102 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

2) American Adventure เดินเข้ามาโซนนี้ก็จะได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดที่ดังขึ้น เพราะโซนนี้มีทั้ง...

Double Rock Spin : ที่หมุนเหวี่ยงตีลังกาหลายตลบ




Rolling X-Train : เครื่องเล่นโรลเลอร์โคสเตอร์ที่หมุนตีลังกา 360 องศา ถึงสองครั้ง




Hurricane : สุดยอดเครื่องเล่นที่ทั้งหมุนเป็นวงกลมตลอดและยังเหวี่ยงซ้ายทีขวาทีไปพร้อม ๆ กัน




นอกจากจากนี้ก็ยังเป็นจุดขึ้น Sky Way ไปยังโซน European Adventure (นั่งได้ 4 คน) และ Sky Cruise ไปยัง European Adventure เช่นกัน (นั่งได้ 8 คน) เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยที่อยากชม Everland จากมุมสูงค่ะ












3) Magic Land โซนนี้ก็จะเป็นโซนแห่งเทพนิยายใส ๆ มีตัวการ์ตูน มีตุ๊กตุ่นตุ๊กตา เหมาะอย่างยิ่งสำหรับพาเด็กน้อยมาวิ่งเล่นกับโลกจินตนาการสดใสของพวกเค้า

[ทีมข่าวHFLIGHT]

4) European Adventure โซนนี้นะคะกินบริเวณกว้างเป็นอันดับที่สองของพื้นที่ Everland ทั้งหมด เป็นที่ตั้งของร้านอาหารจำนวนร้านมากที่สุด มีลานจัดแสดงดอกไม้ถึงสองส่วน ซึ่งก็คือ Four Season Garden และ Rose Garden ผู้เขียนเองก็ใช้เวลาอยู่กับมวลมหาศาลดอกไม้ในโซนนี้นานมาก ราวกับมาศึกษาหาความรู้ ณ สวนพฤษศาสตร์ยังไงอย่างนั้นเลย ฮ่า ๆ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ระหว่างทางไป Rose Garden เราก็เจอบรรยากาศแบบนี้ค่ะ






ภายใน Rose Garden










และในโซนนี้ก็มีเครื่องเล่นที่เป็นไฮไลท์ที่สุดของดินแดน Everland แห่งนี้ นั่นก็คือ... T Express : รถไฟเหาะรางไม้แห่งแรกในเอเชีย ไม่ทราบนะคะว่าจะหวาดเสียวขนาดไหน แต่เสียงกรี๊ดหวีดร้องเวลาที่ขบวนรถทิ้งดิ่งด้วยความเร็วสูง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนี่ดังไกลไปหลายเมตรเลยทีเดียว เหตุผลที่ไม่ได้เล่นนี่ไม่ได้กลัวนะคะ แต่แถวเค้ายาว จริงจริ๊งงง (เสียงสูงปี๊ดเลย)

[ทีมข่าวHFLIGHT]

5) Zootopia โซนนี้ใช้อาณาเขตกว้างจริง ๆ เพราะยำใหญ่รวมสิงสาราสัตว์ไว้หลายชนิด

จะขี่ม้าขี่อูฐก็มีที่ Alpine Village




จะเข้าไปใน Parrot Garden & Butterfly Waltz ชมนกสวนผีเสื้อก็ได้




หรืออยากนั่งรถชมโชว์สัตว์ระยะประชิดก็มีที่ Safari World ค่ะ




ม้าหมุน Royal Jubilee






Grand Stage ที่ใช้แสดงละครสัตว์มาดากัสก้า




และอีกมากมาย

[ทีมข่าวHFLIGHT]

มื้อเย็นของเราเป็นบะหมี่ซอสดำ หรือ "Jajangmyeon" ที่ร้าน China Moon ภายในสวนสนุกค่ะ






ทานเสร็จแล้วฟ้าก็เริ่มสลัวพอดี




ประมาณหนึ่งทุ่ม ผู้คนก็เริ่มมองหาที่ว่างและจับจองไว้สำหรับการชมไนท์ พาเหรด จนเมื่อถึงเวลาสองทุ่มไฟภายในสวนสนุกก็จะถูกหรี่ลงพร้อมกับเสียงดนตรีที่ค่อย ๆ ดังขึ้นมาสร้างความครื้นเครง อากาศกลางแจ้งในช่วงนี้ก็อยู่ที่สิบกว่า ๆ องศา กำลังเย็นสบายเลยล่ะค่ะ ตัวขบวนพาเหรดก็จะเริ่มต้นจากบริเวณ Rose Garden เลี้ยวขวาผ่านม้าหมุน Royal Jubilee ไปทาง Grand Stage ที่ใช้แสดงละครสัตว์มาดากัสก้า และจะไปหยุดที่ลาน Carnival พาเหรดก็ใช้ทั้งแสงสีและเสียงตกแต่งตัวคนและรถเป็นเรื่องราวต่าง ๆ อย่างตระการตา ลองชมภาพเลยแล้วกันค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Onemount - Snow Park

Goyang City, Gyeonggi-Do, Korea

เมืองโกยางมีลักษณะเป็น “ในเมือง” ถนนเป็นถนนหลานเลน อาคารสูง ๆ ก็จะพบเห็นอยู่บ้าง คงเพราะที่นี่ติดกับโซลค่ะ แต่ถนนก็จะโล่ง ๆ หน่อย แล่นรถกันชิล ๆ และจุดหมายแรกในการมายังเมืองโกยางครั้งนี้ก็คือ “Onemount” ซึ่งก็คือคอมเพล็กซ์แห่งหนึ่ง มีการจัดแบ่งเป็น 4 โซนค่ะ มี Shopping Mall : ที่รวมร้านค้าแบรนด์ดังทั้งอินเตอร์และของเกาหลีผลิตเอง Sport Club : ไว้สำหรับเสริมสร้างความแข็งแรงกัน และเป้าหมายของพวกเราก็คือ Snow Park : ดินแดนหิมะที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี และ Water Park : สวนน้ำที่มีให้เลือกทั้งแบบกลางแจ้งและในร่มค่ะ




เริ่มกันที่ Snow Park ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำละครมาหลายเรื่อง รวมทั้ง Full House เวอร์ชั่นไทย ในฉากที่คู่รักไมค์และอ้อมแอ้มมาสวีทด้วยกัน ซึ่งก่อนเข้าไปนั้นเราจะต้องมีการสวมเครื่องแต่งกายชนิดหนาพิเศษเพื่อเตรียมรับอุณหภูมิต่ำ ประมาณ 7 องศาเซลเซียส เข้ามาก็จะมีเครื่องเล่นน่ารัก ๆ แบบแดนหิมะให้เล่นกัน รวมทั้งเลื่อนซึ่งจะลากโดยเจ้าไซบีเรียน ฮัสกี้ที่แลดูพี่เค้ากระตือรือร้นจะออกกำลังกันซะเหลือเกิน เดินเข้าไปอีกโซนที่ทำอุณภูมิไว้ถึงติดลบเพื่อเล่นสไลด์เดอร์หิมะค่ะ โดยเราก็จะต้องสวมหมวกนิรภัย นั่งรอบนห่วงยางหนา แล้วก็จะถูกปล่อยให้สไลด์ลงมา ซึ่งมันก็ตัวเราจะหมุมวนอยู่หลายรอบเลยกว่าจะถึงพื้นด้านล่าง

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Onemount – Water Park

Goyang City, Gyeonggi-Do, Korea

บ๊ายยย เมืองหิมะ แล้วมาต่อที่สวนน้ำค่ะ ภายในก็จะมีร้านขายชุดว่ายน้ำและอุปกรณ์ต่าง ๆ มีล็อกเกอร์ฝากของ มีห้องอาบน้ำ ห้องแต่งตัว ซึ่งดูสะอาดเรียบร้อยมาก ๆ เลย เดินชมบรรยากาศสวนน้ำในร่ม








และโดยสารลิฟท์ขึ้นไปยังสวนน้ำกลางแจ้งซึ่งอยู่บนชั้นดาดฟ้าตึก

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สวนน้ำกลางแจ้งก็มีเครื่องเล่นประมาณนี้ค่ะ


















ส่วนนี่เป็นสไลเดอร์ที่จะเปิดใช้เฉพาะในช่วงที่หิมะตกค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Hanwha Aqua Planet

Goyang City, Gyeonggi-Do, Korea

สถานที่ที่จะทำให้ทุกคนได้ใกล้ชิดกับโลกใต้น้ำมากยิ่งขึ้น “ฮานวา อะควา พลาเน็ท” ก็คือหนึ่งในสถานที่เหล่านั้นค่ะ ในโซน The Aqua นี้ได้รวมสัตว์น้ำไว้มากหลาย ทั้งปลา หอย แมงกะพรุน สิงโตทะเล และเพนกวิน เป็นต้น มีโปรแกรมแสดงโชว์ต่าง ๆ หลายรอบในแต่ละวัน ที่ตู้ปลาขนาดใหญก็จะมีการแสดงระบำใต้น้ำเล่าเรื่องราวประกอบแสงเสียงโดยหนึ่งกะลาสีหนุ่มกับสองเหงือกสาว ซึ่งมีความพริ้วไหวมากแม้จะอยู่ในน้ำที่มีแรงต้านสูง ต่อมาก็จะเป็นการแสดงให้อาหารปลา ซึ่งให้แก่เจ้ากระเบนเป็นหลัก กระเบนตัวแบน ๆ มีตาอยู่ด้านบน มีปากอยู่ด้านล่าง การจะกินอาหารก็ดูจะน่ารักดีค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

อีกโซนก็คือ The Jungle ค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ภายใน Gift Shop จำหน่ายสินค้าที่ระลึก














ออกมาก็จะเจอกับ The Wall of Wishes

[ทีมข่าวHFLIGHT]

My Love From The Star Exhibition

KINTEX, Goyang City, Gyeonggi-Do, Korea

ก่อนลาเมืองโกยาง ขอแวะชมนิทรรศการชิค ๆ ที่เป็นการยกฉากเหมือนในซีรีย์เรื่อง My love from the star ที่เคยฉายที่ประเทศไทยในชื่อว่า “ซุปตาร์ตัวร้ายกับนายต่างดาว” ค่ะ เมื่อผ่านประตูมิติเวลามาก็จะเจอบรรยากาศในยุค 400 ปีก่อน ตอนที่ยานแม่พาพระเอก “โทมินจุน” มายังโลกมนุษย์ และเกิดลมพายุพัดเกี้ยวของนางเอก “ชอนซงอี” ไปตั้งหมิ่นเหม่ตรงหน้าผา แต่คุณพระเอกก็มาช่วยชีวิตคุณนางเอกไว้ได้ คุณนางเอกจึงมอบปิ่นปักผมหยกให้คุณพระเอกแทนใจ ทั้งเกี้ยวและทั้งปิ่นนั้นก็ถูกจัดแสดงอยู่กับเสื้อผ้าและข้าวของโบราณที่ใช้ถ่ายทำละครค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ผ่านไป 400 ปี โทมินจุนก็ยังกลับดาวไม่ได้ ส่วนชอนซงอี (ซึ่งเกิดใหม่กี่รอบแล้วไม่รู้) ก็บังเอิญมาซื้อคอนโดห้องติดกับมินจุน ฉากที่ทั้งสองพบกันอีกครั้งในยุคปัจจุบัน (ปี 2014) คือในลิฟท์ค่ะ ใกล้ ๆ กับลิฟท์ก็คือห้องของทั้งคู่บนชั้น 23 ซึ่งเมื่อเปิดห้องของซงอีก็จะพบตู้โชว์รองเท้า ซึ่งก็คงเป็นเรื่องธรรมดาของดาราสาว ๆ (ซงอีในยุคปัจจุบันเป็นดาราค่ะ) ที่จะต้องมีรองเท้ามากมายไว้เลือกใส่เข้ากับชุด การตกแต่งห้องของซงอีก็จะเป็นแบบผู้หญิงมีเครื่องประดับ เครื่องสำอางค์ และของประดับตกแต่งมากมาย

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ส่วนในห้องของมินจุนก็จะเรียบ ๆ เราได้เห็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน นอกชานที่มีกล้องดูดาวคู่ใจมินจุน และที่อลังการณ์มากในละครอย่างห้องหนังสือของโทมินจุน ที่นี่ก็โคลนมาซะเหมือนเป๊ะเลย










จักรยานที่เห็นในเรื่องเราก็ได้เห็นที่นี่ด้วยค่ะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เพราะคำร่ำลือว่าเทคนิก CG ละครเรื่องนี้สุดยอด ก็เลยมีกิจกรรมเจ๋ง ๆ ให้เลือกเล่นแล้วปริ้นภาพออกมาเป็นที่ระลึกได้ด้วยนะคะ

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เดินทางมาถึงเมืองคาพยอง บรรยากาศก็เริ่มแปลกตาไป สัมผัสได้ว่าธรรมชาติมากขึ้น จากตึกสูง ๆ ก็แปรเป็นบ้านเรือนชาวบ้านลักษณะชานเมืองตั้งห่าง ๆ กัน และเหตุผลที่ผู้คนเยือนเมืองคาพยองกันก็เพราะที่นี่รวมสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง เกาะนามิ (Nami Island) หมู่บ้านฝรั่งเศส (Petite France Village) สวนรวมพันธุ์ไม้ (The Garden of Morning Clam) เป็นต้น ซึ่งบางส่วนเราจะไปเยี่ยมชมในวันรุ่งขึ้น

 

 

Nami-OK

Gapyeong City, Gyeonggi-Do, Korea

แต่มื้อเย็นนี้เรามาฝากท้องที่ร้าน “Nami-OK” กันก่อนค่ะ เมนูเกาหลี๊เกาหลีในมื้อนี้ก็คือ “Dak Galbi” ก็เป็นกระทะแบน ๆ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 50 เซนติเมตร บนนั้นก็จะมีเนื้อไก่ มีต็อก (แท่งข้าวนุ่ม ๆ) และกะหล่ำปลี ผัดรวมกันด้วยซอสแดง วิธีทานก็คือห่อผักก่อนเข้าปากเช่นเดิมค่ะ เราก็ทานไปจนใกล้อิ่ม พนักงานก็เดินมาหยิบโถข้าวและถ้วยผักที่วางอยู่บนโต๊ะซึ่งเราเข้าใจว่าให้มาทานเป็นเครื่องเคียงนั้นเทลงไปผัดในกระทะ ถูกปากถูกใจอยู่เหมือนกันค่ะ เนื้อไก่นุ่ม ผัดซอสแดงที่มีรสชาติเฉพาะคือเผ็ดอ่อน ๆ หรือถ้าอยากรสจัดมากขึ้นก็เพิ่มปริมาณกิมจิลงไปได้

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Kensington Resort

Gapyeong City, Gyeonggi-Do, Korea

ที่พักของเราคืนนี้ชื่อเป็นฝรั่ง มองจากภายนอก เดินเข้าล็อบบี้ จนขึ้นลิฟท์มาถึงหน้าห้องแล้วก็ยังเป็นลักษณะแบบสากล แต่พอเปิดประตูเข้าห้องพักมานี่ฟีลลิ่งเปลี่ยนคนละเรื่องเลยค่ะ นึกว่ากำลังเดินเข้าบ้านแบบเกาหลี เมื่อเดินเข้าไป ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ถัดไปเป็นมุมทำครัวอุปกรณ์ครบครัน ส่วนฝั่งตรงข้ามก็เป็นห้องโล่ง ๆ ค่ะ พอเลื่อนบานประตูเปิดห้องตรงกลางเข้าไป ซ้ายมือเป็นโทรทัศน์ มีโต๊ะเตี้ย ๆ ตั้งอยู่ตัวหนึ่ง อีกฝั่งเป็นเป็นเตียงนอนและตู้เสื้อผ้า สำรวจไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มเข้าใจเพราะเราเจอฟูกนอน หมอน ผ้าห่ม 2 ชุด ไว้สำหรับปูนอนในห้องที่ตะกี๊เราสงสัยว่ามีไว้ทำไม ส่วนมุมครัวก็มีเอาไว้เตรียมต้มบะหมี่ค่ะ แล้วก็มานั่งชุมนุมกันที่โต๊ะหน้าทีวีตัวนั้นตอนดึก ๆ โดยรวมแล้วเป็นสไตล์และสีสันที่แปลกตา เปลี่ยนบรรยากาศไปเลย และแน่นอนว่าประทับใจมาก


















ก่อนนอนเราก็หาสวิตซ์ดับไฟยังไง๊ยังไงก็ไม่เจอค่ะ ที่แท้ก็มารวมอยู่ที่แผงรวมปุ่มตรงใต้ทีวีนี่เอง

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เช้านี้อุณหภูมิอยู่ที่ 10 องศาเซลเซียสค่ะ






สำรวจบริเวณโดยรอบโรงแรม








ห้องพักอีกรูปแบบนึงของที่โรงแรมนี้ค่ะ คือไม่มีเตียง มาถึงก็หยิบฟูกปูนอนพื้นเลยค่ะ เหมาะสำหรับในช่วงฤดูร้อน






มื้อเช้าที่นี่ไม่จัดเป็นบุฟเฟ่นะคะ แต่เสิร์ฟเป็นซุปปลาแห้ง “Bugeoguk” พร้อมเครื่องเคียงอีกเกือบ 10 อย่าง

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Petite France Village

Gapyeong City, Gyeonggi-Do, Korea

และตอนนี้ก็ถึงเวลาท่องเมืองคาพยองกันแล้วค่ะ รถแล่นไปตามถนนสายยาวที่ถูกขนาบข้างด้วยภูเขาโฮมิยอง (Mt. Homyeong) และทะเลสาบชอนเพยียง (Cheongpyeong lake) สัมผัสธรรมชาติไปสักพักก่อนจะมาถึง “หมู่บ้านฝรั่งเศส” ซึ่งเป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก (Petite เป็นภาษาฝรั่งเศสแปลว่า เล็ก น่ารัก บอบบาง) มีบ้านเรือนสีสันสดใสตามสไตล์ฝรั่งเศสตั้งลดหลั่นกันตามพื้นที่เนินเขา แสงแดดวันนี้ก็สดใสมากด้วย อุณหภูมินี่เพิ่มขึ้นจากตอนเช้าตรู่เร็วมาก มาถึง 28 องศาเซลเซียส มาช่วยกันเสริมให้สีสันของหมู่บ้านงดงามน่ารักสดใสมากยิ่งขึ้น

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สถานที่แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมฝรั่งเศสแห่งเดียวในเกาหลี และเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งซึ่งห่างจากเกาะนามิเพียงแค่ 10 กว่ากิโลเมตรเท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังเคยถูกใช้เป็นโลเคชั่นถ่ายทำซีรี่ย์เรื่อง Secret Garden, Beethoven Virus รวมทั้ง You Who Came From The Star ที่เราไปดูนิทรรศการกันมาเมื่อวานด้วย (ไม่ต้องงค่า เรื่องนี้เค้ามีหลายชื่อเรียก) แล้วก็มีรายการทีวีชื่อดังอย่าง Running man ที่มาใช้สถานที่นี้เช่นกัน สิ่งก่อสร้างภายในนี้ก็จะใช้วัสดุที่นำเข้ามาจากฝรั่งเศสแท้ ๆ และธีมหลัก ๆ เลยก็จะเป็น “เจ้าชายน้อย” ค่ะ สำหรับใครที่ชื่นชอบหนังสือ Le Petite Prince มาที่นี่ก็จะพบเจ้าชายน้อยอยู่หลายหนแห่ง และยังมีการปลูกดอกไม้ตามฤดูกาลที่มาช่วยให้หมู่บ้านแห่งนี้ดูสดใสยิ่งขึ้นไปอีก