เมือเกิดปัญหาโดนล้วงกระเป๋าแล้วควรทำอย่างไร??

" Warning in St.Peterburg !! "
โพสนี้ว่าจะมาเล่าประสบการณ์ และ วิธีการรับมือแก้ปัญหา กับ เหตุการณ์เรื่องคนในกลุ่มโดนล้วงกระเป๋าที่ St.Peterburg นะครับ ซึ่งคนในกลุ่มโดนล้วงกระเป๋าในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนเดินกันมากมายตลอดเวลา โดยใช้วิธีมีตัวล่ออย่างคนถือป้ายทัวร์เดินมาคุยกับเรา เราบอกปัดไปและเดินต่อไปเพื่อจะไปยังสถานีรถไฟ มันก็ตามมาอีก โดยการพูดไม่หยุด ใช้ท่าทางยั่วยุ ดึงดูดความสนใจสุดๆ จนคนในกลุ่มเราคนนึงไม่รู้เลยว่ากระเป๋ากำลังจะถูกล้วงกระเป๋าจากคนในทีมคนถือป้ายทัวร์อีกคนนึง จนเดินไปหยุดตรงทางม้าลาย ผมว่าจังหวะนั้นแหละ ล้วงง่ายที่สุด สุดท้ายเราก็เพิ่งจะรู้ตัวว่าเสียรู้ให้พวกมันซะแลัว โดยมีของหายไปจำนวนนึง ตอนนั้นพวกเราก็ตกใจกันใหญ่ วิ่งหาตำรวจให้ทั่ว พอเจอตำรวจของสถานีรถไฟแถวนั่น เราก็อธิบายและพาไปดูที่เกิดเหตุ มีรูปให้ดูพร้อม และชี้ให้เห็นถึงกล้อง cctv ว่ากล้องจำนวนนึงน่าจะสามารถเห็นคนร้ายได้ แต่สุดท้ายตำรวจก็ไล่ให้ไปแจ้งที่สถานีตำรวจที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ พอรู้สึกเรื่องมาถึงตรงนี้แลัว ก็เริ่มคิดว่าเริ่มยากขึ้นแลัว เพราะนี้มันประเทศรัสเซีย !! ที่เป็นประเทศที่คนพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมากกกก ถ้าไม่ใช่คนทำงานบริการ หรือท่องเที่ยว นี่ยากมาก ตำรวจก็กว่าจะพยายามพูดพอเข้าใจก็เหมือนเจ้าตัวก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน สุดท้ายเราก็เอาว่ะ หาสถานีตำรวจให้เจอ โชดดีที่กดแปปๆ พี่ Google Map ก็เข้าใจคำว่า Polis(ต่างประเทศเรียกประมาณนี่กัน) กดปุ๊ปมาปั้บเลย สถานีตำรวจก็ไม่ไกลมาก
เราก็ตัดสินใจแยกกลุ่มกันไป โดยให้พี่ผู้หญิงเป็นคนเดินเรื่องเพราะภาษาดีกว่าเรามาก ส่วนเราก็เดินเป็นเพื่อน เปิดแผนที่ช่วยกันพาไปให้ถึงสถานีตำรวจ พอไปถึงคิดว่าบ่นๆให้มันฟังละจะทำเรื่องเครมอะไรให้ กลายเป็นว่าทั้งสถานีตำรวจพูดและฟังภาษาอังกฤษไม่ได้ซะคน !! มีบางคนพอพูดได้บ้าง พยายามจะช่วย สุดท้ายถอดใจยอมแพ้ บอกให้ไปหาล่ามมาละกัน กรูไม่ไหวละ แต่ต้องเป็นล่ามที่มีใบรับรองด้วยนะ ไม่งั้นไม่คุยด้วย เราก็วุ่นสิ มีงี้ด้วย มีประเทศไหนที่ต้องใช้ล่ามจริงๆจังๆแบบนี้ด้วย คือต้องไปลากล่ามมาที่ สน. และจัดการเรื่องให้ ตอนออกมาเราก็คิดกันว่า เราไม่เชื่อ เราหาคนรัสเซียที่ฟังอังกฤษได้ก็พอ มันจะต่างอะไรกับล่ามว่ะ พี่ผู้หญิงก็บอก ลุงที่โฮเทลเค้าก็ได้ ฟัง พูด โอเคเลย เราก็เอาตามวิธีนี่ละกัน ง่ายดี ใช้ทำไมว่ะล่ามที่มีใบรับรอง เราก็ดิ่งกลับไปแถวที่พัก ลุงก็ใจดีพาขึ้นรถเพื่อไป สน. ครั้งที่ 2 พอลุงเข้าไปคุยเราก็มั่นใจว่ามันต้องได้ดิ แต่ไม่นานลุงแกก็ทำเสียงอ่อน เราก็รุ้เลยว่างานเข้าละ พอคุณลุงคุยเสร็จก็เดินมาบอกเรา มันต้องใช้ล่ามจริงๆ ไม่งั้นเค้าไม่คุย ไม่ทำเรื่องอะไรให้ทั้งนั้น เรากับพี่ผู้หญิงก็ขอบคุณแกยกใหญ่ เพราะแกใจดีมากๆ สุดท้ายคุณลุงแกช่วยเป็นธุระให้พาไปที่บริษัทล่าม ( Translation Agency ) บริษัทประเภทแบบนี้บอกเลยงงมาก ได้ยินตอนแรกก็งง มันคืออะไร ที่ไทยมีรึเปล่า พอไปถึงเลยเข้าใจว่า บริษัทมันออกแนว พวกร้านปริ้นที่ไทยอะครับ ที่มันรับแปลเอกสาร หรือ รับเป็นล่ามให้ตามสถานที่ท่องเที่ยว แต่ที่นี้ออกแนวสำหรับเกือบทุกเรื่อง อาจจะเป็นเอกสาร งาน ท่องเที่ยว จดหมายบุคคลอะไรก็ว่าไป เพราะคนรัสเซียส่วนใหญ่พูดและเขียนภาษาอังกฤษไม่ได้ ดังนั้นบริษัทพวกนี้ก็จะจัดการให้ครับ โดยจัดคิวไปตามโต๊ะต่างๆจะมีพนักงานคนรัสเซียที่มีความรู้เรื่องภาษาอย่างดี มานั่งฟังเราพูดและพิมพ์ จากรัสเซีย ไปเป็นภาษาอังกฤษ และปริ้นเอกสารให้ ลูกค้าจะเอาไปส่งต่อหรือไปทำอะไรก็แลัวแต่เลย เห็นอย่างงี้แลัวแบบเป็นลู่ทางธุรกิจที่ดีมากๆในประเทศแบบนี้ ผมว่ารับเละอะ ค่าแปลเอกสารที่จะได้แต่ละชุด พอถึงตาเรา เราก็เล่าเหตุการณ์ตามที่เกิดขึ้น และ ขอล่ามให้ไปกับเราด้วยที่สถานีตำรวจ (มีค่าใช้จ่ายรวมทุกอย่างแลัวคือ 3,500 รูเบิ้ล) เราก็พาล่ามไปเจอตำรวจ และเค้าก็คุยและทำเรื่องให้จริงๆ
ตอนหลังเราก็เข้าใจแหละว่าตามระเบียบของเค้า เราต้องยอมรับและทำตามอย่างเคร่งครัด เค้าก็คงต้องการคนรับรอง คนประสานงานอย่างจริงจัง คุยไปสักพักเราก็ได้ใบเครมประกัน ส่วนไอ้เรื่องจับคนร้าย เค้าว่ายาก(และคงจะไม่ไปล่าตัวมาให้) เพราะวันนึงนักท่องเที่ยวโดนกันเยอะมาก ตามจับยาก สิ่งนึงที่ทุกประเทศท่องเที่ยวสอนเราคือ ต้องระวังตัวเอง รับผิดชอบตัวเองให้มากดีที่สุด สติต้องมี เมื่ออยู่ต่างถิ่นอย่าไว้ใจคน ให้ทำตัวขี้สนสัย ระแวงตลอดเวลา เพราะมันน่าจะช่วยได้จริงๆนะ ผมว่าต่อให้เราเก็บของดีแลัว ระวังตัวดีในระดับนึง ผมว่าพวกมันต้องเก่งกว่าเราแน่นอน เพราะพวกโจรมันฝึกเป็นอาชีพเลย
ดังนั้นดีที่สุดคือทำตัวเราเองให้มีสติตลอดเวลา น่าจะดีที่สุดครับ ถ้าไปเป็นกลุ่มก็ช่วยๆกันดู เห็นอะไรที่ดีไม่ดีให้รีบเตือน ไม่งั้นอาจพลาดพวกโจรได้ และศึกษาเกี่ยวกับสถานที่สำคัญในเมืองนั้นๆด้วยว่าอยู่ไหนบ้าง และระเบียบการต่างๆ จะได้ไม่เสียเวลาครับ
จบแล้วครับ กับการรีวิว 8 สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่สวยที่สุดในมอสโก ประเทศรัสเซียของผม ที่จริงมันมีอีก ที่สวยอีกหลายที่ แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัดเลย เลยเก็บมาได้เท่านี่ครับ ถ้าขาดตกบกพร่องไปก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ ขอบคุณเพื่อนๆที่ติดตามอ่านจนจบทุกท่านครับ [:อมยิ้ม01:][:อมยิ้ม16:]
DAY 3
หลังจากที่เมื่อคืนที่เราไปถ่ายรูป ในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินกันอย่างเมามันส์ จนถึงตี 1 ก็กลับมาที่พักสลบคาที่นอนเลย น้ำไม่ต้องอาบ เพราะเช้าวันพรุ่งนี้เรามีแพลนว่าจะไปถ่ายรุป ที่ Red Square ตอนเช้ามืดอีก เลยนอนเอาแรงก่อนดีกว่า มารัสเซียทั้งที ขอมาเก็บภาพให้เต็มที่หน่อยเถอะ

เราเดินผ่านลมหนาว ตอนตีห้าครึ่ง มาเก็บภาพตอนเช้าของ Red Square กัน สำหรับใครที่อยากเดินชมสถาปัตกรรมแถวนี้แล้วอยากถ่ายรูปตัวเอง กับสถานที่สำคัญๆ ก็มากันตอนเช้าได้ครับ ประมาณ 6 โมงเช้า ถึง 7 โมงกว่าๆ ลานแห่งนี้คนน้อยมากๆ ไม่มีใครมาบังมุมเลย เดินชิลๆ รับลมหนาวยามเช้าที่แสงเย็นสบาย

หลังจากที่เดินเล่นยามเช้าเสร็จ เราก็เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายในมอสโคของเราต่อไป โดยการเดิน ไปยัง Cathedral of Christ the Saviour กันครับ

มหาวิหารพระคริสต์ผู้ช่วยชีวิต สร้างขึ้นเพื่อถวายพระ เกียรติแด่กษัตริย์อเลกซานเดอร์ที่ 1 ที่สามารถรบชนะนโปเลียนและกองทัพ ฝรั่งเศสได้ในสงครามปี 1812 เป็นมหาวิหารที่เราชอบมากที่สุด ใน มอสโค ด้วยรูปทรง และสีสันแล้ว ยิ่งใหญ่จริงๆ

ด้านหน้าของมหาวิหารแห่งนี้ มีสะพานทอดยาว ข้ามผ่านแม่น้ำ Moskva River ซึ่งหากยืนอยู่ ณ จุดๆนี้จะสามารถมองเห็น The Kremlin Palace ได้จากบนสะพานได้เลย
หลังจากที่เที่ยวทุกอย่างตามแพลนที่ตั้งไว้เสร็จแล้ว ในมอสโคเสร็จเราก็กลับที่พัก เพื่อพักผ่อน เพราะวันนี้ตอน 5 ทุ่มเราต้องเดินทางไปยังสถานีรถไฟไป St. Petersburg เราก็เดินเล่นในที่พัก ไปตรงพื้นที่ส่วนกลาง ที่เป็นห้องครัว มีโตะกินข้าว และก็ทีวีจอใหญ่ๆ เอาไว้ให้แขกที่มาพัก ได้มานั่งดูทีวีกัน

เพื่อนๆ สองคนในรุปที่ถ่ายด้วยกันคือชาวรัสเซีย เขาทำงานที่นี้ ในโฮสเทลที่พวกเราพักกัน ตอนแรกก็ไมได้คุยหรอก เราคุยกับกับผุ้หญิงคนนึงก่อน เป็นชาวมองโกเลีย เดินทางมาจาก เยอรมัน มาพักที่มอสโค หนึ่งคืน และพรุ่งนี้ เขาก็จะกลับ ไปประเทศของเขาแล้วที่มองโกเลีย เราก็ถามเรื่องทั่วไป ว่า ทำไมเราถึงเห็นชาวมองโก มาทำงานที่มอสโคเยอะมาก เขาจึงบอกมาว่า ชาวมองโก มาศึกษาเล่าเรียน และทำงานที่นี้เยอะพอสมควร เพราะประเทศอยุ่ติดกัน การศึกษา และ การงานที่นี่ดีกว่าบ้านเขามากๆ เพราะฉะนั้น จึงเป็นเรื่องปกติที่จะเห็นชาวมองโกเลีย มาหาโอกาสที่จะสร้างรายได้ในรัสเซีย คุยไปคุยมา ดึกแล้วเขาเลยขอตัวไปนอนก่อน ลืมถ่ายรุปกับเขาเลย เขาน่ารักดีนะ เฟรนลี่ดี หลังจากนั้น สองคนนี่ที่เปนชาวรัสเชียก็เข้ามา และเปิดทีวีดู ช่องของเขาไปเรือย อยุ่โต๊ะด้านหน้า เราก็นั่งเล่นโทรศัพที่ในห้องครัวไปเรือย มันสองคนก็หัวเราะ คิกคักกัน และหันมามองหน้า เราก็มอง และมันสองคนก็พูดอะไรไม่รุ้ใส่ เหมือนมันจะถามไรสักอย่าง และทำมือประหลาดๆใส่ และหัวเราะ เราก็ งง สื่อสารภาษามือกันไปมา ก็ไม่เข้าใจมันจะสือถึงอะไร จนคิดขึ้นได้ว่า มีแอฟแปลภาษาของ google นี่หว่า เลยหยิบมาลองใช้เลย ครั้งนี้เราใช้เสียงพูดกัน โปรแกรมนี้ เราตั้งค่าว่า รัสเซีย แปลเป็นอังกฤษ เราเลยจัด เอาโทรศัพให้มานพูด เราก็อ่าน ปรากฎว่า เขาสองคนถามว่า "ชอบ โอบาม่ามั้ย ??" เราได้ยิน เราก็มองทีวี อ่อ มันเป็นข่าวเรื่องสงครามในซีเรียนั้นเอง ที่รัสเซียประกาศสงครามกัน มิน่าถึงถามเรื่องนี่ เราเลยบอกไปทันทีเลยว่าไม่ พร้อมทำมือกากบาท แปลว่าไม่ ไม่ชอบ เพราะเห็นแล้วทั้งคู่กล้ามเป็นมัดเลย 555 จากนั้นเราก็คุยไปเรือย ถามว่าทำงานอะไร ชื่ออะไร คุณสองคนเป็นเพื่อนกันหรอ และอะไรต่างๆมากมาย แปลกใจนะ ทั้งคู่ดูสนุกกันมาก เวลาคุย เขาถามว่า เราสองคนเป็นพี่น้องกันใช่มั้ย หน้าคล้ายๆกัน แล้วทำหน้าตากวนประสาทใส่ เหมือนล้อเลืยนเราสองคน เราก็ขำๆ และหยอกมุขกลับไป 555 ดีจริงๆนะเราต่างพูดภาษาคนละภาษาแต่ก็เข้าใจกันได้เพราะมีโปรแกรมแปลภาษา เพิ่งเห็นข้อดี ก็ที่รัสเซียนี่แหละ สุดท้าย ดึกแล้ว เราขอตัวไปนอนก่อน เลยขอถ่ายรุปเป็นที่ละลึกก่อนจากกัน หวังว่าคงได้เจอกันอีก