59 replies to this topic

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

Advertisements

หลังจากเดือนที่แล้วได้ไปลอง น้องดรีม กับ Pete Air ว่าที่นกสกู๊ตไปแล้ว

เนื่องจาก น้องยิ้ม Thai Smile การบินไทยสมายล์ ลูกสาวคนเล็กของป้าม่วง การบินไทย ย้ายบ้านจากสุวรรณภูมิ มาอยู่ดอนเมือง

ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2557 เป็นต้นไป สำหรับ 3 เส้นทางการบินคือ เชียงใหม่, ภูเก็ต และ ขอนแก่น

ส่วนเส้นทางอื่นๆ ยังคงให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (และคาดว่าหลังจาก 26 ตุลาคมอาจมีสิทธิ์ย้ายมาอยู่ดอนเมืองทั้งหมด)

 

 

และน้องยิ้ม ออกโปรโมชั่นร้อนแรง ดอนเมือง-เชียงใหม่ 990 บาท บริการคุ้มค่าครบเครื่องสไตล์ รอยยิ้มคู่ฟ้า พร้อมไมล์สะสม ROP 500 คะแนน

มีหรือที่ผมจะพลาดครับ ผมก็เลยตัดสินใจซัดไปเลย จะได้ลองดูว่า Light Premium สไตล์น้องยิ้ม แตกต่างจาก Premium Low-Cost เจ๊น๊กอย่างไร

 

 

ในวันที่ 8 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันแรก ผมก็ไปสำรวจดูลาดเลาก่อนแล้วครับ (บินจริง 13 สิงหาคม)

ก็พบว่า มีผู้โดยสารเดินทางไปผิดสนามบินก็พอสมควรเหมือนกัน และทางหน้างานก็พยายามแก้ไขปัญหาให้เท่าที่จะทำได้ครับ

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ตอนที่ .... ได้ยินข่าวว่า น้องยิ้มจะย้ายบ้าน มาอยู่ชายคาเดียวกับ เจ๊น๊ก ณ ดอนเมือง

 

ผมก็อดใจหายไม่ได้นะ พี่สาวกับน้องสาว ลูกสาวป้าม่วง การบินไทย จะตีกันไหมเนี่ยะ ?

เพราะ ใครๆ ก็รู้ว่าพี่สาว นกแอร์ Nok Air วางตัวเป็น Premium Low-Cost ของดอนเมือง

เป็นสายการบินต้นทุนต่ำ ที่ให้บริการครบเครื่อง มากกว่าเจ้าอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำหนักกระเป๋า 15 กิโลกรัม (สมาชิกนกแฟนคลับได้ 20 กิโลกรัม)

บริการอื่นๆ เช่น Telephone Check-in หรือ Nok Call Home (บริการเช็คอินทางโทรศัพท์สำหรับสมาชิกนกแฟนคลับ) หรือเป็นเจ้าแรกที่ใช้บอร์ดดิ้งพาสโชว์บนสมาร์ทโฟน ถือขึ้นเครื่องได้เลย รวมไปถึง บริการของว่าง อานตี้แอนน์ กับน้ำดื่มกระปุก 100 ซีซี

 

 

ในขณะที่ น้องสาว ไทยสมายล์ Thai Smile รอยยิ้มคู่ฟ้า เป็นลูกสาวคนเล็กสุดรักสุดหวงของคุณป้าม่วง การบินไทย

ใช้โค๊ด TG (THA) ของการบินไทย มานานหลายเดือน (แต่ก่อนจะประกาศเป็น Thai Airways Smile)

จนเพิ่งจะได้แยกเป็น บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ส จำกัด หรือ Thai Smile Airways พร้อมกับโค๊ดของตัวเองคือ WE (THD)

แต่ก็ยังใช้ Facility ของคุณแม่ (ป้าม่วง การบินไทย) เกือบจะเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางการจำหน่าย ผ่านทุกช่องของการบินไทย (แค่มีเว็บของตัวเอง http://www.thaismileair.com ซึ่งก็ใช้ platform เดียวกับแม่) ใช้ Call Center เดียวกันกับแม่คือ 02-3561111 ที่ทึ่งคือ หน่วยงานรับเรื่องร้องเรียน ก็ใช้อีเมล์ของแม่ customer@thaiairways.com ซะงั้น !!

 

 

อันนี้ไม่รวมถึงเคาน์เตอร์เช็คอิน พนักงานภาคพื้น อุปกรณ์ลานจอด ฯลฯ ก็ใช้ของแม่หมดเลย

มีอย่างเดียว ที่น้องยิ้มมีก็คือ บุคลากรบนเครื่องบิน เป็น Outsource ไม่ใช่พนักงานของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

ใช้เครื่องบินแอร์บัส A320 ซึ่งจัดตารางบินใช้งานเครื่องบินได้คุ้มค่าขึ้น Ground Time สั้นลง 

แอร์โฮสเตส สดใสวัยกระเตาะ (พูดง่ายๆ คือ ผมขึ้นเครื่องมา มีแต่ Leader หรือ หัวหน้าลูกเรือ หรือ Purser ที่แก่กว่าผม นอกนั้นเด็กกว่าผมหมด)

ซึ่งน้องยิ้มเค้าวางตัวเป็น Light Premium และเดิมทีเหมือนจะวางตัวเองเป็น Regional Wings ของ การบินไทย

 

(นั่นหมายถึง วางตัวเท่ากับ Silk Air ของ Singapore Airlines หรือ Dragon Air ของ Cathay Pacific ซึ่งให้บริการเที่ยวบินระดับภูมิภาคแบบจัดเต็มไม่แพ้ตัวแม่ ดังนั้น ถ้าวางตัวเองเป็น Regional Airlines คู่แข่งของน้องยิ้ม จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก World's Best Regional Airlines ประจำปี 2014 คือ บางกอกแอร์เวย์ส Bangkok Airways นั่นเอง !!)

 

 

ส่วนตัวผมเคยมีโอกาสได้ขึ้นเครื่องน้องยิ้มครั้งหนึ่ง ในเส้นทางปฐมฤกษ์ สุวรรณภูมิ-มัณฑะเลย์-สุวรรณภูมิ (ครั้งนั้น TG Social Media เป็นคนเชิญ)

ผมก็รู้สึกได้ว่า การวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ ของสายการบินนี้ค่อนข้างจะแปลกอยู่ คือจะกึ่งๆ กลางๆ ไม่ใช่ Full Service ซะทีเดียวแต่ชั้นก็ไม่ใช่โลว์คอสต์นะ !! แม้ว่า ตอนเปิดตัวครั้งแรกกลางปี 2555 เปิดฉากด้วยการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มตามคอนเซปต์สายการบินโลว์คอสต์

ต่อมา เหมือนจะคิดได้ ก็เลยตัดบริการขายออกไป เป็นการให้บริการของว่าง (หรือ อาหารร้อนสำหรับเที่ยวบินระยะไกลเกิน 4 ชั่วโมง) และเครื่องดื่ม ที่สามารถขอได้ เต็มที่ พูดง่ายๆ คือ การบริการของน้องยิ้มในเที่ยวบินภายในประเทศ ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคุณแม่ (ป้าการบินไทย) ที่เสิร์ฟ snack box กล่องเดียวพร้อมกับ เครื่องดื่ม เหมือนกันเด๊ะ

 

 

คือ ถ้าบริการบนเครื่อง ต่างกับคุณแม่ก็แค่ ....

1. ขนาดของเครื่องบิน ใช้เครื่องขนาดเล็กลง (ไม่นับป้าโบอิ้ง 737-400 นะ) ฝูงเดียวกันทั้ง Fleet แอร์บัส A320-200 ขนาด 162-174 ที่นั่ง

ซึ่งสิ่งที่ขาดหายไปสำหรับเครื่องน้องยิ้ม ก็คือ "หมอน" (น้องยิ้มมีหมอนให้เฉพาะชั้น Smile Plus) กับ "ผ้าห่ม" (on request -- ขอลูกเรือได้ครับ) และระบบความบันเทิง ซึ่งเครื่องรุ่นใหญ่ก็มีจอส่วนตัวกันหมด แต่น้องยิ้มมีจอรวมเหนือศีรษะให้ชมภาพยนตร์ขำขัน ระหว่างการเดินทางได้

2. อายุของลูกเรือ ลูกเรือน้องยิ้มเรียกว่าน้องได้เต็มปากเต็มคำ (มากกว่า 80% อายุน้อยกว่าผมแน่นอน)

ในขณะที่ถ้าขึ้นคุณป้าการบินไทย ผมสามารถยกมือไหว้ลูกเรือได้อย่างสนิทใจ (มากกว่า 80% อายุมากกว่าผมแน่นอน)

ซึ่ง ถามว่า ความต่างมีไหม สำหรับ ลูกเรือรุ่นใหญ่ ส่วนตัวผมมองว่าบริการได้มืออาชีพและอบอุ่นกว่า (ประสบการณ์สูงกว่า) แต่ถ้าต้องการแนวสดใส ดูแล้วเพลิดเพลินเจริญหูเจริญตา เด็กสาวเอ๊าะๆ รุ่นๆ อายุเลข 2 เป็นส่วนใหญ่ ก็ต้องน้องยิ้มหล่ะครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

พอน้องยิ้มจะย้ายมาดอนเมือง ......... ผมก็นึกเป็นห่วงน้องยิ้ม (ซึ่งเป็นลูกสาวป้าที่แบเบาะมาก ไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย ป้าประคบประหงมตลอด ทั้งภาคพื้น งานขาย หลังบ้าน ป้าดูแลให้หมด ในขณะที่พี่สาวคนโต (เจ๊น๊ก) โดนถีบหัวส่งตั้งแต่ปีแรกๆ จนเติบใหญ่ได้ดีที่ดอนเมืองแล้ว)

 

จึงเป็นห่วงว่าน้องยิ้มจะโดน นกจิกตาย สิงโตขย้ำ แดงตวัดหางฟาด ผมเรียกเองครับ
เพราะ น้องยิ้มมาแบบไฮโซ ตลาดค่อนข้างใกล้กับเจ๊นก (Light Premium กับ Premium Low-Cost) 
(แต่พอมาบินจริงๆ ผมสังเกตว่า Business Traveler ของน้องยิ้ม มีเยอะกว่าเจ๊นก) 

 

ลูกค้าดอนเมือง ในเส้นทางหลัก อย่างเชียงใหม่ เท่าที่ผมสังเกต มีอยู่ 2 กลุ่ม
คือถ้าไม่ใช่ Brand Loyalty ก็คือ ราคาล้วนๆ เลย
กลุ่ม นกแอร์ จะได้ลูกค้าที่มี Brand Loyalty สูงพอสมควร มองว่า นั่งสบายสุดล๊ะ ในฝั่งดอนเมือง
ในขณะที่ แดง และ สิงโต ผมว่าลูกค้าสองเจ้านี้ สลับกันบิน ตามราคาและโปรโมชั่น (ผมก็คนหนึ่ง ที่สลับบิน)
โดยสิงโต ลูกค้าไทยจะเยอะกว่ามาก ในขณะที่แดง ได้ลูกค้าต่างชาติ (โดยเฉพาะชาวจีน) เยอะ เพราะชื่อเสียงในระดับโลกดีกว่า

(ยิ่งได้รางวัล World's Best Low-Cost Airlines 6 ปีซ้อนจาก Skytrax มาด้วย ชาวต่างชาติยิ่งให้ความเชื่อมั่นมากกว่า) 

ดังนั้น กลุ่มลูกค้าที่จะเลือกน้องยิ้ม ที่ราคาไม่โปรโมชั่น เริ่มที่ 2,310 บาท สำหรับเส้น ดอนเมือง-เชียงใหม่ (ซึ่งถือว่าสูงมากสำหรับ DMK)
ก็จะต้องเป็นพวก 1. เคยบินกับเจ๊นกมาก่อน 2. พวกที่บินแดง / พวกที่จองคลาส Premium Flex หรือพวกเบิกได้ เช่นข้าราชการ ฯลฯ
3. กลุ่มที่มี Brand Loyalty กับการบินไทยมาอยู่แล้ว รู้จักการบินไทย เชื่อมั่นและไว้วางใจ อย่างน้อยก็แพนหางม่วงโลโก้ TG

เนี่ยะหล่ะครับ ผมว่า ..... น้องยิ้มน่าจะเหนื่อยพอดู 
แต่ เรื่องเครื่องบิน น้องยิ้มก็จัดลำป้ายแดง ใหม่กิ๊กๆ มาประจำการดอนเมืองทั้งนั้น HS-TXM, HS-TXO ตัว sharklets รุ่นถอดที่นั่งไป 1 แถวเหลือ 28 แถว (12 Smile Plus และ 150 Economy) ท้ายๆ ไม่อึดอัด นั่งสบายกว่าเดิมพอสมควร
บริการบนเครื่องก็ครบเครื่อง แต่จริงๆ ควรเพิ่มราคา Class W ประมาณ 13xx บาทให้มากขึ้น ไม่ต้องขายหลักร้อย
ถ้าเอาซัก 13xx - 14xx บาท ก็น่าจะมีคนอีกกลุ่มที่ขยับไปบิน (ผมก็คนหนึ่งหล่ะ อยากได้ไมล์ ROP เป็นต้น)

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

สรุปง่ายๆ ก็คือ ตามที่เค้าวางไว้ TG+WE+DD สามแม่ลูกจะผนึกกำลังกัน

 

ผมเดาเอานะ ..... คือ แม่วางให้ลูกสาวคนเล็ก (น้องยิ้ม) เป็น Fighting Brand ให้กับแม่ ในตลาดระดับ กลาง ถึง บน เป็น Light Premium Airline ที่ให้บริการที่สนามบินดอนเมือง ช้อนผู้โดยสารระดับกลางถึงบน จากสายการบินอื่น มาบินกับ WE

เพราะที่ดอนเมือง ก็ยังไม่มีสายการบินระดับพรีเมียมบินแบบจริงๆ จังๆ เลย ? พร้อมให้บริการกับลูกค้าการบินไทย และ กลุ่มที่มี Brand Loyalty กับการบินไทย เพราะจะได้รับมาตรฐานการบริการที่ใกล้เคียงกับการบินไทย รวมถึงได้ไมล์สะสม ROP 500 คะแนนด้วย (อันนี้ผมให้เชิงบวกไปเลยนะ แต่อย่าลดตัวไปแข่งกับเขาละกัน เพราะหลังๆ ชอบลดตัวเองไปแข่งกับพี่แดงเสมอๆ ซึ่งถ้าตัวเองเป็นเสือน้อย Tiger จะไม่ว่าเลย)

 

ในขณะที่ ลูกสาวคนโตเจ้าถิ่นดอนเมือง (เจ๊น๊ก) เป็น Fighting Brand ให้กับแม่ ในตลาด กลาง ถึง ล่าง เป็น Premium Low-Cost Airline ที่ให้บริการที่สนามบินดอนเมือง ชนกับคู่แข่งในตลาด (แดง และ สิงโต) ในเรื่องของราคา และคณภาพการให้บริการที่เหนือกว่า ในราคาที่ ระดับล่างก็เอื้อมถึง และ ระดับกลางก็บินได้อย่างสบาย (เพราะคนที่เลือกบินสายการบินต้นทุนต่ำ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าราคาคือปัจจัยหลักในการตัดสินใจเลือกใช้บริการ) ซึ่งนกเองก็ชูภาพความเป็น No.1 Premium Low-Cost อยู่แล้ว ส่วนตัวผม ผมเลือกนกในบางครั้งเพราะความสบาย ที่มีเหนือกว่าสายการบินคู่แข่งหากต้องจ่ายราคาเท่ากัน

 

แต่ในเมื่อ ส่วนที่ Overlap กันคือ กลุ่มลูกค้าระดับกลาง (มีฐานะในระดับหนึ่ง แต่อ่อนไหวในเรื่องของราคา) ซึ่งส่วนตัวผมเชื่อว่าเป็นประชากรส่วนใหญ่ของผู้ที่เลือกใช้บริการสนามบินดอนเมือง จะเป็นตัวชี้ขาดว่า ระหว่าง นกแอร์ กับ ไทยสมายล์ (และสายการบินอื่นๆ) พวกเขาจะเลือกอะไร เพราะมันคาบเกี่ยวกันมากนั่นเอง ทั้งในแง่ของการบริการ ความครอบครุมของเส้นทางการบิน ความถี่ของเที่ยวบิน ช่องทางการให้บริการและการติดต่อ ซึ่งถ้ามองกันตรงๆ สำหรับดอนเมือง นกแอร์ก็ยังมีความแข็งแกร่งอยู่มาก และลูกค้ากลุ่มนี้ก็มีความคุ้นเคยกับระบบของนกแอร์ (และสายการบินอื่นๆ) เป็นอย่างดี บางคนมีฐานะ แต่ I don't care บินแค่ชั่วโมงเดียว เอาราคาถูกที่สุดว่า หรือเอาสายการบินที่ตนคุ้นเคยมากที่สุดว่า ก็ย่อมได้เช่นกัน

 

น้องยิ้มถ้าคิดจะมาอยู่ดอนเมืองจริงๆ จังๆ ก็ต้องทำการบ้านให้หนัก และ หาจุดยืนของตัวเองให้เจอ โดยไม่ใช้การทำสงครามราคาหนักจนเกินไป (ให้เจ๊นกเขาเล่นราคาไปเถอะครับ ถ้าลดก็ควรลดพอประมาณ รักษาลุกส์บ้าง!!) แต่เดิม ตอนที่น้องยิ้มอยู่สุวรรณภูมิ สิ่งที่น้องยิ้มมีเหนือกว่านกแอร์ ก็คือ การทำ Flight Connection กับการบินไทยหรือสายการบินต่างชาติที่สุวรรณภูมิ ผู้โดยสารจาก เชียงใหม่, ภูเก็ต, หาดใหญ่ ฯลฯ สามารถผ่าน ตม. จากต้นทาง เป็นผู้โดยสาร CIQ บินไทยสมายล์ ต่อเครื่องที่สุวรรณภูมิ โหลดกระเป๋ายิงยาวได้ ซึ่งจุดแข็งนี้เป็นจุดที่นกแอร์ทำไม่ได้ (คือถ้ากำลังจะมีก็ต่อ สกู๊ต หรือ นกสกู๊ต ที่ดอนเมืองด้วยกัน) แต่พอมาดอนเมือง จนท.กราวน์นกแอร์ ที่ทำหน้าที่เช็คอินให้ไทยสมายล์ที่ดอนเมือง ยืนยันชัดเจนว่า .... ไทยสมายล์ที่ดอนเมือง เช็คอินได้แต่แบบ point - to - point เท่านั้น !! (เพราะมีเคส บินดอนเมือง ไป transit ต่อเครือ่งการบินไทยที่ภูเก็ต แต่เช็คอินทรูไม่ได้นะครับ !! ต้องไปรับกระเป๋าและเช็คอินโหลดใหม่ที่ภูเก็ต)

 

น้องยิ้มต้องพรีเซนต์ความเด่นของตัวเองออกมา ตีโจทย์ให้แตก ให้เหมือนกับ บางกอกแอร์เวย์ส ทีมีภาพลักษณ์และจุดยืนที่ชัดเจน อย่างตอนนี้ใครๆ ก็รู้ว่า บางกอกแอร์เวย์ส ไม่ใช่สายการบินโลว์คอสต์ แต่สำหรับไทยสมายล์ คนทั่วไป ก็คิดว่าเป็น "โลว์คอสต์อีกเจ้าของการบินไทย" (และพอน้องยิ้มย้ายมาดอนเมือง ทุกคนก็คิดว่า ไทยสมายล์กลายเป็นโลว์คอสต์โดยสมบูรณ์ไปแล้ว !!!)

 

ซึ่งไทยสมายล์ จะประสบความสำเร็จ (ในสายตาผม) ก็ต่อเมือ สามารถทำให้ผู้คนทั่วไปรับรู้ได้ว่า ไทยสมายล์ เป็นลูกการบินไทย ที่ให้บริการ(กึ่ง)เต็มรูปแบบ และไม่ใช่สายการบินต้นทุนต่ำ (แบบนกแอร์ และ สายอื่นๆ)

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เอาหล่ะครับ เกริ่นตั้งนานเนอะ

 

สำหรับ สำนักงานบริการลูกค้า ไทยสมายล์ อยู่ชั้น 4 ทิศใต้ ใกล้ๆ Row 8 ครับ ถ้ามองจากเคาน์เตอร์เช็คอินสิงโต Thai Lion Air (Row 8 ชั้น 3) ก็จะเห็นออฟฟิศ Thai Smile อยู่ข้างบน ขึ้นบันไดเลื่อน ซื้อตั๋วได้ที่นี่เลยครับ ออฟฟิศเล็กๆ มีทั้งงานขาย และลูกเรือก็บรีฟกันที่นี่ ครบเครื่อง

 

ส่วนการเช็คอิน ไทยสมายล์ จ้าง นกแอร์ ทำครับ ทั้งการเช็คอิน และ Boarding จะทำโดยเจ้าหน้าที่นกแอร์

และ "ใช้ระบบของนกแอร์ในการเช็คอิน" นั่นหมายถึง 

1. จะเช็คอินได้แค่ Point-to-Point
2. เคาน์เตอร์เช็คอินเปิดก่อนเดินทางแค่ 2.30 ชั่วโมง
3. ยังไม่มีระบบเว็บเช็คอิน (ซึ่ง i Check-in ของการบินไทย ใช้ได้เฉพาะไฟล์ทที่สุวรรณภูมิเท่านั้น) เลือกที่นั่งตอนเช็คอินได้เลย

4. บอร์ดดิ้งพาส กระดาษสลิปแบบนกแอร์

5. แทคกระเป๋า ก็แบบเดียวกับนกแอร์

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เริ่มที่เคาน์เตอร์เช็้คอินนะครับ สนามบินดอนเมือง Row 5

 

เคาน์เตอร์ปิดก่อนเวลาออกเดินทาง 30 นาที และดูเหมือนพยายามจะช่วยได้เท่าที่ช่วย

บางราย เครื่องออก 7.05 น. มาถึง 6.50 น. ยังเช็คอินผ่าน ก็งงเหมือนกัน 

 

เวลาแถวหันหลังชนกัน Row 5 ไทยสมายล์ และ Row 6 นกแอร์ (สายเหนือ)

ก็เริ่มเห็นความแตกต่างของผู้โดยสารที่บินไทยสมายล์ กับ นกแอร์แล้วครับ

สิ่งที่ผมเห็นคือ ไทยสมายล์ จะมีผู้โดยสารแนว Business Traveler ค่อนข้างเยอะอยู่ จากการแต่งกายที่ดูเหมือนต้องไปทำธุรกิจ

ในขณะที่ นกแอร์จะดูแต่งตัวกันเป็นปกติ ทั่วๆ ไปเสียมากกว่านั่นเอง

 

เคาน์เตอร์เช็คอินเปิด 2.30 ชั่วโมง ก่อนเดินทางนะครับ

ผมก็เลยต้องรออีกซักแป๊บหนึ่ง ถึงจะได้เช็คอิน ต้องให้ระบบเปิดก่อน พอดีอยากได้ที่นั่งแถว 34 หรือ 35 อันกว้างขวาง

ซึ่ง น้อง จนท. ก็เปิดจอให้ดู ยังไ่ม่มีใครได้เลือกที่นั่งซักคน ที่นั่งที่โดนบล๊อกก็แค่ Smile Plus กับ Emergency Exit

 

สำหรับแถว 34 เหมือนเขาจะจัดให้ สมาชิก ROP Gold บัตรทอง หรือ Platinum และผู้โดยสารพิเศษอื่นๆครับ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

สำหรับผู้โดยสารชั้น Smile Plus (ชั้นนักธุรกิจ ที่จัดที่นั่งเว้นกลางให้ และเสิร์ฟ Welcome Drink กับ อาหารถาดใหญ่กว่าปกติ) นอกจากจะโหลดสัมภาระได้ 30 กิโลกรัมแล้ว โดยปกติ จะสามารถเข้าเล้าจน์ Royal Silk Lounge ของการบินไทยได้ แต่ทีดอนเมืองยังไม่มี

ทางไทยสมายล์ แก้ปัญหาด้วยการ ออก Voucher ของเครือเดอะมอลล์กรุ๊ป (ผู้รับสัมปทานพื้นที่ The Mall Sky Port)

มูลค่า 100 บาท จำนวน 2 ใบ ให้ไปแลกอาหารและเครื่องดื่มกับร้านค้าที่ร่วมรายการได้

(ส่วนตัวผมมองว่า ไม่ค่อยป๋าเท่าไหร่ เทียบกับ บางกอกแอร์เวย์ส ที่เชียงใหม่ เล้าจน์ Blue Ribbon ปิด ยังให้คูปองมูลค่า 250 บาทแทนเลยครับ)

 

พอได้บอร์ดดิ้งพาส ก็เข้าไปข้างในกันครับ คนค่อนข้างเยอะพอสมควร

เท่าที่ผมสังเกต เที่ยวบินไทยสมายล์ WE จะใช้ Gate ใกล้ๆ อย่าง Gate 31 32 33 34

ซึ่งถ้าคงมาตรฐานตรงนี้ไว้ได้ก็เป็นเรื่องที่ดีว่า บินไทยสมายล์ เจอ Gate ใกล้ๆ ไม่ต้องวิ่งตับปลิ้น ม้ามกระจายไป Gate 4x หรือ 7x

 

สำหรับเช้าวันนี้ ไฟล์ทไปเชียงใหม่ ออกพร้อมๆ กัน 3 ไฟล์ทเลยครับ

เริ่มต้นจาก เจ๊นก DD8306 เวลา 9.05 น. ที่ Gate 31 ตามด้วยน้องยิ้ม WE104/TG1104 เวลา 9.25 น. ที่ Gate 32

สุดท้ายคือ นังสิงโต SL8506 เวลา 9.40 น. ที่ Gate 33 มองออกไปก็จะเห็น เจ๊นก กะ นังสิงโต จอดคู่กันอยู่ ไปเชียงใหม่ทั้งคู่

และที่สำคัญ "คนเยอะทั้งคู่ครับ"

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

สำหรับน้องยิ้ม วันนี้ ผมได้เจอกับ คุณนครราชสีมา (ขอเรียกสั้นๆ คุณโคราช) HS-TXO ซึ่งก็ถือว่าเป็นเครื่องบิน แอร์บัส A320-200 Sharklets

ของไทยสมายล์ ที่น่าจะใหม่ที่สุด อายุยังไม่ถึง 2 เดือนดี ตามนี้เลย http://www.airfleets...active-a320.htm

 

เท่าที่ดู น้องยิ้ม ส่ง Sharkets มาประจำที่ดอนเมือง

ซึ่งข้อดีของแก๊งค์หางม่วง Sharklets นอกจากความใหม่สดซิงแล้ว

ยังมีการจัดผังที่นั่ง ที่ดีกว่าลำรุ่นแรกๆ (อย่าง HS-TXA จนถึง TXF 6 ลำแรก ที่จัดที่นั่งไป 29 แถว 174 ที่นั่ง !!)

โดยแก๊งค์ Sharklets (ตั้งแต่ HS-TXG, TXH, TXK, TXL, TXM, TXN, TXO) ที่นั่งจะหายไป 1 แถว เหลือ 28 แถว

สามารถจุดได้สูงสุดก็คือ 168 ที่นั่ง แต่ 3 แถวแรก (แถว 31-33) จัดให้เป็นชั้น Smile Plus โดยเว้นที่นั่งตรงกลางไว้ 1 ตัว

สรุปก็จะจุผู้โดยสารชั้น Smile Plus ได้ 12 ที่นั่ง และ Economy ได้ 150 ที่นั่ง แบบสบายๆ 

และแถวท้ายเครื่องก็ไม่อึดอัดแล้วครับ (ไปลองมาแล้ว นั่งสบายทุกแถว แต่แถว 34 กับ 35 จะกว้างกว่าใครในกลุ่ม Economy)

 

เอาหล่ะครับ แป๊บเดียวก็ได้เวลาเรียกขึ้นเครื่องแล้ว ผู้โดยสารค่อนข้างเบาบางมาก เมื่อเทียบกับ Gate 31 นกแอร์

และ Gate 33 ไทยไลอ้อนแอร์ ไปเชียงใหม่เหมือนกัน

 

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ขึ้นไปบนเครื่องแล้วอย่าลืมโชว์บอร์ดดิ้งพาสให้ลูกเรือแอร์สาวเอ๊าะๆ ด้วยนะครับ

 

มุมบังคับซักหน่อย ของคุณโคราช HS-TXO

 

ชั้น Smile Plus ตอนแรกผมเข้าใจว่า ลำหลังๆ จะรับมาแบบเก้าอี้ Business Class เลย

กลายเป็นว่า ยังคงคอนเซปต์เดิม ซึ่งผมว่า ถ้าน้องยิ้มจะบินดอนเมืองจริงๆ จังๆ ตัดตัว Smile Plus ออกไปก็ได้ครับ

เพราะ ถ้าต้องจ่ายถึงหลัก 4xxx บาท เพื่อจะบิน ดอนเมือง-เชียงใหม่ เกรงจะยากอยู่นะ

ถ้าเป็นตัวผม ต้องจ่าย 4xxx บาท/เที่ยว เลือกบินกับน้องดรีม หรือพวกแก๊งค์ลำใหญ่ๆ และได้ใช้เล้าจน์ ที่สุวรรณภูมิ ไม่ดีกว่าเหรอครับ ?

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เคยมีคนทักว่า Smile Plus เท่ากับ Hot Seat ของค่ายแดงหรือเปล่า ??

 

ผมตอบว่า ไม่ใช่ครับ Smile Plus ไฮโซกว่า ที่นั่งเหยียดขาได้มากกว่า (ถ้าไม่นับแถว 31 ซึ่งจะเทียบเท่าแถว 1 ของเครื่องแดงนะ)

คือในส่วนแถว 32-35 กว้างขวางสุดๆ ครับ เพราะเหมือนถอดที่นั่งแอร์เอเชียออกไป 1 แถว เพื่อเพิ่มความห่างระหว่างที่นั่ง 5 แถวแรกนี้เป็นพิเศษ

ดังนั้น .... ใครอยากได้แถว 34 และ 35 สองแถวแรกของ Economy กว้างขวางสุดๆ ก็รีบไปเช็คอินตั้งแต่เนิ่นๆ นะครับ สบายจริง คอนเฟิร์ม

 

คือ นั่งไขว่ห้างได้สบายเลยครับ สุดๆ แล้ว

 

และ แถว 31-35 มองเห็นวิวเต็มๆ ไม่มีเครื่องยนต์บังวิวครับ

(เครื่องยนต์จะเริ่มบังวิวนิดๆ ตั้งแต่แถว 36 เป็นต้นไป โดยแถว 36 จะเทียบเท่ากับแถว 7 ของแอร์เอเชีย ถ้าลองไล่ตามลำดับก็จะแบบนี้ครับ

แถว 37 = แถว 8, แถว 38 = แถว 9, แถว 39 = แถว 10, แถว 40 = แถว11 ซึ่งแถวที่ 40 จะไม่สามารถปรับเอนเบาะได้ ส่วนแถว 41 และ 42 คือ Emergency Exit ครับ แถวสุดท้ายคือแถว 58 (สำหรับเครื่องแก๊งค์ Sharklets ส่วนพวกรุ่น 6 ลำแรกแถวสุดท้ายคือแถว 59 โดยแถวที่ 50-59 จะอึดอัดมาก เหมือนกับแถว 22-31 ของแอร์เอเชีย ที่จะอึดอัดกว่าแถวหน้าๆ)

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ระหว่าง boarding รอผู้โดยสารท่านอื่น ก็ใช้เวลาให้คุ้ม

เท่าที่ทราบ ไฟล์ทนี้มีผู้โดยสาร Smile Plus 2 ท่านครับ เหมือนจะได้นั่ง 33H กับ 33K

ลูกเรือคงเห็นว่า คุณภาพชีวิตใกล้เคียงกับคนนั่งแถว 34 มาก ก็เลยเชิญไปนั่งหน้าสุดแถว 31 นั่นเอง

 

พูดง่ายๆ คือ แก๊งค์ชาร์คเล็ต เค้าพัฒนาแล้ว นั่งสบายไม่ต้องห่วงอึดอัด

 

นั่งสบายทุกแถว มีแต่แถว 34 กับ 35 ที่พิเศษกว่าใคร (ไม่นับแถว 41 และ 42 ที่กว้างกว่าชาวบ้านเพราะเป็น Emergency Exit)

 

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ไปดูโซนท้ายเครื่องกันบ้างครับ

 

ก็ว่านั่งสบายอยู่นะครับ

 

ลองแล้ว 1 คืบยังเหลือ

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

โซนท้ายก็นั่งได้สบายๆ แนะนำตั้งแต่แถว 47 เป็นต้นไปจะไม่โดนปีกบัง

 

จะเห็นว่าผู้โดยสารค่อนข้างน้อยมาก อันนี้ boarding เกือบครบแล้วนะครับ ไม่ถึงครึ่งลำ !!

 

มองดูโซนหน้าบ้าง หลังจากเครื่องไต่ระดับได้ ก็จะ .... ปิดม่านกั้นชนชั้นครับ 555+

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

เอาหล่ะครับ เมื่อผู้โดยสาร Smile Plus สองท่านสุดท้ายขึ้นเครื่อง

ลูกเรือเสิร์ฟน้ำอัญชัญมะนาว (หรือน้ำกระเจี้ยบ) พร้อมผ้าเย็นให้เรียบร้อย

ก็เริ่มออกเดินทางกันแล้ว !! 

 

ลูกเรือเดโม่สด สาธิตกันแบบตัวเป็นๆ ครับ เสียดายเหมือนกัน อุตส่าห์ทำ TVC ออกมาซะเหมือน #VXsafetydance

(Virgin America Safety Demonstration Video) บนเครื่องไทยสมายล์เกือบทุกลำ (ยกเว้น HS-TXA) มีจอเหนือศีรษะอยู่แล้ว

น่าจะใช้จุดนี้ให้เป็นประโยชน์ครับ

 

ดูโฆษณา WE Dance TVC แบบไทยๆ กันดีกว่า มาโทนเดียวกันเลย

 

อันนี้ Original ครับ ของ Virgin America ฉายภาพยนตร์สาธิตยาวเกือบ 5 นาที แต่สนุกมากกกกกกก

 

ก็ อ่ะนะ เจ้า HS-TXO ใหม่สุดของ Thai Smile

เจอกับ HS-BBM ใหม่เหมือนกันของ Thai AirAsia

 

และ ไปรษณีย์ไทย ก็มาอยู่บนเครื่องพี่แดงจนได้ (ไม่แน่ใจทะเบียนอะไร)

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

ได้เวลาน้องยิ้มเหินฟ้าแล้ว .....

 

ตีโค้งขวา

 

ผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

พอไต่ระดับเรียบร้อย สัญญาณเตือนรัดเข็มขัดดับลง

ลูกเรือก็รีบมาปิดม่านแบ่งชนชั้น

 

และ .... เปิดภาพยนตร์ขำขัน ให้ผู้โดยสารได้ชม ...

ถ้าจะว่าไป ไฟล์ทเชียงใหม่ มีสายการบินเดียวที่ทำ ก็คือ บางกอกแอร์เวย์ส 

แต่หลังจากที่ PG เองก็ผ่านยุคข้าวยากหมากแพง เอาเครื่องบินมือ 2 มาบินก็เยอะ

และก็ไม่เข้าใจที่หวยชอบมาออกกับไฟล์ทเชียงใหม่ ทำให้ไฟล์ทเชียงใหม่ส่วนใหญ่ (ที่บินด้วยเครื่องมือ 2) จะไม่ได้ฉายภาพยนตร์พวกนี้เลย

แม้แต่ Safety Demo ยังสดครับ !!

 

สรุป น้องยิ้ม ก็ชนะเลิศในจุดนี้ไป ได้ดูอะไรเพลินๆ ไม่เบื่อ แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ถึงปลายทางแล้ว

ภาพยนตร์ขำขันก็ Gags ฝรั่งแกล้งฝรั่งเองเหมือนเดิม ไม่ต้องใช้เสียง แค่มีภาพก็สนุกแล้ว

พอฉายจบต่อด้วยมิสเตอร์บีนอีก เอากับเขาเลย

 

รออีกแป๊บเดียว ลูกเรือก็จะเริ่มให้บริการของว่างและเครื่องดื่มแล้วครับ ในเบื้องต้นแจกถุงยังชีพก่อน

ซึ่ง ผมอยากจะบอกว่า ถุงไทยสมายล์ เอาไปใช้ประโยชน์ต่อได้ดีเลยครับ ไม่เสียของ บางคนไม่อยากทานบนเครื่องก็หิ้วไปฝากเด็กๆ ข้างล่างได้

 

ภายในถุงก็ ..... มีแซนวิช และน้ำ 1 ขวด และก็มีกระดาษเย็นอยู่ข้างใต้

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

นี่หล่ะครับ Light Premium ต่างจาก Premium Low-Cost อย่างไร ???

 

เพราะขั้นตอนนี้ น้องยิ้ม Thai Smile ใส่ความเป็นป้าการบินไทย แบบเต็มๆ ครับ 

เพียงแต่ รูปแบบการนำเสนอแตกต่างกัน น้ำดื่ม 1 ขวด แซนวิช 1 ชุดพอหายหิว และ เครื่องดื่มแบบเลือกได้

ทั้ง ชา-กาแฟ น้ำส้ม น้ำอัดลม นี่เองหล่ะครับ รวมถึงกระดาษเย็นที่ติดมาให้ เช็ดๆ ถูๆ เพื่อความสบายตัว

 

สิ่งที่ได้รับมา ก็มีตามนี้เลยครับ ขอเท่าที่อยากขอ

สำหรับ ชา ลูกเรือจะถามว่าต้องการมะนาวหรือไม่ ? ถ้ารับมะนาว ลูกเรือจะใส่มะนาวมาให้เลยครับ

สำหรับ กาแฟ-ชา ถ้าต้องการ ครีมเทียม น้ำตาล สามารถขอจากลูกเรือได้ ลูกเรือก็จะรินใส่ถาดให้หยิบได้เลย

น้ำอัดลม โค๊ก สไปร์ท มีให้ครับ เช่นเดียวกับ น้ำส้ม สูตรเดียวกับการบินไทย

 

รวมถึงนิตยสารสวัสดี และดิวตี้ฟรี ในกระเป๋าหน้าที่นั่ง เหมือนกับการบินไทย เป๊ะ นั่นเอง

 

สรุปโดยรวม จริงๆ ก็ให้ความรู้สึกที่ไม่หนีจากการบินไทยมากครับ แต่จะเจริญหูเจริญตามากขึ้นเพราะแอร์ยังเอ๊าะๆ นั่นเอง

[ยุ่งชะมัด..สัตวแพทย์]

บินไปแป๊บเดียว ก็ถึงเชียงใหม่โดยสวัสดิภาพครับ

 

น้องดรีม กำลังเทคออฟบินกลับสุวรรณภูมิกับ TG103 พอดีเลย

 

สำหรับส่วนตัวผมกับน้องยิ้ม ถ้าน้องยิ้มออกโปรฯมา สูงกว่านกแอร์ซัก 300-400 บาทก็้ยังพอรับได้ครับ หรือทำโปร Class W อย่างที่การบินไทยทำบ่อยๆ

ให้ราคาเริ่มอยู่ช่วง 13xx - 16xx บาท อย่างน้อยเชื่อว่า น่าจะเป็นอีกทางเลือกในการเดินทาง ให้ผู้คนได้มาลองบินกันได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

อย่างน้อยก็ได้ ไมล์ ROP 500 คะแนน ที่นั่งสบายๆ (แถว 34 และ 35) และบริการที่ค่อนข้างจัดเต็มบนเครื่อง

(แม้จะไม่ได้เต็มเปี่ยมอย่าง PG เสิร์ฟเป็นถาด แต่ส่วนตัวผมมองว่าก็เทียบเท่าการบินไทย และก็เพียงพอสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ 1 ชั่วโมง)

 

ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้อ่านทุกท่านครับ

หากทางสายการบินมีโอกาสแวะมาอ่าน ก็อยากให้มีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไปครับ

สำหรับนโยบาย 2 Hub ทั้งดอนเมือง และ สุวรรณภูมิ ส่วนตัวผมมองว่า อย่าง Thai Smile มีเครื่องบินแอร์บัส A320 ถึง 14 ลำ

ก็น่าจะสามารถ Operate ทั้ง 2 สนามบิน ได้ (อย่ามองว่าเป็นการซ้ำซ้อนกัน แต่มองว่าเหมือน สายการบินอื่นเปิด Hub ต่างจังหวัดก็ได้)

มีเที่ยวบินทั้งจากดอนเมือง และ สุวรรณภูมิ ใช้เครื่องบินแต่ละลำได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น 

เลขเที่ยวบินก็ควรเปลี่ยนเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน เช่น WE ควรใช้ 4 Digit เหมือน TG

เช่นไฟล์ท WE104 ก็ควรเป็น WE1104/TG1104 เอาให้เหมือนกัน และเลข 1 แปลว่าขึ้น-ลงดอนเมือง เลข 2 คือขึ้น-ลงสุวรรณภูมิ เป็นต้น

ต่อไปอาจจะมีไฟล์ท WE1104 กับ WE2104 ดอนเมือง-เชียงใหม่ กับ สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่ ออกเวลาใกล้ๆกันก็ได้ จากทั้ง 2 ฮับเลย

 

พร้อมๆ กับการทำการตลาดให้ผู้คนรู้จักไทยสมายล์ ในฐานะลูกสาวของป้า บริการทัดเทียมกับคุณป้า (เครื่องใหม่ป้ายแดง+แอร์เอ๊าะ) (และไม่ใช่การให้ข่าวเพื่อจะไปลดตัวแข่งกับโลว์คอสต์ ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ เจ๊นก ต้องรับมือกับสิงโต และ พี่แดงเอง ไม่เกี่ยวกับน้องยิ้ม)

 

จริงๆ โมเดลผมเชื่อว่าพอไปได้ อาจจะไม่ถึงกับต้องให้ลุงๆ ป้าๆ เอ้ยๆ พี่ๆ ลูกเรือรุ่นใหญ่ ต้องมาเทรนบินกับ A320 เลยครับ

ศึกษาโมเดลของ PG ดูได้ ว่าเขาเองต้องฉีกตัวเองเป็น Asia's Boutique Airlines ในปี 47 และต้องปรับแผนใหญ่ในปี 53 เพราะอะไร

และเขาทำสำเร็จได้อย่างไร น้องยิ้มทำได้ แต่น้องยิ้มอาจต้องพยายามมากกว่านี้ ก็เท่านั้นเอง ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

ก่อนลงจากเครื่อง ผมบอกลูกเรือว่า สู้ๆ นะครับ ลูกเรือตอบว่า สู้ๆ ค่ะ !!

 

ขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบครับ

[Uronohan]

ขอบคุณครับบบ รีวิวจัดเต็มอย่างเหมือนเคย ทำให้เห็นความแต่กต่างระหว่าง premium กับ low cost อย่างเห็นได้ชัด

ตอนแรกผมไม่เห็นด้วยที่จะให้ Thai Smile ย้ายมาดอนเมือง แต่ตอนนี้เริ่มจะเห็นด้วยแล้ว สู้ๆๆๆครับ WE

[Celebrity]

รับไม่ได้กับบอร์ดิ้งพาสแบบกระดาษสลิปเซเว่นมาก ไม่ไหวจะเคลียร์ ส่วนตัวไม่ปลื้มอะไรกับ THAI Smile อยู่แล้ว ชอบอย่างเดียวที่บินแล้วได้ไมล์ แค่นั้นจริงๆ 

[Stefan]

จัดเต็มอีกเช่นเคยสำหรับข้อมูล และรีวิว
ขอบคุณครับ