สวัสดีครับวันนี้เป็นตอนที่3แล้ว ต่อเนื่องจากตอนที่ 1 http://www.oknation....4/06/05/entry-1
ตอนที่2 http://www.oknation....4/06/06/entry-1
ซึ่งในตอนที่ 3 นี้ท่านทูตเนมขอพาทุกท่านมาเที่ยวเมืองมรดกโลกของญี่ปุ่นหรือที่มีชื่อเรียก กันว่า Nikko is Nipponนั่นเอง ซึ่งเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อว่ามีความงดงามทั้งทางธรรมชาติและสถาปัตยกรรมอีก ทั้งความเก่าแก่ของวัดในญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีTheme Parkที่สร้างขึ้นในคอนเซ็ปต์ เอโดะ หรือยุคสมัยเอโดะของญี่ปุ่น ดังสโลแกนและชื่อเสียงเรียงนามที่เขาเรียกไว้เลยครับว่า นิกโก้ คือ ญี่ปุ่น เหมาะสำหรับผู้ที่เบื่อการเที่ยวสวนสนุกดิสนีย์แลนด์และฟูจิคิวไฮแลนด์หรือ ผู้ที่อยากจะมาเที่ยวความเป็นญี่ปุ่นและความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติอากาศดี มากๆด้วยครับ ที่นี่เป็นอีกทางเลือกครับเชิญท่านติดตามได้จากรีวิวตอนที่ 3นี้ได้เลยครับ
เริ่มต้นจากการออกเดินทางผมออกเดินทางจาก สถานีรถไฟUenoด้วยรถไฟความเร็วสูงShinkansen ซึ่งถ้าท่านสะวดที่สถานีTokyoก็สามารถขึ้นได้เช่นกันครับ วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ถือบัตรเบ่งพวก JR Passทั้งหลาย ของผมเป็นบัตร JR Kanto Area Pass ครับ อ่อก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าการเดินทางไปNikkoนอกจากวิธีผมแล้วยังมีอีกวิธี คือ ท่านสามารถซื้อบัตรโดยสารไปและกลับโดยนั่งจากสถานีรถไฟ Tobu Asakusa ต้นทางไปยัง Tobu Nikko ได้เช่นกันครับซึ่งจะต้องซื้อที่สถานีTobu Asakusaหากท่านจะไปสถานีนี้สามารถไปได้โดยนั่งMetroไปลงที่สถานีAsakusaแล้ว เดินขึ้นมาด้านบนและเดินไปยังสถานีนี้ใช้เวลาประมาณ2-5นาทีครับ กลับมาที่วิธีของผมครับ ขึ้นจากUenoโดยนั่งShinkansen Yamabiko ไปลงที่ Utsonomiya และต่อสาย JR Nikko Line ไปลงที่สถานี Nikko ใช้เวลาเดินทางรวมทั้ง110นาที และเดินเท้าต่อไปยังสถานีTobu Nikkoเพื่อขึ้นรถโดยสารประจำทางสายต่างๆใช้เวลาเดินจากสถานี์NikkoไปTobu Nikkoประมาณ 1 นาที ซึ่งถ้าใช้วิธีจากสถานี Tobu Asakusa ไปยังTobu Nikkoใช้เวลา 108นาที(เป็นสายNikkoโดยตรง) ใช้เวลาต่างกันไม่มากครับ แล้วแต่ความสะดวกและบัตรเบ่งที่ท่านมีครับ
เรามาเริ่มเดินทางกันเลยก่อนผมจะไปขึ้น รถไฟระหว่างเดินจะไปโชวืบัตรเบ่งที่ช่องผ่านทางนั้นผมได้แวะหาซื้อของไว้ ทานบนรถไฟเพราะเนื่องจากรถไฟShinkansenขบวนที่ผมขึ้นมีโบกี้จองตั๋ว ผมได้ทำการจองไว้แล้วและจะเป็นโบกี้ที่มีพื้นที่กว้่างขวางและเงียบกว่า โบกี้ที่ไม่ได้ทำการจองครับ ผมขอแนะนำถ้าท่านวางแผนเที่ยวไว้แล้วควรจองไว้ล่วงหน้าครับอีกอย่างไม่ต้อง เสี่ยงจะไปรอขึ้นขบวนที่ไม่ได้จองเพราะหากเต็มท่านจะลำบากเอานะครับ (จากภาพคือช่องทางปกติที่ไม่ได้ทำการจองนะครับเลยยืนที่ช่องสีแดงโดยส่วน ใหญ่ขบวนที่มีโบกี้จองจะอยุ่ที่ช่องที่มีรั้วเหล็กกั้นไว้ให้ครับสังเกตุได้ ดังในภาพด้านล่างครับ)
และแล้วถึงเวลานางก็มารับ และออกเดินทางตรงเวลาเป๊ะตามหน้าจอและตามตารางเวลาเลย
ที่นั่งกว้างขวางขนาดผมตัวใหญ่นะยังเหลือพื้นที่ที่วางขาอีกด้วยนั่งสบายจริงๆกว้างกว่าบางสายการบินอีกนะ
ที่สำคัญมีให้ชาร์จแบตด้วยในโบกี้ที่สำรองที่นั่งไว้ ผมลองขึ้นแบบไม่สำรองที่นั่งปรากฏว่าไม่่เห็นมีช่องเสียบให้ชาร์จได้แบบนี้เลย