47 replies to this topic

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

Advertisements

สวัสดีครับ เมื่อปีที่แล้วผมชำแหล่ะสิงโตน้อย เมื่อวันก่อนผมชำแหล่ะนกยักษ์ คราวนี้ได้เวลาชำแหล่ะเงือกน้อย เหล่าสรรพสัตว์ครบเลย เนื่องจาก สายการบินกานต์แอร์ ได้รับมอบเครื่องบินลำใหม่ แบบ ATR72-500 ขนาด 66 ที่นั่ง ซึ่งเป็นเครื่องบินแบบใบพัดที่ได้รับความนิยมในภูมิภาคนี้ และมีความปลอดภัยสูง และก็เป็นครั้งแรกที่ กานต์แอร์จะให้บริการแบบมีลูกเรือ (Cabin Crew) ให้บริการของว่างและเครื่องดื่มบนเที่ยวบินด้วย

จากเริ่มต้น กานต์แอร์ (Kan Air - K8) เป็นสายการบินขนาดเล็ก มีฐานการบินอยู่ที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ใช้เครื่องบินแบบ Cessna 208B Grand Caravan ขนาด 12 ที่นั่ง (ป้ายแดงใหม่เอี่ยม) ให้บริการมาตั้งแต่ต้นปี 2554 (แทนสายการบิน SGA หรือนกมินิ ซึ่งถอนการให้บริการเครื่องบิน Cessna ในเส้นทางย่อย) ในเที่ยวบินจากเชียงใหม่ สู่ อ.ปาย, แม่ฮ่องสอน, น่าน, เชียงราย และ พิษณุโลก (รวมถึงเส้นทางในอดีตอย่าง เชียงใหม่-แม่สอด และกาลครั้งหนึ่งเคยบิน เชียงใหม่-แม่สะเรียง !!) ทั้งนี้ให้บริการเส้นทางบินข้ามภาค เชียงใหม่-ขอนแก่น ทุกคืนวันเสาร์ โดยใช้เวลาบินกว่า 2 ชั่วโมง

 

ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กานต์แอร์ได้เริ่มทดลองให้บริการเที่ยวบินข้ามภาค จากเชียงใหม่ สู่ หัวหิน และ อุบลราชธานี (เริ่มบิน 15 สิงหาคม 2557) ด้วยเครื่องบิน Private Jet (Hawker Beechcraft Premier 1) ขนาด 6 ที่นั่ง ซึ่งบินได้นิ่งและรวดเร็วมาก ตามรีวิวนี้ http://www.hflight.n...s/topic/16063-/ซึ่งส่วนตัวผมมองว่า ทั้งเน้นทางหัวหิน และ อุบลราชธานี ต่างมีตลาดที่สามารถสร้างได้ หากทำการตลาดและการประชาสัมพันธ์ที่ดี พร้อมกับเวลาบินดีๆ เชื่อว่าจะไปได้สวยครับ

 

จนกระทั่ง เดือน ธันวาคม สายการบินกานต์แอร์ได้รับมอบเครื่องบินแบบ ATR72-500 ขนาด 66 ที่นั่ง จึงได้เริ่มให้บริการเที่ยวบินข้ามภาคอีกครั้ง ในเส้นทางการบินสู่ อุบลราชธานี, แม่ฮ่องสอน, ขอนแก่น และในอนาคตน่าจะเป็นหัวหิน โดยมีตารางบินเรียงตามลำดับดังนี้ (บินทุกวัน)

เชียงใหม่-อุบลราชธานี CNX-UBP 6.30 - 8.20

อุบลราชธานี-เชียงใหม่ UBP-CNX 8.40 - 10.30

เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน CNX-HGN 11.00 - 11.30 น.

แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ HGN-CNX 11.50 - 12.20 น.

เชียงใหม่-ขอนแก่น CNX-KKC 13.00 - 14.15 น.

ขอนแก่น-เชียงใหม่ KKC-CNX 14.35 - 15.45 น.

 

อนาคต (มโนไปก่อน แต่ตามนี้น่าจะบินได้ และน่าจะขายดี--ถ้าทำตลาดดีๆ)

เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน 16.45 - 17.15 น. (เสริมรอบเย็น)
แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ 17.35 - 18.05 น. (เสริมรอบเย็น)

เชียงใหม่-หัวหิน 18.40 - 20.10 น.

หัวหิน-เชียงใหม่ 20.30 - 21.50 น.

 

ภาพเครื่องเงือกน้อย ATR72-500 ของกานต์แอร์ ณ สนามบินอุบลราชธานี (ไฟล์ทแรก 10 ธันวาคม 2557 ขอบคุณกัปตันพี่นิวด้วยครับ)

 

ส่วนเวลาบิน Cessna เงือกจิ๋ว ก็ค่อนข้างแน่นอยู่ครับ
เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน CNX-HGN K8 721 8.10 - 8.45 น. (ทุกวัน)

แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ HGN-CNX K8 722 9.05 - 9.40 น. (ทุกวัน)

เชียงใหม่-ปาย K8 741 (จันทร์/พุธ/ศุกร์/เสาร์/อาทิตย์) / เชียงใหม่-เชียงราย (อังคาร/พฤหัส) K8713 10.20 - 10.45 น.

ปาย-เชียงใหม่ K8 742 (จันทร์/พุธ/ศุกร์/เสาร์/อาทิตย์) / เชียงใหม่-เชียงราย (อังคาร/พฤหัส) K8714 11.00 - 11.25 น.

เชียงใหม่-น่่าน CNX-NNT K8 733 14.00 - 14.45 น. (ศุกร์/อาทิตย์)

น่าน-เชียงใหม่ NNT-CNX K8 734 15.05 - 15.50 น. (ศุกร์/อาทิตย์)

เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน CNX-HGN K8 725 16.10 - 16.45 น. (ทุกวัน)

แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ HGN-CNX K8 726 16.50 - 17.20 น. (ทุกวัน)

เชียงใหม่-พิษณุโลก CNX-PHS K8 773 17.50 - 18.50 น. (จันทร์/พุธ/ศุกร์/อาทิตย์)

พิษณุโลก-เชียงใหม่ PHS-CNX K8 774 19.20 - 20.50 น. (จันทร์/พุธ/ศุกร์/อาทิตย์)

เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน CNX-HGN K8 727 18.05 - 18.40 น. (อังคาร/พฤหัส)

แม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่ HGN-CNX K8 728 18.50 - 19.25 น. (อังคาร/พฤหัส)

 

ผังที่นั่งเครื่องเงือกจิ๋ว Cessna 12 ที่นั่ง ที่หลายๆ คนเรียกว่าเหมือนรถตู้บินได้ก็ตามนี้ครับ

 

และในเดือนมกราคม เครื่องบินแบบ ATR72-500 ลำที่สอง HS-KAE (ผมเรียกว่าคุณเก๋) ก็จะมา ประจำที่ดอนเมือง

และเตรียมเปิดเส้นทางการบินจากดอนเมืองสู่หัวเมืองต่างๆ (ที่แน่ๆ น่าจะเป็น ดอนเมือง-แม่สอด) ก็ต้องรอดูครับ

(พูดง่ายๆ ก็คือ กานต์แอร์มีเครื่อง 4 ลำ อยู่ เชียงใหม่ 2 ลำ (เงือกจิ๋วกับเงือกน้อย) ดอนเมืองมี 2 ลำ (เงือกไพรเวท กับเงือกน้อยลำสอง) นั่นเอง)

 

และอีกโครงการหนึ่ง ซึ่งเป็นโครงการใหญ่ของสายการบินกานต์แอร์ ก็คือ "สนามบินเกาะพะงัน" ซึ่งก็อยู่ระหว่างการก่อสร้าง

โดยบริษัทในเครือ (บริษัท กานต์นิธิ คอนสตรัคชั่น จำกัด) ก็หวังว่าจะได้เปิดให้บริการในปีหน้า

รายละเอียดคร่าวๆ ดูที่นี่ได้ครับ http://www.kanairlin...hangan-airport/

 

พร้อมกับ อีกธุรกิจหนึ่งก็คือ สายการบินต้นทุนต่ำ ไทยเวียตเจ๊ท (เป็นการร่วมทุนระหว่าง สายการบินกานต์แอร์ ของไทย และ สายการบินเวียตเจ๊ท ประเทศเวียดนาม) ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างรอเครื่องบินแอร์บัส A320 ลำที่สอง (ทะเบียน HS-VKB) เข้ามาประจำการจึงจะสามารถเปิดให้บริการได้ ตามเงื่อนไขของกรมการบินพลเรือน ตามกำหนดเตรียมเปิดให้บริการเที่ยวบินจาก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเดือนมีนาคม 2558 (กำหนดแถลงเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 19 ธันวาคมนี้ แต่ยังไม่เปิดให้จองครับ)

 

ในกระทู้นี้เราก็จะได้รู้จักเครื่องบิน ATR72-500 ลำแรก HS-KAD ของกานต์แอร์มากขึ้น

และจะได้รู้จักว่า กานต์แอร์มี Service การให้บริการบนเที่ยวบินอย่างไร เพราะกานต์แอร์ไม่ใช่สายการบินต้นทุนต่ำครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

จริงๆ ที่มาของทริป [SR] นี้ค่อนข้างกระชั้นมากครับ

คือ ทางฝ่าย PR โทรมาชวนผมซะกลางดึกคืนวันที่ 6 ธันวาคม ระหว่างที่ผมกำลังปั๊มกระทู้ชำแหล่ะนกยักษ์พอดี

โดยมีกำหนดบินวันที่ 7 ธันวาคม ตอนบ่ายโมง ซึ่งเป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์บินตรง เชียงใหม่-ขอนแก่น โดยใช้เครื่องบินแบบ ATR72-500 บินเป็นครั้งแรก อีกทั้งผู้โดยสารน้อยเพราะเพิ่งเปิดวันแรก ไหนๆ เครื่องก็มีแล้ว ก็บินเลย รวดทำการประชาสัมพันธ์ เชิญสื่อบางส่วนขึ้นเครื่องจากเชียงใหม่และอีกส่วนรอรับและถ่ายรูปที่สนามบินขอนแก่น

 

ซึ่งส่วนตัวผม ก็ได้ยินข่าวเรื่องเครื่องบิน ATR และตามข่าวการเทรนลูกเรือมาพักหนึ่ง ซึ่งสายการบินนี้ก็เป็นสายการบินเล็กๆ ที่พนักงานสนิทสนมกันเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่ละตำแหน่งทำงานกันแข็งขัน และ บางทีก็ไปช่วยงานอื่นของบริษัทได้ด้วย (ทึ่งเลยหล่ะ) คือตัวผมผมลุ้นกับ Thai VietJet มากเพราะแถลงข่าวตอน Joint Venture กันก็ตั้งแต่กลางปี 2556 แล้ว นานจนหลายๆ คนจะลืม (กระทู้นี้เลย http://pantip.com/to...opic/30654550 )ซึ่งสำหรับไทยเวียดเจ๊ทก็อย่างว่าเนาะ เป็นกิจการที่ มีทั้ง พ่อและแม่ พ่อและแม่ต้องพร้อม ถึงจะคลอดลูกได้ โดยสิ่งที่ช้า ก็คือ เครื่องบิน นั่นเอง (นักบิน ลูกเรือ เหมือนพร้อมตั้งแต่ปี 56 แล้วด้วยซ้ำ ก่อนสิงโตคลอด จนตอนนี้สิงโตมีฝูงบินจะครบ 10 ลำแล้ว เหตุเพราะ แม่อินโด มีเครื่องพร้อมส่งมอบ ส่วนแม่เวียดนาม แกเพิ่งจะสั่ง ขยับตัวช้ากว่า ก็จึงเป็นอย่างที่เห็น -- รอ HS-VKB มาก่อนครับ) ก็เอาใจช่วยอยู่ครับ ในฐานะที่เป็นสายการบินขนาดเล็กแต่เจ้าของใจสู้(มาก) จริงๆ

 

เอาหล่ะครับ การเดินทางต้องเริ่มที่เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินกานต์แอร์ ตอนนี้ AOT เชียงใหม่ ให้สองเคาน์เตอร์แล้ว (จากเดิมมีแค่ช่องเดียว) เคาน์เตอร์เช็คอินเปิดราว 1.30 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง และปิด 30 นาทีก่อนเดินทาง ทั้งนี้ ..... กรณีผู้โดยสารน้อยมาก เจ้าหน้าที่อาจโทรตามรายบุคคลครับ (เคยเจอมาแล้ว ตอนไฟล์ทหัวหิน โทรตามดีจริง)

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

กระบวนการ เนื่องจากบางช่วงมีเจ้าหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์แค่คนเดียว + เจ้าหน้าที่ช่วยติด Tag อีก 1

อาจจะต้องใช้เวลาหน่อยครับ ไปตั้งแต่เนิ่นๆ ครับ (กานต์แอร์อาจจะคุ้นกับเที่ยวบินเงือกจิ๋ว แต่ผมว่าถ้ามี ATR แล้ว ต่อไปควรเปิดทั้ง 2 ช่องนะครับ)

 

สายการบินนี้ แน่นอนครับ ฟรีโหลดสัมภาระ 15 กิโลกรัม (Kan Promo, Kan Saver), เลือกที่นั่งฟรี

(สำหรับ Kan Flexi โหลดฟรี 20 กิโลกรัม เลือกที่นั่งฟรี เปลี่ยนเที่ยวบินได้ฟรี Unlimited)

วิธีการเลือกทีนั่ง ก็แบบบ้านๆ ง่ายๆ แต่ชัดเจน ให้เห็นกันเต็มๆ คือ บนเคาน์เตอร์จะมีผังที่นั่งให้เลือก เลือกตามอัธยาศัยเลยครับ

ส่วนตัวผม ถ้าบิน Cessna ผมชอบเกาะหลังนักบิน เห็นการทำงานทุกอย่างชัด และเห็นภาพระหว่างการนำเครื่องขึ้นและลงด้วย (วิวนี้นั่งเครื่องใหญ่ไม่เห็น) ส่วน ATR ก็แล้วแต่สะดวกครับ แถวแรกสุดกว้างขวาง แถวอื่นๆ ก็ปกติครับ ทุกที่นั่งมีหน้าต่าง

 

ส่วนการบริการบนเครื่องบินนั้น...

 

เส้นทางที่บินโดย Cessna เงือกจิ๋ว 12 ที่นั่ง จะมี Snack Box ของว่าง-น้ำดื่มแจกที่หน้า Gate (บนเครื่องมีนักบิน 2 คน และผู้โดยสาร 12 ที่นั่ง ไม่มีลูกเรือ)

เจ้าหน้าที่ภาคพื้นหน้า Gate จะแจกก่อนที่จะ Boarding ที่ Gate 11 ก็ตามสะดวกครับ จะทานเลยหรือเก็บไปทานบนเครื่องก็ได้ ถือว่าได้บริการแล้ว สภาพในกล่องก็ ..... มินิ สมกับเส้นทางระยะสั้นๆ ครับ  (อันนี้ภาพตอนที่บินเครื่องไพรเวทเจ๊ทไปหัวหิน ใช้ Snack Box เดียวกับเส้นเงือกจิ๋วบินใกล้ๆ -- ทราบมาว่ากล่องนี้กำลังจะเปลี่ยนรูปแบบแล้ว เพราะใช้มาตั้งแต่เปิดสายการบินตอนปี 54 ครับ)

 

ส่วนเส้นทางบินที่บินโดย ATR72-500 จะมีลูกเรือให้บริการบนเครื่องบิน (ลูกเรือ 2 คนต่อผู้โดยสาร 66 ที่นั่ง) ในกระทู้นี้ก็จะไปดูกันครับ

 

แนะนำว่าถ้าเดินทางออกจากเชียงใหม่ ฝั่งฝ่ายในประเทศ วันอาทิตย์ควรเผื่อเวลาไว้เยอะๆๆๆ ครับเพราะคนเยอะม๊ากกกก จริงๆ

อย่าลืมเตรียมบอร์ดดิ้งพาส พร้อมบัตรประชาชน แสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วยครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

บอร์ดดิ้งพาส กานต์แอร์ เชียงใหม่-ขอนแก่น ......

 

และแน่นอน .... กานต์แอร์ขึ้นเครื่องที่ Gate 11 ครับ เป็น Bus Gate ประจำชั้นล่างของเขา

 

ก็หวังว่า ซักวันหนึ่งจะคึกคักกว่านี้ครับ ตอนนี้เว็บมีปัญหา โทรจองตั๋วที่ 02-5516111 ไปพลางๆ ก่อนแล้วกันครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เครื่องมาจากแม่ฮ่องสอนแล้วครับ ตอนนี้ใช้เครื่องบินไปแม่ฮ่องสอนช่วงกลางวัน และช่วงเย็น ซึ่งเท่าที่อ่านเฟสบุ๊กดูเหมือนชาวแม่ฮ่องสอนจะตื่นเต้นกันมาก ที่ได้เห็น ATR กลับมาบินแม่ฮ่องสอนอีกครั้ง หลังจากที่หายไปนาน ผมว่าลูกค้าประจำชาวแม่ฮ่องสอน ที่ต้องบินกานต์แอร์เป็นประจำ ก็น่าจะชอบด้วย ได้นั่งเครื่องใหญ่ขึ้นกว่าเดิม

 

ปกติ ... ท่านที่เคยบินกับกานต์แอร์ จะทราบว่า

กานต์แอร์จะมีรถตู้คู่บุญอยู่ 1 คัน คือเจ้า Toyota Commuter ที่ติดสติ๊กเกอร์กานต์แอร์รอบทั้งคัน ...

ซึ่งเหมาะมากสำหรับการขนผู้โดยสารบินเครื่อง Cessna เงือกจิ๋ว 12 ที่นั่งพอดีเลย

 

คำถาม ... ถ้าผู้โดยสารเยอะๆ จะทำอย่างไร ??

ถ้าคนไม่เยอะ ก็รถตู้คุ่บุญเจ้าเก่า เวียนรับครับ เวียนสองรอบ สามรอบก็ได้ เพราะเครื่องบินจอดอยู่ไม่ไกลเอง รอแป๊บเดียว

รอบแรกลูกเรือไปก่อน รอบสองผู้โดยสารตามไป รถตู้คันเดิมใช้คุ้มครับ ขากลับก็เหมือนกัน ผู้โดยไปก่อน ลูกเรือเคลียร์เครื่องแล้วรอรถตีกลับมารับ

แต่ถ้าคนเยอะมาก จะเช่ารถของ BAGS (เครือบางกอกแอร์เวย์ส) มารับ-ส่งผู้โดยสารครับ

 

เอาหล่ะครับ มาถึงข้างเครื่องกันแล้ว ส่วนตัวผมขึ้น ATR72 ครั้งสุดท้ายก็ตอนบิน PG ไฟล์ทตราด-สุวรรณภูมิ

สำหรับประวัติเดิมของคุณแคด (HS-KAD) นางเคยเป็นมหาราณีเมืองแขกอินตะระเดีย แห่ง Kingfisher Airlines

หลังจากราชาแห่งการจับปลาล้มละลายลง นางก็จอดนิ่งๆ แล้วก็รอสายการบินอื่นๆ มารับไปต่อ ซึ่งกานต์แอร์ก็ได้รับนางมาปัดโฉมเป็นน้องเงือกน้อยคนงามประจำ Hub เชียงใหม่ นั่นเอง ต้องขอบอกว่า สภาพเครื่อง ดูดีกว่าที่คิดมากๆ ครับ ภายนอกเพิ่งทำสีใหม่ แต่ภายในก็เอี่ยมมาก **ไม่มีกลิ่นแขกจ้า** ไปดูกัน

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ปกติการให้บริการด้วยเครื่อง ATR72-500 จะมีลูกเรือทั้งหมด 2 คนครับ (นั่งหัวและท้ายเครื่อง)

 

แต่เนื่องจากนี่เป็นไฟล์ทปฐมฤกษ์ กานต์แอร์ก็เลยจัดเต็มลูกเรือมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้หน่อย แถมมีครูฝึกลูกเรือใจดีมาประกบควบคุมการผลิตด้วยตนเอง

ขอมุมบังคับซักนิดทั้งด้านหน้า และด้านหลังครับ

 

เนื่องจากที่นั่งโซนหน้าว่างครับ ขอไปอยู่ข้างหน้าดีกว่า (ชอบใบพัดเป็นพิเศษ)

ตำแหน่งที่ผมนั่งคือแถว 3 เห็นใบพัดชัดเจนมาก แต่จะไม่เสียงดังเท่ากับแถว 4-5 ซึ่งตรงแนวใบพัดพอดี (อันนี้อาจจะรู้สึกไปเองครับ)

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

นั่งสบายไหม ขอบอกเลยว่า สบายม๊ากกกกก

 

ถามว่า อ้าวนางเคยเป็นมหาราณี เมืองแขกอินตะระเดีย จะมีกลิ่นไหม ?

ตอบว่า ไม่มีจ้า .... ทุกอย่างดูเอี่ยมมาก เบาะดูดีกว่าที่คิด (ถ้าใครเคยบินเครื่อง ATR72-500 ของ PG ลำแรกๆ จะรู้สึกว่าป้าแกโทรมมาก ตัวนี้ดีกว่าครับ อย่างน้อยกระจกรวมๆ ก็ยังใสวิ๊งกว่า)

 

คู่มือความปลอดภัยอยู่ในกระเป๋าด้านหน้าที่นั่งของท่าน กรุณาศึกษาอย่างละเอียดด้วยครับ

 

ปล. อยากจะบอกว่ากระจกที่นั่ง 3F เหมือนจะใสกว่ามากครับ 3A ยังขุ่นๆ นิดหน่อย ต้องแล้วแต่บาน เทียบรูปไฟล์ทขากลับได้ครับ

 

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

นั่งเครื่องบินเจ๊ดมาบ่อยๆ แล้ว แนะนำนั่ง Turboprop แล้วตื่นเต้นดีครับ (พวกบ้าใบพัด) เวลาติดเครื่องยนต์ทีละข้าง รวมถึงเวลา taxi

และแน่นอน กานต์แอร์ มีลูกเรือให้บริการบนเครื่อง ก็ต้องมีการแสดงการสาธิตวิธีการใช้อุปกรณ์นิรภัยต่างๆ ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน แบบสดๆ ครับ

 

นี่คือเข็มขัดรัดที่นั่ง This is your Seat Belt

 

เมื่อความดันอากาศมีปัญหา พนักงานต้อนรับจะเป็นผู้เปิดช่องเก็บหน้ากากออกซิเจนให้แก่ท่าน ?

(ตรงประโยคนี้งงนิดนึง แปลว่าลูกเรือจะต้องเดินมาเปิดให้ มันจะไม่ตกลงมาเอง ใช่ไหมครับสำหรับ ATR72 --- อันนี้ขอเช็คก่อนครับ)

 

ไปตั้งลำเตรียมขึ้นบินกัน เราขึ้นทางทิศใต้ครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

หายไปนาน มาต่อแล้วครับ รอดูว่าหน้าเว็บของกานต์แอร์ใช้ได้หรือยังด้วย

 

ตอนนี้จองตั๋วผ่านหน้าเว็บกานต์แอร์ http://www.kanairlines.comได้แล้วครับ

ราคาจะมี 3 step คือ Kan Promo, Kan Saver (โหลดกระเป๋าฟรี 15 โล เลือกที่นั่งฟรี เปลี่ยนเที่ยวบินมีค่าธรรมเนียม)
และ Kan Flexi (โหลดกระเป๋าฟรี 20 โล เลือกที่นั่งฟรี เปลี่ยนเที่ยวบินฟรี unlimited) ราคาที่เห็นยังไม่รวมภาษีใดๆ

 

ราคา 990 บาทยังไม่รวมภาษีครับ พอรวมออกมาแล้ว ขาออกจากเชียงใหม่เป็น 1,159.30 บาท

ส่วนขากลับ (จาก อุบลราชธานี, แม่ฮ่องสอน, ขอนแก่น) เป็น 1,109.30 บาท ตามภาพนี้เลย

 

อีกวิธีการจองก็คือ Call Center ครับ 02-5516111 จัดไปทางนั้นได้

 

ไปเหินฟ้ากันต่อ ทะยานออกจากท่าอากาศยานเชียงใหม่เรียบร้อย (ส่วนตัวผมชอบจังหวะตอน ATR เร่งเครื่องมากๆ)

[sitsmb]

มารอชมต่อครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ใช้เวลาไม่นาน เครื่องก็ไต่ระดับได้ สัญญาณเตือนรัดเข็มขัดดับลง

 

สำรวจกระเป๋าด้านหน้าที่นั่ง มีใบปลิวเล็กๆ แสดงตารางการบิน

 

และโฆษณาธุรกิจในเครือ ก็คือ Kan Car Rent บริการรถเช่าซึ่งให้บริการโดยกานต์แอร์ (ทำเอง) ทุกจุดบินที่มีเที่ยวบินกานต์แอร์ขึ้น-ลง

แตกต่างจากบริษัทรถเช่าอื่นๆ ก็ตรงที่ ถ้าไม่อยากเช่าทั้งวันก็ได้ เช่าขั้นต่ำแค่ 3 ชั่วโมงก้ได้ สำหรับคนที่มีเวลาจำกัด หรือต้องการใช้รถไม่มาก รายละเอียดตามภาพครับ

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ลูกเรือเตรียมให้บริการของว่าง และเครื่องดื่มแล้ว เริ่มจากการประกาศแนะนำเที่ยวบิน และประกาศว่าจะเริ่มให้บริการของว่างและเครื่องดื่ม

 

โดยสิ่งที่ได้รับก่อนก็คือ Snack Box นั่นเอง แต่ภายใน "แน่น" กว่าเดิมครับ (คล้ายกับสิ่งที่ผมคอมเม้นท์ในกระทู้ไพรเวทเจ๊ทหัวหิน เค้าก็อ่าน)

 

ตามด้วย เครื่องดื่มหลากหลายแบบ สำหรับเที่ยวบินที่บินไกล คือ เชียงใหม่-อุบลราชธานี และ เชียงใหม่-ขอนแก่น จะเสิร์ฟของร้อนคือ ชา-กาแฟ ด้วย

ในขณะที่ เที่ยวบินเซิ้งกระจาย ขึ้นแล้วเสิร์ฟเสร็จรีบเตรียมลง อย่าง เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน จะเสิร์ฟเฉพาะเครื่องดื่มเย็น นั่นก็คือ น้ำอัดลม (โค้ก, สไปร์ท) และน้ำเปล่า เท่านั้น

 

ในกล่อง Snack Box จะเห็นได้ว่า เสิร์ฟเป็นเบเกอรี่จากร้านแดง (ร้านดังในเชียงใหม่) และน้ำส้มใช้ของร้านฝ้าย (อีกร้านดังเหมือนกัน) ส่วนตัวผมก็คิดว่า เหมาะสมขึ้นกับเที่ยวบินระดับ 1 ชั่วโมงครับ ที่ชอบมากคือ ถ้าสั่งเครื่องดื่มน้ำอัดลมแล้วได้ยกกระป๋องมาเลย (เหมือนไฟล์ทอินเตอร์ อิอิ) 

 

ที่น่าทึ่งกว่านั้น ในระยะต่อไป เส้นทาง เชียงใหม่-อุบลราชธานี-เชียงใหม่ และ เชียงใหม่-ขอนแก่น-เชียงใหม่ จะเสิร์ฟ "อาหารร้อน" ครับ ก็ต้องดูหล่ะว่าจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่าเลือกอาหารจากแหล่งไหนด้วย ถ้าครัวการบินที่เชียงใหม่ ก็คิดหนักนะ (เห็นกระทู้ PG บ่นกระจุยกระจาย แต่ผมว่าเลือกได้ อย่าง TG123 คุณภาพก็โอเคตามที่สายการบินสั่ง) แต่ถ้าจะลองเป็น "นักล่าทะเล" อย่างที่พี่สิงโตใช้ ไม่รู้ออกมาจะเป็นแบบสิงโตหรือเปล่า (คือหน้าตาลำบากใจที่จะทาน) 

 

หลังจากที่เดินรถเข็นเสร็จ (บนรถเข็นรอบแรกจะมีทั้งของร้อนและของเย็น ต้องการอะไรแจ้งลูกเรือได้เลย) ลูกเรือจะเดิน ชา และ กาแฟอีก 1 รอบ ปิดท้ายด้วยน้ำเปล่า (ใช้น้ำแร่ออร่าขวดใหญ่ รินใส่แก้ว) ทั้งนี้ ลูกเรือจะถือมาเป็นถาด พร้อมกับคว่ำแก้วตั้งไว้ รบกวนคุณผู้โดยสาร หยิบแก้วหงายขึ้นมาวาง ให้ลูกเรือรินให้ ส่วนครีมเทียม น้ำตาล จัดตามอัธยาศัยครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เอาหล่ะครับ สำรวจเคบินกันซักนิด ส่วนตัวรู้สึกว่า ภายในเอี่ยมมาก แม้จะไม่ใช่เครื่องใหม่กิ๊กก็ตาม

 

และที่นั่งที่น่าจะกว้างขวางที่สุด นั่นก็คือ Emergency Exit แถวแรกสุดครับ

ตอนที่ผมบิน PG ช่วงกลางปี ไปทำรีวิวโรงแรมในโครงการ Thailand Boutique Awards ซึ่ง PG เป็นผู้สนับสนุนหลัก ได้นั่งแถว 1 หน้าสุด บ่อยมาก เหมือนระบบตั้งค่าไว้ว่าถ้าบุ๊กกิ้งนี้เป็น VIP จะจับให้นั่งแถว 1 ซึ่งแถวนี้ก็จะได้เปรียบตรงมีที่ว่างเหยียดขาได้เต็มที่ และมีความเป็นส่วนตัวมาก แต่เวลาลงจากเครื่องจะได้ลงเป็นลำดับสุดท้าย เพราะประตูอยู่ท้ายเครื่องนั่นเอง

 

ใกล้ถึงปลายทางแล้วครับ (รู้สึกว่าเที่ยวบินจะดีเลย์จากกำหนดเดิมมาพอสมควรเหมือนกัน)

 

มองลงไป แน่นอนไม่ผิดที่แน่ อีสานบ้านเฮา

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ลดระดับลงสู่ ท่าอากาศยานขอนแก่น เรียบร้อย ดีครับ

 

กลับหัวกลางรันเวย์ มองออกไปเห็นน้องยิ้มกำลังจะกลับกรุงเทพ

 

ข้างล่างมากันละครับ เพียบเลย .... รู้สึกว่าสายอีสานนี่จะคึกคักดีจริงๆ ครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ไปแอบดูห้องนักบินกันซักนิดนึ่ง
จากประตูด้านหน้าแถวที่ 1 (ซึ่งจะมีที่นั่งลูกเรือแบบเลื่อนเก็บได้)

ก็จะเป็นห้องเก็บสัมภาระ และเดินไปอีกนิดก็จะเป็นห้องนักบินครับ

 

ขอขอบคุณคุณกัปตัน และคุณพี่นักบินที่พามาส่ง (และเดี๋ยวจะพาตีกลับครับ)

 

ขอเคบินแบบโล่งๆ อีกซักที

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ข้างนอกมีสภาพเป็นงานวันเด็กไปแล้วครับ แห่ะๆๆ

ก็ต้องขอขอบคุณทาง กรมการบินพลเรือน และท่าอากาศยานขอนแก่น ที่เปิดโอกาสให้ถ่ายรูปได้อย่างเต็มที่

และที่สำคัญ ฟ้าเป็นใจมากๆ เมฆ บังแดดพอดี !! ทึ่งตรงที่ ช่วงที่เครื่องจอดอยู่ ไม่มีแดดเลย แต่พอเครื่องออกปุ๊ป แดดมาทันที

 

ออกมาสูดอากาศขอนแก่น แป๊บเดียว จริงๆ

 

เอาหล่ะครับ สำรวจเครื่องบินกันดีกว่า สำหรับผู้โดยสารตัวจริง สามารถเดินเข้าไปในอาคารเพื่อรับกระเป๋าได้เลยครับ

 

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เดินรอบๆ กัน เค้าจะถ่ายรูป ก็แล้วแต่เค้า อิอิ

 

เราเดินชมเครื่องบิน เพราะถ้าจอดที่อื่น น่าจะทำแบบนี้ไม่ได้แน่ๆ (เชียงใหม่ยิ่งไม่ได้ใหญ่เลยยย)

 

แพนหางคู่กับป้ายสนามบินขอนแก่น

 

เดี๋ยววนไปด้านหน้าบ้าง

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

หัว ATR

 

สำหรับ ATR72-500 ห้องเก็บสัมภาระอยู่หลังห้องนักบินพอดี

 

ด้านข้างอีกนิด

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ด้านขวาบ้าง ใกล้ได้เวลาขึ้นเครื่องกลับแล้วครับ (แบบ quick-turn ของจริง)

 

ลอดใต้ปีกเพื่อความเป็นสิริมงคล

 

และสุดท้าย พี่ๆ สื่อขอนแก่นกำลังสัมภาษณ์ ร้อยเอกสมพงษ์ สุขสงวน ประธานสายการบินกานต์แอร์ ครับ

ส่วนตัวผมรู้สึกว่าพี่เขาเป็นเจ้าของสายการบินที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย และเป็นกันเองมากที่สุด ที่ผมเคยพบครับ

ผมเจอพี่เขาครั้งแรกตอนกุมภาพันธ์ 2554 ในเที่ยวบิน Test Flight ไปเมืองปาย ตอนนั้นกานต์แอร์เพิ่งได้เครื่อง Cessna เงือกจิ๋วมา

น้อง 001 JZ Team โทรมาชวนให้ไปบิน ก็เลยได้ไปลอง และได้รู้จักก็คราวนั้นครับ ค่อนข้างทึ่งมากกับความเป็นนักสู้ของพี่เขา

ในการทำธุรกิจหลายๆ อย่าง อย่างกานต์แอร์ ก็เป็นหน่วยธุรกิจเล็กๆ ส่วนหนึ่งในธุรกิจเครือกานต์นิธิ ซึ่งส่วนตัวผมเห็นมา 3 ปี ก็ให้บริการแนว CSR เยอะครับ เช่นเที่ยวบินพิเศษเพื่อรับผู้ป่วยจากโรงพยาบาลแม่ฮ่องสอน ส่งรักษาต่อที่เชียงใหม่ในช่วงกลางคืน ก็มีอยู่เนืองๆ ตามคำร้องขอของศูนย์นเรนทร (ผู้ป่วยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ) หรือการรับ-ส่งเวชภัณฑ์ หรือเลือด จากสนามบินที่มีกานต์แอร์ให้บริการ ส่งมากับเที่ยวบินกานต์แอร์ ก็ส่งฟรีได้เลย เป็นต้น

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เอาหล่ะครับ ได้เวลาโบกมือลา ขอนแก่น กลับเชียงใหม่กัน

Boarding ผู้โดยสารปกติขึ้นเครื่องครบ สำหรับ Wheel Chair ก็เอาไปได้ครับ ฟรี ไม่มีปัญหา

 

เข้าประจำที่ ผมมานั่งฝั่งขวาบ้าง (ขอนแก่น-เชียงใหม่ ฝั่งขวาแดดไม่ส่อง) ตรง 3F กระจกใสวิ๊งๆ

 

ที่น่าทึ่งคือ พอเครื่องออกปุ๊บแดดมาพอดีครับ มหัศจรรย์มาก ตอนที่เครื่องจอดไม่มีแดดเลย เย็นสบายยยย
แบบนี้เรียกว่าท้องฟ้าเป็นใจจริงๆ ครับ