบิสสิเนสจริงๆ

- เห็นด้วยว่า เล้าจ์การบินไทยที่ฮ่องกงดีกว่ามาก

- ถ้าแยกส่วน อยากให้แยกบัตรกำนัล หรือคู่สัญญาสายการบินอื่นออกไปที่ไม่ใช่สตาร์ แต่คงทำได้ยาก ที่ในสนามบินไม่มีแล้ว

- ห้องน้ำเน่ามาก น้ำกดแทบไม่ลง ไม่สมราคาค่าตั๋ว

[Dionysus]

ที่แย่กว่าคืออาหารของ Krisflyer Gold Longe เนี่ยมันดันดีกว่า ไก่เทริยากิ ผัดวุ้นเส้นเจ กับ Tortilla เขียวหวานกับต้มยำ ที่ Longe ของการบินไทย มันหมายความว่ายังไง?

[nattime]

เดี่ยว อาคารเทียบเครื่องบินหลังใหม่เสร็จ ก็ อาจจะได้เห็นอะไรดีๆนะครับอดใจรอแปบ 

[tataerakh]

ที่มันแน่นมากๆ ผมว่าอาจจะเพราะผู้โดยสารที่เข้าด้วยการใช้บัตรเครดิตที่สามารถเข้า lounge ได้หรือป่าว (อันนี้ข้อสงสัยของผมเองนะครับ)

แต่หลาย Hub ของหลายสายการบิน ช่วง peak ก็แน่นไม่มีที่นั่งแบบเดียวกับการบินไทยเหมือนกันครับ เช่น Istanbul ของ TK หรือ HND ของ ANA 

[TelevisionHub]

เดี่ยว อาคารเทียบเครื่องบินหลังใหม่เสร็จ ก็ อาจจะได้เห็นอะไรดีๆนะครับอดใจรอแปบ 

โอ้ววว ผมหล่ะอดใจไม่ไหวอยากเห็นเฟส2ไวไว รอๆๆ

 

ที่มันแน่นมากๆ ผมว่าอาจจะเพราะผู้โดยสารที่เข้าด้วยการใช้บัตรเครดิตที่สามารถเข้า lounge ได้หรือป่าว (อันนี้ข้อสงสัยของผมเองนะครับ)

แต่หลาย Hub ของหลายสายการบิน ช่วง peak ก็แน่นไม่มีที่นั่งแบบเดียวกับการบินไทยเหมือนกันครับ เช่น Istanbul ของ TK หรือ HND ของ ANA 

แรกๆผมก็สงสัยอย่างนั้นครับว่าลค.บัตรเครดิต แต่มันคงไม่น่าจะเยอะขนาดนั้น คงเป็นช่วงพึคในสนามบิน

อีกอย่างตอนนี้เริ่มได้เห็นมี K Bank มาเปิด The Wisdom Lounge แล้ว

[ARMATA]

ผมว่าบัตรทองมีคุณค่าและเทียบไม่ได้เลยกับคำว่าบัตรเบ่งนะครับ

เพราะบัตรทอง คือลูกค้าที่ loyalty กับแบรนด์ของคุณ ผมได้ Upgrade จาก eco ไป Business หลายครั้งเลยครับ เคยใช้บัตรทอง ROP เข้า Senator Lounge ที่แฟรงเฟิร์ตมาเหมือนกันครับ

 

ส่วนเรื่อง Royal Silk lounge การบินไทยที่สุวรรณภูมิ หมดความรู้สึกอยากเข้าไปใช้บริการนานมากแล้วครับ คนเยอะและแออัดเกิน

อาคารและเครื่องดื่มไม่ประทับใจเลย ที่สุวรรณภูมิแนะนำ SQ ครับ ไม่รุ้ว่าปัจจุบันคนเยอะไหม แต่ที่เคยใช้มาก็ค่อนข้างโอเคเลยนะครับ

 

ถ้าอยากศึกษาเรื่องเลาจ์นให้มากขึ้น ลองดู EK ที่ดูไบครับ เพียงเป็นบัตรเงินก็เข้าใช้บริการเลาจ์นชั้นธุรกิจที่ดูไบได้แล้ว ทุกอย่างจัดหนักจัดเต็ม อาหารไม่อั้น เครื่องดื่มหลากหลาย ห้องอาบน้ำที่เป็นห้องอาบน้ำจริงๆ  เก้าอี้มีเพียงพอ โซนเงียบก็เพียงพอ 

 

การบินไทยอาจติดปัญหาเรื่องสถานที่ และสถานะการเงิน เลยทำได้ออกมาไม่เต็มที่อยากที่อยากให้เป็น เอาใจช่วยให้อนาคตมีพัฒนาการที่ดีขึ้นครับ

[Star Royalty]

ตอนอยู่ ยุโรป มีความภาคภูมิใจกะ Gold Member Star มากที่สุด LH Group เขา treat กลุ่ม Gold ดีมาก