91 replies to this topic

[norkerpingsoul]

Advertisements

Motsunabe เมนูนี้เราเลือกแบบ Premium Kyoto 

เมนูนี้อร่อยฟินมากๆครับ  รสชาดกลมกล่อม  มากๆ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

ทานมื้อค่ำเสร็จเราก็นั่งรถไฟฟ้ากลับมาที่สถานีฮากาตะครับ  

ขึ้นมาเราก็พบกับไฟประดับสวยงามหน้าสถานี

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

เพื่อนรักเลี้ยงไวน์  จีบไวน์ไปชมไฟสวยๆไป  ฟินมากๆครับ  อากาศก็ดี๊ดี  เย็นสบาย  ชอบจัง

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

ค่ำคืนแรกฮากาตะ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

เช้าวันที่สองเราจองตั๋วiรถไฟ JRเพื่อเดินทางไปเมือง Beppuครับ

เราขึ้นรถไฟ Sonic ที่สถานีฮากาตะครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

เรารอรถไฟที่ชานชาลาที่ 2 ครับ  รถไฟที่ญี่ปุ่นมาตรงเวลามากๆ  ผมตายแล้วเกิดอีกสิบชาติ  ประเทศเรารถไฟจะดีเท่าญี่ปุ่นเค้าบ้างไหมน๊อ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

เราจองตั๋วรถไฟแบบฟิคทืนั่งครับ  เลยสบายไม่ต้องเดินหา  รถไฟสะอาดสะอ้าน  นั่งสบาย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

นั่งรถไฟประมาณ 1 ชม.ก่าก็จะเมืองBeppuครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

ถึงเมือง Beppuแล้วครับ

 

เมืองเบปปุนี้เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดโออิตะ ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เมืองเบปปุนี้เป็นเมืองที่มีบ่อน้ำร้อนจากธรรมชาติ หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “ออนเซ็น” มากที่สุดในญี่ปุ่น จนได้รับฉายานามว่า “ เมืองหลวงของออนเซ็นญี่ปุ่น” บ่อน้ำแร่ธรรมชาตินั้นกระจายอยู่ทั่วเมือง เนื่องจากสถานที่ตั้งของเมืองนี้อยู่ใกล้กับภูเขาไฟอะโสะ หากใครมาเมืองนี้แล้วไม่ได้แช่ออนเซ็น ก็อาจพูดได้ว่ามาไม่ถึงเมืองเบปปุ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

มาถึงเบปปุ   เพื่อนผมก็ขอแวะร้านขายอาหารแห้งท้องถิ่น  ช้อปไปหลายบาทเลย  มีพวกปลาหมึกแห้ง  ปลาแห้ง  อร่อยดีครับ..

 

ออกจากสถานีฝนพรำ  อากาศเย็นสบายครับ   เดี่ยวเราเดินไปโรงแรมกัน

เราพักที่โรงแรม ฺฺBeppu Daiji  โรงแรมอยู่ไม่ไกลสถานีเลยครับ   เดินไม่เกินสองร้อยเมตรก็ถึงโรงแรมที่พักของเราแล้วครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

เราเอาของไปฝากที่โรงแรมก่อนครับ  เพราะยังไม่ถึงเวลาเช้คอิน  โรงแรมให้เช็คอินได้บ่ายสามโมงครับ

เราออกไปหาอะไรทานแล้วไปเที่ยวบ่อนรกกันครับ

 

เราแวะทานร้านอาหารในห้างภายในสถานีรถไฟเบปปุครับ  น่าทานไหมครับ  

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

เมืองเบปปุขึ้นชื่อมากเรื่องบ่อน้ำร้อน  มีบ่อน้ำร้อนกระจายอยู่ทั่วเมือง  และมีบ่อน้ำร้อนที่มีเอกลักษณ์ของแต่ละบ่อ สำหรับเข้าชมได้  โดยเรียกทัวร์บ่อน้ำร้อนนี้ว่า ทัวร์บ่อนรกทั้งแปด (Eight Hell Tour)  หรือเรียกว่า  Jigoku Meguri    โดย จิโกกุ เมกุริ คือบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เกิดขึ้นภายหลังการระเบิดของภูเขาไฟ ประกอบด้วยแร่ธาตุที่เข้มข้น อาทิ กำมะถัน แร่เหล็ก โซเดียม คาร์บอเนต เรเดียม เป็นต้น และมีความร้อนเกินที่จะลงอาบได้ มีลักษณะแตกต่างกันไปในเมืองเบปปุทั้งหมด 8 บ่อ ตั้งชื่อให้น่ากลัวตามลักษณะภายนอกที่เห็น ซึ่งก็ได้ผลกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทำเงินของเมืองเบปปุ นอกจากสปา ออนเซ็นและโรงอาบน้ำที่มีอยู่ทั่วเมืองเบปปุ

 

น้ำพุร้อนทั้ง 8 แห่งแบ่งได้เป็นสองโซนนะคะ จะอยู่รวมๆกัน 6บ่อ ที่โซน Kannawa สามารถเดินถึงกันได้หมด ไม่ไกลกันครับ และเหลืออีก 2บ่ออยู่ที่โซน Shibaseki ต้องต่อรถบัสไปอีกประมาณ 10นาที ถ้ามีเวลามากพอสักครึ่งวันแนะนำให้ซื้อตั๋วเข้าชมรวม 8บ่อราคา 2,000เยน ถ้าซื้อแยกจะที่ละ 400เยน (รวม3,200เยน ซึ่งจะแพงกว่า)

 

ขึ้นรถบัสที่สถานีเบบปุ  (ฝั่งตะวันตก) ได้เลย ตรงสถานีจะมี Information center เข้าไปถามเวลารถจะออกก็ได้ครับ  เดี่ยวเราไปขอขอ้มูลก่อนเดินทาง

 

เราขึ้นรถตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำเบอร์รถและจุดขึ้นรถ   เราเลือกว่าจะไปไม่เกินสองที่เพราะกว่าเราจะออกก็บ่ายสองโมงแล้ว  เราเลือกที่จะไป Umi Jigokuครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

ระหว่างเดินทางไปชมบ่อนรกครับ  เราเลือกแวะที่ Umi Jigokuครับ

 

บ่อนรกหรือจิโกกุ (地獄, jigoku) ที่เบปปุมีอยู่ด้วยกันถึง 8 บ่อ เพื่อใช้ในการเข้าชมเท่านั้น โดยจะมี 6 บ่ออยู่ในเขตคันนาว่า(Kannawa) คือ Umi Jigoku, Oniishibozu Jigoku, Shiraike Jigoku, Kamado Jigoku, Oniyama Jigoku, Yama Jigoku ส่วนอีก 2 บ่อจะอยู่ที่เขตชิบาเซกิ(Shibaseki) คือ Chinoike Jigoku, Tatsumaki Jigoku

บ่อนรกที่เขตคันนาว่า(Kannawa)

 

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

หลังจากเสียค่าผ่านประตู  เดินเข้ามาก็พบกับควันจากน้ำพุร้อนทั่วบริเวณครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

บรรยากาศที่ Umi Jigoku สดชื่นมากๆครับ  อากหาศดี  ต้นไม้เยอะ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

Umi-jigoku บ่อนี้สีสวยแปลกตามากๆ ฟ้าๆเขียวๆสีคล้ายนำ้ทะเลที่นี่จึงเรียกว่า อุมิ (แปลว่าทะเล)

 

มีจัดสวนรอบๆ สวยงามเลยทีเดียว ตัดกับเสาโทริอิสีส้ม มีบ่อน้ำใหญ่ที่เลี้ยงบัวหลายพันธุ์ บัวขนาดใหญ่ที่เด็กสามารถไปยืนถ่ายรูปอยู่ในใบบัวได้ด้วย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

ยูมิ จิโกกุ (Umi Jigoku) หรือ “บ่อทะเลเดือด (Sea Hell)”  เป็นบ่อที่นักท่องเที่ยวนิยมไปชมมากที่สุด เพราะมีความสวยงามมาก ดูเป็นนรกน้อยกว่าแห่งอื่น ๆ จัดภูมิทัศน์ได้ร่มรื่นน่าเดิน  บริเวณตั้งแต่ทางเข้าเห็นควันขาวพวยพุ่งแทรกก้อนหินใหญ่ขึ้นมาเสียงดังฟู่ ๆๆ อยู่ตลอดเวลา เดินเข้าไปใกล้ ๆ รู้สึกได้เลยถึงความร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากใต้ดิน  ก่อนเข้าไปชมบ่อทะเลเดือดแวะชมสระบัวก่อนมีใบบัวขนาดใหญ่มาก เด็กตัวเล็ก ๆลงไปนั่งได้เลย   ยูมิ จิโกกุ เป็นบ่อน้ำร้อนสีฟ้าเหมือนน้ำทะเล ด้วยความลึก 150 เมตร กำเนิดขึ้นหลังจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อ 1,200 ปีก่อน มีส่วนประกอบของแร่โคบอลต์ (Cobalt) ควันสีขาวพวยพุ่งขึ้นมารอบ ๆ บ่อตลอดเวลา อุณหภูมิของน้ำสูงถึง 98 องศาเซลเซียส   บ่อนี้แม้น้ำจะร้อนเกินกว่าจะลงไปแช่ได้ แต่ก็มีผงน้ำแร่ (Maguma-Onsen) วางจำหน่ายในร้านขายของที่ระลึก ให้นำไปละลายน้ำอาบเองที่บ้านได้ สรรพคุณทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและรักษาโรคผิวหนังได้ 

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

ใกล้ๆ กันกับบ่อสีฟ้า จะมีบ่อ Secondary ของ Umi Jigoku 

สีน้ำเดือกจะเป็นสีสนิมเดือดๆ ดูน่ากลัวไปอีกแบบครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

 ก่อนออกมาอย่าลืมไปนั่งแช่เท้าในบ่อน้ำร้อนในศาลา ออนเซ็นเท้าจะทำให้รู้สึกสบายเท้า  ให้บริการแบบฟรี ๆ ด้วยครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[norkerpingsoul]

ออกมาจากบ่อแรกก็จะพบกับก็จะพบกับบ่อ Oniishibozu Jigoku (Monk's Hell)

หรือบ่อโคลนเดือด ปุดๆ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
•