12 replies to this topic

[mickeyjal]

Advertisements

สวัสดีครับวันนี้ท่านทูตเนมขอพาทุกท่านชมรีวิวการตะลุยญี่ปุ่นในชื่อตอน ตะลุยญี่ปุ่น ไม่ง้อไกด์ ไม่ง้อทัวร์ แต่ง้อ..
ซึ่งในตอนนี้ Ep. 1 จะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางและเมืองโยโกฮาม่า-คาวากุชิโกะ ซึ่งเรียกได้ว่าถ้าทุกท่านติดตามต่อไปจนจบทุกEp.ท่านจะเพลินเลยครับเพราะผม จะพาทุกท่านเที่ยวเมืองมรดกโลกอีกด้วย พร้อมบอกเทคนิควิธีการเที่ยวที่ประหยัดแต่ไปได้คุ้มเกิน!!อีกด้วยครับ

เริ่มต้นจากการเดินทางครับ อันดับแรกเริ่มจากการวางแผนว่าจะไปที่ไหนบ้าง ยังไง เมื่อเราเลือกเมืองที่เรา(อยากไป) ต้องการไปในที่เที่ยวที่เราอยากไปได้แล้ว เราก็มาเปิดแผนที่กันว่าอยู่ส่วนไหนของประเทศญี่ปุ่นบ้าง จากนั้นก็มาไล่เรียงว่าจะเริ่มจากไหนก็และหลังยังไง จากนั้นก็ทำการจองตั๋วเครื่องบินเพื่อดูว่ามีเที่ยวบินวันไหนบ้างเครื่อง บินออกเวลากี่โมงจะได้วางแผนได้ว่าจะต้องบริหารจัดการตัวเองยังไง จากนั้นก็หาที่พักเลือกจากใจเราชอบและราคาที่เราสู้ไหวครับ

ซึ่งทริปผม 5วัน3คืน เริ่มแรกผมวางแผนไว้ว่า

Day1 BKK-NRT

Day2 NRT-YOKOHAMA- KAWAGUCHIKO (ค้างฟูจิ1คืน)

Day3 Shimoyashida- Tokyo (Shinjuku-Harajuku- Shibuya- Akihabara)  Asakusa- Ameyoko-UENO  -Odaiba (ค้างTokyo)

Day4 Tokyo-Nikko (Tobu-Nikko)- มรดกโลก - (EDO Wonderland)- Tokyo  (ค้างTokyo)

Day5 Asakusa - NRT-BKK

หลังจากที่เลือกสถานที่และจัดเรียงเรียบร้อยก็ศึกษาว่าจะเดินทางไปมาได้ โดยวิธีไหนดี ผมศึกษาแล้วพบว่าทริปของผมซึ่งมีช่วงระยะเวลาสั้นๆและไม่อยากไปเมืองที่ซ้ำ กับที่เคยไปมาแล้วจึงเลือกเอาโซนใกล้ๆโตเกียวครับเหมาะสำหรับผู้มีเวลาไม่ มาก และสำหรับวิธีการเดินทางที่ประหยัดสุด คุ้มสุดและไปได้ครอบคลุม คือ การเลือกใช้ JR Kanto  Area Pass เป็นบัตรที่สามารถเบ่งขึ้นและลงรถไฟได้ในระยะเวลา 3วัน สมราคาครับ และผมก็ว่ามันคุ้มจริงๆ แค่นั่งชินคังเซนไปกลับสัก1เมืองที่ราคา5,000เยนไปและกลับรวม10,000เยน นี่ก็เกินคุ้มไปแล้ว ซึ่งมันต้องไปซื้อที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น มีจำหน่ายที่สนามบินนาริตะ ฮาเนดะ และศูนย์จำหน่ายบัตรของJRในประเทศญี่ปุ่น ราคา 8,300 เยน หรือประมาณ3,500บาท ซึ่งสามารถนั่งได้ทั้ง JR East Line(Shinkansen), JR East Line, Local อย่าง Fujikyu Railway, JR Nikko Line คุ้มครับ แค่ผมนั่งShinkansenข้ามเมืองไปและกลับในราคานี้ก็คุ้มแล้วครับและยังใช้ นั่งในโตเกียวขึ้นลงทุกสถานีที่เป็นขบวนJRได้หมดเลยใช้สนุกมือมากๆๆครับ เหมือนบัตรเครื่องเล่นสวนสนุกไรประมาณนั้นเลย เบ่งบัตรโชว์เจ้าหน้าที่กันเพลินเลยทีเดียวครับ

เริ่มต้นการเดินทางกันครับ วันแรกเลยสนามบินสุวรรณภูมิช่วงประกาศคลอโรฟิลเอ้ยไม่ใช่ ช่วงประกาศเคอฟิวส์เลยไปก่อนเวลานานมากครับไปถึงสนามบินตอนสองทุ่มกว่า เช็คอินสี่ทุ่ม รอจนเหนื่อยเลยทีเดียวครับสำหรับการเดินทางผมเดินทางโดยสายการบิน AAA หรือ Asia Atlantic Airlines ซึ่งต้องขอขอบคุณสายการบินJet Asia สำหรับบัตรโดยสารฟรีไปกลับ กรุงเทพฯ-นาริตะ แต่เนื่องจากทางสายการบินJet Asia ได้ยกเลิกการให้บริการเส้นทางนี้ชั่วคราวจึงได้TransferผมไปยังAAAครับ ซึ่งAAAก็เป็นสายการบิน Full Services บริการอาหารบนเครื่องบิน มีผ้าห่มและหมอนบริการบนเที่ยวบิน นอกจากนี้ยังมีที่นั่งชั้นธุรกิจด้วยครับ เครื่องบินเริ่มออกเดินทาง01.00น. เช็คอินที่ Row E ครับ สำหรับการเช็คอินสามารถเลือกที่นั่งฟรี, โหลดสัมภาระได้ฟรีถึง 23 กิโลกรัมครับ

บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง (ขาไปจะอาหารบริการก่อนสองชั่วโมงที่เครื่องจะลงจอดครับ)

ลูกเรือก็น่ารักเป็นกันเอง

หลายๆคนคงสงสัยว่า สายการบิน Asia Atlantic Airlines เป็นใคร และมีที่มาอย่างไร?

“Asia Atlantic Airlines” หรือที่หลายท่าน เรียกเราว่า AAAนั้น เกิดจากการความร่วมมือของสองพันธมิตรยักษ์ใหญ่ ระหว่าง”กลุ่มใบหยก”ผู้ประกอบกิจการโรงแรมชั้นแนวหน้าของไทย กับH.I.S.บริษัทท่องเที่ยวชั้นนำจากญี่ปุ่น ที่มีความพร้อมและความเข้าใจนักเดินทางทุกๆท่าน ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังพร้อมเป็นหนึ่งทางเลือก สำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยวและตัวแทนด้านการท่องเที่ยวในภาคส่วนต่างๆอีก ด้วย

สายการบิน“Asia Atlantic Airlines” เป็นสายการบินของคนไทยจดทะเบียนการทำธุระกิจในลักษณะเช่าเหมาลำ (charter flight) แต่ให้บริการแบบ schedule flight โดยมีเที่ยวบินระหว่างประเทศกรุงเทพฯ -นาริตะ และนาริตะ-กรุงเทพฯ ให้บริการทุกวัน โดยมีที่นั่งทั้งชั้นEconomy class และ Business class ด้วยเครื่องบิน โบอิ้ง 767-300ER จำนวน 2 ลำ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ทั้งนี้ สายการบิน “Asia Atlantic Airlines” ของเรายังให้ความสำคัญในเรื่องความปลอดภัย การตรงต่อเวลาของทุกเที่ยวบิน ควบคู่กับการบริการอย่างมืออาชีพโดยลูกเรือชาวไทย ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารที่จัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี ตลอดจนอาหารและเครื่องดื่มที่ถูกคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน ในราคาที่คุ้มค่าและสามารถสัมผัสได้

“Asia Atlantic Airlines” จึงเป็นสายการบินเช่าเหมาลำระดับพรีเมี่ยม ที่มีความโดดเด่นจากพันธมิตรทั้งสองชาติที่ผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อมอบการบริการที่ดีเลิศ ตรงต่อเวลา และราคาที่ถูกใจ ให้การเดินทางของเพื่อนๆทุกท่านเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขและประทับใจที่สุด

สำหรับเครื่องบินให้บริการ Boeing767-300ER ครับ ที่นั่งเป็นแบบ 2-3-2

คุณบี พีระพัฒน์ ศิลปินนักร้องก็มาFlightเดียวกันด้วยครับ

และเดินทางมาถึงสนามบินนานาชาตินาริตะ เวลา09.20น.โดยประมาณ ตามเวลาท้องถิ่น

โดยภาพรวม สายการบินAsia Atlantic Airlines บริการดีครับ สำรองที่นั่งหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ของสายการบิน

ได้ที่ http://www.asiaatlanticairlines.com/ หรือ https://www.facebook...tlanticAirlines

ที่อยู่และสำนักงานสายการบิน

Asia Atlantic Airlines HQ

11th Floor, Times Square Building, 246 Sukhumvit Road, Klongtoey, Bangkok 10110 Thailand.

 T +66(0)2 635-5888    Fax: +66(0)2 635-5899

 

 

[mickeyjal]

จากนั้นก็ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งต้องบอกไว้ก่อนเลยครับว่าเมื่อลงจากเครื่องแล้วถ้าเรารีบโกยเดินมาถึง ก่อนเร็วๆเราก็จะได้ไม่ต้องสียเวลาต่อแถวนานครับบางช่วงเวลาจะมีเที่ยวบิน เข้ามาเวลาใกล้เคียงกันจนผู้โดยสารต่อคิวยาวอาจทำให้เสียเวลานานกว่า 2ชั่วโมงซึ่งผมเคยเจอสถานการณ์นี้มาแล้ว แต่ในครั้งนี้ใช้เวลาเพียง15นาทีเท่านั้น จากนั้นก็มารอรับกระเป๋ารอนานมากไม่แพ้สนามบนิสุวรรณภูมิเลยทีเดียว จากนั้นก็ทำการล้างหน้า แปรงฟัน เปลี่ยนชุด และผ่านพิธีการศุลการกร ซึ่งก็ต้องยื่นใบแบบฟอร์มการสำแดงสิ่งของ จากนั้นก็รีบไปซื้อบัตรJR Kanto Area Pass เมื่อเดินออกมาจากเขตผู้โดยสารขาเข้าแล้วให้เลี้ยวขวาลงบันไดเลื่อนไปยัง ชั้นล่างเพื่อไปยังสำนังานJR และซื้อบัตร จากนั้นก็แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเราจะจองตั๋วไปไหนมาไหนบ้างให้เขาทำการจอง ซึ่งผมจองรถไฟN'EX สามารถนั่งเข้าเมืองได้ฟรี ด้วยบัตรJR Kanto Area Pass จากนั้นก็ไปขึ้น รถไฟN'EX ซึ่งมีWIFIบริการฟรีบนรถไฟอีกด้วย

ระหว่างนั่งรถไฟเข้าสู่โตเกียวก็มีบรรยากาศระหว่างทางให้ได้เห็นโตเกียวสกายทรี หอส่งสัญญาณชื่อดังของญี่ปุ่นอีกด้วยครับ

ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ก็มาถึงยังสถานีTokyoซึ่งเป็นสถานีที่ใหญ่มากๆและมีขบวนรถไฟต่อไปได้อีกหลายสาย จากนั้นผมเดินเปลี่ยนขบวนเพื่อไปที่สถานีUENOโรงแรมที่จองไว้แต่ยังไม่พักในคืนนี้ครับแค่เอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่ไปฝากไว้ได้ฟรี จากนั้นก็กลับมายังสถานีรถไฟUENO เพื่อไปเมืองโยโกฮาม่า ด้วยวิธีการ นั่งจากUENO สายJR Tokaido lineไปลงที่สถานีYokohamaและเปลี่ยนขบวนเป็นJR Yokohama Line local ไปลงที่สถานีSakuragicho เพื่อเที่ยวรอบๆบริเวณนี้ มีจุดที่น่าสนใจหลายๆสถานที่ครับ

 

[mickeyjal]

เริ่มต้นจากการเดินออกจากสถานีปุ๊บ (ไฮไลต์อยู่ตรงนี้ครับ ตรงคำว่า แต่ง้อ....) ผมก็ใช้วิธีเดิมที่เคยใช้ครับมองหากลุ่มวัยรุ่นญี่ปุ่นที่ดูแล้วน่าจะเป็น มิตรเป้นเพื่อนกับเราได้ ก็พบเจอสาวๆมหาวทิยาลัยชั้นปีที่2 ก็เข้าไปทักทายและพูดคุยแกล้งทำเป็นไม่มีแผนที่ซึ่งจริงๆในมือผมปริ้นท์ไว้ แล้ว และก็ทำเป็นไปไม่ถูก และแล้วเขาก็พาผมมาส่งถึงที่เดินคุยกันมาอย่างสนุกสนาน ถึงแม้พวกเขาก็จะไม่เก่งภาษาอังกฤษแต่ก็เป็นมิตรที่ดีครับเขาก็พยายามสื่อ สารกัน ซึ่งตรงกับวัตถุประสงค์ผมเวลาไปต่างประเทศที่ไปคนเดียวผมจะชอบหาชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะคนที่ประเทศนั้นๆหรือต่างประเทศพูดคุยแลกเปลี่ยน เป็นสร้างมิตรภาพและเรียนรู้วิถีชีวิตพวกเขา สนุกเพลินมากๆครับ ลองใช้วิธีนี้ดูนะครับ แล้วคุณจะได้รู้จักคนญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในมุมที่สัมผัสได้เอง ผมก็เดินตรงไปทางทะเลสาปซึ่งวิธีการเดินทางของพวกเขาที่พาผมไปก็ตรงตาม แผนที่ผมวางไว้และแผนที่ที่ปริ้นท์มา ระหว่างทางก็จะเห็นทัศนียภาพของเมืองที่สวยงาม ผมเดินไปทางสะพานรถไฟเก่าครับ บรรยากาศร่มรื่น คนญี่ปุ่นจากโตเกียวก็มาที่นี่เยอะ วันที่ผมไปตรงกับวันอาทิตย์วันรุ่นเยอะมากๆ มาเที่ยวสวนสนุกที่นี่กันและเดินห้างที่มีของอร่อยเยอะมากๆเรียกได้ว่า ที่Yokohamaนี้เป็นเมืองที่ไม่แพ้โตเกียวเลยครับ เดินมาเรื่อยๆประมาณ8นาทีและเมื่อเดินข้ามสะพานรถไฟเก่ามาก็จะเจอศูนย์การ ค้าตรงหน้าครับ แล้วเลี้ยวซ้ายเดินข้ามถนนตรงไปจะเจอกับCup noodle museum ( JR SAKURAGICHOจากสถานีนี้ มีทางเชื่อมไป The Landmark Plaza บนทางเชื่อมถ่ายภาพเห็นทะเลและเกาะฝั่งตรงข้ามได้สวยด้วยครับ เหมาะสำหรับผู้ที่จะไปเดินช้อป ชิว กินของอร่อยก่อนเที่ยวก็ใช้เส้นทางนี้ได้ครับ ซึ่งไม่ไกลกันมากสุดท้ายแล้วก็จะเดินวนเข้าหากัน)

ด้านหน้าศูนย์การค้าที่ผู้คนแห่แหนกันเข้าไปครับ อย่างสาวๆมหาวิทยาลัยกลุ่มที่ผมแอบง้อให้พาเดินมาส่งนั้นเขาก็มาจากโตเกียวครับเขาบอกว่างๆก็จะชวนกันมาเที่ยวที่เมืองนี้ไม่ไกลจากโตเกียวและสวนสนุกก็มี ห้างสรรพสินค้าก็มีคือเบื่อโตเกียวก็มาที่นี่หรือไปที่สวนสนุุก Fuji Q Highland

ต่อมาก็เดินมาถึงเป้าหมายผมอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้างสรรพสินค้าครับ ที่นี่คือ Cup noodle museum (ปิดทุกวันอังคาร) มีค่าเข้า500Yen

เปิด10.00-18.00น.ครับ

หลังจากซื้อบัตรเข้าชมแล้ว เขาก็จะถามเราว่าจะร่วมกิจกรรมทำการออกแบบและตกแต่งถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ในสไตลืเป็นของเราเองด้วยไหม ถ้าเราสนใจทำก็จองรอบได้เลยครับเขาจะตั๋วให้ ซึ่งในส่วนนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ แต่จะมีตอนเราทำถ้วยของเราเอง300เยนต่อถ้วยผมทำ2ถ้วยก็600เยน จากนั้นก็เดินขึ้นไปชั้นบนด่านแรกเป็นพิพิธภัณฑ์ต้นกำเนิด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปครับ สำหรับที่แห่ง นี้มีขนาดใหญ่กว่า Instant Ramen Museum ที่โอซาก้าถึง 3 เท่า เป็นอาคารสูง 5 ชั้น และชั้นใต้ดินอีก 1 ชั้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่ได้สร้างขึ้นเพียงเพื่อบอกเล่าที่มาของการพัฒนา Instant Ramen เท่านั้น แต่ยังออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถสัมผัส และทดลองการทำ Instant Ramen ได้ด้วยตัวเองอีกด้วยครับ เอาเป็นว่ามาแล้วเพลินครับผมใช้เวลาที่นี่กว่า2ชั่วโมงเลยทีเดียว

ส่วนแรกเป็นส่วนจัดแสดงบะหมี่กึ่งสำเร้จรูปตามยุคต่างๆครับ

สำหรับ Instant Ramen History Cube จะ เป็นส่วนจัดแสดงแพ็คเกจของ Instant Raman โดยเริ่มตั้งแต่ Chicken Ramen ซึ่งเป็น Instant Ramen ชนิดแรกของ Nissin ที่มีมาตั้งแต่ปี 1958  โดยจะจัดเรียงตามปีที่ได้ทำการผลิตและจำหน่าย จนถึง Instant Ramen ที่วางขายในปัจจุบันครับ

นอกจากนี้ ยังมีการฉาย ภาพยนต์ CG Animation ความยาวประมาณ 13  นาที  ที่จะช่วยอธิบายให้ผู้เข้าชมได้ทำความรู้จักกับชีวิตและหลักของความคิด สร้างสรรค์ 6 ประการของ Ando Momofuku ผู้คิดค้น Cup Noodles ได้อย่างไม่น่าเบื่อ

ตรงส่วนแรกก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการแนะนำสันทนาการเด็กๆอีกด้วยคล้ายๆเล่านิทานครับ ไม่ว่าจะมาเป็นกรุ๊ปหรือเป็นครอบครัวก็สามารถให้เด็กๆเพลินไปกับการบอกเล่าเรื่องราวผ่าน อ่อไม่ต้องห่วงเรื่องภาษาครับเพราะเขาจะมีเป็นภาษาอังกฤษด้วยและจีนทำให้เรา สามารถเข้าใจมากยิ่งขึ้น

[mickeyjal]

จากภาพ คือ Ando Momofuku ผู้คิดค้น Cup Noodles

และก็มีตัวอย่างของสมัยก่อนเป็นร้าน

[mickeyjal]

จากนั้นขึ้นมายังชั้น3ครับ มาตามรอบที่เราจองไว้ ซึ่งเป็นส่วนที่มีห้องเรียนในการทำราเม็ง และส่วนทำบะหมี่ถ้วยในแบบสไตล์ตกแต่งเป็นแนวของเราเองและสามารถเลือกรสชาติ ได้เองอีกด้วย ราคาถ้วยละ300เยน อันดับแรกก็หยอดเงินที่ตู้แล้วก็มาล้างมือและมายังโต๊ะที่ทำกิจกรรม

ของผมทำสองถ้วยนี่เลยครับเรามาลงมือกัน

หลังจากตกแต่งตามสไตล์เราแล้วก็มาเลือกรสชาติและพวกโภชนาการ เช่นกุ้ง หมู ไก่ ข้าวโพด สารพัดเลยครับ และตามด้วยรสชาติ มีทั้งมิโซะ แกงกระหรี่ เป็นต้น เพลินจริงๆครับ

จากนั้นก็มาทำการใส่เส้นบะหมี่ลงถ้วยและเราก็มีส่วนร่วมอีกแล้ว ซึ่งเราจะต้องหมุนๆๆให้บะหมี่ลงมาอยู่ในถ้วยเราด้วยมือเราเอง

ทางพนง.เขาก็จะมีการบอกเป็นระยะๆว่าเราต้องทำไรบ้างโดยเขาจะเป็นตัวกลางในการอธิบายและบางขั้นตอนเขาก็จะทำให้เราอย่างตอนตักเครื่องที่จะใส่ในถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเรา เช่น เลือกใส่ กุ้ง ปลาหมึก หมู ไก่ ชีส มีหลายแบบให้เลือกครับ

จากนั้นก้ทำตามขีั้นตอนต่างๆด้วยการแพกปิดฝาและห่ออย่างดีครับ

เมื่อเสร็จแล้ว100เปอเซนต์

 

 

 

Attached Thumbnails

• 

[mickeyjal]

บรรยากาศห้องเรียนทำราเม็งครับ

จากนั้นผมก็ออกเดินทางไปยังสวนสนุกCosmo World เป็นสวนสุกที่มีขนาดกลางๆครับ เครื่องเล่นก็หวาดเสียวดีอยู่ตรงข้ามกับCup Noodles Museumเลยครับ

บรรยากาศในสวนสนุกดีมากๆครับ วัยรุ่นมาจากโตเกียวก็เยอะครับ มีเครื่องเล่นให้เลือกเยอะมากเลยทีเดียวครับ

 

[mickeyjal]

วิวจากอีกมุมของสวนสนุก

ระหว่างทางเดินกลับไปยังสถานีรถไฟJRเพื่อไปคาวากุชิโกะ นอนค้างชมฟูจิครับ ผมใช้วิธีเดินกลับคนละเส้นทางกับตอนมา ตอนนี้ผมเดินกลับทางฝั่งสวนสนุกและตึกLandmaek Tower ซึ่งระหว่างทางก็พบเรือและร้านค้าขายของริมถนน

จากนั้นมานั่งรถไฟต่อไปยังKawaguchikoซึ่งผมไปไม่ทันเวลาที่วางแผนไว้จึง ต้องเปลี่ยนแผนใหม่ด้วยการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าซึ่งตรงดิ่งไปที่ห้องจองบัตร โดยสารJRและให้เจ้าหน้าที่ช่วยหาเที่ยวรถไฟเพื่อไปให้ได้ เจ้าหน้าที่ก็น่ารักมากๆ ช่วยผมได้สำเร็จ โดยให้เส้นทางที่ผมว่ามันก็อ้อมนะแต่พอดูเวลาแล้วเท่ากับแผนปกติที่ผมวางแผน ไว้คือ2ชั่วโมง ซึ่งเส้นทางนี้ที่เจ้าหน้าที่จัดการให้ผมไปคือ จากSakuragichoสถานีที่ผมอยู่นั่งไปลงHachioji จากสถานีนี้ระหว่างทางไปOotsukiเพื่อต่อรถไฟท้องถิ่นไปฟูจินั้น ระหว่างทางสวยมากๆครับเหมือนอยู่ยุโรปเลยเป็นเส้นทางที่เข้าป่าลอดใต้ภูเขา อยู่ในอุโมงค์ โผล่จากอุโมงค์มาก็พบวิวข้างทางที่เป็นธรรมชาติสวยมากๆๆเสียดายถ่ายรูปมาฝาก ไม่ทันเนื่องจากสภาพภูมิประเทศรถไฟวิ่งในอุโมงค์เข้าออกอุโมงค์เป็นระยะ สั้นๆจากนั้นก็ไปถึงสถานีoostsuki ต่อรถไฟเส้นทางเดียวที่จะไปถึงฟูจิได้ คือ Fujikyu Railway ซึ่งบัตรJRที่ผมซื้อมาสามารถใช้ร่วมกันได้โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่มครับ (ประหยัดและคุ้มจริงๆๆเพราะในรีวิวต่อๆๆไปท่านจะได้ให้เห็นว่า JR Kantoที่ผมซื้อ8,300เยน ใช้งานได้สามวันแค่นั่งชินคันเซนไปและกลับ12,000เยน นี่ก็เกินราคาค่าJR ที่ซื้อไว้แล้วครับ ผมจึงขอแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่ได้เที่ยวไหนไกลจากโตเกียวมากๆๆอย่างน้อยๆก็ไปถึงเซนไดได้ครับ)

 

[mickeyjal]

เมื่อขึ้นมาบนขบวนรถไฟ

บรรยากาศระหว่างทางที่จะไปยังสถานี Otsukiเพื่อต่อรถไฟอีกสาย คือ Fujikyu Railway ซึ่งสามารถใช้บัตรเบ่งนี้ได้อีกเช่นกันโดยไม่ต้องซื้อเพิ่ม

และเมื่อถึงสถานี Otsukiก็ต้องรีบวิ่งขึ้นอีกขบวนครับเพราะที่ญี่ปุ่นตารางเวลารถไฟเข้าและออกเข้าเป๊ะจริง

ระหว่างทางก็เริ่มมืดและได้เห็นฟูจิซังยามค่ำคืนอีกด้วย

[mickeyjal]

ผมเลือกโรงแรมเป็นแบบสไตล์ญี่ปุ่น อย่างน้อยๆไปญี่ปุ่นต้องได้นอนแบบนี้สักคืนครับ

บรรยากาศในโรงแรมครับหน้าสถานีรถไฟ

มีOnsenให้ได้แช่น้ำแร่บนชั้นบนสุดด้วยครับ ถ้าอาบเช้าๆๆจะเห็นฟูจิซัง เคลิ้มเลยทีเดียวต้องรอชมกันต่อEp.2นะครับ

โปรดติตามชมต่อ Ep.2เร็วๆนี้ครับ ขอบคุณทุกlikeที่กดให้และทุกCommentครับผม

 ขอบอกล่วงหน้าว่าตอน2 ห้ามพลาดนะครับ วิวสวยๆจากทริปชมฟูจิมุมที่สวยจริงๆ Confirm ครับ ชื่อตอน

ตะลุยญี่ปุ่นไม่ง้อทัวร์ไม่ง้อไกด์ แต่ง้อ…Ep.2 ฟูจิมุมที่สวยสุดๆและโตเกียวเซ็กทอย

 

 

[Spineker]

ขอบคุณครับ

[iiKengz]

ขอบคุณครับสำหรับรีวิว

[Ped.TD]

ขอบคุณสำหรับ review ครับ

[coronaboii]

ขอบคุณครับ