Jump to content



 
จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม จองรถเช่า
แผนกบริการลูกค้า โทร 02-3737-555 จันทร์ - เสาร์ 09.00-18.00น.

 

ค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวและการบินในเอชไฟล์ท เชิญด้านล่างนี้

หน้าแรก | เว็บบอร์ดรีวิว | จองตั๋วเครื่องบิน | จองโรงแรม | เที่ยวต่างประเทศ | เที่ยวในประเทศ | ลงโฆษณา

พักผ่อนกายา ณ หัวหิน-ปราณบุรี พักวรบุระ และ เอวาซอน

หัวหิน ปราณบุรี

  • Please log in to reply
112 replies to this topic

#1 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

 


Posted 06 July 2014 - 08:25 AM

Advertisements

วันที่ 20 - 23 มิย.2557 เรา 2 สองเดินทางไปพักผ่อนกันที่หัวหิน 2 คืนและปราณบุรี 1 คืนครับ   เราจองโรงแรมวรบุระ รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นห้องแบบ  Deluxe สำหรับการพักที่หัวหิน 2 คืน  และโรงแรมเอวาซอน  เป็นห้องแบบ Pool Villa สำหรับการพักที่ปราณบุรีอีก 1 คืน...

 

Attached Thumbnails

  • IMG_4108.JPG
  • IMG_4347.JPG
  • IMG_4264.JPG




Advertisements

#2 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 08:36 AM

เราขับรถออกจากกรุงเทพฯเช้าวันศุกร์ที่ 20 มิย.2557 ตั้งแต่เช้าครับ ทริปนี้ไปกันสองคนครับ  ขับจากดอนเมืองขึ้นโทร์ลเวย์ไปต่อทางด่วนดินแดงไปลงพระรามสอง   ตรงไปที่จัหงัดสมุทรสาครก่อนเลยครับ  เราแวะกราบหลวงพ่อวัดบ้านแหลมที่วัดเพชรสมุทร

 

เนื่องสายเป็นวันศุกร์คนไม่เยอะครับ  สบายๆ

 

วัดเพชรสมุทรวรวิหาร เดิมชื่อ "วัดศรีจำปา" สร้างขึ้นในราวรัชสมัยพระเจ้าปราสาททองแห่งกรุงศรีอยุธยาตาม ตำนานเล่าว่า ในปี พ.ศ. 2307ชาวบ้านแหลมในเขตเมืองเพชรบุรีอพยพหนีพม่ามาตั้งบ้านเรือน อยู่บริเวณตำบล แม่กลองเหนือวัดศรีจำปา และเรียกหมู่บ้านนี้ว่า "บ้านแหลม" ตามชื่อห มู่บ้านเดิมของตนชาวบ้านแหลมได้ช่วย กันบูรณะวัดศรีจำปาและเรียกวัดนี้ใหม่ว่า วัดบ้านแหลม" ต่อมาวัดบ้านแหลมได้ยกฐานะขึ้นเป็นอาราม หลวง ชั้นวรวิหาร ได้รับ พระราชทานนามว่า วัดเพชรสมุทรวรวิหาร

 

ชาวบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรีได้มาตีอวนหาปลาบริเวณแม่น้ำแม่กลอง จังหวัดสมุทรสาคร ได้ลากอวนพบพระพุทธรูป 2 องค์ องค์หนึ่งเป็นพระพุทธรูปปางอุ้มบาตร ซึ่งได้มีการอัญเชิญไปประดิษฐานที่ วัดศรีจำปา (ปัจจุบันชื่อ วัดบ้านแหลม ทำให้ชาวบ้านเรียกพระพุทธรูปองค์นี้ว่าหลวงพ่อบ้านแหลมตั้งแต่นั้นมา พระพุทธรูปอีกองค์หนึ่ง ปางสมาธิ ชาวบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ได้นำกลับไปประดิษฐานที่วัดเขาตะเครา จังหวัดเพชรบุรี
 
ตำนานพระพุทธรูปห้าองค์อยู่บนแพลอยน้ำมาในแม่น้ำแม่กลองจากเมืองทางทิศเหนือของจังหวัดสมุทรสาคร คือ หลวงพ่อวัดบ้านแหลม หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อโตวัดบางพลี หลวงพ่อวัดเขาตะเครา และหลวงพ่อวัดไร่ขิง ซึ่งชาวบ้านริมฝั่งน้ำที่ศรัทธาได้อัญเชิญไปประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถของวัด เพื่อสักการบูชา

 

 

Attached Thumbnails

  • WP_20140620_001.jpg
  • WP_20140620_003.jpg
  • WP_20140620_004.jpg


#3 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 08:37 AM

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระราชศรัทธา เสด็จนมัสการพร้อมทั้งได้พระราชทานผ้าทอมาจากดิ้นทองจำนวนสองผืนเพื่อประดับไว้ที่องค์พระ ในวันสำคัญ เช่น วันสงกรานต์ วันถวายกฐินพระราชทานในเวลาต่อมา สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธ์วงศ์วรเดช ได้ถวายบาตรแก้วสีน้ำเงินให้กับองค์พระ เนื่องจากบาตรเดิมนั้นได้สูญหายไปในทะเลตั้งแต่คราวที่ชาวประมงได้พบหลวงพ่อในแม่น้ำแม่กลอง ตำบลแม่กลอง อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสาคร

Attached Thumbnails

  • WP_20140620_005.jpg
  • WP_20140620_007.jpg


#4 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 08:40 AM

จากนั้นเราไปวัดบางกุ้ง  ที่อำเภอบางคนที ซึ่งไม่ไกลจากวัดเพชรสมุทรเท่าไหร่ครับ..

 

วัดบางกุ้ง เป็นวัดเก่าแก่ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ตามประวัติกล่าวว่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ปีพ.ศ. ๒๓๐๘ กองทัพพม่ายกเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์จึงมีพระราชดำรัสสั่งให้หัวเมืองปากใต้ยกกองทัพเรือมาตั้งค่ายสร้างกำแพงล้อมวัดบางกุ้งที่ตำบลบางกุ้ง เมืองสมุทรสงคราม เรียกว่า “ค่ายบางกุ้ง” กองทัพพม่าซึ่งยกทัพเข้ามาตามลำน้ำแม่กลองและบุกลงมาจนถึงค่ายบางกุ้ง โดยที่กองทัพของกรุงศรีอยุธยาไม่สามารถต้านทานไว้ได้ค่ายบางกุ้งจึงแตก หลังจากพม่าตีกรุงศรีอยุธยาแตกในปี พ.ศ. ๒๓๑๐ ค่ายบางกุ้งก็ตกอยู่ในสภาพค่ายร้าง เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสถาปนากรุงธนบุรีแล้ว โปรดให้ชาวจีนรวบรวมสมัครพรรคพวกมาตั้งเป็นกองทหารรักษาค่ายเก่าที่บางกุ้ง จึงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “ค่ายจีนบางกุ้ง” ในปี พ.ศ. ๒๓๑๑ หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาไปประมาณ ๘ เดือน กองทัพพม่านำโดยเจ้าเมืองทวายยกทัพบกและทัพเรือลงมาล้อมค่ายจีนบางกุ้งไว้ ทหารจีนที่รักษาค่ายบางกุ้งสู้รบอย่างเต็มที่แต่มีกำลังน้อยกว่าเกือบจะเสียค่ายแก่พม่า กรมการเมืองสมุทรสงครามจึงมีหนังสือกราบทูลไปยังกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงทราบจึงยกกองทัพมาตีทัพพม่าแตกพ่ายไป และต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๑๗ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชยกกองทัพเรือนำทหารไปออกศึกที่บางแก้ว เมืองราชบุรี ในระหว่างการเดินทางได้หยุดกองทัพพักพลเสวยพระกระยาหารที่วัดกลางค่ายบางกุ้ง
 
หลักฐานโบราณสถานที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ พระอุโบสถก่ออิฐถือปูนปัจจุบันถูกต้นไทรขึ้นปกคลุมทั้งหลังหน้าบันของพระอุโบสถ มีปูนปั้นลวดลายพันธุ์พฤกษาประดับด้วยเครื่องถ้วยซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย

Attached Thumbnails

  • IMG_4056.JPG
  • IMG_4057.JPG


#5 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 08:42 AM

ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่สมัยอยุธยาตอนปลาย สลักจากหินทรายแดง แสดงปางมารวิชัย ชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อโบสถ์น้อย” ที่ฝาผนังของพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมฝาผนังรูปพระอดีตพุทธเจ้า และภาพพุทธประวัติ

Attached Thumbnails

  • IMG_4062.JPG
  • IMG_4060.JPG


#6 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 08:43 AM

เป็นอุโบสถหลังเดิมที่สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี จะถูกปกคลุมด้วยรากไม้ใหญ่ทั้งโพ ไทร ไกร และกร่างมอง จากภายนอกคิดว่าเป็นกลุ่มต้นไม้ใหญ่ มากกว่ามีโบสถ์อยู่ข้างใน รากไม้เหล่านี้ช่วยให้โบสถ์คงรูป อยู่ได้ ทั้งยังให้้ความขรึมขลัง อีกด้วย ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐาน ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อโบสถ์น้อย (หลวงพ่อนิลมณี) และเรียกโบสถ์ว่า โบสถ์ปรกโพธิ์ และมี ภาพจิตรกรรมฝาผนัง สมัยปลายกรุศรีอยุธยาเป็นเรื่องราว เกี่ยวกับพุทธประวัติ

Attached Thumbnails

  • IMG_4064.JPG
  • IMG_4061.JPG


#7 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 08:44 AM

จากตัวเมืองสมุทรสงคราม ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 325 (แม่กลอง-อัมพวา) ประมาณ 5 กม. เลยวัดบางกะพ้อม (ยังไม่ถึงตลาดอัมพวา) ให้สังเกตทางแยกซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง (สะพานสมเด็จพระศรีีสุริเยนทร์) ตรงไปถึง ถึงสามแยกเลี้ยวขวา ตรงไปผ่านวัดภุมรินทร์ จนถึงสามแยก (มีวัดบางแคใหญ่อยู่ขวามือ) เลี้ยวขวา ตรงไปผ่านวัดบางแคน้อย วัดปากน้ำ ข้ามสะพานคลองแควอ้อมสังเกต ค่ายบางกุ้งอยู่ซ้ายมือ จะเห็นแนวกำแพงของค่าย

Attached Thumbnails

  • IMG_4063.JPG
  • IMG_4065.JPG


#8 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 08:46 AM

ที่ตั้งค่ายบางกุ้งในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

 

พระเจ้าตากกอบกู้เอกราชได้สำเร็จ ในปี พ.ศ. 2310 โปรดให้คนจีนจาก ระยอง ชลบุรี ราชบุรี และกาญจนบุรี รวบรวมพลพรรค มาตั้งเป็นกองทหารรักษา ค่ายบางกุ้ง ซึ่งยังไม่มีทหารรักษาหลังจากที่พม่าตีกรุงศรีอยุธยาแตก ค่ายนี้จึงเรียกว่า "ค่ายจีนบางกุ้ง"

Attached Thumbnails

  • IMG_4068.JPG
  • IMG_4067.JPG


#9 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 08:52 AM

จากค่ายบางกุ้ง   เราขับรถออกมาที่ถนนพระราม 2 เพื่อไปที่คลองโคน   เราจะไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านเกษร   ร้านดังในพันทิพกันครับ

 

ร้านนี้ชื่อว่า “ร้านเกษร” ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดคลองโคน จ.สมุทรสงคราม ต้องขับรถเส้นทางถนนพระราม 2 (สายธนบุรีปากท่อ) หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า ทางหลวงหมายเลข 35 เลยทางเข้าดอนหอยหลอดไปแล้ว จะเจอกับป้ายบอกทางไปวัดคลองโคนเป็นระยะ....... 

 

มื่อเลี้ยวซ้ายไปประมาณ 3 กิโลเมตร จะเจอลานจอดรถกว้างๆ ด้านซ้ายมือเป็นวัดคลองโคน และขวามือคือท่าลงเรือไปเที่ยวปากแม่น้ำ รวมถึงร้านเกษรก็ตั้งอยู่จุดนี้เองครับ

 

บรรยากาศ ณ คลองโคนครับ

Attached Thumbnails

  • IMG_4079.JPG
  • IMG_4081.JPG
  • IMG_4080.JPG


#10 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 08:55 AM

เมนูแนะนำร้านนี้อย่างแรกคือปูนึ่งครับ ... :P  :D  :lol:

Attached Thumbnails

  • WP_20140620_008.jpg
  • IMG_4075.JPG
  • IMG_4078.JPG


#11 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 08:57 AM

ปลาหมึกผัดกะปิ  ต้มยำปลาทู  และยำชะคราม   :lol:  B)

Attached Thumbnails

  • IMG_4073.JPG
  • IMG_4071.JPG
  • IMG_4069.JPG


#12 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 09:02 AM

จากคลองโคนเราขับรถต่อไปที่ตัวเมืองเพชรบุรี  เพื่อไปยังวัดใหญ่สุวรรณารามครับ 

 

วัดใหญ่สุวรรณาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "วัดใหญ่" เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดวรวิหาร เดิมชื่อว่า "วัดน้อยปักษ์ใต้" สันนิษฐานว่าเป็นวัดที่มีมานานแล้วตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ดังจะเห็นได้จากหลักฐานตามพระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ทรงไว้ว่า "ภาพและลายในพระอุโบสถนี้คงเขียนมาก่อน 300 ปี ขึ้นไป..." (นับถึงปัจจุบันคงต้องเป็น400 ปี) สำหรับชื่อวัดนั้นที่ชือว่า "วัดใหญ่" เข้าใจว่าเพราะมีเนื้อที่ถึง ๒๐ ไร่เศษ ส่วนคำว่า "สุวรรณ" นั้นน่าจะได้จากพระนามของสมเด็จพระสังฆราช (แตงโม) ซึ่งเดิมท่านชื่อ ทอง หรือจะเป็นนามฉายาของท่านว่า สุวณฺณ ด้วยก็เป็นได้ เพราะท่านได้มาปฏิสังขรณ์ครั้งสำคัญให้วัดนี้ อันเป็นสถานมูลศึกษาเดิมของท่าน วัดนี้จึงมีชื่อว่า วัดใหญ่สุวรรณาราม ตั้งแต่นั้นสืบมา
 
วัดใหญ่สุวรรณารามเป็นพระอารามหลวงในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ดังพระราชหัตถเลขาของพระองค์ตอนหนึ่งความว่า
 
"วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2452 เสด็จพระราชดำเนินขึ้นบนพระนครคีรีโปรดฯ ให้พระสงฆ์ผู้ใหญ่บางวัดเข้าเฝ้า โปรดฯ ให้พระครูมหาวิหาราภิรักษ์เจ้าอาวาสวัดใหญ่ เข้าเฝ้า พระราชทานพัดยศ และโปรดฯ ให้ยกวัดใหญ่สุวรรณารามเป็นวัดหลวงอีกวัดหนึ่ง"
 
วันที่เรามาแวะทางวัดกำลังบูรณะปฏิสังขรณ์ครับและเป็นช่วงสอบนักธรรมของพระสงฆ์ทำให้ถ่ายรูปได้ไม่เยอะ

Attached Thumbnails

  • IMG_4083.JPG
  • IMG_4086.JPG
  • IMG_4101.JPG


#13 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 09:06 AM

พระอุโบสถของวัดใหญ่สุวรรณารามเป็นสถาปัตยกรรมทรงไทยสมัยอยุธยา ก่ออิฐถือปูน มีหน้าบันประดับกระจกสีประกอบลวดลายปูนปั้นสวยงามมาก ที่ผนังด้านในมีภาพจิตรกรรมเป็นภาพเทพชุมนุม ๕ ชั้น ที่มีความงดงามและทรงคุณค่าทางศิลปะ ที่มีลักษณะเด่นเป็นพิเศษ ด้านหน้าและด้านหลังผนังหุ้มกลองของพระอุโบสถ มีบานประตูด้านละ ๒ ช่อง โดยเฉพาะด้านหน้าเจาะช่องหน้าต่างไว้อยู่ระหว่างกึ่งกลางของบานประตู แต่มีขนาดใหญ่กว่าบานประตู พระอุโบสถหลังนี้จึงแปลกกว่าที่อื่นๆ เพราะมีหน้าต่างเพียงหน้าต่างเดียวส่วนด้านหลังของบานประตูและหน้าต่าง มีภาพเขียนทวารบาลรูปทรงสวยงามมาก

Attached Thumbnails

  • IMG_4097.JPG
  • IMG_4089.JPG


#14 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 09:06 AM

พระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย พุทธลักษณะสมส่วนสวยงาม ที่ฐานพระตกแต่งลวดลายปูนปั้นและปิดทองประดับกระจกสีสวยงามมาก มีพระพุทธรูปที่งดงามอีกหลายองค์ประดิษฐานบนฐานชั้นล่าง

Attached Thumbnails

  • IMG_4088.JPG
  • IMG_4087.JPG


#15 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 09:10 AM

ซ้ายมือ รูปหล่อปิดทองสมเด็จพระสังฆราช (แตงโม) ผู้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์วัดใหญ่สุวรรณารามครั้งสำคัญ 
ส่วนด้านขวา เป็นรูปหล่อพระครูมหาวิหาราภิรักษ์ (พุก) อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่สุวรรณาราม
 
พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ด้านหลังพระประธาน พระบาทขวามี ๖ นิ้ว นับเป็นเรื่องแปลกที่เล่าสืบกันมาว่าพระพุทธรูปองค์นี้ช่างตั้งใจที่จะสร้างให้มี ๖ นิ้ว (มองเห็นเฉพาะพระบาทขวา ส่วนพระบาทซ้ายเป็นท่าขัดสมาธิอยู่ใต้พระชานุ) อันเนื่องมาจากพระพุทธรูปในวัดเขายี่สาร มีนิ้วพระบาทรวมกันได้ ๙ นิ้ว เมื่อมีการสร้างพระพุทธรูปที่วัดใหญ่สุวรรณาราม ช่างจึงได้สร้างให้มีนิ้วพระบาทเกินมา ๑ นิ้ว ตำนานเรื่องนี้ไม่มีข้อพิสูจน์ แต่ถ้าเกิดจากความบังเอิญนับว่าเป็นความบังเอิญที่ประจวบเหมาะกันมาก เพราะวัดเขายี่สารอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงครามซึ่งอยู่ติดกับจังหวัดเพชรบุรี ทั้ง ๒ วัดห่างกันประมาณ ๒๘.๕ กิโลเมตร โดยมีอำเภอบ้านแหลมคั่นอยู่

Attached Thumbnails

  • IMG_4091.JPG
  • IMG_4090.JPG


#16 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 09:15 AM

     พระระเบียงคด วัดใหญ่สุวรรณาราม ออกแบบให้มีหน้าบันประดับลายจำหลักรูปเครือเถา ตรงกึ่งกลางมีเลข 5 ไทยเหนือพระขรรค์พาดขวางอยู่บนพาน เบื้องสูงขึ้นไป เป็นรูปพระมหาพิชัยมงกุฎ ล้อมรอบด้วยแฉกรัศมี
       
     ลวดลายดังกล่าว ออกแบบขึ้นเพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นสัญลักษณ์หมายถึงพระองค์ท่าน ซึ่งทรงโปรดปรานและมีความผูกพันกับวัดใหญ่สุวรรณาราม
       
     พระระเบียงคด มีทั้งหมด 8 หลัง แต่มีอยู่ด้านหนึ่งซึ่งหันเข้าหาบริเวณติดถนนหน้าวัด ลวดลายที่หน้าบันดังกล่าว มีลักษณะผิดประหลาดเป็นอื่น
       
     กล่าวคือ เป็นตัวเลข 5 ไทยกลับด้าน เหมือนสะท้อนผ่านกระจกเงา
       
     พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จวัดใหญ่สุวรรณารามเมื่อครั้งประพาสมณฑลราชบุรี ในปีระกา ร.ศ. 128 (พ.ศ. 2452) นับเป็นการเสด็จครั้งสุดท้าย
       
     พุทธศักราช 2453 หรืออีก 1 ปีถัดมา พระองค์ก็เสด็จสวรรคต
       
     เชื่อและเล่าสืบต่อกันมาว่า ขุนศรีวังยศเจตนาวางลวดลายเลข 5 กลับด้าน เพื่อเป็นการถวายความอาลัยระลึกถึงและสื่อความหมายไปยังพระองค์ท่านว่า
       
     ได้เสด็จสวรรคตแล้ว และคงมิได้เสด็จฯ กลับมายังวัดใหญ่สุวรรณารามอีกต่อไป
       
     และน่าจะเชื่อได้ว่า สัญลักษณ์เลข 5 กลับด้านดังกล่าว ซ่อนความเศร้าสะเทือนใจเอาไว้ล้ำลึก
 
 
       
   

Attached Thumbnails

  • IMG_4098.JPG
  • IMG_4102.JPG


#17 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 09:18 AM

วัดมหาธาตุวรวิหาร จังหวัดเพชรบุรี เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด มีผู้สันนิษฐานว่าน่าจะสร้าง สมัยทวารวดี - สุโขทัย มีอายุราว 800 - 1,000 ปี โดยประมาณ เนื่องจากขุดพบซากอิฐสมัยทวารวดีอยู่เป็นจำนวนมาก มีผู้กล่าวว่าวัดมหาธาตุวรวิหารน่าจะเคยเป็นวัดที่เคยมีความเจริญรุ่งเรืองและเป็นพระอารามหลวงมาก่อน ต่อมาชำรุดทรุดโทรมลง จนถึงสมัยรัชกาลที่ 6 จึงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อปี พ.ศ. 2459 ซึ่งพระสุวรรณมุณี (หลวงพ่อชิด ชิตรัตน์) เป็นเจ้าอาวาส
 
วัดมหาธาตุวรวิหาร เป็นวัดที่มีความสำคัญทางด้านประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณคดี ภายในพระวิหารหลวงของวัดประดิษฐานพระพุทธรุปสำคัญ คือ หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ วัดมหาธาตุ ด้านหลังพระวิหารหลวง คือ พระปรางค์ 5 ยอด อยู่ภายในวิหารคต ทางด้านทิศใต้ของพระวิหารหลวง คือ พระวิหารน้อย และวัดมหาธาตุวรวิหารยังได้สร้าง พิพิธภัณฑ์ของวัด เป็นที่รวมรวมศิลปะ ความเป็นมาต่าง ๆ ของวัดไว้ให้ผู้สนใจได้เข้าชม

Attached Thumbnails

  • IMG_4113.JPG
  • IMG_4110.JPG
  • IMG_4104.JPG


#18 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 09:23 AM

พระวิหารหลวง สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย รัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พ.ศ. 2275 - 2301) ภายในพระวิหารหลวงมีพระพุทธรูปที่สำคัญ คือ พระพุทธรูปประธานทรงราชาภรณ์ นอกจากนี้ ยังมี หลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ วัดมหาธาตุ เป็นพุทธรุปปรางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 8 นิ้ว หัตถ์ซ้ายถือพัด ชาวบ้านเรียกว่า หลวงพ่อวัดมหาธาตุ ภายในพระวิหารหลวงผนังทุกด้านมีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม ทั้งภาพชาดก และเทพชุมนุมที่หน้าบันประดับด้วยลาย ปูนปั้น รูปพระนารายณ์ทรงครุฑยุดนาค มีพยาวานรแบกครุฑอยู่อีกชั้นหนึ่ง พื้นหลังเป็นลายกนก ก้านขดออกช่อลายหางโต เป็นรูปครุฑ นาค ยักษ์ 

Attached Thumbnails

  • IMG_4115.JPG
  • IMG_4116.JPG
  • IMG_4106.JPG


#19 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 09:24 AM

พระวิหารน้อย เป็นสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา ฐานอ่อนโค้งทรงสำเภา ตั้งอยู่ระหว่างพระวิหารหลวงกับพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหลวงพ่ออู่ทอง ศิลปะแบบอู่ทอง ปางมารวิชัย ที่ฐานมีลายปูนปั้น ประดับกระจกสวยสดงดงาม เช่น รูป ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกรัฐมนตรีแบกฐานพระเป็นต้น ที่หน้าบันประดับด้วยลวดลายปูนปั้นวิจิตรงดงาม เช่นเดียวกับพระอุโบสถ และพระวิหารหลวง

Attached Thumbnails

  • IMG_4114.JPG
  • IMG_4112.JPG


#20 norkerpingsoul

norkerpingsoul

    สมาชิก Business Class

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPipPipPip
  • 4,878 posts

Posted 06 July 2014 - 09:25 AM

วัดมหาธาตุวรวิหาร มีพระปรางค์ 5 ยอด เป็นสัญลักษณ์ สูงตระหง่านในเขตพุทธาวาส สามารถมองเห็นได้แต่ไกลทั้ง 4 ทิศ วัดจากฐานถึงยอดนภศูลได้ 55 เมตร รอบฐานยาว 120 เมตร มีอายุราว 1,000 กว่าปี ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุมาแต่อดีตกาล มีระเบียงคตรอบพระปรางค์ เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ในระเบียงคตมีพระพุทธรูปจำนวน 193 องค์ ประดิษฐานบนระเบียง พร้องทั้งมีตัวแบกที่ฐานพระ ส่วนมากตั้งอยู่ใต้องค์พระพุทธรูปทรงเครื่องไว้หลากหลาย สวยงาม พระพุทธรูปส่วนใหญ่ เป็นศิลปะอยุธยาตอนปลาย และสกุลช่างเมืองเพชร พุทธลักษณะงดงามมาก

Attached Thumbnails

  • IMG_4109.JPG
  • IMG_4108.JPG
  • IMG_4107.JPG
  • IMG_4111.JPG





1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users

ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Galileo (แสดงผล waiting list)     ค้นหา ตั๋วเครื่องบินด้วยระบบ Amadeus (เแสดงเฉพาะที่นั่งว่าง)
   
    ติดต่อเจ้าหน้าที่แผนก ตั๋วเครื่องบิน โทร 02-3737-555 / จันทร์ - ศุกร์ 09.00~18.00 น. // เสาร์ 09.00-16.00 น.