32 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

เรื่องและภาพ : Sukasom H

สิ้นสุดการรอคอย สำหรับ 2 เส้นทางการบินใหม่ของสายการบิน ไทย แอร์เอเซีย เอ็กซ์ บินตรงสู่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อรองรับความต้องการในการเดินทางของผู้โดยสารชาวไทยสู่หนึ่งในจุดหมายที่กำลังได้รับความนิยมนี้ ในรูปแบบสายการบินราคาประหยัด ที่ผู้โดยสารสามารถเลือกเสริมบริการพิเศษต่างๆได้ด้วยตัวเอง โดยให้บริการจากสนามบินดอนเมือง(DMK) ไปยังสองเมืองหลักของประเทศญี่ปุ่น คือ โตเกียว สนามบินนาริตะ ( NRT ) และ โอซาก้า สนามบินคันไซ ( KIX )

HFlight ได้ร่วมเดินทางในเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ของสายการบิน ไทย แอร์เอเซีย เอ็กซ์ สู่ท่าอากาศยานนาริตะ ในวันที่ 1 กันยายน 2557 ในเที่ยวบินXJ600 ที่ จะออกเดินทางในเวลา 01.00 น. เราจึงต้องมาถึงสนามบินก่อน ในเวลาดึกของคืนวันที่ 31 สิงหาคม เพื่อเช็คอิน และโหลดสัมภาระ ที่เคาท์เตอร์เช็คอินหมายเลข 4 ในเวลาที่เคาท์เตอร์เปิด คือ 22.00 น. (เค้าเตอร์เช็คอินเปิดล่วงหน้า 3 ชั่วโมง และปิด 1 ชั่วโมง ก่อนเวลาเครื่องออก) ซึ่งมาถึงก็มีผู้โดยสารมาเข้าแถวรอกันอย่างคึกคักอยู่กันก่อนแล้ว ไม่เพียงแต่ผู้โดยสาร แต่ดูเหมือนทีมงานของ ไทย แอร์เอเซีย เอ็กซ์ ก็จะตื่นเต้นกับเที่ยวบินแรกนี้เป็นพิเศษเช่นกัน อย่างทีมแอร์โฮสเตส์เที่ยวบินนี้จะมีทั้งชาวไทยและญี่ปุ่นที่จะทำงานร่วมกันในเส้นทางบินนี้ ก็ได้มาร่วมต้อนรับผู้โดยสารและถ่ายรูปร่วมกันซักเล็กน้อย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

โหลดของลงเครื่องแล้วรับบอร์ดดิ้งพาส ก็เข้าไปในเกทกันเลยครับ เพราะด้านนอกของสนามบินดอนเมือง ร้านค้าต่างๆเริ่มปิดกันแล้ว เข้าไปเดินเล่นที่ด้านในดีกว่า (เห็นว่าตอนเริ่มมี McDonalds Starbucks เปิดให้บริการดึกกว่าปรกติเพื่อรองรับผู้โดยสารเที่ยวบิน XJ600 แล้ว) ใครที่ชอบช็อปก็เริ่มเสียเงินกันได้ที่ร้านดิวตี้ฟรีกันก่อนเลย ส่วนเราอยากเข้าไปเก็บภาพเครื่องบินกันก่อน ก็ต้องเดินไปรอที่เกท 15 เพราะเครื่องแอร์บัส A330-300 จอดสแตนด์บายอยู่เรียบร้อยแล้ว

 

เครื่องบินแอร์บัส A330-300 ที่เราจะเดินทางกันในวันนี้เป็นเครื่องบินโดยสารพิสัยกลางลำตัวกว้าง มีจำนวนที่นั่ง 377 ที่นั่ง แบ่งเป็นที่นั่งชั้นประหยัด 365 ที่นั่ง และชั้นธุรกิจที่สามารถปรับเอนนอนได้ 12 ที่นั่ง และยังมีพื้นที่ Quiet Zone สำหรับผู้โดยสารที่ต้องการความเงียบสงบในระหว่างการเดินทาง ซึ่งผู้โดยสารที่ต้องการนั่งในโซนนี้จะต้องมีอายุมากกว่า 12 ปีขึ้นไป

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่อง จะให้ผู้โดยสารในชั้นธุรกิจ และผู้โดยสารพิเศษขึ้นเครื่องก่อน ตามด้วยผู้โดยสารที่นั่งด้านในของชั้นประหยัด ด้วยงวงที่เชื่อมกับตัวเครื่องสองจุด ทำให้ไม่เสียเวลาในการขึ้นเครื่อง และด้วยความพิเศษของการเป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ดังนั้นก่อนเดินขึ้นเครื่อง ทีมงานของสายการบินนำโดยผู้บริหารคือ คุณนัดดา บุรณศิริ CEO ของทางสายการบินไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ได้มารอต้อนรับและมอบของที่ระลึกให้กับผู้โดยสารทุกคนด้วยตัวเอง ซึ่งของที่ระลึกคือ ช็อคโกแล็ต และกระเป๋าผ้าลวดลายสายการบินครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

มาถึงที่นั่งของเราอยู่ในพื้นที่ Quiet Zone ที่อยู่ถัดจากชั้นธุรกิจบริเวณด้านหน้าของตัวเครื่อง การจัดวางที่นั่งในชั้นนี้เป็นแบบ 3-3-3 เก้าอี้เป็นแบบมาตราฐาน ไม่แคบจนเกินไป กับการเดินทางที่ใช้เวลาบิน 5 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถือว่าสบายๆครับ ก่อนเข้าไปนั่งก็ชะโชกไปดูผู้โดยสารในโซนหลัง ก็เห็นที่นั่งเต็มเกือบหมด จากที่สอบถามจากเจ้าหน้าที่ก็ทราบเที่ยวบินนี้มีโหลดผู้โดยสาร เกือบ90 เปอร์เซนต์ ก็ถือว่าไฟลท์เส้นทางสู่ญี่ปุ่นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีครับ

 

ใครที่สนใจใช้บริการพื้นที่ Quiet Zone จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 500บาท/ที่นั่ง และถ้าต้องการที่นั่งที่เป็น Premium Seat (Hot Seat เดิม) ในโซนดังกล่าวด้วยแล้วก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเป็น 1,300บาท/ที่นั่ง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าถ้าหากต้องการพักผ่อนยาวๆในไฟลท์ดึกแบบนี้

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ผ่านขั้นตอนการเตรียมบิน และกัปตันนำเครื่องขึ้นเรียบร้อย ในเวลานี้คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการนอนเพราะกว่าจะถึงญี่ปุ่นก็เช้าพอดี

 

ลูกเรือมีการเสริฟอาหาร 2 รอบ โดยรอบแรกหลังจากทีเครื่องไต่ระดับได้เรียบร้อยและสัญญาณรัดเข็มขัดดับลงแล้ว หากใครสั่งอาหารไว้ล่วงหน้าแต่ไม่ต้องการรับเพราะอยากพักผ่อนก็บอกผ่านกับลูกเรือได้ ส่วนรอบที่สองราวๆตี 5 ไฟในเคบิ้นก็เปิดขึ้นเพื่อเตรียมการเสิรฟอาหาร ที่เราต้องสั่งจองก่อนขึ้นเครื่องในเที่ยวบินนี้ เราลองสั่งเมนูเป็นข้าวไก่เทอริยากิ กับสปาเก็ทตี้โบลองเนสไก่ เป็นอาหารร้อน รสชาติไม่เลวเลยครับ ส่วนของหวานเป็นเค็กกล้วยหอมราดช็อคโกแล็ตและน้ำส้ม มาคูกันเมื่อสั่งเป็นชุดของหวานครับ

 

บินไกลๆแบบนี้ แนะนำว่าควร Pre Bookk Meal เอาไว้ล่วงหน้าเลยครับ เพราะหิวแน่นอน แถมสั่งจองเอาไว้ล่วงหน้าก็ราาคาถูกกว่าด้วย เพียง 150 บาท ได้ทั้งอาหาร + น้ำขวด แต่ถ้าสั่งซื้อบนเครื่องจะราคา 180 บาท ได้เพียงแค่อาหารครับ

Attached Thumbnails

• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

มองออกไปนอกหน้าต่างก็แห็นแสงแรกของวันแล้ว หลังจากเสร็จการให้บริการอาหารเรียบร้อย ซักครู่ใหญ่เครื่องก็เริ่มลดระดับเพดานบิน แต่วันนี้สภาพเมฆมาก ทัศนวิสัยไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก จนเมื่อผ่านทะลุเมฆลงมาเราก็ได้เห็นชายฝั่งของแผ่นดิน ญี่ปุ่น และภูมิทัศน์ที่แปลกตาของทุ่งนารอบสนามบิน

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แม้ว่าจะทำการลงจอดในสภาพฝนตกโปรยปราย แต่กัปตันก็สามารถนำเครื่องลงจอดได้อย่างนุ่มนวล ทำเวลาได้เร็วกว่ากำหนด 15 นาที ในเวลา 9.00 น. สำหรับเวลาของประเทซญี่ปุ่นที่เร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง ก่อนที่จะนำเครื่องเข้าเทียบกับงวงจอด ทางสนามบินนาริตะ ได้จัดซุ้มอุโมงค์น้ำ ที่ใช้รถดับเพลิงจำนวน 2 คันมาฉีดเป็นอุโมงค์ให้เครื่องบินลอด เพื่อเป็สัญลักษณ์การต้อนรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์สู่ประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ทันทีที่เข้าไปในตัวสนามบินผู้โดยสารในเที่ยวบินนี้ก็ได้รับการต้อนรับ องค์กรชุมชนเขตจิบะที่ตั้งของสนามบินนาริตะแห่งนี้ ที่ขนเอาบรรดามาสค็อทของอำเภอต่างๆมาทักทายนักท่องเที่ยวกันตั้งแต่ตรงนี้เลย...ไม่เสียชื่อที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าแห่งมาสค็อทจริงๆ ผู้โดยสารยืนรอถ่ายรูปกันเต็มหน้าเกตเลยครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

โดยปรกติแล้วที่นาริตะ เครื่องของไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์จะจอดที่หลุมจอดด้านนอกของเทอร์มินัล 2 แต่เนื่องจากในวันนี้เป็นเที่ยวบินปฐมฤกษ์ จึงได้จอดเทียบงวงช้างประชิดอาคารผู้โดยสาร เลยโชคดีได้เดินชมการตกแต่งที่สวยงามภายในอาคารให้เห็นอยู่เป็นระยะ รวมทั้งยังต้องเดินผ่านทางเชื่อมระหว่างเทอร์มินัล 2 ที่เป็นแผ่นกระจกขนาดใหญ่แทนที่ผนังทึบ เหมือนมุมโชว์สนามบินให้ผู้โดยสารได้ดูระหว่างเดินผ่าน สามารถมองเห็นกิจกรรมต่างๆบนลานจอดอากาศยานและเครื่องบินโดยสารได้อย่างชัดเจน

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

การผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองในช่วงเวลานี้ก็เป็นไปอย่างสะดวกสบาย ถึงแม้จะมีผู้โดยสารจากไฟลท์ต่างๆมารอผ่านขั้นตอนนี้กันพอสมควร แต่มีเจ้าหน้าที่คอยประสานงานกันช่วยให้ไม่รอคิวนาน ปัจจุบันคนไทยไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าเข้าญี่ปุ่นแล้วจึงใช้เพียงหนังสือเดินทางยื่นเข้าประเทศที่นี้ได้เลยเป็นเวลา 15 วัน แค่เตรียมเอกสารเรื่องที่พักและตั๋วเครื่องบินขากลับเอาไว้ให้เรียบร้อยหากเกิดถูกสุ่มตรวจขึ้นมาก็เพียงพอ แถมตอนเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารของเรายังมีโหมดบอกขั้นตอนการสแกนนิ้วมือ และถ่ายภาพเป็นภาษาไทยอีกด้วย

ผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ก็เดินทางขึ้นไปยังโถงกลางของท่าอากาศยานนาริตะ เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดเส้นทางการบิน ของสายการบินไทย แอร์เอเซีย เอ็กซ์ ภาคญี่ปุ่นกันต่อ ซึ่งสำนักข่าวต่างๆที่นี้ก็ให้ความสำคัญกับเส้นทางใหม่นี้กันพอสมควรจากการที่สื่อสำนักหลักของญี่ปุ่นต่างมาทำข่าวในวันนี้กันครบ พิธีการในส่วนนี้เป็นไปอย่างเรียบง่ายแต่ก็สร้างความสนใจให้กับชาวญี่ปุ่นด้วยโชว์มวยไทยหญิง ก่อนที่คุณนัดดา บุรณศิริ จะเปิดโปรโมชั่นเที่ยวบินจากญี่ปุ่นพร้อมคอนเน็คชั่นไฟลท์สู่จังหวัดอื่นๆในประเทศไทย ด้วยราคาเพียง 19.000 เยน ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ถูกมากสำหรับชาวญี่ปุ่น

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ก่อนที่เราจะเดินทางเข้าโตเกียวโดยรถทัวร์ของทางคณะ ซึ่งต้องใช้เวลาราว 1ชั่วโมงครึ่ง เพราะสนามบินนาริตะตั้งอยู่ห่างจากใจกลางโตเกียวประมาณ 60 กิโลเมตร เราจึงได้แวะพักทาอาหารเที่ยงกันก่อน ที่ร้านอาหารโอคินะที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบิน เป็นชุดอาหารญี่ปุ่นที่เสิรฟ์มาตามลำดับ มีจานหลักคือ ปลาย่าง เทมปูระ และซูชิ อะคามิ ที่นอกจากจะสวยงามแล้ว ยังได้บรรยากศแบบญี่ปุ่นแท้ๆด้วย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เมื่อเข้าสู่โตเกียว เรามุ่งหน้าไปแหล่งท่องเที่ยวหลักที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องมาแวะคือวัดเซนโซจิ วัดเก่าแก่ในย่านอาซากูซะตอนที่มาถึงวัดสายฝนก็โปรยปรายลงมาหนักขึ้น แต่นักท่องเที่ยวก็ยังหนาตา ร้านรวงที่อยู่บนถนนนากามิเซะ หน้าวัดยังคึกคัก แต่ละร้านยังมีเอกลักษณ์ในการตกแต่งร้านที่เป็นตัวของตัวเอง ทั้งของกินของที่ระลึก ที่ยังสามารถเดินชมได้เพลินๆ มีสาวๆญี่ปุ่นกางร่มใส่ชุดยูกาตะเดินอยู่กันทั่ว

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ด้วยสภาพอากาศที่แย่ทำให้น่าเสียดายที่ทำให้เราไม่สามารถมองเห็นได้แม้แต่แลนด์มารค์แห่งใหม่ของกรุงโตเกียว คือ หอคอยโตเกียวสกายทรี ที่วันนี้เราเห็นได้แต่โคนชั้นล่างของตัวหอเท่านั้น
สำหรับคนชอบถ่ายภาพ อย่างไรก็คงไม่ผิดหวังกับการเดินทางมายังประเทศนี้ เพราะถึงแม้สภาพอากาศจะไม่ดี แต่โตเกียวก็ยังมีมุมให้ได้เก็บภาพในอารมณ์ต่างๆ แม้แต่ไซท์ก่อสร้างยังอุต์สาห์มีลายกราฟฟิกเก๋ๆให้ดูกัน

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

จากอาซากูซะเรามุ่งหน้าไปย่านชินจูกุที่เป็นที่พักของเราในคืน เพื่อทำการเช็คอินใน ณ โรงแรม Shinjuku Prince ที่อยู่ในย่านใจกลางเขตธุรกิจของโตเกียวอีกเขตนึง สถานที่ตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟ เดินทางไปมาสะดวก สภาพห้องสะอาดดี มี TV ตู้เย็น เครื่องฟอกอากาศ ครบ ส่วนในห้องน้ำก็มีอ่างสำหรับไว้แช่น้ำร้อนมาตรฐานขนาด 1 คนด้วยครับ

 

ส่วนข้างๆโรงแรมก็เป็นย่าน Kabukicho หากใครสนใจอยากย่ำราตรีที่นี่ก็แค่เพียงเดินข้ามถนนเล็กๆไปก็ถึงแล้วครับ มีร้านค้า ร้านปาจิงโกะ ร้านอาหาร บาร์ อยู่เต็มไปหมด

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

หลังจากเช็คอินเสร็จเรียบร้อยจึงเดินข้ามสี่แยกใหญ่ไปยังฝั่งตรงข้าม เพื่อไปทานเนื้อย่างร้านดัง “Rokkasen” ที่มีทั้งเมนูสำหรับคนทานเนื้อ และ ชุดซีฟู๊ดอาหารทะเลสำหรับคนไม่ทานเนื้อ ที่รสชาตินั้นเรียกว่าอร่อยไม่แพ้กัน สมกับเป็นร้านยอดนิยมของคนไทย จนพนักงานในร้านแทบทุกคนจะเข้าใจภาษาไทย ในเมนูก็ยังมีภาษาไทย แบบสั่งได้ไม่ต้องกลัวพลาดเลยครับ เนื้อเป็นลายนุ่มสุดๆ

 

แต่หากจะไปลองกันจริงๆต้องจองก่อนล่วงหน้า เพราะที่นั่งร้านนี้จะเต็มตลอด ไปดูรายละเอียดกันที่เว็ปของร้านกันได้เลย http://www.rokkasen.co.jp ...แต่ที่ดูจะเป็นที่ชื่นชอบสำหรับสาวๆ ไม่แพ้เมนูอาหารในร้าน เห็นจะเป็นพนักงานหนุ่มๆในชุดแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ที่คอยเอาใจใสบริการในทุกโต๊ะนี่แหละครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เสร็จากมื้อเย็น ฝนก็ยังไม่หยุด จากเดิมที่เราตั้งใจจะเก็บภาพชินจูกุยามราตรีก็ต้องปรับแผนกันใหม่ เลยลองตระเวณไปอาคารตึกแฝด ศาลาว่าการกรุงโตเกียว ที่อยู่ใกล้กัน เพราะสามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ฟรีแถมยังปิดดึกอีกด้วย ถึงสภาพอากาศดีๆ รอบๆพื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นหมู่ตึกระฟ้าของชินจูกิ ที่สามารถเดินชมความสวยงามของการออกแบบสถาปัตย์กรรมที่โดเด่นเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

 

จากใต้ตึกแฝดของโตเกียวมีทางเชื่อมใต้ดินไปสู่สถานีรถไฟใต้ดินชินจูกิ ที่ตลอดทางมีร้านและห้างเปิดอยู่มากมาย แม้ว่าฝนจะตกเราก็สามารถแวะชมสินค้าต่างๆได้ตลอดทาง มาจนสุดทางก่อนกลับเข้าที่พัก ก็ยังสามารถตระเวณชมแสงสีของย่านนี้ได้ พร้มทั้งแวะช็อปในสโตร์ที่จำหน่ายสินค้าราคาประหยัด ที่หลายร้านก็ติดป้ายภาษาไทยแล้วอย่างร้านดอนคิโฮเต้ หรือที่นักช็อปไทยเรียกว่า ร้านเพนกวิ้น ตามโลโก้ร้าน

 

แต่ด้วยตารางที่เราจะต้องเดินทางออกจากโตเกียวตั้งแต่เช้ามืดของวันรุ่งขึ้น ทำให้ต้องรีบกลับไปพักผ่อนเพื่อเตรียมลุยกับเขตคันไซกันต่อ อันเป็นที่ตั้งของนครโอซาก้า อีกเขตพื้นที่หนึ่งที่มีความน่าสนใจไม่แพ้โตเกียวเลย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ขอบคุณทุกคนที่มาชมรีวิวนะครับ ติดตามตอนต่อไปได้ในรีวิวในตอนหน้า ที่เราจะออกเดินทางด้วยรถไฟชิงคันเซ็นมุ่งหน้าสู่เมืองโอซาก้า เยี่ยมชมหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังเป็นที่นิยมสุดๆในขนาดนี้กับ Universal Studio Japan และแน่นอน ส่วนของ Harry Potter ที่เพิ่งเปิดบริการไม่นานนี้

สวัสดีครับ 

Attached Thumbnails

• 
• 

[knowknow]

ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ

[champ]

Thank you for reviwe

[alcher]

อยากไปบ้าง ขอบคุณน่ะครับ