89 replies to this topic

[TONY]

Advertisements

สวัสดีครับ กลับมาต่อกับไฟลต์กลับสู่กรุงเทพครับ

สำหรับขาไปตาม link นี้ครับ http://www.hflight.n...กลไป-ลอนดอน-กั/

 

หลังจากที่ใช้เวลา 3 วันใน London เเละ 3 วันใน Cotswold ก็ได้เวลากลับกรุงเทพเเล้วครับ

ในระหว่างที่ไป Cotswold จำเป็นต้องเช่ารถเพราะการเดินทางใน Cotswold จำเป็นต้องใช้รถส่วนตัว การใช้บริการรถไฟ

หรือรถบัสเป็นไปได้ยาก เเละเราเดินทางพร้อมเด็ก เเละผู้สูงอายุรวมถึงสัมภาระที่เยอะ การเช่ารถเป็นวิธีที่ดีที่สุด

 

ในรีวิวนี้จะขอเริ่มจากการขับรถเข้าสนามบิน Heathrow เมื่อเรามาถึงเราจะเจอเครื่องบิน A380 ของ Emirate อยู่หน้าทางเข้าสนามบิน

จุดหมายของเราอยู่ที่ Terminal 3 

 

เมื่อมาถึงภรรยาผมก็ต้องขนของและกระเป๋าทั้งหมดไปใน Terminal เเละให้คุณเเม่รออยู่ใน Terminal เพราะเราต้องเอารถไปคืนที่จุดคืนรถรอบสนามบิน

ซึ่งอยู่บริเวณสถานี  Hatton Cross ซึ่งตอนเเรกเราก็ไม่ทันได้ดู พอตอนจะกลับถึงมานั่งอ่านดู ดีที่เผื่อเวลาไว้เพราะตอนนั้นเป็นช่วงเย็นวันจันทร์ การจราจรติดขัดพอสมควร ดังนั้นควรศึกษาดูก่อนครับ เพราะบางบริษัทสามารถคืนรถภายในสนามบินได้เลย (คร้งนีเช่าของ SIXT)

 

[TONY]

บรรยากาศระหว่างรอบนรถ ขณะที่ภรรยากับคุณเเม่ภรรยาเข้าไปใน Terminal 3 ส่วน Departure

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[TONY]

ลูกชายก็ต้องนั่งประจำบน Car seat

 

 

[TONY]

เมื่อภรรยาพาคุณเเม่ไปบริเวณ Repacking area เเล้วก็กลับมาที่รถ

เเล้วก็รีบไปคืนรถกัน รถค่อนข้างติดใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงเพื่อมาที่จุดคืนรถที่อยู่ในปั้มน้ำมัน BP

ตรงข้ามสถานี Hatton Cross

 

เมื่อมาถึงก็รอเจ้าหน้าที่มา check เพื่อคืนรถ ระหว่างนี้ลูกชายจอมซนเห็นรถก็เลยรีบไปนั่งเล่น

เราโชคดีที่มาถึงเพราะ Shuttle ที่จะไปสนามบินกำลังจะออกพอดี เลยต้องเเกะตัวลูกออกจากรถ 

ร้องโวยวายใหญ่

 

รถ shuttle ที่มาส่งเป็นรถตู้คันใหญ่มี่ที่วางสัมภาระด้านหลัง ซึ่งไปส่งผู้โดยสารท่านอื่นที่ terminal 2 ก่อนจะมาส่งเราที่ Terminal 3

 

 

 

[TONY]

เมื่อมาถึง Terminal 3

 

 

ก็รีบไปหาคุณเเม่ก่อนเพราะขณะนี้ 6.30 น. เเล้ว เเละเราต้องไป Refund Tax

ซึ่งคิวยาวมาก เลยเเบ่งกันไปต่อคิว Refund Tax เเละ Check in ผมเลยให้คุณเเม่ต่อคิว Tax Refund ก่อน

เเล้วค่อยไปเปลี่ยนตอนที่ต้องเเสดงตัวที่ Counter Check in

 

 

[TONY]

ในเที่ยวบินนี้การบินไทยใช้พนักงานของ Air Canada

 

ตอนเเรกที่เดินไปที่ Counter เจ้าหน้าที่ยืนยันจะให้เราไปใช้เครื่อง Kiosk ก็เลยเเจ้งว่าเดินทาง

พร้อมเด็ก  ขอใช้การเช็คอินที่หน้า Counter เจ้าหน้าที่ก็ยังยืนยัน จะให้เราไปใช้เครื่องก่อนเเล้วค่อยมา drop กระเป๋า

 

เราก็เลยเดินไป พร้อมทั้งเข็นรถเข็นที่มีกระเป๋าอยู่เต็ม 2 คันรถเเละ รถเข็นเด็กอีกคัน ทุลักทุเลมาก

เมื่อไปถึงที่เครื่องก็พยายาม check in เเต่ระบบขึ้นว่าไม่สามารถเช็คอินได้ ซึ่งตอนเเรกของภรรยาสามารถทำได้เเต่ Print Boarding pass ไม่ได้

ผมเข้าใจว่าตั๋วของลูกที่เป็น infant ไม่สามารถใช้การ check in ผ่านเครื่องได้ เหมือนกับ web check in เพราะลองก่อนจะมาเเล้วก็ Error

 

เลยเดินกลับไป พนักงาน Air Canada ก็ยืนยันให้เราไปใช้เครื่อง Kiosk อีก

ผมเลยสวนกลับเลย

 

พนง : คุณต้องไป check in ก่อนถึงจะมา drop กระเป๋าได้

ผม  : ผมไปทำมาเเล้วเเต่มัน Error เเละทำมาเเล้ว 2 ครั้งก็ได้เเบบเดิม ผมต้องการเช็คอินกับคน ไม่ต้องการเครื่อง

พนง : ฉันไม่รู้ นี่เป็นนโยบายของสายการบินคุณ ฉันไม่ทราบ เเต่คุณก็ต้องไปเช็คอินกับ Kiosk

ผม : ช่วยหลบไปหน่อย เเละคุณหยุดพูดครับ ผมเดินทางกับ infant เเละมีสัมภาระมากมาย ไม่สามารถย้ายไปไหนได้เเล้ว

        ผมต้องการคุยกับคน ไม่ใช่เครื่อง

พนง : (หลบ) เเละก็บอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องของฉัน ฉันเเค่ทำตามหน้าที่ คุณต้องไปเเจ้งสายการบินของคุณเอง 

 

ผมเลยไม่สนใจเเละเดินไปต่อคิว check in ตอนนั้นคนยังไม่เยอะ ไปถึงเจ้าหน้าที่ของ Air Canada ก็เช็คอินให้ไม่เห็นมีปัญหาอะไร

เเต่เธอดูงงๆกับเรื่องน้ำหนัก ผมเลยต้องมานั่งเเจกเเจงว่าเรามีสิทธิ์คนละเท่าไหร่ ซึ่งก็พอดีไม่เกิน เเละจากนั้นก็ต้องไปเปลี่ยนตัวคุณเเม่ให้มาเเสดงตัว

 

เมื่อเรียบร้อยก็ได้ Boarding pass เเละ Tag สำหรับติดรถเข็นที่หน้า Gate

[TONY]

ผมเข้าใจว่าการบินไทยน่าจะเลิกจ้างพนักงาน เจ้าหน้าที่เเละให้สายการบิน Air Canada มาดูเเล

เพื่อลดค่าใช้จ่าย เพราะ Load เส้นทางนี้ไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อน 

 

เเต่จริงๆควรจะมีเจ้าหน้าที่คนไทยของสายการบินมาดูเเลด้วยนะครับ หรือมีเเต่ผมไม่เห็น

เห็นอีกทีตอนอยู่ที่ Gate เพราะผู้โดยสารสูงอายุท่านนึงคุยกับลูกว่า นี่ถ้ามาคนเดียวทำอะไีรไม่ถูกเลย

ต้องยอมรับครับว่าบางคนเลือกการบินไทยเพราะอุ่นใจคิดว่ายังไงก็ไม่มีปัญหาเรื่องภาษา เเต่กรณีนี้ก็ว่ากันไปครับ

 

และเมื้อทุกอย่างเรียบร้อยคุณเเม่และผมก็ต้องไปเข้าคิวเพื่อ Refund Tax อีกเกือบชั่วโมง เพราะคนเยอะมาก

ขณะที่ภรรยาพาลูกไปทานอาหารเย็น

 

กว่าจะเสร็จก็เกือบ 2 ทุ่ม ซึ่งเครื่องบินออก 21.30 น

 

ระหว่างเข้าเเถวก็เห็นลูกเรือการบินไทยมาถึงพอดี

[TONY]

จากนั้นก็ขึ้นไปชั้น 1 เพื่อไปหาภรรยาเเละลูกที่มาทานอาหารรออยู่

 

 

ก่อนผ่าน immigration เเละ Security check ซึ่งเข้มข้นมาก

สแกนทุกอย่าง

 

บริเวณเครื่องสเเกนจะมีสายพานเเยก เป็น 2 ทางครับ เเละมีกระจกกั้น อันไหนไม่มีปัญหาจะมาทางผู้โดยสาร

อันไหนมีปัญหาจะมาฝั่งเจ้าหน้าที่ ซึ่งเราก็มีของเหลวเช่นนมที่ปั้มไว้ก็ต้องเอาออกมาชี้เเจงเเละ scan ใหม่

 

กว่าจะผ่านมาได้ก็เกือบ 20.30 น. 

 

เนื่องจากเวลาไม่มากเเละหิวบ้างเลยไปใช้ lounge No.1 Heathrow ด้วยสิทธิจาก Priority pass

จริง lounge นี้มีที่อาบน้ำเเต่ห้องน้ำอยู่ระหว่างซ่อม ก็เลยเช็ดตัวให้ลูกเเทนเเล้วเปลี่ยนชุดนอน

 

ข้อมูล Lounge เผื่อใครไป Lounge: NO.1 HEATHROW

Location: Airside - after Security, follow the walkway to the left of World Duty Free and follow signs 'Airport Lounges' and 'Gates 13-22'. The Lounge is located one floor up, and is accessible via lifts or stairs.

 

จากนั้นก็ทานขนมเล็กน้อยกับเครื่องดื่ม ก่อนจะรีบเดินไปขึ้นเครื่อง

 

ข้อมูล Gate ที่นี่จะขึ้นช้ามาก ต้องคอยเช็ควันนี้ Gate ออกที่ 40 กว่าจำไม่ได้เเน่นอนครับ

เเต่ไกลมาก

ก่อนถึงก็เจอเครื่องบินมารอเเล้วครับ วันนี้เป็น Foot long A340-600 ครับ

[TONY]

เมื่อเรามาถึงที่ Gate ก็มีเจ้าหน้าที่พามานั่งรอที่ Zone ใกล้ประตูทางออก

ขอดู boarding pass ติด Tag สำหรับรถเข็นเด็ก 

 

ขณะนั้น 21.10 น. เเล้ว ได้นั่งแป้บเดียวก็ต้องไปขึ้นเครื่องเลยครับ

 

สำหรับเที่ยวบินนี้คือ เที่ยวบินที่ TG 917  เส้นทาง LHR-BKK

 

ออกเดินทางจาก London Heathrow วันที 12 MAY 2014 เวลา 21.30 

 

กำหนดถึงจุดหมายปลายทาง Bangkok Suvarnabhumi วันที่ 13 MAY 2014 เวลา 15.05 (ถึงจริง 15.33)

 

เครื่องบิน A340-600 สระบุรี

 

ที่นั่งเเถว 33 D E G

 

 

ขึ้นเครื่องมาคนเเรกก็เจอที่นั่งว่างเเบบนี้ครับ

 

เอาลงที่นั่ง ขณะนี้ยังไม่หลับครับ

[TONY]

ว่าเเล้วก็มาสำรวจที่นั่งกันก่อนนะครับ

 

เครื่องนี้มี PTV ทุกที่นั่งเป็นรุ่นเเรกๆของการบินไทยที่มีจอครับ ก็เลยไม่เหมือนขามา

 

 

 

รีโมทคอนโทรลจะอยู่ด้านข้าง

[TONY]

หมอนมีวางไว้ประจำที่

 

 

โต๊ะกางออกมาได้เเบบนี้เหมือนทั่วไป

 

นิตยสารที่อยู่ใน seat pocket

[TONY]

หูฟังครับ ชอบเเบบนี้มากกว่าเเบบให้กลับบ้าน

[TONY]

เส้นทางบินและข้อมูลการบินคืนนี้

 

[TONY]

เเอบส่องด้านข้างเเละข้างหน้า (ซึ่งจะได้ไปนั่งในไม่ช้า)

 

 

 

 

สักพัก ลูกเรือมาเเจ้งว่าวันนี้ โหลดประมาณ 60 เปอร์เซนต์

เลยจะมาเชิญคุณเเม่ไปนั่งประมาณเเถว 39 จะได้นอนได้ เเล้วน้องจะได้มีที่นอน

 

ส่วนผมตอนเเรกก็เลยไปนั่งแถว 40K 

 

 

 

 

 

 

[TONY]

จากนั้นก็เริ่ม Demon Safety ครับ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[TONY]

Seat pitch 34 นิ้ว นั่งสบายครับ

 

 

เเต่นอกหน้าต่างมองไม่เห็นอะไรเพราะฝนตกครับ

[TONY]

หลังจากที่ demon safety video เเล้ว ลูกเรือผู้หญิงมาเเจ้งว่า

ผู้โดยสารที่นั่งด้านหน้าย้ายไปนั่ง Zone หลัง เลยมาถามผมว่าจะย้ายไปนั่งเเทนมั้ย เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้ลูก

 

พอเดินผ่านไปก็หลับไปเรียบร้อยเเล้วครับ

 

ที่นั่งตลอดทั้ง Flight เปลี่ยนไปมาครับ เดี๋ยวตอนเช้าก็จะได้ไปนั่งอีกที่นึงครับ

 

รู้สึกขอบคุณลูกเรือทุกท่านใน Flight นี้มากครับ ที่เอาใจใส่ดูเเลเป็นอย่างดี ทำให้การเดินทางราบรื่นมากครับ

 

 

[TONY]

สักพักก็ take off ครับ

[TONY]

หลังจากเครื่องไต่ระดับคงที่เเล้ว ก็มาจัดที่นอนให้ลูกเหมือนเดิมครับ

ก็เริ่มจากการปลดเข็มขัดให้ภรรยาก่อน เเละให้ภรรยาอุ้มลูกไว้ 

 

จากนั้นก็เอากระเป๋าลงมา เเต่พอดีลูกเรือเดินมาบอกว่าวางไม่ได้

ก็เลยเอาขึ้นไป เพราะเป็นเรื่องความปลอดภัย เลยอาผ้าห่มปูให้บน seat 33 DE

เเล้วเอาหมอนให้หนุน จากนั้นก็หลับครับ 

 

เเต่ขากลับภรรยาบอกว่ารู้สึกว่าจะสะดุ้งบ่อยกว่าขามา ซึ่งหลับยาว

เเต่พอเอาเข้าเต้าก็หลับได้ต่อเเต่ทำให้ภรรยาไม่ค่อยได้นอน ซึ่งกลางคืนลูกจะติดเเม่มาก

 

เเต่ก็ไม่เป็นไรครับเพราะลงมาก็ได้พักผ่อนที่บ้าน เเละเป็นการปรับเวลาตามเมืองไทยด้วยครับ

 

คราวนี้มาดูเมนูกันครับว่าการบินไทยจะเสริฟอะไรบน Flight นี้

[TONY]

First Serving เลือกกันคนละเมนูครับ ส่วนอาหารเด็กลูกเรือเดินมาถามก่อนเลยบอกไปว่าไม่รับครับ

เพราะไม่อยากทานเยอะครับ เอามาก็ไม่ได้ทานครับ