52 replies to this topic

[MrBew]

Advertisements

ที่ห้ามพลาด! หากใครมาถึงฮาราจูกุแล้ว นั้นก็คือ การแวะชิมเครป ชื่อดังถือว่าเป็นเจ้าแรกๆ เลยก็ว่าได้ที่ทำให้เครปสไตล์ญี่ปุ่นโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งร้านเครปนี้จะตั้งอยู่กลางซอยทาเคชิตะ มีอยู่สองร้านที่เก่าแก่พอๆ กันตั้งประจันหน้ากันเลยทีเดียว แต่ร้านที่มีชื่อเสียงมากที่สุดนั้นก็คือ MARION CREPES ที่ถือว่าเป็นร้านเครปสไตล์ญี่ปุ่นอันเก่าแก่ที่เปิดบริการมานานที่สุดใน ญี่ปุ่น ร้านนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 1976 มีเครปอร่อยๆ ให้บริการกว่าหลายสิบเมนู ตัวแป้งนั้นนุ่มและอร่อยอย่างเต็มคำด้วยไส้ต่างๆ ที่ใส่อย่างทะลัก แถมครีมที่มีรสชาติหวานมันอร่อยเหาะ ทำให้เครปร้านนี้เป็นขวัญใจวัยรุ่นมาจนถึงทุกวันนี้ (Cr. http://roojingjapan.com)

[MrBew]

หลังจากนั้น พอบ่ายแก่ๆ หน่อย นั่งรถไฟใต้ดิน ย้อนกลับไปที่ สถานี UENO แล้วไปเดินเล่นที่ AMEYOKO STREET (ถนนใต้รางรถไฟ JR UENO) เพื่อไปหา ข้าวหน้าปลาดิบ/ข้าวหน้าปลาทะเล ทานครับ แล้วอยู่เดินดูของช็อปปิ้งนิดหน่อยครับ






เมนูครับ ราคาไม่แพงมาก

วันนี้ผมได้ทำการ เปลี่ยน JR PASS 7DAY  ที่ซื้อจากเมืองไทย เป็นบัตรจริง เพื่อเปิดใช้งาน (17-23 NOV, 2013) พร้อมกับ จองตั๋วรถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen) และรถไฟต่างๆ ที่จะใช้สำหรับ เดินทางไป Kawaguchiko และ KYOTO ในวันต่อๆไปครับ

[MrBew]

ช่วงเย็น ไปนั่งชมพระอาทิตย์ตก ที่ตึก ROPPONGI HILLS MORI TOWER (TOKYO METRO ลงที่สถานี ROPPONGI แล้วออกตรงทางออก 1C) ครับ

[MrBew]

จุดชมวิวเมืองในมุมสูงนั้น ดูจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวและนักถ่ายภาพ ที่ต้องไปเก็บภาพความประทับใจไว้
และถ้าพูดถึงตึกสูงในโตเกียวที่มีชื่อเสียงในเรื่องนี้แล้วล่ะก็ต้องยกให้ ตึก ROPPONGI HILLS MORI TOWER นี่แหละครับ ที่ว่ากันว่าเป็นจุดชมวิวในมุมสูงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียว ครับ





มองเห็น TOKYO TOWER ด้วยครับ




เห็น สะพานสายรุ้ง Rainbow bridge ด้วยนะครับ อิอิ

 

[MrBew]

เต็มอิ่มกับวิวโตเกียวมุมสูงแล้ว ได้เวลานั่งรถไฟใต้ดิน ไปลงสถานี  UENO อีกรอบ เพื่อไปกิน ISHIRAN RAMEN ราเมนข้อสอบ สาขา UENO ก่อนกลับที่พักครับ

เมนู ภาษาญี่ปุ่น เพราะภาษาอังกฤษ หมด




สำหรับผมแล้ว ผมว่าผมชอบรสชาดแบบนี้นะ ซุ๊ปข้นดีครับ อร่อยๆ ^^


หลังจากทานเสร็จก็กลับที่พักครับ พรุ่งนี้เช้าเราต้องออกจากที่พักแต่เช้า เพื่อไป Kawaguchiko แต่เช้าครับ

[MrBew]

เช้าวันที่สาม (NOV 17, 2013) : TOKYO - SHIMOYOSHIDA(CHOREITO PAGODA) - LAKE KAWAGUCHIKO - MT.FIJI

เช้าวันนี้พวกเราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าๆ ครับ วันนี้ JR PASS เราเปิดใช้งานเป็นวันแรกแล้วครับ
นั่งรถไฟจาก ASAKUZA(METRO)=>UENO JR=> SHINJUKU (ต้องไปถึงก่อน 7.00)
จากนั้นนั่ง LTD.EXP AZUSA1 จาก SHINJUKU=>OTSUKI โดย JR PASS ครับซึ่งผมจองไว้ก่อนแล้วครับ

เว็บสำหรับ วางแผนการเดินทางด้วยรถไฟของญี่ปุ่นครับ http://hyperdia.com สุดยอดมากๆ ทำให้เราใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น อิอิ
ผมได้วางแผน A ไว้ แล้วถ้าเกิดมาไม่ทัน ผมก็จะมี แผน B-C-D ไว้รอแล้วเรียบร้อย^^


บรรยากาศระหว่างทางครับ บนรถไฟเราสามารถนำอาหารเครื่องดื่ม ไปทานได้ด้วยนะครับ




ไปถึงตรงเวลา เป๊ะ

[MrBew]

เมื่อไปถึง สถานี OTSUKI ก็ไปซื้อตั๋วรถไป FUJIKYU RAILWAY LINE จาก OTSUKI ST.=>  KAWAGUCHIKO STATION ครับเพื่อนำกระเป๋าไปฝากไว้ที่ KAWAGUCHIKO STATION INN ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับสถานีรถไฟเลยครับ

จากนั้นเราขึ้นรถไฟ จาก KAWAGUCHIKO STATION ไปลง SHIMOYOSHIDA จากนั้นเดินขึ้นเขาเพื่อไป CHUREITO PAGODA เจดีย์ 5 ชั้นกันครับ

[MrBew]

CHUREITO PAGODA  เป็นเจดีย์ห้าชั้นอันสูงสง่า เป็นมุมโปรดของเหล่านักถ่าพภาพสำหรับช่วงภาพ มีฉาก หน้าเป็นต้นซากุระหรือใบไม้แดง นับเป็นจุดที่สามารถชมภูเขาไฟฟูจิได้สวยงามมุมๆนึงเลยครับ
เดินขึ้นบันไดไปกว่า 400 ขั้น แต่เมื่อขึ้นไปแล้วจะเห็นครับว่าสวยจนลืมเหนื่อยเรยครับ แต่ระหว่างทางเหนื่อยโฮ้กกก ฮ่าๆๆ


Zoom zoom zoom คุณฟูจิซัง ^^

[MrBew]

ที่นี่เป็นที่แรกที่เราได้เจอกับ ใบเมเปิ้ลแดงๆ ครับ

[MrBew]

เจอแล้ว Mt.Fuji san ใหญ่มากๆๆๆ

[MrBew]

ถ่ายรูป ลืมเหนื่อยเลยครับ สวยงาม จนไม่อยากจะลงไปเลยครับ

มุมมหาชน ^^

[MrBew]

แต่ก็ต้องกลับเพื่อจะได้ไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ รอบๆ LAKE KAWAGUCHIKO ครับ
ขึ้นรถไฟ จาก SHIMOYOSHIDA ST. => KAWAGUCHIKO STATION (12MINS) 


เมื่อไปถึงก็ไปถามที่เค้าเตอร์ที่สถานี เพื่อซื้อตั๋ว RETRO BUS 1 DAY เพื่อใช้นั่ง RETRO BUS เที่ยวตามจุดต่างๆ รอบๆ LAKE KAWAGUCHIKO ครับ
จากนั้นขึ้นรถไป ป้ายที่17-18 ดูใบไม้เปลี่ยนสี + มีเทศกาล MAPLE LEAVE FESTIVAL ครับ
เมื่อลงที่ป้าย 17หรือ18 นี่แหละครับไม่แน่ใจ ก็เจอกับสิ่งนี้เลยครับ ส้ม แดง เขียว เหลือง เด่นเป็นสง่า ต้อนรับพวกเราเลยครับ :*

[MrBew]

ช่วงที่ผมไป น่าจะเป็นช่วงพีคพอดีมั้งครับ (คิดเอาเอง [:อมยิ้ม11:]) สวยงาม สุดๆ ไปเลย  ^^

[MrBew]

เดินไปยังสถานที่ ที่มีเทศกาล MAPLE LEAVE FESTIVAL ไปเจอกับสิ่งนี้ครับ “อุโมงใบไม้แดง” สวยงามๆฝุดๆ

[MrBew]

เดินทะลุไปจนถึงทะเลสาบ ก็เจอกับ ฟูจิ ซัง  วิวแบบนี้ครับ ^^





จากนั้นคิดว่าจะไปป้าย 21 ป้ายสุดท้าย วิวทะเลสาบ ทานไอติมลาเวนเตอร์ ดูฟูจิ  ซึ่งวันนั้น ผู้คนมหาศาลมากๆ รถก็ติดสุดๆตัดใจไปป้ายที่ 10 เลยแล้วกัน

[MrBew]

ป้ายที่ 10 ของ KAWAGUCHIKO RETRO BUS จะเป็นสถานีกระเช้าไฟฟ้าและจุดลงเรือท่องทะเลสาบ ครับ
ไปขึ้น ROPEWAY เพื่อชมวิวทะเลสาบคาวากูชิโกะ และรอชม พระอาทิตย์ตกกันครับ โรแมนติกสุดๆ




อากาศเย็นๆ หนาวจับใจ ได้อะไรร้อนๆทาน พร้อมกับชมวิวพระอาทิตย์ตก ข้างๆภูเขาไฟฟูจิ เป็นอะไรที่

[MrBew]

ได้เวลาลงแล้วก่อนกลับแวะถ่ายรูป LAKE KAWAGUCHIKO สักรูป ^^


เช็คอินเข้าที่พัก KAWAGUCHIKO STATION INN แล้วหาข้าวเย็นทานกันครับ
ร้านอาหารปิดเร็วมากๆ ก็เลยเข้า 7-11 ซ๊ะเลยผลที่ออกมาก็ตามรูปเลยครับ อิ่มใช้ได้เลย ^^

[MrBew]

เช้าวันที่สี่ (18 NOV 2013) : KAWAGUCHIKO ==> GO TO KYOTO
เช้าวันรุ่งขึ้น ออกมาเดินสูดอากาศ พร้อมกับเก็บรูปรถไฟกับฟูจิ หน้า KAWAGUCHIKO STATION


KAWAGUCHIKO STATION ครับ

[MrBew]

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามรีวิวผมนะครับ

หากท่านใดมีคำถาม สามารถหลังไมค์มาหาผมได้นะครับ ผมจะช่วยหาข้อมูล และจะตอบเท่าที่จะตอบได้นะครับผม

สำหรับโปรแกรมต่อไป เราจะเดินทางไปต่อกันที่ เมืองหลวงเก่า นครเกียวโตและโอซาก้า กันครับ ซึ่งผมจะมาต่อเป็นตอนที่ 2 กันเร็วๆนี้ นะครับ

อย่าลืมติดตามตอนต่อไปนะครับ รับรองว่า ผมจะพาไปชม ใบไม้แดงให้สมใจไปเลย


ขอบคุณครับ

_/\_

[takechi]

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ สวยงามมากๆ ช่วงที่ไปอุณหภูมิสักเท่าไหร่ครับ