73 replies to this topic

[ทีมข่าวHFLIGHT]

Advertisements

สวัสดีครับ

ช่วงปลายปีที่ผ่านมาการบินไทยเพิ่งเพิ่มเส้นทางบินใหม่เข้าสู่ตารางการบินแบบเที่ยวบินประจำนั่นก็คือ กรุงเทพฯ-เซนได (ประเทศญี่ปุ่น) (แต่มักจะมีทำการบินแบบเช่าเหมาลำมาหลายปีแล้วก่อนหน้านี้)

เซนได ก็นับเป็นจุดหมายใหม่ล่าสุดของการบินไทย เริ่มบิน 3 ธันวาคม 2556 ที่ผ่านมา ด้วยความถี่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (ส่วนเส้นทาง-ล่าสุดของทั้งการบินไทยและไทยสไมล์คือกรุงเทพฯ - หลวงพระบางที่เริ่มบิน 15 ธันวาคม 2556) โดยนับว่าเซนได เป็นจุดบินที่ 7 ที่การบินไทยทำการบินสู่ญี่ปุ่น 6 เมือง ต่อจาก นาริตะและฮาเนดะ(โตเกียว) โอซาก้า(KIX) นาโกย่า ฟุกุโอกะ และซัปโปโร(ชิโตเสะ) ที่เริ่มทำการบินไปเมื่อฤดูหนาวปี 2555 และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากจนต้องเพิ่มความถี่จากเริ่มแรกแค่ 3-4 เที่ยวต่อสัปดาห์ด้วย เอ330-300 กลายเป็น ทำการบินทุกวันด้วย 777-300 ไปแล้วภายในเวลาไม่ถึง 1 ปี

ก็มาดูกันว่า เส้นทางเซนได ที่การบินไทยเริ่มด้วย 330-300 ความถี่ 3 เที่ยวต่อสัปดาห์นั้น จะประสบความสำเร็จ ได้รับความนิยมเหมือนอย่างเส้นทางอื่น ๆ หรือไม่

เริ่มต้นการเดินทางกันเลยดีกว่า เที่ยวบินนี้เรามุ่งหน้าไปเซนได ด้วย Royal Silk Class หรือชั้นธุรกิจของการบินไทย ผู้โดยสารเดินทางชั้นธุรกิจในเที่ยวบินระหว่างประเทศ(รวมถึงผู้โดยสารที่ถือบัตร ROP Platinum และเดินทางด้วยการบินไทย) สามารถเช็คอินได้ด้วยเคาเตอร์เช็คอินที่จัดไว้เป็นพิเศษ (Premium Check-in) ที่ Row A ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ


รีวิวนี้ นอกจากเป็นภาพนิ่งแล้วเรายังมีเวอร์ชันวิดีโอด้วยนะครับ จากห้าชั่วโมงกว่าเหลือเพียงห้านาที
ติดตามชมได้

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เช็คอินกันเลยดีกว่า มาถึงตอนสามทุ่มกว่า ๆ เครื่องออก 23.59 น.ครับ คนยังไม่าเยอะมากนัก

เช็คอินได้บัตรมาสองใบ ใบแรกคือบัตรขึ้นเครื่องหรือ Boarding Pass ส่วนอีกใบก็คือ Lounge Invitation (แต่จริง ๆ แล้วแสดงแค่บอร์ดดิงพาสชั้นธุรกิจก็เข้าเลาจน์ได้นะ)

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เช็คอินเสร็จแล้วก็อย่ารอช้าอีกรีบผ่าน ด่านตรวจความปลอดภัยและ ตม. แบบ Fast Track ที่อยู่หลังเคาเตอร์เช็คอินลงไปที่เลาจน์หรือห้องรับรองกันเลย

ช่วงที่เดินทางใกล้คริสมาส มีการนำต้นคริสมาสน่ารักโทนสีการบินไทยมาไว้ที่หน้าเลาจน์ด้วย

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แต่ว่าอย่าเพิ่งเข้าไปนั่งในเลาจน์ ขอเลยไป Royal Orchid Spa ก่อนดีกว่า
ผู้โดยสารชั้นธุรกิจ และชั้นหนึ่งของสายการบินไทย เดินทางเที่ยวบินระหว่างประเทศออกจากสุวรรรภูมิ สามารถใช้บริการสปาได้ (ชั้นธุรกิจได้ 30 นาที ชั้นหนึ่งได้ 1 ชั่วโมง)

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

วันนี้ยังไม่ดึกเท่าไรแต่คนก็เยอะแล้วเลยต้องนั่งรอประมาณครึ่งชั่วโมง หาขนมเล็ก ๆ น้อยๆ กินไปก่อน (ใน Royal Orchid Spa จะมีขนมแบบเบา ๆ นะครับเป็นขนมกินเล่นแบบลูกชุป ข้าวเหนียวสังขยา คุกกี้แบบในภาพ)

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

หลังจากสปาเสร็จ เหลือเวลาไม่เยอะก็จะเรียกขึ้นเครื่อง แต่ก็ยังพอหาเวลากลับไปหาอะไรกิจในเลาจน์ได้เล็กน้อย ก่อนจะเดินขึ้นมาเพื่อไปยังเกท D6

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เซนไดที่ ประตูทางออก D6 เรียกขึ้นเครื่องแล้วจ้า

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

วันนี้แทกซี่เวย์หน้าคองคอร์สดีมีการซ่อมบำรุง เครื่องเลยเข้าจอดไม่ได้ เกทนี้เลยใช้เป็นบัสเกทแทน จะเรียกขึ้นเครื่องแล้วให้ลงบันไดไปขึ้นรถบัสไปยังเครื่องบิน ผู้โดยสารชั้นธุรกิจ ROP Platinum ROP Gold Star Alliance Gold ขึ้นเครื่องก่อนได้เลย

ซึ่้งเครื่องบินของเราในวันนี้ก็คือ Airbus A330-300 (330) ทะเบียน HS-TET

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

เดินขึ้นบันได้หน้าสำหรับห้องโดยสารชั้นธุรกิจ เจอพนักงานต้อนรับในชุดไทยรอต้อนรับอยู่

สำหรับ แอร์บัส เอ330-300 ในเวอร์ชันนี้ (330 ทะเบียน HS-TEN ถึง HS-TEU) จัดที่นั่งทั้งหมด 299 ที่นั่ง ซึ่งชั้นธุรกิจ Royal Silk นั้นมี 36 ที่นั่งจัดเรียง 2-2-2 จำนวน 6 แถว ส่วนอีก 263 ที่นั่งในชั้นประหยัดจัดเรียง 2-4-2 ยกเว้น 5 แถวสุดท้ายที่จะจัดแบบ 2-3-2

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

นั่งประจำที่ก่อน ที่นั่งเลือกไว้ล่วงหน้าหลังจากได้สำรองที่นั่งคือ 17A แถวสุดท้ายติดหน้าต่างด้านซ้าย

ที่นั่งของชั้นธุรกิจลำนี้กว้าง 20 นิ้ว ระยะห่างระหว่างแถว 58 นิ้ว ปรับเอนนอนได้ 167 องศา มีจอส่วนตัวขนาด 15 นิ้ว แต่ว่าระบบความบันเทิงยังเป็น 3000i และจอยังไม่ใช่ HD ซึ่งจะต่างกับบน A330-300 ทะเบียน HS-TBA ถึง HS-TBG (33H) ที่เป็นความบันเทิงระบบ eX2 และพร้อมจอ HD แต่ตัวที่นั่งและการจัดเรียงเหมือนกันหมด

มีหมอน ผ้าห่ม และหูฟังวางไว้ให้แล้ว

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ลูกเรือเดินแจกผ้าเย็นให้เช็ดหน้าเช็ดมือ

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แล้วก็ตามด้วย Welcome Drink ซึ่งก็จะมีทั้งน้ำส้ม ชามะนาว สปาร์กลิงไวน์ แต่ขอรับ น้ำเปล่าพอแล้ว

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

และก็แจกเมนูอาหารและเครื่องดื่ม

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ที่นั่งคู่กลางแถวสุดท้ายจะใช้เป็นที่พักของนักบินหรือลูกเรือครับ จะมีม่านกั้นปิดไว้ได้

อย่างเที่ยวบินไปเซนไดนี้ก็จะใช้นักบินทั้งสิ้น 3 คน เพราะว่าขาไปบินประมาณ 5 ชั่วโมงเศษ แต่ในเที่ยวบินขากลับจะบินต้านลมใช้เวลาถึง 7 ชั่วโมงเศษ

พนักงานต้อนรับก็จะเดินถามว่าจะรับอาหารมื้อแรกไหม และตอนเช้าจะเลือกอาหารตัวเลือกไหน

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ตอนนี้ก็พร้อมออกเดินทาง

มีการฉายวิดีโอแนะนำการใช้อุปกรณ์นิรภัยต่าง ๆ ในขณะที่เครื่องเริ่มถอยจากหลุมจอดตอน 00.02 น.

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

แล้วก็เทคออฟออกไปเวลา 00.22 น.

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ไม่นานหลังจากนั้นสัญญานรัดเข็มขัดก็ดับลง ลูกเรือก็จะเดินมาปูโต๊ะให้สำหรับผู้โดยสารที่จะรับอาหารมื้อแรก

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

สำหรับอาหารมื้อแรกในเส้นทางภูมิภาค จะไม่ใช่อาหารค่ำแบบเส้นทางข้ามทวีป แต่จะเป็นอาหารว่างแบบเบา ๆ เพราะว่าเวลาพักผ่อนของผู้โดยสารมีไม่มากนัก เน้นรีบกินรีบนอน แต่ถ้าเป็นเที่ยวบินยุโรปนั้น แม้จะเสริฟเต็มรูปแบบใช้เวลาเป็นชั่วโมงเศษ ก็ยังมีเวลาเหลือให้พักผ่อนอีกอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมง

Attached Thumbnails

• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

ซึ่งในค่ำคืนวันนี้ก็คือ

เครื่องดื่มนั้นก็มีทั้งน้ำอัดลม แอลกอฮอลล์ต่าง ๆ ไวน์ เบียร์ แต่รับแค่น้ำเปล่าอีกแล้ว

Attached Thumbnails

• 
• 
• 

[ทีมข่าวHFLIGHT]

กินเสร็จก็มาดูเรื่องความบันเทิง

จอ 15 นิ้วพร้อมหูฟังแบบตัดเสียงรบกวนที่ทำความสะอาดซีลไว้

รีโมทควบคุมอยู่ใต้ที่วางแขน (จอรุ่นนี้ไม่ใช่ระบบสัมผัส) แล้วก็จะสังเกตปุ่มปรับเอนมีการตั้งค่าไว้ 2 ระดับ คือเอนราบ และพนักพิงตรง นอกเหนือจากปุ่มที่ให้เราปรับเอนได้เฉพาะส่วนตามต้องการ พร้อมทั้งมีระบบนวด

Attached Thumbnails

• 
•