25 replies to this topic

[conductor]

Advertisements

สวัสดีครับ

 

เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ผมเดินทางไปทำงานและพักผ่อนที่ฝรั่งเศส โดยในระหว่างที่อยู่ปารีส ผมพักที่ Le Meurice ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ Palace หนึ่งในแปดโรงแรมของปารีสครับ

 

เพื่อนๆ อาจสงสัยว่า Palace คืออะไร

 

ผมจะขอตอบย่อๆ ว่า Palace เป็นระดับมาตรฐานขั้นสูงสุดของโรงแรมในฝรั่งเศส การจัดระดับนี้เริ่มมีขึ้นในปี 2010 โดยกระทรวงการท่องเที่ยวของฝรั่งเศส บรรยายว่าโรงแรมที่จะได้รับการรับรองในระดับนี้ ต้องเป็นโรงแรมที่มีคุณภาพในระดับพิเศษ (Exceptional) คงไว้ซึ่งมาตรฐานการบริการที่ยอดเยี่ยมในแบบฉบับฝรั่งเศส (Standard of excellence) และเน้นภาพลักษณ์ของฝรั่งเศส...

 

ผมคิดว่า อาจจะกล่าวได้ว่าระดับ Palace เป็นโรงแรมที่เหนือกว่าโรงแรมในระดับ 5 ดาว ในฝรั่งเศสครับ โดยในฝรั่งเศสมีทั้งสิ้น 16 โรงแรม และในปารีสซึ่งมีโรงแรมน้อยใหญ่นับพันนับหมื่นโรงแรม ก็มีเพียง 8 โรงแรมเท่านั้นที่เป็น Palace ได้แก่

 

• Hôtel Le Bristol – Paris  
• Four Seasons Hotel George V – Paris  
• Hôtel Le Meurice – Paris  
• Hôtel Le Park Hyatt Paris Vendôme – Paris  
• Hôtel Le Plaza Athénée – Paris   
• Le Royal Monceau - Paris
• Shangri-La Hotel - Paris
• Mandarin Oriental - Paris

สมาชิกท่านไหนอยากดูรายชื่อที่เหลือ ดูได้ที่นี่ครับ http://uk.france.fr/...e/palace-status

รีวิวนี้เป็นรีวิวโรงแรมแรกของผม (ปกติทำแต่รีวิวเครื่องบิน) ภาพอาจไม่ครบทั้งหมด ต้องขออภัยล่วงหน้านะครับ

[conductor]

ผมเดินทาง Sydney-Paris via DXB และ LHR สุดท้ายนั่ง BA ไปลง Orly Airport ครับ

 

ผมให้โรงแรมจัดคนมารับ ออกจากหน้าประตูเครื่องบินก็มีพนักงานโรงแรมมารอรับหน้าเครื่องและพาออกช่องทางพิเศษ เอาพาสปอร์ตไปให้ ตม. และผ่าน ตม. ในเวลาเพียงสามสิบวินาทีครับ ออกมาก็เจอ  Mercedes S Class รออยู่ครับ

 

ภาพแรกเริ่มที่ในรถโรงแรม ในรถมี wifi ให้ใช้ครับ

[conductor]

มาถึงโรงแรมก็เชคอินเข้าห้องพักครับ

 

เนื่องจากผม Reception hall ไม่ใหญ่มาก และมีลูกค้าคนอื่นอยู่ ผมจึงไม่ได้ถ่ายรูปครับ เอาจริงๆ ก็อายพนักงานด้วยครับ ไม่กล้ายกมือถือขึ้นถ่าย ตั้งใจว่าวันหลังจะถ่าย แต่ก็ลืมจนตลอดทริปครับ

 

มาดูห้องกันเลยดีกว่าครับ ผมจอง Deluxe room แต่ได้อัพเกรดมาพัก Executive room ครับ

https://www.dorchest...executive-room/

 

หน้าห้องครับ

 

เข้ามาในห้องจะเจอ Entrance Lounge ทางซ้ายมือเป็นประตูไปสู่ห้องนอน ขวามือเป็นมินิบาร์และห้องน้ำ

 

ภายในห้องนอนครับ

 

[conductor]

เก้าอี้นั่งปลายเตียงครับ

 

ห้องไม่เล็ก ไม่ใหญ่ครับ พักสองคนไม่อึดอัด เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น คุณภาพดีมากครับ แต่ผมรู้สึกว่าฝุ่นเยอะไปหน่อย หรือผมจะคิดไปเองก็ไม่ทราบ

 

มินิบาร์หน้าประตูห้องน้ำครับ

 

ประติมากรรมหมาน้อยหน้าประตูห้องนอน

 

พอมาทำรีวิว ทำให้ผมเห็นว่า ผมถ่ายภาพห้องไม่ครบจริงๆ ครับ ขออภัยด้วยครับ --"

 

[conductor]

มาดูห้องน้ำ กว้างขวางดีครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[conductor]

ต่อห้องน้ำครับ

 

ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและครีมทาผิวใช้ Quercus ของ Penhaligon's London ))

[conductor]

ไปถึงคืนแรกก็ไปทานอาหารที่ Le Jules Verne บน Eiffel Tower  http://www.lejulesverne-paris.com/en

วิวสวย เสียดายมีเมฆครึ้มและฝนโปรย แต่ก็โรแมนติกไปอีกแบบครับ

 

โต๊ะติดหน้าต่างครับ ข้อดีข้อเดียวคือ ไม่มีโต๊ตั้งข้างๆ แบบประชิดตัว ส่วนเรื่องวิว ก็ไม่ต่างจากโต๊ะอื่นๆ ครับ ไม่เห็นครือๆ กัน เพราะโครงเหล็กมันบล็อกวิวเกินครึ่งครับ และแสงไฟที่ส่องเข้าตัวโครงสร้างหอไอเฟลในบางมุม ก็ทำให้มองวิวไม่ชัด เหมือนมีรถเปิดไฟสูงใส่ แต่โดยรวมแล้วก็พิเศษดีครับ

 

โต๊ะอาหาร ไม่กล้าถ่ายร้านครับ คนเยอะมาก

 

เมนูอาหาร

 

[conductor]

อาหารตกแต่งได้น่าทานและก็อร่อยมากๆ ครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[conductor]

ฟินครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[conductor]

กลับมาโรงแรม เข้าไปนั่งในบาร์เล็กๆ ของโรงแรมที่ราชวงศ์และผู้นำประเทศมากมายเคยมานั่งดื่มยามดึกครับ บรรยาการมันขรึมมาก แต่ก็ผ่อนคลายเช่นกัน แขกไม่ค่อยมีเพราะดึกแล้ว เลยมีโอกาสถ่ายโถงโรงแรมนิดหน่อยครับ (ภาพเบลอหน่อย)

 

ตกแต่งได้สวยมากครับ ดูหรู เก่า คลาสสิค สะอาด เป็นระเบียบ

 

 

Attached Thumbnails

• 
• 

[conductor]

เฟรสโกบนเพดานและโคมระย้า

 

การตกแต่งเล็กๆ น้อยๆ

[conductor]

ขึ้นมาบนห้อง เตียงก็ turned down เรียบร้อยครับ มีขวดน้ำ รองเท้าใส่ในห้องวางไว้ข้างเตียงอย่างเรียบร้อย

Attached Thumbnails

• 

[conductor]

ผมพักที่นี่สามวัน มีคืนนึงหิวมาก เลยสั่ง room service ครับ 

เป็น room service ที่คุณภาพสูงมากๆ (และราคาก็สูงมากๆๆ) 

Attached Thumbnails

• 

[conductor]

มาถึงอาหารเช้าครับ เนื่องจากพักสามวัน ผมจึงถ่ายเก็บเรื่อยๆ เอามาลงรวมทีเดียวเลยแล้วกันนะครับ

เมื่อไปถึงห้องอาหารพนักงานจะเอาชั้นขนมปังมาตั้งทันทีครับ ซึ่งก็มีหลากหลายให้เลือกครับ ทานอะไรหมดก็สั่งเพิ่มได้ นั่งไปนานๆ พนักงานก็จะเปลี่ยนชั้นใหม่มาให้ เพื่อให้มีขนมปังอุ่นๆ ตลอดเวลา กาแฟสด ไม่จำกัด น้ำผลไม้คั้นสด ไม่จำกัด ส่วนอาหารเช้า ผมไม่แน่ใจว่าจำกัดจำนวนหรือไม่ เพราะสั่งมาจานเดียวก็เยอะมากแล้วครับ ทานแทบไม่หมด แต่ผมเข้าใจว่าไม่จำกัดนะครับ

 

มาดูห้องอาหารกันก่อนครับ สวยมากจริงๆ 

Attached Thumbnails

• 
• 

[conductor]

ห้องอาหารอีกนิดครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[conductor]

แล้วก็ปกเมนูอาหารเช้าครับ

 

Attached Thumbnails

• 

[conductor]

ต่ออาหารเช้าครับ

Attached Thumbnails

• 
• 

[conductor]

อาหารเช้า

Attached Thumbnails

• 
• 

[conductor]

วันสุดท้ายเพิ่งจะได้มีจังหวะถ่ายรูปหน้าโรงแรมระหว่างรอรถโรงแรมไปส่งสนามบินครับ

โรงแรมนี้ตั้งอยู่บน Rue de Rivoli ตรงข้ามกับ Tuileries Garden เดินห้านาทีถึง Louvre ห้านาทีถึง Le Vendome สิบนาทีถึง Opera garnier, Musee d' orsay สะดวกดีครับ เดินไปที่ไหนๆ ก็ได้ (ถ้าขยันเดิน)

[conductor]

Rue de Rivoli

 

Tuileries garden 

 

ขอจบรีวิว Le Meurice Paris เท่านี้นะครับ

 

รีวิวถัดไป จะเป็นอีกโรงแรมหนึ่งซึ่งผมมาแวะพักตอนขากลับมาปารีสอีกครั้งในทริปเดียวกันนี่เอง คือ Hôtel Le Park Hyatt Paris Vendôme ซึ่งเป็น 1 ใน 8 Palace ของปารีสเช่นกันครับ

 

ผมทำรีวิวการเดินทาง DXB-LHR เอาไว้แล้ว ไปชมได้นะครับ ไฟลท์ที่เหลือจะทยอยมา ก่อนจะดองเค็มไปมากกว่านี้

http://www.hflight.n...ndpost&p=342512

 

 

ขอบคุณที่ติดตามครับ