65 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

สวัสดีค่ะ

เดือนเมษายน เดือนแห่งการท่องเที่ยวในฤดูร้อน ช่วงที่ผ่านมาหลาย ๆ คนก็คงออกเดินทางท่องเที่ยวแล้วก็เพิ่งกลับมาเริ่มทำงานกันต่อในสัปดาห์นี้กันใช่มั๊ยคะ แน่นอนว่า...เราก็ไปเที่ยวมาเหมือนกัน ทั้งสนุกและร้อนตับแล่บกันไปเลย

แต่วันนี้เรากลับมาพบกันอีกครั้งกับรีวิวฉบับนี้ที่เราจะพาย้อนไปเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2559 ที่ผ่านมานี้เอง ทางทีมข่าว HFLIGHT มีโอกาสได้เดินทางกับสายการบินสุด HOT (HOT ไม่แพ้กับอุณหภูมิประเทศไทยในช่วงนี้เลย) ด้วยเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ในเส้นทางบิน "หาดใหญ่-ยะโฮร์ บาห์รู" ของสายการบิน "ไทย แอร์เอเชีย" นั่นเอง

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ประเทศมาเลเซีย (Malaysia) ตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นเดียวกับประเทศไทยของเราค่ะ โดยมาเลเซียตะวันตกมีอาณาเขตที่เชื่อมต่อกับภาคใต้ของประเทศไทย ส่วนมาเลเซียตะวันออกนั้นจะล้อมรอบประเทศบรูไนดารุสซาลามอยู่ และมีอาณาเขตเชื่อมต่อกับส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอินโดนีเซีย




"ยะโฮร์ บาห์รู" (Johor Bahru เป็นที่รู้จักในชื่อย่อว่า JB ส่วนคนมาเลเซียออกเสียงว่า "โจโฮร์ บาห์รู") ซึ่งเป็นจุดหมายการบินของเราในวันนี้เป็นเมืองหนึ่งที่อยู่ในในรัฐยะโฮร์ รัฐที่อยู่ส่วนใต้สุดของคาบสมุทรมาเลเซีย

 

ยะโฮร์ บาห์รู มีพรมแดนทางน้ำเชื่อมต่อประเทศสิงคโปรด้วยค่ะ แถมการเดินทางระหว่างยะโฮร์ บาห์รู กับสิงคโปรก็สะดวกสบายมาก ๆ สามารถที่จะขับรถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในส่วนนี้ได้ โดยที่ไม่ต้องลงมาจากรถยนต์ และการเดินทางเชื่อมต่อตรงนี้หากว่ารถไม่ติดก็จะใช้เวลาเพียงแค่ 40 นาทีเท่านั้นเอง

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แต่ก่อนวิธีการที่คนไทยเดินทางไปยะโฮร์ บาห์รู คือบินไปลงสิงคโปร เที่ยวสิงคโปร แล้วจึงเดินทางเข้ายะโฮร์ บาห์รู (ที่บอกไปข้างต้นแล้วว่าง่ายมาก) วิธีการนี้สะดวกกว่าการบินจากประเทศไทยไปลงกัวลาลัมเปอร์ (KL) ซึ่งต้องนั่งรถอีกราว 4 ชั่วโมง หรือต้องอาศัยเที่ยวบินภายในประเทศมาเลเซียอีกรอบกว่าจะไปถึงยะโฮร์ บาห์รู แต่ในระยะหลังสายการบินแอร์เอเชียมาเลเซีย (AirAsia Berhad) ก็ได้เปิดทำการบินตรงเชื่อมต่อยะโฮร์ บาห์รู กับกรุงเทพฯ และในที่สุดสายการบินไทย แอร์เอเชีย ก็ได้เปิดตัว "หาดใหญ่-ยะโฮร์ บาห์รู" อีกเส้นทางหนึ่งเพื่อตอบโจทย์การเดินทางของผู้เดินทางที่มากยิ่งขึ้น




ดังนั้นในวันนี้เราจึงมาตั้งต้นกันที่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (Hat Yai International Airport : HDY) ค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

บริเวณเคาน์เตอร์เช็คอินและเคาน์เตอร์รับสัมภาระของผู้โดยสารของไทย แอร์เอเชีย

 

 

 

 

 

 

และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเครื่องออกบัตรโดยสารอัตโนมัติ (Kiosk Self Check-in) ของไทย แอร์เอเชีย

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

วันนี้เป็นวันเริ่มต้นเดือนใหม่พอดีเลย ไปดูกันดีกว่าว่าบรรยากาศของที่นี่ในยามสายวันศุกร์ต้นเดือนเช่นนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง








เส้นทางบินต่าง ๆ ของไทยแอร์ เอเชีย จากสนามบินหาดใหญ่ Hub แห่งที่ 6 ของไทย แอร์เอเชีย เค้า

[ทีมข่าวHFLIGHT]

HS-ABL เป็นเครื่องบินที่จะพาเราเดินทางไปยังยะโฮร์ บาห์รู มาถึงแล้วค่ะ ซึ่งเค้าเดินทางมาจากเชียงราย นำผู้โดยสารในเที่ยวบินปฐมฤกษ์เส้นทาง "เชียงราย-หาดใหญ่" มาส่งด้วย






ส่วนเที่ยวบิน FD 510 จะออกเดินทางจากหาดใหญ่ไปยังยะโฮร์ บาห์รู ในเวลา 11.25 น. โดยข้อมูลใน Boarding Pass บอกว่าจะทำการเริ่มเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องในเวลา 10.45 น. ดังนั้นเราไปรอที่เกทกันดีกว่า




ผู้โดยสารขาออกจะต้องขึ้นไปที่ชั้น 2 ค่ะ




เมื่อผ่านด่าน ตม. แล้ว ผู้โดยสารก็จะต้องผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ร่างกายและสัมภาระที่นำติดตัวขึ้นเครื่องด้วย

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ภายในพื้นที่ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ

 

 

 

ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปยะโฮร์ บาร์รู ในวันนี้ต้องมารอเรียกขึ้นเครื่องที่บริเวณประตู 4 ค่ะ

 

 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

และแล้วก็ถึงเวลา

 

Boarding Pass และ Passport ของเราก็พร้อมทำหน้าที่ค่ะ

 

 

 

 

 

ในเที่ยวบินปฐมฤกษ์วันนี้ ทางท่าอากาศยานก็มีของที่ระลึกมอบให้ผู้โดยสารเป็นแท็กห้อยกระเป๋า AOT

 

 

 

ส่วนทาง Thai AirAsia มอบโปสการ์ดที่ระลึก 1 ใบ

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เดินต่อไปยังทางออกขึ้นเครื่องบินหมายเลข 4

 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เมื่อขึ้นมาบนเครื่องบิน ที่นั่งของเราวันนี้คือ 2E ซึ่งอยู่ในส่วนของ Hot Seat

 

 

 

ลูกเรือสาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือกรณีเกิดฉุกเฉิน ขณะที่เครื่องบินกำลังแท็กซี่ไปยังรันเวย์

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เมื่อเครื่องบินไต่ระดับเรียบร้อย และนักบินปิดสัญญาณแจ้งรัดเข็มขัดแล้ว ลูกเรือก็เริ่มบริการเสิร์ฟอาหารร้อนสำหรับผู้โดยสารที่ทำการสั่งจองมาล่วงหน้า และบริการจำหน่ายอาหาร




เมนูของเราในวันนี้ได้แก่




แท่น แทน แท๊นนน




"ข้าวเหนียวไก่ย่าง" ...ชื่อเมนูดูธรรมดา แต่แอร์เอเชีย เค้าไม่ได้ทำมาแบบธรรมดานะคะ




"นาซีเลอมะก์ (Nasi Lemak)" ...อาหารประจำชาติมาเลเซีย

[ทีมข่าวHFLIGHT]

"พุดดิ้งชาเขียวถั่วแดง" ...อันนี้คือดีงามมากก สัมผัสดี หนึบหนับกำลังดี มีรสและกลิ่นของชาเขียวชัดเจนแบบพอดี และตรงชั้นถั่วแดงด้านล่างก็ไม่หวานเกินไป






เครื่องดื่มรับเป็น "น้ำผลไม้"

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ทานอาหารกลางวันอิ่มหนำแล้วก็มาค้นกระเป๋าหน้าที่นั่งดูว่ามีอะไรบ้าง และนิตยสาร 3SIXTY เล่มใหม่ของเดือนนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง

 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เที่ยวบิน หาดใหญ่-ยะโฮร์ บาห์รู ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 35 นาที และไม่นานนักบินก็เริ่มทำการลดระดับเครื่องบินเพื่อลงสู่ท่าอากาศยานเซไน (Senai International Airport)

 

 

 

 

ภายในอาคารผู้โดยสารก็จัดการต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์นี้ไว้อย่างสนุกสนานเลยค่ะ

 

 

 

 

 

ของขวัญต้อนรับผู้โดยสารในเที่ยวบินนี้

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เมื่อมาถึงเราก็ต้องผ่านด่าน ตม. ซึ่งที่นี่ใช้ระบบสแกนนิ้วมือนะคะ

 

 

 

จากนั้นเราก็เดินทางไปต่อ

 

 

 

 

การแสดงต้อนรับที่โถงภายนอก

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สายการบินไทย แอร์เอเชีย ทำการบินตรงเชื่อมต่อหาดใหญ่-ยะโฮร์ บาห์รู ทุกวัน วันละ 1 เที่ยวบิน โดยมีกำหนดการออกจากท่าอากาศยานหาดใหญ่ (HDY) ในเวลา 11.25 น. และเดินทางถึงท่าอากาศยานเซไน (JHB) ในเวลา 14.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศมาเลเซีย) ส่วนเที่ยวบินขากลับจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานเซไน ในเวลา 14.30 น. และเดินทางถึงท่าอากาศยานหาดใหญ่ (HDY) ในเวลา 15.10 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศไทย)

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

บรรยากาศรายทาง

 

 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

มาถึงแล้วค่ะ จุดหมายแรกของเราคือวัดจีนอันเก่าแก่ที่มีชื่อวัดเช่นเดียวกับชื่อเมืองนี้เลย นั่นคือ "Johor Bahru Old Chinese Temple" ชาวบ้านแถวนี้เค้าก็เรียกกันสั้น ๆ ว่า "Chinese Temple" หรือ "วัดจีน"

 

 

 

 

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ตามประวัติคือวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 โดยชาวจีนที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในยะโฮร์ บาห์รู ปัจจุบันวัดนี้เป็นหนึ่งสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่มากของยะโยร์ บาห์รู ที่ยังคงใช้ประกอบศาสนกิจ แม้ว่าโดยรอบวัดจะมีตึกสูงระฟ้า อาคารโอ่อ่าทันสมัย และที่ทำการต่าง ๆ มาปลูกสร้างล้อมอยู่ แต่วัดแห่งนี้ก็ยังคงตั้งอยู่ด้วยความศรัทธา ไม่ถูกรื้อถอนออก

 

 

 

 

ยามเย็นในเมืองยะโฮร์ บาห์รู

 

 

 

 

แอบหันไปเห็นภาพโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่มีดาราสาวชาวไทยเป็นพรีเซนเตอร์ด้วย

 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

พาไปชมวัดฮินดูเก่าแก่ของเมืองนี้กันบ้าง

 

 

 

 

วัดแห่งนี้มีชื่อว่า "Arulmigu Sri Rajakaliamman Glass Temple" หรือเรียกสั้น ๆ ว่า "วัดแก้ว" ซึ่งเป็นวัดฮินดูกระจก (Glass Temple) ที่จดทะเบียนเป็นแห่งแรกของโลก และได้รับการบันทึกไว้ว่าเป็นวัดแก้วแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศมาเลเซีย