51 replies to this topic

[Patchayada]

Advertisements

สวัสดีเจ้าชาว HFlight.Net ทุกท่าน

หลังจากได้เดินทางด้วยสายการบินไทยแอร์เอเชียไปยังจังหวัดอุดรธานีแล้วนั้น เป้าหมายของดิช้านคือก็ไปเที่ยวนครหลวงเวียงจันทน์

สาธารณะรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว คราวนี้ดิช้านเลือกที่จะเดินทางโดยรถประจำทางระหว่างประเทศตามที่มีสมาชิกในบอร์ด

อย่างคุณแอนได้ทำรีวิวไว้ การเดินทางของดิช้านง่ายขึ้นมากๆครั้งจากได้ศึกษาจากรีวิวเก่าของสมาชิกในบอร์ดของเรา

การท่องเที่ยวของดิช้านจะไปที่ไหนบ้างนั้น เชิญทัศนากันได้เลยค่ะ

Attached Thumbnails

• 

[Patchayada]

1.จากหน้าโรงแรมเดินตรงไปจะเจอสี่แยกและสำนักงานขายตั๋วแล้วเลี้ยวขวา

2.เลี้ยวแล้วจะเห็นเซ็นทรัลอยู่ไกล

3.ถึงแล้วสถานีขนส่งอุดรธานีแห่งที่ 1

4.จุดจำหน่ายตั๋วรถประจำทางระหว่างประเทศ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

1.ตารางเวลาเดินรถ

2.ตั๋วโดยสาร พร้อมพาสสปอร์ต

(การเดินทางด้วยรถประจำทางระหว่างประเทศ อุดรธานี - นครหลวงเวียงจันทน์

ผู้โดยสารจะต้องมีพาสสปอร์ตหรือใบผ่านแดนชั่วคราวด้วยจึงจะสามารถซื้อตั๋วได้นะค่ะ)

Attached Thumbnails

• 
• 

[Patchayada]

1.ได้ตั๋วแล้วกว่ารถจะมาก็อีกตั้งครึ่งชั่วโมงไปหาอะไรรองท้องที่ ร้านเลาจือฮ้วย ดีกว่าค่ะ ร้านตั้งอยู่ข้างสถานีเลยค่ะ

2.สตรีกลุ่มนี้เดินทางมาเที่ยวบินเดียวกับดิช้านพวกเธอจะไปหลวงพระบางค่ะ

3. อาหารขึ้นชื่อของร้านนี้ "บะหมี่เป็ด" มาพร้อมกับเครื่องดื่มที่ดิช้านโปรดปราน

4. ดูชัดๆกันเลยนะค่ะ มีทั้งเนื้อเป็ดที่ตุ๋นจนเข้ากับเครื่องเทศ เครื่องในของเป็ด น้ำพะโล้ข้นๆ อร่อยสุดยอดค่ะ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

1.รถของเรามาจอดแล้วค่ะ เป็นรถของทางลาวเค้านะค่ะ เห็นว่าจะสลับกันระหว่างรถของไทยและลาวตามเวลาเดินรถ

2.หน้าตรงของรถโดยสารระหว่างประเทศ ไทย - ลาว

3.จุดหมายปลายทาง อุดรธานี - นครหลวงเวียงจันทน์

4.ป้ายรณรงค์ห้ามสูบบุหรี่เป็นภาษาลาวนั่งอ่านแล้วก็สนุกดีค่ะ สะกดที่ละตัวเหมือนเรียนภาษาไทยใหม่เลย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

1.ประจำที่นั่งแล้วแอ๊บสวย

2.จริงๆจะถ่ายรถที่นั่งมาแบบเต็มๆให้ชมแต่พริสตี้ในรูปมาจากไหนไม่ทราบเหมือนกันนะค่ะ

3.มาถึงด่านหนองคายแล้วก็ไปขอใบออกนอกประเทศมากรากนะค่ะ ขอได้ที่ข้างตู้นี้ค่ะ

4.บรรยากาศที่ด่านหนองคาย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

1.ด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย

2.ตรวจหนังสือเดินทางแล้วเดินไปขึ้นรถเลยค่ะ

3.ด่านสะพานมิตรภาพไทย -ลาว

4.กำลังจะข้ามแม่น้ำโขงแล้วค่ะ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

1.ตรงหาดของแม่น้ำโขงมีเต้นท์ไม่แน่ใจว่าเป้นร้านอาหารหรือเปล่านะค่ะ

2.ข้ามแม่น้ำโขงแล้วค่ะ ตื่นเต้นจังจะได้ไปต่างประเทศแล้ว

3.ถึงแล้วค่ะด่านตรวจคนเข้าเมืองลาว

4.ก่อนอื่นต้องไปขอใบ ต.ม.ที่ตู้นี้ก่อนนะค่ะ กรอกให้เรียบร้อยแล้วก็ตรวจที่ตู้นี้อีกที่ค่ะ

(ต.ม.ไม่ถามอะไรมากค่ะ ถามแค่ว่าจะไปแอ่วไหน)

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

1.หน้าตาของใบ ต.ม.ลาว เที่ยวนี้ดิช้านเจอพี่น้องร่วมมหาวิทยาลัยด้วยค่ะ เลยได้พูดคุยกันตลอดทางพี่เค้าจะไปวังเวียงค่ะ

2.ร้านค้าปลอดภาษี ดาวเรืองที่จะเห็นทุกด่านของประเทศลาว

3.ใครจะแลกเงินก็สามารถแลกได้ที่ธนาคารเอกชนของลาวนะค่ะ ธนาคารพงสะหวัน อยู่ตรงด่านเลยค่ะตรวจหนังสือเดินทางเส็จเดินตรงมาจะเห็นพอดีค่ะ

4.ส่วนดิช้านไปแลกที่ธนาคารในตลาดเช้าค่ะ ตลาดเช้าจะอยู่ด้านหน้าของสถานีขนส่งเลยนะค่ะ

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

1. อัตราแลกเปลี่ยนนะวันที่ 13 /01/ 10 แลกไป 500 บาทได้มาเป็นแสนกีบเลยค่ะ (ขออภัยลืมถ่ายแบงค์ลาวมาให้ชม)

2. แอบถ่ายนักศึกษาลาว แต่งชุดพื้นเมือง นุ่งซิ่นไปเฮือนค่ะ น่ารักดีนะค่ะ

3. จากนั้นก็เรียกรถจัมโบ้สกายแลบส์ไปส่งที่พระธาตุหลวง ตกลงราคากันที่ ซาวพันกีบ หรือ 20,000 กีบค่ะ

(ที่จริงเห็นคุณแอนว่าราคาจะแค่ 10,000 กีบทุกเส้นทาง แต่จากแผนที่ที่พกไปก็โอเคค่ะระยะทางก็ไกลใช้ได้อยู่นะค่ะ)

สถานที่ในรูปน่าจะเป็นลานพิธีสำคัญของลาวนะค่ะ

4. ถึงแล้วค่ะวัดพระธาตุหลวงเวียงจันทน์

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

1. ขอถ่ายรูปไว้หน่อยว่าช้านได้มาสักการะพระธาตุหลวงเวียงจันทน์แล้ว

2. วันนี้มีนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น จีน และ พี่ไทยเยอะพอสมควรนะค่ะ วันนี้แดดร้อนมากๆดีที่เอาหมวกHF มาด้วย

3. เก้าอี้สนับสนุนโดย การบินไทย สายการบินแห่งชาติไทยของเรานี้เอง

4. นี้มันคืออะไรค่ะยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์เลย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

พระธาตุหลวง หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี นับเป็นปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งแห่งนครหลวงเวียงจันทน์

และเป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาวทั่วประเทศ ตามตำนานกล่าวว่าพระธาตุหลวงมีประวัติการก่อสร้างนับ

พันปีเช่นเดียวกันพระธาตุพนมในประเทศไทย และปรากฏความเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ของดินแดนทางฝั่งขวาแม่น้ำโขงอย่างแยกไม่ออก

สถานที่นี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์สำคัญอย่างของประเทศลาว

ดังปรากฏว่าตราแผ่นดินของลาวที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้มีรูปพระธาตุหลวงเป็นภาพประธานในดวงตรา

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

1.อัตราค่าชมพระธาตุหลวงชาวต่างชาติ 5,000 กีบ หรือประมาณ 20 บาทค่ะ

2.ด้านหน้าพระธาตุฯจะเป็นหอไหว้พระธาตุที่ให้ได้จุดธูป เทียน ดอกไม้สักการะ ส่วนธูปเทียนบูชาได้ที่ตรงประตูทางเข้าค่ะ

3.ลายฉลุตรงระเบียงที่ล้อมพระธาตุฯไว้

4.ตรงระเบียงจะมีวัตถุโบราณ และ พระพุทธรูปเก่าแก่ให้ได้สักการะและชมกันด้วย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

องค์พระธาตุมีความสูง 45 เมตร รูปลักษณะคล้ายดอกบัวตูม อันหมายถึงสัญลักษณ์คำสอนของพระพุทธเจ้า มีพระธาตุเล็กอยู่บนพระธาตุใหญ่ชั้นที่สอง

รองทั้งสี่ด้าน มี 30 องค์เรียกวา “สัมมติงสบารมี” อยู่ในธาตุองค์เล็กทั้ง 30 องค์นี้ ผู้สร้างได้นำเอาทองคำมาหล่อเป็นรูปพระธาตุเล็ก ๆ 30 องค์ แต่ละองค์หนัก 4 บาท

และเอาทองคำมาตีเป็นแผ่น รุปลักษณะเหมือนใบลาน เรียกว่า “ลานคำ” 30 แผ่น แต่ละแผ่นยาวศอกกำมือ

(คือวัดศอก โดยกำมือไว้ ไม่วัดจากปลายมือ กำมือแล้วยื่นนิ้วก้อยออกมา วัดที่สุยปลายนิ้วก้อยเท่านั้น) แล้วเขียนคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลงในใบลานคำทุกใบว่า

“เยธัมมา เหตุปปัพวา เตสัง เหตุง คถาคโต เตสัญจะ โย นิโรโธ จะ เอวัง วาทิ มหาสมโณ” แปลว่า “ธรรมทั้งหลายเหล่าใด มีเหตุเป็นแดนเกิด พระตถาคตเจ้า ตรัสเหตุแห่งธรรมเหล่านั้น

และเพราะเหตุเหล่านั้น พระมหาสมณะมีปกติตรัสเช่นนี้” แล้วเอาทองคำและใบลานลงไว้ในพื้นธาตุเล็ก ทั้ง 30 องค์ การที่ได้สร้างพระธาตุขนาดเล็กนี้ขึ้นมา

มีความหมายว่า “ผู้ที่จะได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น จะต้องได้สร้างคุณงามความดีไว้ให้ถึง 30 ประการ มีทานบารมี เป็นต้น จนถึงอุเบกขา ปรมัตถบารมีเป็นปริโยสาน

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

ตามตำนานอุรังคนิทานได้กล่าวไว้ว่า พระธาตุหลวงสร้างขึ้นคราวเดียวกับการสร้างเมืองนครเวียงจันทน์ หลังจากก่อสร้างพระธาตุพนมแล้ว

ผู้สร้างคือ บุรีจันอ้วยล้วย หรือ พระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์ เจ้าเหนือหัวผู้ครองนครเวียงจันทน์พระองค์แรก พร้อมกับพระอรหันต์ 5 องค์


เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนหัวเหน่า 27 พระองค์ ซึ่งได้อัญเชิญมาจากเมืองราชคฤห์ ประเทศอินเดีย โดยก่อเป็นอุโมงค์หินคร่อมไว้

อุโมงค์นั้นกว้างด้านละ 5 วา ผนังหนา 2 วา และสูงได้ 4 วา 3 ศอก เมื่อได้ทำการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุแล้ว พระเจ้าจันทบุรี

จึงได้มีพระราชดำรัสให้เสนาอำมาตย์สร้างวิหารขึ้นในเมืองจันทบุรีหรือนครเวียงจันทน์ 5 หลัง เพื่อให้เป็นที่อยู่จำพรรษาของ พระอรหันต์ทั้ง 5 องค์นั้นด้วย

ตามตำนานดังกล่าวระบุศักราชการสร้างว่าอยู่ในช่วง พ.ศ. 238

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

ในระยะต่อมาแม้ว่าชื่อของเวียงจันทน์จะไม่ได้ปรากฏในหนังสือประวัติศาสตร์ใดเลย แต่อย่างไรก็ดี นครเวียงจันทน์ก็ยังคงเป็นเมืองสำคัญอยู่ตลอดมา
ดังปรากฏการอ้างถึงชื่อเมืองเวียงจันทน์ในหลักศิลาจารึกของพ่อขุนรามคำแหง และในพงศาวดาวลาวฉบับต่างๆ ก็ระบุด้วยว่านับตั้งแต่พระเจ้าฟ้างุ้มเสวยราชสมบัติที่เมืองหลวงพระบางแล้ว ก็ได้มีการส่งเชื้อพระวงศ์และขุนนางสำคัญมาปกครองเมืองนี้โดยตลอด จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2109 หลังจาก พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช วีรกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของอาณาจักรล้านช้าง ได้ทรงย้ายราชธานีเมืองเชียงทองหลวงพระบาง ลงมายังนครเวียงจันทน์ได้ 6 ปีแล้ว พระองค์จึงได้มีพระบรมราชโองการให้สร้างองค์พระธาตุหลวงขึ้นมาใหม่ ในเขตพระราชอุทยานทางด้านทิศตะวันออกของกรุงเวียงจันทน์ โดยสร้างครอบพระธาตุองค์เก่าที่มีมาแต่โบราณกาล เมื่อสร้างพระธาตุหลวงเสร็จแล้ว จึงทรงขนานนามพระธาตุนี้ว่า "พระธาตุเจดีย์โลกจุฬามณี” หรือ “พระธาตุใหญ่” (แต่คนส่วนมากมักเรียกว่า “พระธาตุหลวง”) และมีพระราชโองการให้อุทิศข้าพระธาตุจำนวน 35 ครอบครัว อยู่เฝ้ารักษาพระธาตุนี้ พร้อมทั้งที่ดินสำหรับให้ครอบครัวของข้าพระธาตุทำกิน

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

ที่หอไหว้ทิศตะวันออก ชั้นบนขึ้นไป มีธาตุเล็กองค์หนึ่งที่มีลวดลายสวยงาม และได้สร้างหอครอบไว้อีกชั้นหนอ

หอที่สร้างครอบมีลวดลายวิจิตรสวยงามเช่นเดียวกัน ธาตุเล็กนี้เรียกว่า “ พระธาตุศรีธรรมทายโลกด้านที่สอง ถัดจากหอไหว้ขึ้นไป แต่ละด้านยาว 48 เมตร

มีกลีบดอกบัวล้อมรอบ ทั้งหมดมีจำนวน 120 กลีบ ภายในกลีบดอกบัวทำด้วยกระดูกงู (เส้นลวดเป็นขอบล้อมทั้ง 4 ด้าน) แล้วตั้งใบเสมาบนกระดูกงูนั้น

ใบเสมาในชั้นนี้ จำนวน 228 ใบ ตรงกลางใบเสมาทุกใบเป็นโพลง(ไม่ทะลุ) สำหรับใส่พระพิมพ์ใบละองค์ บนชั้นนี้มีประตูโขงตรงกับทางขึ้นหอไหว้ทั้ง 4 ด้าน

พอเข้าไปที่ประตูโขงนั้นก็จะพบพระธาตุบารมีที่กล่าวแล้ว และธาตุบารมีก็มีชื่อเรียกทุกองค์ คือเริ่มแต่ทานบารมี ทานอุปบารมีในจนครบ ทั้ง 30 องค์

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

ชั้นที่สามสร้างขึ้นถัดจากพระธาตุองค์เล็ก 30 องค์นั้น ขึ้นไปบนชั้นนี้จะเห็นว่า มีความกว้าง ด้านละ 30 เมตร พื้นด้านที่สามนี้ มีรูปลักษณะเป็นหลังเต่า หรือโอคว่ำ (ขันตักน้ำคว่ำ) อยู่บนชั้นหลังเต่า เป็นฐานของยอดพระธาตุ มีรูปเป็นสี่เหลียมล้อมรอบด้วยกลีบดอกบัวใหญ่ ซึ่งมีปลายกลีบเริ่มบานออก ถัดจากดอกบัวไปจึงมีรูปรัดเอว เหนือจากที่รัดเอวไปจะเป็นฐานจอมธาตุ ฐานนี้จะเป็นรูปสี่เหลี่ยมเหวอ (บาน) ขึ้นด้านบนนิดหน่อย ต่อจากฐานนี้ คนโบราณเรียกว่า “ดวงปี” ดังมีอยู่ในคำกลอนว่า “เจดีย์ดิ้ว ดวงปีพ้นพุ่ง” อยู่บนดวงปี จึงเป็นสเวตฉัตรเป็นยอดพระธาตุที่สูงสุด” อยู่รอบฐานพระธาตุ ก็ได้สร้างบริเวณล้อมรอบติดกันทั้ง 4 ด้าน มีประตูเข้าทั้ง 4 ด้าน ประตูอยู่ระหว่างกลาง บริเวณแต่ละด้านพอดี บริเวณยาวด้านละ 91 เมตร 75 เซนติเมตร

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

ประเพณีบุญนมัสการพระธาตุหลวงนี้ ได้ทำสืบต่อกันมาตั้งแต่โบราณกาล โดยมีพระมหากษัตริย์องค์เป็นประมุขของชาติทรงเป็นประทาน จึงนับว่าบุญนมัสการพระธาตุหลวงนี้เป็นบุญของหลวง ในวัน ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 12 ตอนบ่ายประชาชนทุกภาคส่วน มารวมกันที่ วัดศรีสัตนาค เพื่อแห่ปราสาทผึ้ง และต้นกัลปพกฤษ์ ไปทอดถวายที่วัดศรีเมืองตอนค่ำมีงานมหรสมโภชน์ตลอดทั้งคืน วันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 12 ตอนเช้า ทำพิธีดื่มน้ำพระพิพัธสัจจาอยู่สิมวัดองตื้อ ผู้ที่เข้ารับน้ำสาบาน มีตั้งแต่ระดับหัวหน้าขึ้นไป ถึงคณะรัฐมนตรีของประเทศลาว ตอนบ่าย 2 โมง ประชาชนทุกภาคส่วนตั้งขบวนแห่ปราสาทผึ้ง และต้นกัลปพฤกษ์ ออกไปธาตุหลวง เวลาบ่าย 3 โมง ประมุขรัฐ และเจ้านาย ทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ออกไปสู่พระธาตุหลวง เพื่อเป็นเกียรติแห่ปราสาทผึ้งเดินรอบบริเวณพระธาตุหลวงร่วมกับประชาชนที่มาจากทั่วสารทิศ เมื่อเวียนครบ 3 รอบแล้วก็ทำพิธีถวาย

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
• 

[Patchayada]

ถึงเวลากลางคืนก็มีงานมหรสพสมโภช วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตอนเช้ามีการทำบุญตักบาตรในบริเวณพระธาตุ แล้วฟังพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ ตอนกลางคืนมีงานฉลองเป็นวันสุดท้าย

วันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 เสร็จงานจากพระธาตุหลวงแล้ว ก็มีการแห่ปราสาทผึ้งมาถวายที่วัดองค์ตื้อ และวัดอินแปง อีกจึงจะถืองานนมัสการพระธาตุหลวงเสร็จสิ้นสมบูรณ์

Attached Thumbnails

• 
• 
• 
•